*แชร์ประสบการณ์การแท้ง+ขูดมดลูก* >> เมื่อเข้าใจธรรมชาติได้เร็ว เราจะเสียใจน้อยที่สุด และกลับมายิ้มได้เร็วที่สุด

กระทู้นี้จะเป็นกระทู้ที่เราเขียนยาวที่สุดตั้งแต่เคยตั้งกระทู้มา อยากมาเล่าประสบการณ์และเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่เคยสูญเสียค่ะ

เรารอลูกมาปีกว่า ทำทุกทางเพื่อมีเค้า ทั้งไปหาหมอ กินยา ฉีดยากระตุ้นไข่ นับวันไข่ตก จนสุดท้ายเราท้อ หยุดการอยากมีลูกไปสามเดือน และอยู่ดีๆ เด็กน้อยก็มาอยู่ในพุงเราค่ะ ตอนนั้นสิ่งแรกที่รู้สึกเลย คืองง ว่ามาได้ไง เพราะเราคิดว่า คงจะไม่มีแล้ว เราก็ไปพบหมอวันอังคาร ที่ 18 ก.พ. คุณหมอ ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ ให้โฟลิคมากินและนัดอีกที อีกหนึ่งเดือน( นับจากประจำเดือน ท้องได้ 6 วีคค่ะ) ตอนนั้นมีความสุขมากๆค่ะ กินทุกอย่างที่มีประโยชน์ ผักที่ไม่เคยกินก็กิน กินปลาทุกวัน

- หนึ่งอาทิตย์หลังไปพบคุณหมอ 27 ก.พ. เราอยากซาวน์ดูมากๆว่าเราตั้งครรภ์ปกติมั้ย มีถุงตั้งครรภ์รึเปล่า เราจึงไปขอคุณหมอซาวน์ค่ะ ซาวน์ทางหน้าท้อง เห็นถุงตั้งครรภ์ ขนาดถุง 4 วีค 1 วัน ซึ่งตรงกับที่เราคำนวนวันไข่ตก เรารอบเดือนยาวเกือบ 40 วัน อายุครรภ์เมื่อวัดจากถุงตั้งครรภ์จึงคลาดเคลื่อนกับการนับจากรอบเดือน 3 วีคค่ะ และคุณหมอนัดอีกที วันที่ 13 มีนา เพื่อซาวน์ทางช่องคลอดดูเด็กน้อยและหัวใจเต้น เราตื่นเต้นมากๆ รอคอยจะได้ยินเสียงหัวใจลูก รู้สึกว่าวันเวลาผ่านไปช้าเหลือเกิน

- วันอาทิตย์ที่ 2 มีนา เรามีอาการป่วย ปวดหัว ตัวร้อน กินอาหารไม่ได้ จะอาเจียน ป่วยอยู่สามวัน ตอนนั้นกินยาพาราไป 3-4 เม็ดกินน้อยมากๆ กลัวกระทบลูก ถึงแม้หมอจะบอกว่ากินได้ อาศัยจิบน้ำขิงอุ่นๆ เช็ดตัวบ่อยๆ อาการก็ดีขึ้น ตอนนั้นดีใจมาก แต่ จากการหายป่วย ดันมามีอาการไอแทน ไอหนักมา กินน้ำเยอะๆ กินน้ำมะนาว ก็ไม่หาย ไอจนเราสงสารลูก จึงตัดสินใจไปหาหมอในวันที่ 6 มีนา

- วันพฤหัสที่ 6 มีนา เราไปหาคุณหมอที่เราไปฝากครรภ์ คุณหมอให้ยากินสำหรับอาการไอมา ซึ่งเป็นยาที่คนท้องกินได้ พอเรากลับมาบ้าน เรากินยา อาการก็ดีขึ้น แต่ดีขึ้นไม่มาก ก็ยังไออยู่ ความถี่ในการไอน้อยลง แต่ไอแต่ละครั้งหนักเหมือนเดิม (***อาการไอ ไม่ได้มีผลกับการแท้งนะคะ***)

- วันพฤหัสที่ 6 มีนา เวลาประมาณ บ่ายสามโมงครึ่ง เราเข้าห้องน้ำใช้ทิชชูซับ ปรากฎว่า มีสีน้ำตาลจางๆติดทิชชู และมีเศษชิ้นเล็กๆ ติดทิชชูมาด้วย (ไม่มีอาการปวดท้อง) เรารีบโทรไปหาหมอ ตอนนั้นเราคิดว่าอาจเป็นแท้งคุกคาม แต่ไม่คิดว่าจะแท้งจริงๆ คุณหมอบอกว่าไม่ใช่เลือดสีแดงไม่เป็นไร พรุ่งนี้เช้าให้เข้ามาหาหมอ หมอจะซาวน์และตรวจดูให้ (พอดีคุณหมอกำลังจะกลับบ้าน เลยนัดพรุ่งนี้เช้า) หลังจากนั้นเราก็นอนพัก สัก 1-2 ชั่วโมง เรามีอาการปวดท้อง ปวด แล้วก็หาย ปวด หาย แบบนี้อยู่นาน แล้วเราก็ไปเข้าห้องน้ำ พอใช้ทิชชู่ซับ ปรากฏว่า มีมูกสีน้ำตาลและสีแดงติดออกมา ค่อนข้างเยอะ พอซับอีกทีเป็นเลือดสีแดงๆ เราตกใจมากรีบไปโรงพยาบาล ไปถึงต้องไปที่ห้อง ฉุกเฉิน เพราะแผนกสูติไม่มีหมอ หมอที่เราฝากครรภ์ออกเวรไปแล้ว ส่วนหมออีกคนขึ้นตรวจคนไข้ข้างบน (ระหว่างนอนรอที่ห้องฉุกเฉิน เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่เราร้องไห้ ตอนนั้นเรารู้สึกได้ว่า เรากำลังจะเสียลูกไป ) พยาบาลคุยกับหมอที่เราฝากครรภ์ หมอให้เลือกว่าจะนอนโรงพยาบาล หรือไปนอนที่บ้านแล้วพรุ่งนี้ค่อยมาพบหมอ ถ้านอนโรงพยาบาล คุณหมออีกคนที่อยู่เวรจะดูอาการให้ แต่เราเลือกที่จะกลับบ้าน แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่)

    เรากลับมานอนที่บ้าน คืนนั้นนอนไม่ได้เลย มดลูกบีบตัวมากๆ โชคดีที่มันบีบและมันก็คลาย ถ้ามันบีบนานกว่านี้เราคิดว่าเราทนไม่ไหวแน่ๆ (มีเลือดสีน้ำตาลออกมานิดหน่อย) สรุปคืนวันที่ 6 มีนา เราปวดท้องทั้งคืน นอนหลับไม่ลงจริงๆ พอมันคลายความปวดเรากำลังจะหลับ มันก็กลับมาปวดอีก เราดูนาฬิกาทั้งคืน ว่าเมื่อไหร่มันจะเช้า มันทรมานมากๆ
"เราบอกกับลูกเราว่า ถ้าหนูสมบูรณ์แข็งแรง หนูต้องอยู่สู้ไปกับแม่นะ เราจะสู้ไปพร้อมๆกัน แต่ถ้าหนูไม่สมบูรณ์แข็งแรง หนูหลุดออกมาได้เลย" พอตอน 6-7 โมง ของเช้าวันที่ 7 มีนา อาการปวดท้องก็คลายลง เราได้นอนไปแปบนึง (ตอนนั้นมีเลือดสีน้ำตาลออกมาค่อนข้างมาก ) 8 โมงเราก็ลุกอาบน้ำเตรียมตัวไปพบคุณหมอ

- วันศุกร์ที่ 7 มีนา เราไปพบคุณหมอ ตอนนั้นอาการปวดคลายลงมาก แต่มีปวดเป็นระยะๆ รอคุณหมอสักพัก เราก็เข้าห้องตรวจ ซาวน์ทางช่องคลอด คุณหมอใส่เครื่องไปหันเครื่องมาให้ดู คุณหมอบอกว่าน่าจะแท้ง เพราะถุงตั้งครรภ์ขนาดเล็กลง รกเกาะต่ำกว่าปกติ ( อันนี้เรางง แต่ก็ไม่ได้ถามหมอ ว่าตอนนี้มีรกแล้วหรอ หรือเราฟังผิด เพราะตอนนั้นกลัวมาก) พอคุณหมอเอาเครื่องมือออก เลือดก็ออกมาเต็มเลย มีชิ้นเนื้อออกมาด้วย คุณหมอจึงนัดขูดมดลูกวันนั้นเลย วันที่ 7 มีนา 11:30 น. นอนโรงพยาบาลหนึ่งคืน ตอนนั้นเรารู้สึกกลัวการขูดมดลูกมากๆ ส่วนเรื่องเสียใจ เราทำใจได้มาตั้งแต่เมื่อคืน จึงรู้สึกเข้าใจธรรมชาติมากกว่าเสียใจ

- นอนรอเวลาขูดมดลูก (ให้น้ำเกลือ อยากบอกว่าเจาะให้น้ำเกลือ เจ็บกว่าขูดมดลูกมากๆเลย) ตอนนั้นกลัวมากๆ เพราะอ่านมามีแต่คนบอกว่าเจ็บ พยาบาลมาก็จะถามตลอดว่าเจ็บมั้ย หมอเค้าจะทำให้หลับก่อนขูดใช่มั้ย พอถึงเวลา เจ้าหน้าก็เข็นเตียงเราไปห้องผ่าตัด ตอนนั้นก็ยังไออยู่ ไอจนเจ็บเพราะเหมือนซี่โครงมันกระแทกเนื้อเราบ่อยๆจนช้ำ กลัวการไอมากๆ เพราะไอแต่ละทีจะเจ็บมากๆ

- เข้าห้องผ่าตัด พยาบาลเอาเครื่องวัดการเต้นหัวใจมาติด มีเครื่องวัดความดัน เรานอนกางแขน รอเวลา ตื่นเต้นและกลัวสุดๆ ไม่เคยกลัวอะไรมากขนาดนี้ พอถึงเวลา หมอวิสัญญีก็มาฉีดยาผ่านสายน้ำเกลือให้เราหลับเพื่อทำการขูดมดลูก ตอนนั้นรู้สึกเย็นๆที่แขน แล้วก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย มาตื่นอีกทีตอนบ่ายสอง หลับไปนานมากๆ เริ่มฉีดยาตอน เที่ยง สามีบอกว่า คุณหมอขูดเร็วมากๆ ยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ออกมาแล้ว

- เมื่อเราตื่น เจ้าหน้าที่ก็มาถอดสายที่ใส่ไปในจมูก เราไม่รู้ว่าสายอะไร เค้าคงใส่ตอนเราหลับไปแล้ว และเจ้าหน้าก็เข็นเราไปพักที่ห้อง ตอนนั้นเราไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลย ตอนแรกคิดว่าจะเจ็บมากๆเสียอีก แต่ผิดคาดมากๆ ไม่รู้สึกเจ็บสักนิด ลุกเดินไปเข้าห้องน้ำก็ไม่เจ็บ แต่เราระวังตลอดเดินช้า ขยับตัวช้าๆ มีคนมาเยี่ยม ทุกคนตกใจว่าทำไมถึงแท้ง เพราะดูแลตัวเองดีมากๆ งานก็ไม่ได้ทำหนัก เพราะทำธุรกิจของตัวเอง นั่งทำงานสบายๆ บ่ายเราก็เข้าห้องนอน

- เราโชคดีมากๆได้กำลังใจจากทุกคนรอบข้าง และสิ่งสำคัญคือตัวเราเอง เราคิดเสมอว่า ร่างกายเราได้คัดสรรแล้ว ในเมื่อเค้าไม่แข็งแรง ไม่สมบูรณ์ ธรรมชาตินี่เก่งจริงๆ คัดกรองสิ่งดีๆให้เรา เราคิดว่าหากเค้าไม่สมบูรณ์ เกิดมาก็เป็นผลเสียกับตัวเค้า สิ่งนี้แหละทำให้เรารู้สึกเสียใจไม่มาก ไม่ทุกข์ใจ

- จากวันนั้นจนถึงวันนี้ หนึ่งอาทิย์แล้ว ความเสียใจเราก็ยังมี และก็รู้สึกเสียดาย เสียดายมากๆ เรารอเค้ามานานมาก ( คำว่านานของแต่ละคนไม่เท่ากัน) จนในที่สุดเค้าก็มา เค้าทำให้ทุกๆวันเรามีความสุขมากขึ้น ทำให้เรามีจุดหมายในชีวิต ทำให้เรารู้ว่าพรุ่งนี้เราจะทำเพื่อใคร อนาคตเราจะวางแผนยังไง พาพันเศร้าพาพันเศร้า แต่วันนี้ไม่มีเค้าแล้ว

- คุณหมอสั่งงดเพศสัมพันธ์ 1 เดือน และคุมกำเนิดต่ออีก 2 เดือน ค่อยปล่อยมีลูก เรารู้ตัวว่าเรามีลูกยาก ปล่อยคราวนี้ก็ไม่รู้เด็กน้อยจะมาเมื่อไหร่ แต่เรารู้สึกว่า เราโหยหาความรู้สึกที่มีเด็กน้อยอยู่ในพุงมาก เราอยากท้องอีกเร็วๆ อยากมีความรู้สึกรัก รักใครก็ไม่รู้ที่แม้แต่หน้าก็ยังไม่เคยเห็น ต้องลุ้นกันต่อไปว่าเด็กน้อยจะมาอีกเมื่อไหร่

เราขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่ทุกคนที่สูญเสีย และคุณแม่ที่กำลังรอคอยเด็กน้อยอยู่ ส่งพลังให้ทุกคนเข้มแข็งและสู้ไปพร้อมๆกัน สักวันจะต้องเป็นวันของเราค่ะ  สู้ๆนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่