update มีพวกเกรียนที่ต่อต้านรัฐบาล pm มาด่าผม ผมเอาข่าวมาแปะให้อ่านนะครับ ไม่ได้เขียนเอง ทำไมต้องหยาบคายด้วยครับ มันส่อถึงจิตใจของคุณนะ
-----------------------------------------------------------
ต่างจากตลาด ASX ได้ 7 เด้ง ไม่ถึง 1 ปี อิอิ backlock จากปีที่แล้ว อาจจะช่วยอะไรไม่ได้มากเพราะคนทิ้งดาวน์
-----------------------------------------------------------
การเมือง-เศรษฐกิจชะลอตัว ยอดทิ้งดาวน์คอนโดฯ พุ่งปรี๊ด ค่าเฉลี่ย 3% ล่าสุดกระฉูดไปถึง 20% บิ๊กแบรนด์ "เพอร์เฟค-แสนสิริ-เสนาฯ" แจงปัญหาลูกค้ากลุ่มซื้อเก็งกำไรขายต่อห้องชุดไม่ได้ ปรับแผนเช็กสถานะการเงิน-ความพร้อมรับโอนกรรมสิทธิ์ของลูกค้า
ผู้สื่อข่าวสำรวจผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่มีโครงการคอนโดมิเนียมทยอยโอนกรรมสิทธิ์ช่วงไตรมาส 1/57 พบว่าขณะนี้ประเด็นที่จับตามองคือภาวะฟองสบู่สำหรับยอดแบ็กล็อก (ยอดขายรอโอน) ของโครงการคอนโดฯ ที่เปิดขายเมื่อช่วง 1-2 ปีที่แล้ว ซึ่งลูกค้ากลุ่มเก็งกำไรพร้อมจะทิ้งดาวน์ทันทีหากขายห้องชุดต่อไม่ได้
คอนโดฯรอโอนทะลักปีนี้
ข้อมูลจากบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ข้อมูลบริษัทพัฒนาที่ดินจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ 15 รายแรก มีแบ็กล็อกสะสมรวม 2.81 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้จะโอนปี 2557 ประมาณ 9 หมื่นล้านบาท นำไปสู่ความวิตกกังวลของผู้ประกอบการที่ว่าลูกค้าจะรับโอนห้องชุดหรือไม่
ปัจจัยกดดันมาจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองที่ยาวนานร่วม 4 เดือน ส่งผลกระทบเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นผู้ซื้อคอนโดฯ โดยกลุ่มที่ซื้อเก็งกำไรจะมีปัญหาไม่สามารถขายห้องชุดต่อได้
ส่วนกลุ่มซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองอาจจะเริ่มไม่มั่นใจว่า อนาคตจะถูกลดเงินเดือนหรือตกงาน ขณะนี้จึงเริ่มเห็นปรากฏการณ์ลูกค้าทิ้งดาวน์เพิ่มขึ้นผิดปกติ
เพอร์เฟคทิ้งดาวน์เพิ่มเท่าตัว
แหล่งข่าวจากบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมามีลูกค้าคอนโดฯทิ้งดาวน์เพิ่มขึ้นเท่าตัว จากเดิมมีตัวเลขเฉลี่ยโครงการละ 3-4% ของยูนิตทั้งหมด ล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็น 7-8% โดยกรณีโครงการขนาด 400-500 ยูนิต จะมีห้องชุดทิ้งดาวน์เดิมมีไม่ต่ำกว่า 10 ยูนิต เพิ่มเป็น 20-40 ยูนิต
บริษัทประเมินว่าสาเหตุมาจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทำให้กลุ่มที่ซื้อห้องชุดไว้เก็งกำไร ไม่สามารถขายห้องชุดได้ก่อนโอนกรรมสิทธิ์ โดยบริษัทได้นำห้องชุดส่วนนี้มารีเซลโดยอาจมีแคมเปญพิเศษ เช่น เพิ่มของแถม ฟรีค่าธรรมเนียมการโอนให้ลูกค้า เป็นต้น
ทั้งนี้ เพอร์เฟคไม่มีนโยบายเจาะขายกลุ่มลูกค้าเก็งกำไร แต่ในทางปฏิบัติย่อมต้องมีปะปนเข้ามาบ้าง ประเมินว่าโครงการของบริษัทมีสัดส่วนลูกค้าเก็งกำไรเฉลี่ย 10-15% ต่อโครงการ ถือว่ายังต่ำกว่าภาพรวมตลาดซึ่งมีสัดส่วนลูกค้าซื้อเก็งกำไรเฉลี่ย 20-30% ต่อโครงการ
"ช่วงนี้เพอร์เฟคมีโครงการไอคอนโดอยู่ระหว่างโอนหลายทำเล เช่น งามวงศ์วาน สุขุมวิท 103 สุขุมวิท 105 สุขาภิบาล 2 ยอมรับว่ามีลูกค้าทิ้งดาวน์เพิ่มขึ้นจริง แต่ยังมั่นใจว่าสามารถนำกลับมาขายใหม่ได้ เพราะราคาปรับขึ้นจากช่วงเปิดตัว 10-15%" แหล่งข่าวกล่าว
แสนสิริเจอทิ้งดาวน์ 5%
นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คอนโดฯของแสนสิริที่ทยอยโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา มีห้องชุดที่ต้องนำกลับมารีเซลต่อโครงการเพิ่มขึ้นเป็น 10-15% ในจำนวนนี้เกิดจากลูกค้าทิ้งดาวน์ 5% เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ปกติที่มีตัวเลขทิ้งดาวน์ 3% สัดส่วนที่เหลืออีก 10% เกิดจากกู้ไม่ผ่าน
สำหรับคอนโดฯที่ลูกค้าทิ้งดาวน์ส่วนใหญ่เป็นเซ็กเมนต์กลาง-ล่าง แบรนด์ดีคอนโดและเดอะเบส ราคาขายตารางเมตรละ 4-8 หมื่นบาท หรือยูนิตละ 1-2 ล้านบาททำให้มีกลุ่มที่ซื้อเก็งกำไรเข้ามาบ้าง
ส่วนโครงการออนิกซ์ที่เป็นคอนโดฯระดับกลาง-บนราคาตารางเมตรละ 1 แสนบาทขึ้นไปมีลูกค้าทิ้งดาวน์ 3%
อย่างไรก็ตาม ห้องชุดที่ลูกค้าทิ้งดาวน์เมื่อยึดกลับมาขายใหม่ จะสามารถบวกราคาเพิ่มขึ้นได้อีกตามราคาตลาด เช่น เดิมห้องชุดตอนเปิดขายใหม่มีราคา 1 ล้านบาท เมื่อยึดกลับมาขายใหม่จะตั้งราคา 1.05 ล้านบาท หรือประมาณ 5% เนื่องจากช่วงที่ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 18 เดือน ราคาคอนโดฯจะปรับขึ้นประมาณ 10%
"แสนสิริมีแบ็กล็อกคอนโดฯปีนี้ 1.8 หมื่นล้านบาท ยอมรับว่ามีความเสี่ยงที่ลูกค้าส่วนหนึ่งไม่มาโอนกรรมสิทธิ์ ผมยังมองบวกว่าถ้าปัญหาการเมืองไม่รุนแรงมากกว่านี้เชื่อว่าจะนำกลับมาขายใหม่ได้ทั้งหมด เพราะคอนโดฯ 8 ชั้นใช้เวลาสร้างประมาณ 15-18 เดือน ราคาปรับขึ้นไม่ต่ำกว่า 10%"
นายอุทัยกล่าวด้วยว่า ตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมาบริษัทปรับเพิ่มสัดส่วนเงินดาวน์จาก 5-7% เป็น 10-15% เพื่อลดปัญหากู้ไม่ผ่าน โดยยอมรับว่าการใช้กลยุทธ์เงินดาวน์ต่ำเป็นปัจจัยหนึ่งกระตุ้นนักเก็งกำไรเข้ามาซื้อห้องชุด ที่ผ่านมาภาวะเศรษฐกิจชะลอจากผลกระทบปัญหาการเมืองและหนี้สินภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้น เชื่อว่าปัจจุบันเหลือแต่กลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ซื้ออยู่อาศัยจริงและซื้อลงทุนปล่อยเช่าเท่านั้น
เสนาฯเช็กลูกค้าพร้อมโอน
ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทมีคอนโดฯรอโอน 4 โครงการ ได้แก่ เดอะคิทท์ติวานนท์, เดอะคิทท์คลองหลวง, เดอะคิทท์นวมินทร์ และเดอะคิทท์ลำลูกกา มูลค่ารวม 2 พันล้านบาท ราคาเฉลี่ยยูนิตละ 9 แสนบาท จะเริ่มทยอยโอนตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม-เมษายนนี้
สถานการณ์เฉพาะหน้าในปัจจุบันจากปัญหาการเมืองและปัญหาหนี้สินครัวเรือน อาจมีลูกค้าทิ้งดาวน์เพิ่มขึ้นจากปกติเฉลี่ยโครงการละ 10% คาดว่าจะเพิ่มเป็น 15-20%
เพราะผู้ซื้อเริ่มไม่มั่นใจว่าอนาคตจะถูกลดเงินเดือนหรือให้ออกจากงานหรือไม่ จึงตัดสินใจขายห้องชุดต่อแทนที่จะมารับโอน แต่เมื่อขายไม่ได้ก็อาจตัดใจทิ้งดาวน์ เช่นเดียวกับกลุ่มเก็งกำไรเมื่อขายห้องชุดไม่ได้ก็ต้องทิ้งดาวน์
"เร็วๆ นี้เสนาฯจะจัดอีเวนต์เชิญลูกค้ามาเยี่ยมชมความคืบหน้างานก่อสร้าง ขณะเดียวกันจะสอบถามลูกค้าว่ายังพร้อมจะโอนห้องชุดหรือไม่ พร้อมทั้งขอตรวจสอบประวัติการเงินและภาระหนี้สินลูกค้า เพื่อทราบข้อมูลล่วงหน้าว่ามีลูกค้าพร้อมจะโอนกรรมสิทธิ์จริง ๆ เท่าไหร่" ดร.เกษรากล่าว
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1394091201
ม็อบพ่นพิษต่อเนื่อง 'ยอดทิ้งดาวน์คอนโดฯ' พุ่งปรี๊ด กระฉูดไปถึง 20%
-----------------------------------------------------------
ต่างจากตลาด ASX ได้ 7 เด้ง ไม่ถึง 1 ปี อิอิ backlock จากปีที่แล้ว อาจจะช่วยอะไรไม่ได้มากเพราะคนทิ้งดาวน์
-----------------------------------------------------------
การเมือง-เศรษฐกิจชะลอตัว ยอดทิ้งดาวน์คอนโดฯ พุ่งปรี๊ด ค่าเฉลี่ย 3% ล่าสุดกระฉูดไปถึง 20% บิ๊กแบรนด์ "เพอร์เฟค-แสนสิริ-เสนาฯ" แจงปัญหาลูกค้ากลุ่มซื้อเก็งกำไรขายต่อห้องชุดไม่ได้ ปรับแผนเช็กสถานะการเงิน-ความพร้อมรับโอนกรรมสิทธิ์ของลูกค้า
ผู้สื่อข่าวสำรวจผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่มีโครงการคอนโดมิเนียมทยอยโอนกรรมสิทธิ์ช่วงไตรมาส 1/57 พบว่าขณะนี้ประเด็นที่จับตามองคือภาวะฟองสบู่สำหรับยอดแบ็กล็อก (ยอดขายรอโอน) ของโครงการคอนโดฯ ที่เปิดขายเมื่อช่วง 1-2 ปีที่แล้ว ซึ่งลูกค้ากลุ่มเก็งกำไรพร้อมจะทิ้งดาวน์ทันทีหากขายห้องชุดต่อไม่ได้
คอนโดฯรอโอนทะลักปีนี้
ข้อมูลจากบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ข้อมูลบริษัทพัฒนาที่ดินจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ 15 รายแรก มีแบ็กล็อกสะสมรวม 2.81 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้จะโอนปี 2557 ประมาณ 9 หมื่นล้านบาท นำไปสู่ความวิตกกังวลของผู้ประกอบการที่ว่าลูกค้าจะรับโอนห้องชุดหรือไม่
ปัจจัยกดดันมาจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองที่ยาวนานร่วม 4 เดือน ส่งผลกระทบเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นผู้ซื้อคอนโดฯ โดยกลุ่มที่ซื้อเก็งกำไรจะมีปัญหาไม่สามารถขายห้องชุดต่อได้
ส่วนกลุ่มซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองอาจจะเริ่มไม่มั่นใจว่า อนาคตจะถูกลดเงินเดือนหรือตกงาน ขณะนี้จึงเริ่มเห็นปรากฏการณ์ลูกค้าทิ้งดาวน์เพิ่มขึ้นผิดปกติ
เพอร์เฟคทิ้งดาวน์เพิ่มเท่าตัว
แหล่งข่าวจากบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมามีลูกค้าคอนโดฯทิ้งดาวน์เพิ่มขึ้นเท่าตัว จากเดิมมีตัวเลขเฉลี่ยโครงการละ 3-4% ของยูนิตทั้งหมด ล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็น 7-8% โดยกรณีโครงการขนาด 400-500 ยูนิต จะมีห้องชุดทิ้งดาวน์เดิมมีไม่ต่ำกว่า 10 ยูนิต เพิ่มเป็น 20-40 ยูนิต
บริษัทประเมินว่าสาเหตุมาจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทำให้กลุ่มที่ซื้อห้องชุดไว้เก็งกำไร ไม่สามารถขายห้องชุดได้ก่อนโอนกรรมสิทธิ์ โดยบริษัทได้นำห้องชุดส่วนนี้มารีเซลโดยอาจมีแคมเปญพิเศษ เช่น เพิ่มของแถม ฟรีค่าธรรมเนียมการโอนให้ลูกค้า เป็นต้น
ทั้งนี้ เพอร์เฟคไม่มีนโยบายเจาะขายกลุ่มลูกค้าเก็งกำไร แต่ในทางปฏิบัติย่อมต้องมีปะปนเข้ามาบ้าง ประเมินว่าโครงการของบริษัทมีสัดส่วนลูกค้าเก็งกำไรเฉลี่ย 10-15% ต่อโครงการ ถือว่ายังต่ำกว่าภาพรวมตลาดซึ่งมีสัดส่วนลูกค้าซื้อเก็งกำไรเฉลี่ย 20-30% ต่อโครงการ
"ช่วงนี้เพอร์เฟคมีโครงการไอคอนโดอยู่ระหว่างโอนหลายทำเล เช่น งามวงศ์วาน สุขุมวิท 103 สุขุมวิท 105 สุขาภิบาล 2 ยอมรับว่ามีลูกค้าทิ้งดาวน์เพิ่มขึ้นจริง แต่ยังมั่นใจว่าสามารถนำกลับมาขายใหม่ได้ เพราะราคาปรับขึ้นจากช่วงเปิดตัว 10-15%" แหล่งข่าวกล่าว
แสนสิริเจอทิ้งดาวน์ 5%
นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คอนโดฯของแสนสิริที่ทยอยโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา มีห้องชุดที่ต้องนำกลับมารีเซลต่อโครงการเพิ่มขึ้นเป็น 10-15% ในจำนวนนี้เกิดจากลูกค้าทิ้งดาวน์ 5% เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ปกติที่มีตัวเลขทิ้งดาวน์ 3% สัดส่วนที่เหลืออีก 10% เกิดจากกู้ไม่ผ่าน
สำหรับคอนโดฯที่ลูกค้าทิ้งดาวน์ส่วนใหญ่เป็นเซ็กเมนต์กลาง-ล่าง แบรนด์ดีคอนโดและเดอะเบส ราคาขายตารางเมตรละ 4-8 หมื่นบาท หรือยูนิตละ 1-2 ล้านบาททำให้มีกลุ่มที่ซื้อเก็งกำไรเข้ามาบ้าง
ส่วนโครงการออนิกซ์ที่เป็นคอนโดฯระดับกลาง-บนราคาตารางเมตรละ 1 แสนบาทขึ้นไปมีลูกค้าทิ้งดาวน์ 3%
อย่างไรก็ตาม ห้องชุดที่ลูกค้าทิ้งดาวน์เมื่อยึดกลับมาขายใหม่ จะสามารถบวกราคาเพิ่มขึ้นได้อีกตามราคาตลาด เช่น เดิมห้องชุดตอนเปิดขายใหม่มีราคา 1 ล้านบาท เมื่อยึดกลับมาขายใหม่จะตั้งราคา 1.05 ล้านบาท หรือประมาณ 5% เนื่องจากช่วงที่ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 18 เดือน ราคาคอนโดฯจะปรับขึ้นประมาณ 10%
"แสนสิริมีแบ็กล็อกคอนโดฯปีนี้ 1.8 หมื่นล้านบาท ยอมรับว่ามีความเสี่ยงที่ลูกค้าส่วนหนึ่งไม่มาโอนกรรมสิทธิ์ ผมยังมองบวกว่าถ้าปัญหาการเมืองไม่รุนแรงมากกว่านี้เชื่อว่าจะนำกลับมาขายใหม่ได้ทั้งหมด เพราะคอนโดฯ 8 ชั้นใช้เวลาสร้างประมาณ 15-18 เดือน ราคาปรับขึ้นไม่ต่ำกว่า 10%"
นายอุทัยกล่าวด้วยว่า ตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมาบริษัทปรับเพิ่มสัดส่วนเงินดาวน์จาก 5-7% เป็น 10-15% เพื่อลดปัญหากู้ไม่ผ่าน โดยยอมรับว่าการใช้กลยุทธ์เงินดาวน์ต่ำเป็นปัจจัยหนึ่งกระตุ้นนักเก็งกำไรเข้ามาซื้อห้องชุด ที่ผ่านมาภาวะเศรษฐกิจชะลอจากผลกระทบปัญหาการเมืองและหนี้สินภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้น เชื่อว่าปัจจุบันเหลือแต่กลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ซื้ออยู่อาศัยจริงและซื้อลงทุนปล่อยเช่าเท่านั้น
เสนาฯเช็กลูกค้าพร้อมโอน
ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทมีคอนโดฯรอโอน 4 โครงการ ได้แก่ เดอะคิทท์ติวานนท์, เดอะคิทท์คลองหลวง, เดอะคิทท์นวมินทร์ และเดอะคิทท์ลำลูกกา มูลค่ารวม 2 พันล้านบาท ราคาเฉลี่ยยูนิตละ 9 แสนบาท จะเริ่มทยอยโอนตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม-เมษายนนี้
สถานการณ์เฉพาะหน้าในปัจจุบันจากปัญหาการเมืองและปัญหาหนี้สินครัวเรือน อาจมีลูกค้าทิ้งดาวน์เพิ่มขึ้นจากปกติเฉลี่ยโครงการละ 10% คาดว่าจะเพิ่มเป็น 15-20%
เพราะผู้ซื้อเริ่มไม่มั่นใจว่าอนาคตจะถูกลดเงินเดือนหรือให้ออกจากงานหรือไม่ จึงตัดสินใจขายห้องชุดต่อแทนที่จะมารับโอน แต่เมื่อขายไม่ได้ก็อาจตัดใจทิ้งดาวน์ เช่นเดียวกับกลุ่มเก็งกำไรเมื่อขายห้องชุดไม่ได้ก็ต้องทิ้งดาวน์
"เร็วๆ นี้เสนาฯจะจัดอีเวนต์เชิญลูกค้ามาเยี่ยมชมความคืบหน้างานก่อสร้าง ขณะเดียวกันจะสอบถามลูกค้าว่ายังพร้อมจะโอนห้องชุดหรือไม่ พร้อมทั้งขอตรวจสอบประวัติการเงินและภาระหนี้สินลูกค้า เพื่อทราบข้อมูลล่วงหน้าว่ามีลูกค้าพร้อมจะโอนกรรมสิทธิ์จริง ๆ เท่าไหร่" ดร.เกษรากล่าว
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1394091201