มีคำสาปจากหลวงธำรงค์นาวาสวัสติ์ อดีต นรม. ต่อ พรรคประชาธิปัตย์ !!!

ไม่ยืนยันว่า...จะเป็นเรื่องจริงหรือนิยายการเมือง ขอให้อ่านด้วยวิจารณญาณและระมัดระวังความคิด เนื่องจากหลายท่านที่มีส่วนในเรื่องราวนี้ได้ถึงแก่อสัญกรรมไปแล้ว.......
เหตุการณ์เริ่มขึ้นในเดือน ต.ค. 2490 กลุ่มนายทหารซึ่งประกอบด้วย น.อ.กาจ เก่งระดมยิง, พ.ท.ก้าน จำนงภูมิเวท, ร.อ.ขุนปรีชารณเสฏฐ์, พ.อ.ศิลป์ รัตนพิบูลย์ชัย ได้ไปชักชวนให้ พล.ท.ผิน ชุณหะวัณ ทำการรัฐประหารยึดอำนาจจากหลวงธำรงค์ นาวาสวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น แต่ อ.ปรีดี ซึ่งเป็นพันธมิตรกับหลวงธำรงค์ ฯ ได้ระแคะระคายถึงเรื่องนี้และได้ วางแผนกับหลวงธำรงค์ ฯ เพื่อเข้าจับกุมคณะผู้ก่อการรัฐประหารในเช้ามืดของวันที่ 9 พ.ย. 2490 แต่. .. ข่าวการเตรียมการจับกุมคณะผู้ก่อการ ฯ ก็ได้รั่ว ไปถึงกลุ่มของพล.ท.ผิน ชุณหะวัณ เช่นกัน ทางกลุ่มคณะรัฐประหารจึงต้องชิงลงมือ ก่อน โดยบุกเข้ายึดอำนาจในคืนวันที่ 7 พ.ย. 2490 ก่อนหน้าแผนของรัฐบาล 2 วัน คณะทหาร กลุ่มนึงได้ไปควบคุมตัว อ.ปรีดี แต่ อ.ปรีดีได้หลบหนีไปก่อนหน้าแล้ว ขณะที่ทหารอีกส่วนหนึ่ง ได้มุ่งหน้าไปจับกุม หลวงธำรงค์ ฯ ที่สวนอัมพร เนื่องจากในวันที่ 7 พ.ย. 2490 พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดงานราตรีการกุศล “เมตตาบันเทิง” ขึ้น ที่สวนอัมพร หลวงธำรงค์ ฯ ได้เป็นแขกรับเชิญของนายควง และในคืนนั้นได้เกิด ปรากฏการณ์ พิเศษขึ้น โดยหลวงธำรงค์ ฯ และนายควง ผู้ซึ่งเป็นขมิ้นกับปูนอย่างถาวรได้ร่วมกันนั่งรถสามล้อถีบ คันเดียวกัน ซึ่งมี ดร.โชติ คุ้มพันธุ์ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปไตย ซึ่งได้ย้ายเข้ามาเป็น ส.ส. ประชาธิปัตย์เป็นผู้ถีบรถสามล้อพาวนไปรอบสวนอัมพร แขกเหรื่อและนักข่าวที่มาร่วมงานต่างก็ยินดี คิดว่าทั้งสองขั้วคงจะประสานกันได้แล้ว แต่ไม่ทันจะได้เต้นรำ นายทหารเรือคนสนิทของหลวงธำรงค์ ฯ ได้เข้ามากระซิบว่า คณะรัฐประหารกำลังจะเข้ามาจับกุมตัวหลวงธำรงค์ ฯ ขอให้หลบหนีไปเสียแต่ตอนนี้ เมื่อหลวงธำรงค์ได้ทราบข่าวนี้ ท่านก็ปักใจในทันทีว่านายควง อภัยวงศ์ ต้องมีส่วนรู้เห็น กับคณะรัฐประหาร และร่วมลวงให้ท่านมาถูกจับที่สวนอัมพรซึ่งเป็นการสะดวกสำหรับ คณะรัฐประหารเนื่องจากไม่มีกองกำลังของรัฐบาลคอย อารักขาท่าน
....ก่อนที่หลวงธำรงค์ ฯ จะหลบหนีจากสวนอัมพร มีนักข่าวจากหนังสือพิมพ์การเมืองรายสัปดาห์ได้ยินหลวงธำรงค์ ฯ หันมากล่าวกับนายควงก่อนที่จะจากไปว่า....... “ผมเสียใจที่เราทั้งสองไม่มีโอกาสจะร่วมกันสร้างชาติให้วัฒนาต่อไปได้ และผมไม่เคยคิดว่า นักการเมืองที่ทรงเกียรติอย่างท่านจะมีเล่ห์กลมากมายอย่างนี้ ผมไม่เสียดายในตำแหน่งของผมแม้แต่น้อย แต่ผมเสียดายที่ประเทศของเราไม่มีโอกาสให้ประชาธิปไตยได้อยู่บนแผ่นดินนี้นานนัก และ ผมชิงชังเหลือเกินกับผู้ที่มุ่งหาประโยชน์ใส่ตัวด้วยการหักหลังและตระบัตรสัตย์ที่เคยให้ไว้แก่ ประชาชน ผมขอสาปแช่งทุกคนที่มีส่วนทำให้ประชาชนและแผ่นดินนี้ต้องย้อนกลับไปสู่อำนาจศักดินาที่กดขี่และตักตวง มันผู้ใดคิดคดทรยศต่อ ประชาชนเพื่อหวังในอำนาจบารมี ผมขอให้มัน มีอันเป็นไปต้องทุกข์ทรมานด้วยสิ้นลมก่อนจะสิ้นใจ และพบกับความวิบัติล่มสลายไปด้วยน้ำมือของประชาชนภายใน 7 ชั่วคน”
นั่นคือ.... บันทึกถ้อยคำสุดท้ายของหลวงธำรงค์ นาวาสวัสดิ์ ที่นักข่าวท่านนั้นบันทึกไว้ ก่อนที่หลวงธำรงค์ ฯ จะหลบหนีไปลี้ภัยที่ฮ่องกง .......ไม่มีใครทราบว่า.....คำสาปแช่งของหลวงธำรงค์ ฯ จะเป็นจริงขึ้นมาหรือไม่ ......
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่