เราสองคนมาเจอกันโดยบังเอิญเหมือบุพเพสันนิวาศแล้วก็รักและแต่งงานกันจนมีลูกสาวตัวเล็ก ๆ คนแรกชื่อ "น้องเฟิร์น" แล้วเราก็ใช้ชีวิตกันต่อไปจนแฟนผมตั้งท้องอีกคนหนึ่งติด ๆ กันหัวปีท้ายปีก็ว่างั้นเถอะครับ และในวันหนึ่งก็ไปหาหมอวัคซีนตามปกติ แต่หมอทักให้ "น้องเฟิร์น" ไปตรวจพัฒนาการจนเราพาน้องไปตรวจและพบว่าน้องเป็น "ออทิสติก" มันคืออะไรหว่า??? ผมก็เริ่ม ๆ หาในนี้และก็ที่อื่น ๆ ที่ที่อธิบายได้ดีที่สุดที่ผมพบก็คือ "คุณแม่น้องนนท์" ผมและครอบครัวก็ได้รับความรู้มาก ๆ รวมถึงเพื่อน ๆ ที่ผมได้ส่งหนังสือต่อ ๆ ให้ด้วย อันนี้ขอผลบุญให้ "คุณแม่นนท์และน้องนนท็" ด้วยนะครับ
ซึ่งตอนนั้นเรามีทั้งสองคนที่ต้องคอยดูแลคือ "น้องเฟิร์น" ที่เป็นออทิสติก และ "น้องโฟร์" ที่เป็นน้องเด็กปกติพึ่งเกิดใหม่ ๆ ครอบครัวเราไม่เคยเศร้า แต่กลับมีความสุขมาตลอดเวลา ซึ่งบางครั้งก็คิดว่า "น้องเฟิร์น" รักน้องมากไม่ยอมแสดงอาการใด ๆ เลยจน "น้องโฟร์" คลอดถึงจะรู้กัน เค้าคงรู้ว่าถ้าเค้าออกอาการพ่อแม่จะไม่ยอมมีลูกอีก (ตอนหลังไปพบแพทย์หมอบอกว่ามีสิทธิ์ที่จะได้ลูกเป็นออทิสติกอีก......) เพราะเราอยากจะดูแลเค้าให้เต็มที่............
เราเลี้ยงดูเค้ามาตั้งแต่แรกเกิดฝึกไปเรื่อย ๆ ผ่านทุกข์ผ่านสุขมาด้วยกันไม่ว่าจะเศร้าที่โดนเนอสเซอรี่เชิญออกจากโรงเรียน เราไปสนามเด็กเล่นกันก็โดนเด็ก ๆ แถวนั้นด่าลูกเราว่าเด็กบ้า เราพาลูกไปเที่ยวนู้นเที่ยวนี่เรื่อย ๆ เจอคนหลาย ๆ คนก็เอ็นดู แต่ก็มีบ้างที่รังเกียจ............ ซึ่งเราก็เดินก้าวมาได้พร้อมเพรียงกันเสมอมา...........
"น้องโฟร์"...... เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่มีลักษณะร่างเล็กกว่าพี่สาวกลับกลายเป็นเหมือนพี่เลี้ยงที่แสนดี คอยเข้าใจพี่ ๆ ดูแลเสมอ แต่บางครั้งก็มีอารมณ์ที่โมโหพี่บ้าง........ เพราะพี่แสนแสบแกล้งน้องเหลือเกิน...........
และในตอนนี้ "น้องเฟิร์น" ได้เรียนอยู่อนุบาล 1 ซ้ำมาปีหนึ่งแล้ว.... ตอนนี้เป็นอีกครั้งที่ไม่รู้ว่าจะได้ก้าวไปข้างหน้าอีกมั้ย น้องสอบได้คะแนน 47 เกือบได้ครึ่งหนึ่ง คือ ผ่านการสอบเลื่อนชั้น คุยกับท่านผอ. ท่านก็บอกว่าอาจารย์น่าจะช่วยบ้าง ซึ่งอาจารย์ท่านก็บอกว่าเค้ายุติธรรมที่สุดและกลัวว่าถ้าน้องผ่านไปอนุบาล 2 จะยากกว่าเดิม.............. เราดีใจที่สุดที่อาจารย์ท่านยุติธรรมเช่นนั้น ซึ่งต้องรอผอ.ประเมินอีกรอบ
เราอยากจะบอกพ่อ ๆ แม่ ๆ ที่มีลูกเช่นเราหรือแย่กว่าครอบครัวเรา.......... สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่เงินทอง หน้าที่การงาน ยศฐาบรรดาศักดิ์ แต่จริง ๆ คือ "ครอบครัว" ถ้าเราเข้มแข๊งไม่ว่าจะอุปสรรคใด ๆ เราก็จะผ่านมาได้เสมอ หกล้ม เงินหมด หรือทุกข์เพียงด ก็ขอให้จำไว้ เรามี "ครอบครัว" ที่อบอุ่นที่สุด.....
เรื่องเล่าจากครอบครัวเล็ก ๆ ที่มีลูกสาวเป็นออทิสติก
ซึ่งตอนนั้นเรามีทั้งสองคนที่ต้องคอยดูแลคือ "น้องเฟิร์น" ที่เป็นออทิสติก และ "น้องโฟร์" ที่เป็นน้องเด็กปกติพึ่งเกิดใหม่ ๆ ครอบครัวเราไม่เคยเศร้า แต่กลับมีความสุขมาตลอดเวลา ซึ่งบางครั้งก็คิดว่า "น้องเฟิร์น" รักน้องมากไม่ยอมแสดงอาการใด ๆ เลยจน "น้องโฟร์" คลอดถึงจะรู้กัน เค้าคงรู้ว่าถ้าเค้าออกอาการพ่อแม่จะไม่ยอมมีลูกอีก (ตอนหลังไปพบแพทย์หมอบอกว่ามีสิทธิ์ที่จะได้ลูกเป็นออทิสติกอีก......) เพราะเราอยากจะดูแลเค้าให้เต็มที่............
เราเลี้ยงดูเค้ามาตั้งแต่แรกเกิดฝึกไปเรื่อย ๆ ผ่านทุกข์ผ่านสุขมาด้วยกันไม่ว่าจะเศร้าที่โดนเนอสเซอรี่เชิญออกจากโรงเรียน เราไปสนามเด็กเล่นกันก็โดนเด็ก ๆ แถวนั้นด่าลูกเราว่าเด็กบ้า เราพาลูกไปเที่ยวนู้นเที่ยวนี่เรื่อย ๆ เจอคนหลาย ๆ คนก็เอ็นดู แต่ก็มีบ้างที่รังเกียจ............ ซึ่งเราก็เดินก้าวมาได้พร้อมเพรียงกันเสมอมา...........
"น้องโฟร์"...... เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่มีลักษณะร่างเล็กกว่าพี่สาวกลับกลายเป็นเหมือนพี่เลี้ยงที่แสนดี คอยเข้าใจพี่ ๆ ดูแลเสมอ แต่บางครั้งก็มีอารมณ์ที่โมโหพี่บ้าง........ เพราะพี่แสนแสบแกล้งน้องเหลือเกิน...........
และในตอนนี้ "น้องเฟิร์น" ได้เรียนอยู่อนุบาล 1 ซ้ำมาปีหนึ่งแล้ว.... ตอนนี้เป็นอีกครั้งที่ไม่รู้ว่าจะได้ก้าวไปข้างหน้าอีกมั้ย น้องสอบได้คะแนน 47 เกือบได้ครึ่งหนึ่ง คือ ผ่านการสอบเลื่อนชั้น คุยกับท่านผอ. ท่านก็บอกว่าอาจารย์น่าจะช่วยบ้าง ซึ่งอาจารย์ท่านก็บอกว่าเค้ายุติธรรมที่สุดและกลัวว่าถ้าน้องผ่านไปอนุบาล 2 จะยากกว่าเดิม.............. เราดีใจที่สุดที่อาจารย์ท่านยุติธรรมเช่นนั้น ซึ่งต้องรอผอ.ประเมินอีกรอบ
เราอยากจะบอกพ่อ ๆ แม่ ๆ ที่มีลูกเช่นเราหรือแย่กว่าครอบครัวเรา.......... สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่เงินทอง หน้าที่การงาน ยศฐาบรรดาศักดิ์ แต่จริง ๆ คือ "ครอบครัว" ถ้าเราเข้มแข๊งไม่ว่าจะอุปสรรคใด ๆ เราก็จะผ่านมาได้เสมอ หกล้ม เงินหมด หรือทุกข์เพียงด ก็ขอให้จำไว้ เรามี "ครอบครัว" ที่อบอุ่นที่สุด.....