เป็นเรื่องเล่าของสาวแก่ที่ไม่เคยตรวจภายใน....
เราเองตั้งแต่เกิดมาจนอายุ 45 ปี จะเข้า 46 ปี สูง 155 หนัก 49.2 กก. แล้วยังไม่เคยตรวจภายในหาโรคในสตรีแบบเป็นเรื่องเป็นราว เพราะคิดว่าตัวเองเป็นคนที่รักษาสุขภาพ จะทานผัก ปลา อาหารทะเลโดยเฉพาะปลาหมึกและหอยทุกชนิด ส่วนเนื้อวัว ไก่ หมู ทานแต่น้อยนิด ดื่มน้ำอุณหภูมิห้อง หรือน้ำอุ่น ขนมหวานแบบไทยๆ ทานบ้างแต่ไม่บ่อย แต่ชอบทานเค้กเนยสดมากๆ ยิ่งครีมเยอะๆ ยิ่งชอบ ไอศกรีมต้องใส่วิปครีมเยอะๆ ( แต่ต้องหักห้ามใจ คุมอาหารไม่ทานแป้งขาวมื้อเย็น ไม่ทานจุกจิก ไม่ดื่มชา หรือกาแฟเย็น (ชอบดื่มชาร้อน) ).....สรุปแล้วทานทุกอย่างเต็มที่แต่คุมอาหารแล้วกันนะคะ
เรื่องมีอยู่ว่า ที่บริษัทจะมีตรวจสุขภาพพนักงานประจำปีฟรี ซึ่งการตรวจก็จะจรวจพื้นๆ คือ ความดัน ความสมบรูณ์ของเม็ดเลือด หาน้ำตาล ไตรกรีเซอไรด์ คอเลสเตอรอล LDL HDL การทำงานของตับ ของไต ผลตรวจก็จะอยู่ในเกณฑ์ดียกเว้นคอเลสเตอรอลสูงกว่า 200 mg/dl ก็เลยต้องคุมอาหารไม่ทานปลาหมึกหรือเค้กเยอะเกินไป ตรวจสุขภาพปีนี้ 9 กันยายน 2557 เจ้านายแนะนำว่าอายุมากแล้วควรตรวจหามะเร็งบ้างเผื่อเป็นอะไรจะได้รักษาแต่ต้นเหตุ เลยจ่ายเงินเพิ่มประมาณ 2,000 บาท ตรวจหาค่ามะเร็งรังไข่ มะเร็งเต้านม ระเร็งลำไส้จากเลือดเพิ่มเติม สรุปผลการตรวจออกมาก่อนพนักงานคนอื่นๆ เพราะมีค่ามะเร็งรังไข่ (CA 12-5) สูง 192.5 U/ml ค่าปกติอยู่ที่ 0-35 U/ml และคอเลสเตอรอลสูงกว่าทุกปีถึง 264 mg/dl
ก็ไม่ได้ตกอกตกใจอะไรเพราะคิดว่าคอเลสเตอรอลสูงมากเพราะมีงานทานเลี้ยงตามโรงแรมบ่อยช่วงก่อนตรวจ ส่วนค่ามะเร็งรังไข่ขึ้นสูงน่าจะมาจากการมีรอบเดือนช่วงตรวจ (วันที่ 3 ของรอบเดือน) ก็ศึกษาตามอินเตอร์เน็ตว่าคนปกติจะไม่ค่อยตรวจเพราะมันจะไม่มีอาการถ้าตรวจเจอก็คือระยะสุดท้ายแล้ว บางทีถ้าช่วงตรวจมีรอบเดือนก็จะปรากฎค่าออกมาเพราะช่วงมีฮอร์โมนสูง หรือถ้าคนมีเนื้องอกค่านี้ก็ปรากฎเหมือนกันจะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง อ้อ ลืมอย่างหนึ่งคือช่วงเดือนสิงหาคม 2556 ก่อนตรวจสุขภาพได้หาซื้อนมผึ้งมาทานวันละ 1 เม็ด จำนวน 20 เม็ดเพื่อจะได้เยาว์วัยด้วย ซึ่งภายหลังได้รู้ว่านมผึ้งนั้นจะไปกระตุ้นให้เนื้องอกโต ก็โชคดีที่ไม่ได้ซื้อแบบยกขวด( ทำให้รู้ว่าการหาซื้ออาหารเสริมมาทานเองเป็นการเสี่ยงมากกับร่างกายเรา ควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่เป็นดีที่สุด) ปกติจะเป็นคนที่ใส่ใจกับการมีรอบเดือนของตัวเองมาก จะนับทุกเดือนจนรู้ว่าเป็นคนที่มีรอบเดือนมาตรงทุกวันที่ 28 ซึ่งช่วงมีรอบเดือนจะปวดหน่วงๆ เดือนละ 1-2 วัน ก็จะทานผักใบเขียว และน้ำอุ่นๆ หรือ น้ำขิงสดอุ่นๆ วันละ 2 ลิตร ก็จะรู้สึกดีมากๆ
การที่จะตรวจเช็คอัฟต่อไปนี้จะเป็นการเริ่มกระบวนการของการตรวจภายใน ถ้าไม่ตรวจโดยวิธีนี้ก็จะไม่สามารถรู้ได้ว่าเราเป็นอะไรข้างใน ช่วงก่อนตรวจเช็คจริงที่โรงพยาบาลก็ศึกษาความเป็นไปของร่างกายตัวเองเพื่อที่จะได้คุยกับหมอและค้นคว้าข้อมูลต่างๆ ผ่านอินเตอร์เน็ตและคำแนะนำต่างๆ จากเพื่อนที่เคยตรวจภายในและจากเจ้านาย และถามพยาบาลให้แน่ใจว่าจะสามารถตรวจได้หลังจากมีรอบเดือน 7 -14 วัน วันที่ 7 ธันวาคม 2557 ก็นัดหมอวันเสาร์คลินิกพิเศษของ รพ.ราชวิถี ที่ตนเองมีประกันสังคมอยู่ ก็ได้ยินว่าถ้าไม่หนักจริงๆ เราจะไม่ได้รับการรักษาแต่ก็ยังใจชื้นที่มีผลการตรวจสุขภาพประจำปีที่ให้รีบตรวจด่วน แต่ก็ต้องเมคข้อมูลเพิ่มเติมด้วยคือช่วงที่เราจะทำประวัติการรักษาต้องเติมข้อมูลว่าเรามีอาการอะไรถึงมาตรวจ เพื่อนๆ น้องๆ นำไปใช้ได้นะคะ...เราเขียนว่า มีตกขาวมาก มีกลิ่นรุนแรง และคันมากๆ แต่ไม่สามารถเกาได้ ...พอหมออ่านใบนัด หมอก็จะถามว่าเป็นมานานรึยัง ก็บอกว่าเป็นมานานแล้ว เป็นๆ หายๆ แต่ไม่ใส่ใจ จนเจ้านายไล่ให้มาตรวจ นี่แหละ หมอก็จะซักเราเรื่องอื่นๆ พอสังเขป ก็จะให้ขึ้นขาหยั่ง ซึ่งสาวๆ ทุกคนจะกลัวมาก จะบอกว่าไม่น่ากลัวหรอก เพียงแต่จะเขินหมอเท่านั้นเอง เราก็แก้เขินโดยการนำผ้าคลุมหน้าตัวเอง ซึ่งหมอก็ไม่ได้ดูของๆ เราหรอก ใช้อะไรสักอย่างเย็นๆ ไปป้ายเยื้อเยื่อข้างใน และใช้นิ้วกดข้างใน มืออีกข้างกดหน้าท้องให้นิ้วที่สอดกับมือที่กดข้างนอกชนกัน ผ้าก็ยังคลุมให้ช่วงขาให้เราอยู่ ไม่โป้เหมือใน You tube หมอจะบอกให้ทำตัวผ่อนคลาย ไม่ต้องเกร็งไม่งั้นจะเจ็บ ตรวจแป๊บๆ ก็เสร็จแล้ว สรุปน่าจะเป็นการตรวจมะเร็งปากมดลูกโดยวิธีแป๊บสเมียร์ ซึ่งวันไปตรวจนั้นเป็นวันไข่ตกพอดี แต่หมอบอกว่าไม่เกี่ยวกันกับการตรวจครั้งนี้
ด้วยความที่คิดว่าตรวจแค่นี้มันคงไม่เจออะไร จึงขอให้หมอตรวจอุลตร้าซาวด์ให้หน่อยเพื่อความสบายใจ คุณหมอก็ให้พยาบาลหาวันให้ได้ตรวจก่อนปีใหม่ ซึ่งต้องไปตรวจในวันทำการแทนเพราะวันเสาร์เครื่องไม้เครื่องมือ และบุคคลากรไม่พร้อม คุณพยาบาลโทรแจ้งให้มาตรวจเลือดหาค่ามะเร็งรังไข่ วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2556 และนัดอุลตร้าซาวด์วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม 2556 ซึ่งเป็นวันที่เราคาดว่ารอบเดือนจะมาอีกแล้ว คุณหมอก็บอกว่าไม่เป็นไร ที่กลัวก็เพราะมันเป็นช่วงมีรอบเดือน กลัวจะเปรอะเปื้อนเดี๋ยวเครื่องไม้เครื่องมือสกปรกน่ะ และกลัวติดเชื้อเพราะเป็นช่วงมดลุกอ่อนแอน่ะ ครั้งนี้จะเป็นการขึ้นขาหยั่งและมีเครื่องไม้เครื่องมือสอดใส่เข้าไปดูข้างในมดลูก เพื่อนๆ พี่ๆ ที่เคยตรวจภายในก็บอกว่าจะเจ็บมากนะ ที่เขาเคยตรวจจะเป็นการเอามือเข้าไปคลำดูเลยล่ะ เขาบอกว่าขนาดเขาเคยคลอดลุกแล้วยังเจ็บมากๆ เลยล่ะ เราแม้จะอายุมากแล้วก็นึกกลัวเหมือนกันนะ มือทั้งมือก็ขนาดโตเอาการอยู่นะ ก็กะจะไม่ตรวจแล้ว จะรักษาโดยกินมังสวิรัติแทนก็ได้อ่ะ แต่ขอคุยกับหมอก่อนว่าการตรวจเป็นไง คุณพยาบาลก็อธิบายว่าเป็นการใช้เครื่องมือขนาดเล็กข้าไปตรวจหาใช่มือล้วงเข้าไปไม่ วันต่อมาก็มีพยาบาลโทร.มาหาบอกว่าคุณหมอให้ย้ำว่าไม่มีการใช้มือล้วงแต่อย่างใด ให้คนไข้มาตรวจด้วย เราก็ สบายใจวิวัฒนาการสมัยนี้น่าจะพัฒนาไปมากกว่าสมัยก่อนนะ(แต่เพื่อน 3คนก็ยังยืนยันว่าเจ็บมากๆ อยู่ดี แถมเพื่อนอีกคนพึ่งไปตรวจมาก็บอกว่าเจ็บมากๆ )
พอถึงวันตรวจก็ต้องไปตรวจสิทธิประกันสังคมก่อนแล้วมายื่นใบนัดหน้าห้องตรวจ( การใช้สิทธิประกันสังคมกับโรงพยาบาลของรัฐ จะต้องตรวจสอบสิทธิทุกครั้งที่เข้าตรวจ) สักพักเจ้าหน้าที่ก็ให้เปลี่ยนชุดเป็นผ้าถุงขึ้นเตียง เจ้าหน้าที่จัดท่านอนที่ถูกต้องให้และคลุมผ้าไม่ให้โป้ วันนี้มีนักศึกษาแพทย์ 2 คน ชายและหญิง โดยนศ.แพทย์หญิงจะเป็นคนนำเครื่องมือใส่เข้าไปเป็นแท่งเกลี้ยงๆ หัวมนๆ มือจับเครื่องมือ แต่สายตาของ นศ.แพทย์ทั้งสอง จะจ้องที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ปรึกษากันว่าอันนั้น อันนี้คืออะไร สักพักอาจารย์หมอจะเข้ามา ถามเด็กว่าหาอะไรรึ เด็กก็บอกว่ามี Remark ให้หามะเร็งรังไข่ แต่หาไม่เจอ อาจารย์หมอหญิง ก็จะจับเครื่องมือสอนเด็ก เราก็นอนฟังได้ยินแต่พูดว่าอันนี้คือ Bladder , Rectum , Tumour, ให้Click ว่าเนื้องอกมีกี่จุดๆ ก็ตรวจนานเหมือนกันนะ แต่โชคดีไม่เจ็บ ตรวจตอนเช้าตอนบ่ายก็เข้ามาทำงานตามปกติ ตกเย็นรอบเดือนก็มาพอดี
วันเสาร์ 21 ธันวาคม 2556 ก็มาฟังผลที่คลินิกพิเศษนรีเวช คุณหมอก็บอกว่า ผลการตรวจค่ามะเร็งรังไข่ CA 12-5 มีค่า 42 U/ml สูงกว่าปกติ 0-35 U/ml อยู่ 7 U/ml เพราะมีเนื้องอกมดลูกจำนวนประมาณ 10 เม็ด เม็ดโตสุด ประมาณ 3.9 x2.6 cm เป็นเนื้องอกแบบธรรมดานูนๆ ไม่ได้เป็นถุงน้ำ หรือช็อกโกแลตซีส ส่วนที่รังไข่ปกติดี ก็ให้เช็คติดตามผลทุก 6 เดือน นัดอีกทีก็ 7 มิถุนายน 2557 ก็เลยถามถึงผลการตรวจแป๊บสเมียร์ คุณหมอก็ถามเจ้าหน้าที่ๆ ก็หาไม่เจอๆ คงเพราะพึ่งมาตรวจเลยยังไม่มีประวัติ เลยทำหายมั้ง แต่มีจดในสมุดไว้คร่าวๆ ว่าเจอเชื้อ HPVอาจเป็นหรือไม่เป็นก็ได้ ให้พักผ่อนให้เพียงพอถ้าร่างการแข็งแรงก็จะสามารถกำจัดเชื้อตัวนี้ออกไปได้ ไม่น่าห่วง ก็สบายใจต่อไปก็สามารถตรวจอุลตร้าซาวด์ฟรีทุก 6 เดือนแล้ว
เจ้านายและเพื่อนๆ ก็รอลุ้นกันว่าผลจะออกมาตรงกับที่ตรวจกับคลินิกที่บริษัทจัดหามาตรวจให้พนักงานรึไม่ พอรู้ว่าเป็นเนื้องอกมดลูก บางคนที่มีประสบการณ์เคยตัดมาแล้วก็แนะนำให้ตัดมดลูกทิ้ง เหลือรังไข่ไว้สร้างฮอร์โมน เพราะอายุอานาม เรื่องมีลูกตัดทิ้งไปได้เลยเพราะขนาดแฟนก็ยังหาไม่ได้ บางคนก็พาเพื่อนหมอมาหาให้ปรึกษา ปรึกษาไปๆ มาๆ ก็จะขายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเมล็ดงาดำรักษาครอบจักรวาลที่นายแพทย์ท่านนั้นได้วิจัยและทำในรูปแคปซูล ก็เข้าใจในความหวังดีของทุกๆ คนนะคะ
วันที่ 25 ธันวาคม 2556 ทำบุญบริษัทที่ต่างจังหวัด ก็มีสายจากทางโรงพยาบาลติดต่อเข้ามาหลายครั้ง ก็ติดต่อกลับวันถัดมาแจ้งว่าผลตรวจแป๊ปสเมียร์เมื่อ 7 ธันวาคม 2556 ออกมามีค่าเซลล์บ่งชี้ HPV ที่อาจเปลี่ยนเป็นมะเร็งปากมดลูกให้ติดต่อคลินิกนรีเวชด่วน วันที่ 26 ธันวาคมก็เลยไปรับผลตรวจแล้วนำมาให้คุณหมอคลินิกพิเศษวันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม 2556 ดู คุณหมอเจอหน้าก็งง ถามว่ามาอะไร เพราะพึ่งคุยกันไปเมื่อเสาร์ที่แล้ว ก็เลยบอกไปว่าคงเพราะคุณพยาบาลเป็นห่วงคนไข้ก็เลยโทร.หาตั้งหลายครั้งให้นำผลมาให้อาจารย์ดูค่ะ คุณหมอก็เลยบอกว่าถ้างั้นก็ส่องกล้องแล้วกัน ต้องเอาเครื่องมือเข้าไปดูนะ ก็เลยถามว่าจะเหมือนอุลตร้าซาวด์ไม๊ คุณหมอก็บอกว่าคล้ายๆ กันแหละแต่ดูละเอียดกว่า ก็เลยหาคิวส่องกล้องได้เร็วสุดวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557 ก็ถือว่าโชคดีนะที่ได้ใช้ประกันสังคมที่โรงพยาบาลของรัฐ การบริการก็ถือว่าดีนะ อีกอย่างถ้าเราศึกษาข้อมูลก่อนไปตรวจก็จะเป็นผลดีกับคนไข้ในการซักถามคุณหมอ
ใกล้ถึงวันส่องกล้อง Colposcopy เพื่อนๆ คนเดิมๆ ก็จะบอกอีกว่าสงสัยคราวนี้เจ็บชวัร์ แถมบอกว่าเขาจะเอาปากเป็ดขยายให้กว้างๆ แล้วเอามือเข้าไปอีกแล้ว บางคนก็บอกว่าการส่องกล้องเป็นการเจาะที่แถวๆ สะดือประมาณ 3 รูปากกาเล็กๆ พอดีมีเพื่อนมีแฟนเป็นหมอดมยาจึงไว้วานให้ไปถามให้ก็ได้ความว่าน่าจะเป็นการเจาะ 3 รูแถวๆ สะดือ จึงค้นคว้าทางอินเตอร์เน็ตการส่องกล้อง และ โทร.หาคุณพยาบาลอีกแล้ว คุณพยาบาลก็ถามว่าที่คนไข้จะตรวจคือตรวจอะไรก็เลยอธิบายตั้งแต่ต้นจนจบมาที่ส่องกล้อง คุณพยาบาลเลยบอกว่ากรณีตรวจมะเร็งปากมดลูกน่ะ จะใช้ปากเป็ดขยายปากมดลูกแล้วนำกล้องขนาดจิ๋วเข้าไป ซึ่งที่กล้องนี้จะมีกรรไกรด้วยเผื่อเจอสิ่งแปลกปลอมจะตัดเลยไม่ต้องเอาเข้าเอาออกหลายเที่ยว และที่ว่าเอามือเข้าไปนั้นไม่มี คุณหมอจะใช้นิ้วมือไม่เกิน 2 นิ้วเท่านั้น
วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557 นัดส่องกล้องบ่ายแต่ไปซะเช้ารอจนเหนื่อย ได้ตรวจตอน 14.00 น. ตรวจครั้งนี้จะนุ่งกางเกงประจำห้องตรวจตัวหลวมๆ เหมือนถุงมากกว่าและตรงเป้าจะเปิดเฉพาะจุด ขึ้นขาหยั่งแบบห้อยขา ห้ามกระดุกกระดิก วันนี้เจอนักศึกษาแพทย์หญิงอีก 2 คน เลยบอกคุณหมอว่าจากอินเตอร์เน็ต ปากเป็ดมี 3 แบบ S M L คนไข้ขอขนาด S แล้วกันนะ แต่เอาเข้าจริงๆ ไม่ทราบว่าเป็นขนาดใดกันแน่ นักศึกษาแพทย์ติดตั้งเครื่องมือและให้อยู่นิ่งๆ เพราะเดี๋ยวกล้องเอียง ทั้งอาจารย์หมอประจำตัวเราและ นศ.แพทย์ก็ช่วยกันดูที่กล้องกันว่ามันมีอะไรที่จะศึกษาบ้าง สักพักก็บอกว่าเดี๋ยวจะตัดชิ้นเนื้อเล็กๆไปตรวจนะคะ เรารู้สึกแค่เหมือนมันหนึบๆ ไม่เจ็บเลยตอนตัด ตัดเสร็จก็ห้ามเลือดให้ ไม่มีการเอาผ้าก็อตใส่ข้างในเหมือนในคู่มือที่ให้ นัดฟังผลอีกทีวันจันทร์ที่ 10 มีนาคม 2557
ตรวจภายในไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
เราเองตั้งแต่เกิดมาจนอายุ 45 ปี จะเข้า 46 ปี สูง 155 หนัก 49.2 กก. แล้วยังไม่เคยตรวจภายในหาโรคในสตรีแบบเป็นเรื่องเป็นราว เพราะคิดว่าตัวเองเป็นคนที่รักษาสุขภาพ จะทานผัก ปลา อาหารทะเลโดยเฉพาะปลาหมึกและหอยทุกชนิด ส่วนเนื้อวัว ไก่ หมู ทานแต่น้อยนิด ดื่มน้ำอุณหภูมิห้อง หรือน้ำอุ่น ขนมหวานแบบไทยๆ ทานบ้างแต่ไม่บ่อย แต่ชอบทานเค้กเนยสดมากๆ ยิ่งครีมเยอะๆ ยิ่งชอบ ไอศกรีมต้องใส่วิปครีมเยอะๆ ( แต่ต้องหักห้ามใจ คุมอาหารไม่ทานแป้งขาวมื้อเย็น ไม่ทานจุกจิก ไม่ดื่มชา หรือกาแฟเย็น (ชอบดื่มชาร้อน) ).....สรุปแล้วทานทุกอย่างเต็มที่แต่คุมอาหารแล้วกันนะคะ
เรื่องมีอยู่ว่า ที่บริษัทจะมีตรวจสุขภาพพนักงานประจำปีฟรี ซึ่งการตรวจก็จะจรวจพื้นๆ คือ ความดัน ความสมบรูณ์ของเม็ดเลือด หาน้ำตาล ไตรกรีเซอไรด์ คอเลสเตอรอล LDL HDL การทำงานของตับ ของไต ผลตรวจก็จะอยู่ในเกณฑ์ดียกเว้นคอเลสเตอรอลสูงกว่า 200 mg/dl ก็เลยต้องคุมอาหารไม่ทานปลาหมึกหรือเค้กเยอะเกินไป ตรวจสุขภาพปีนี้ 9 กันยายน 2557 เจ้านายแนะนำว่าอายุมากแล้วควรตรวจหามะเร็งบ้างเผื่อเป็นอะไรจะได้รักษาแต่ต้นเหตุ เลยจ่ายเงินเพิ่มประมาณ 2,000 บาท ตรวจหาค่ามะเร็งรังไข่ มะเร็งเต้านม ระเร็งลำไส้จากเลือดเพิ่มเติม สรุปผลการตรวจออกมาก่อนพนักงานคนอื่นๆ เพราะมีค่ามะเร็งรังไข่ (CA 12-5) สูง 192.5 U/ml ค่าปกติอยู่ที่ 0-35 U/ml และคอเลสเตอรอลสูงกว่าทุกปีถึง 264 mg/dl
ก็ไม่ได้ตกอกตกใจอะไรเพราะคิดว่าคอเลสเตอรอลสูงมากเพราะมีงานทานเลี้ยงตามโรงแรมบ่อยช่วงก่อนตรวจ ส่วนค่ามะเร็งรังไข่ขึ้นสูงน่าจะมาจากการมีรอบเดือนช่วงตรวจ (วันที่ 3 ของรอบเดือน) ก็ศึกษาตามอินเตอร์เน็ตว่าคนปกติจะไม่ค่อยตรวจเพราะมันจะไม่มีอาการถ้าตรวจเจอก็คือระยะสุดท้ายแล้ว บางทีถ้าช่วงตรวจมีรอบเดือนก็จะปรากฎค่าออกมาเพราะช่วงมีฮอร์โมนสูง หรือถ้าคนมีเนื้องอกค่านี้ก็ปรากฎเหมือนกันจะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง อ้อ ลืมอย่างหนึ่งคือช่วงเดือนสิงหาคม 2556 ก่อนตรวจสุขภาพได้หาซื้อนมผึ้งมาทานวันละ 1 เม็ด จำนวน 20 เม็ดเพื่อจะได้เยาว์วัยด้วย ซึ่งภายหลังได้รู้ว่านมผึ้งนั้นจะไปกระตุ้นให้เนื้องอกโต ก็โชคดีที่ไม่ได้ซื้อแบบยกขวด( ทำให้รู้ว่าการหาซื้ออาหารเสริมมาทานเองเป็นการเสี่ยงมากกับร่างกายเรา ควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่เป็นดีที่สุด) ปกติจะเป็นคนที่ใส่ใจกับการมีรอบเดือนของตัวเองมาก จะนับทุกเดือนจนรู้ว่าเป็นคนที่มีรอบเดือนมาตรงทุกวันที่ 28 ซึ่งช่วงมีรอบเดือนจะปวดหน่วงๆ เดือนละ 1-2 วัน ก็จะทานผักใบเขียว และน้ำอุ่นๆ หรือ น้ำขิงสดอุ่นๆ วันละ 2 ลิตร ก็จะรู้สึกดีมากๆ
การที่จะตรวจเช็คอัฟต่อไปนี้จะเป็นการเริ่มกระบวนการของการตรวจภายใน ถ้าไม่ตรวจโดยวิธีนี้ก็จะไม่สามารถรู้ได้ว่าเราเป็นอะไรข้างใน ช่วงก่อนตรวจเช็คจริงที่โรงพยาบาลก็ศึกษาความเป็นไปของร่างกายตัวเองเพื่อที่จะได้คุยกับหมอและค้นคว้าข้อมูลต่างๆ ผ่านอินเตอร์เน็ตและคำแนะนำต่างๆ จากเพื่อนที่เคยตรวจภายในและจากเจ้านาย และถามพยาบาลให้แน่ใจว่าจะสามารถตรวจได้หลังจากมีรอบเดือน 7 -14 วัน วันที่ 7 ธันวาคม 2557 ก็นัดหมอวันเสาร์คลินิกพิเศษของ รพ.ราชวิถี ที่ตนเองมีประกันสังคมอยู่ ก็ได้ยินว่าถ้าไม่หนักจริงๆ เราจะไม่ได้รับการรักษาแต่ก็ยังใจชื้นที่มีผลการตรวจสุขภาพประจำปีที่ให้รีบตรวจด่วน แต่ก็ต้องเมคข้อมูลเพิ่มเติมด้วยคือช่วงที่เราจะทำประวัติการรักษาต้องเติมข้อมูลว่าเรามีอาการอะไรถึงมาตรวจ เพื่อนๆ น้องๆ นำไปใช้ได้นะคะ...เราเขียนว่า มีตกขาวมาก มีกลิ่นรุนแรง และคันมากๆ แต่ไม่สามารถเกาได้ ...พอหมออ่านใบนัด หมอก็จะถามว่าเป็นมานานรึยัง ก็บอกว่าเป็นมานานแล้ว เป็นๆ หายๆ แต่ไม่ใส่ใจ จนเจ้านายไล่ให้มาตรวจ นี่แหละ หมอก็จะซักเราเรื่องอื่นๆ พอสังเขป ก็จะให้ขึ้นขาหยั่ง ซึ่งสาวๆ ทุกคนจะกลัวมาก จะบอกว่าไม่น่ากลัวหรอก เพียงแต่จะเขินหมอเท่านั้นเอง เราก็แก้เขินโดยการนำผ้าคลุมหน้าตัวเอง ซึ่งหมอก็ไม่ได้ดูของๆ เราหรอก ใช้อะไรสักอย่างเย็นๆ ไปป้ายเยื้อเยื่อข้างใน และใช้นิ้วกดข้างใน มืออีกข้างกดหน้าท้องให้นิ้วที่สอดกับมือที่กดข้างนอกชนกัน ผ้าก็ยังคลุมให้ช่วงขาให้เราอยู่ ไม่โป้เหมือใน You tube หมอจะบอกให้ทำตัวผ่อนคลาย ไม่ต้องเกร็งไม่งั้นจะเจ็บ ตรวจแป๊บๆ ก็เสร็จแล้ว สรุปน่าจะเป็นการตรวจมะเร็งปากมดลูกโดยวิธีแป๊บสเมียร์ ซึ่งวันไปตรวจนั้นเป็นวันไข่ตกพอดี แต่หมอบอกว่าไม่เกี่ยวกันกับการตรวจครั้งนี้
ด้วยความที่คิดว่าตรวจแค่นี้มันคงไม่เจออะไร จึงขอให้หมอตรวจอุลตร้าซาวด์ให้หน่อยเพื่อความสบายใจ คุณหมอก็ให้พยาบาลหาวันให้ได้ตรวจก่อนปีใหม่ ซึ่งต้องไปตรวจในวันทำการแทนเพราะวันเสาร์เครื่องไม้เครื่องมือ และบุคคลากรไม่พร้อม คุณพยาบาลโทรแจ้งให้มาตรวจเลือดหาค่ามะเร็งรังไข่ วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2556 และนัดอุลตร้าซาวด์วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม 2556 ซึ่งเป็นวันที่เราคาดว่ารอบเดือนจะมาอีกแล้ว คุณหมอก็บอกว่าไม่เป็นไร ที่กลัวก็เพราะมันเป็นช่วงมีรอบเดือน กลัวจะเปรอะเปื้อนเดี๋ยวเครื่องไม้เครื่องมือสกปรกน่ะ และกลัวติดเชื้อเพราะเป็นช่วงมดลุกอ่อนแอน่ะ ครั้งนี้จะเป็นการขึ้นขาหยั่งและมีเครื่องไม้เครื่องมือสอดใส่เข้าไปดูข้างในมดลูก เพื่อนๆ พี่ๆ ที่เคยตรวจภายในก็บอกว่าจะเจ็บมากนะ ที่เขาเคยตรวจจะเป็นการเอามือเข้าไปคลำดูเลยล่ะ เขาบอกว่าขนาดเขาเคยคลอดลุกแล้วยังเจ็บมากๆ เลยล่ะ เราแม้จะอายุมากแล้วก็นึกกลัวเหมือนกันนะ มือทั้งมือก็ขนาดโตเอาการอยู่นะ ก็กะจะไม่ตรวจแล้ว จะรักษาโดยกินมังสวิรัติแทนก็ได้อ่ะ แต่ขอคุยกับหมอก่อนว่าการตรวจเป็นไง คุณพยาบาลก็อธิบายว่าเป็นการใช้เครื่องมือขนาดเล็กข้าไปตรวจหาใช่มือล้วงเข้าไปไม่ วันต่อมาก็มีพยาบาลโทร.มาหาบอกว่าคุณหมอให้ย้ำว่าไม่มีการใช้มือล้วงแต่อย่างใด ให้คนไข้มาตรวจด้วย เราก็ สบายใจวิวัฒนาการสมัยนี้น่าจะพัฒนาไปมากกว่าสมัยก่อนนะ(แต่เพื่อน 3คนก็ยังยืนยันว่าเจ็บมากๆ อยู่ดี แถมเพื่อนอีกคนพึ่งไปตรวจมาก็บอกว่าเจ็บมากๆ )
พอถึงวันตรวจก็ต้องไปตรวจสิทธิประกันสังคมก่อนแล้วมายื่นใบนัดหน้าห้องตรวจ( การใช้สิทธิประกันสังคมกับโรงพยาบาลของรัฐ จะต้องตรวจสอบสิทธิทุกครั้งที่เข้าตรวจ) สักพักเจ้าหน้าที่ก็ให้เปลี่ยนชุดเป็นผ้าถุงขึ้นเตียง เจ้าหน้าที่จัดท่านอนที่ถูกต้องให้และคลุมผ้าไม่ให้โป้ วันนี้มีนักศึกษาแพทย์ 2 คน ชายและหญิง โดยนศ.แพทย์หญิงจะเป็นคนนำเครื่องมือใส่เข้าไปเป็นแท่งเกลี้ยงๆ หัวมนๆ มือจับเครื่องมือ แต่สายตาของ นศ.แพทย์ทั้งสอง จะจ้องที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ปรึกษากันว่าอันนั้น อันนี้คืออะไร สักพักอาจารย์หมอจะเข้ามา ถามเด็กว่าหาอะไรรึ เด็กก็บอกว่ามี Remark ให้หามะเร็งรังไข่ แต่หาไม่เจอ อาจารย์หมอหญิง ก็จะจับเครื่องมือสอนเด็ก เราก็นอนฟังได้ยินแต่พูดว่าอันนี้คือ Bladder , Rectum , Tumour, ให้Click ว่าเนื้องอกมีกี่จุดๆ ก็ตรวจนานเหมือนกันนะ แต่โชคดีไม่เจ็บ ตรวจตอนเช้าตอนบ่ายก็เข้ามาทำงานตามปกติ ตกเย็นรอบเดือนก็มาพอดี
วันเสาร์ 21 ธันวาคม 2556 ก็มาฟังผลที่คลินิกพิเศษนรีเวช คุณหมอก็บอกว่า ผลการตรวจค่ามะเร็งรังไข่ CA 12-5 มีค่า 42 U/ml สูงกว่าปกติ 0-35 U/ml อยู่ 7 U/ml เพราะมีเนื้องอกมดลูกจำนวนประมาณ 10 เม็ด เม็ดโตสุด ประมาณ 3.9 x2.6 cm เป็นเนื้องอกแบบธรรมดานูนๆ ไม่ได้เป็นถุงน้ำ หรือช็อกโกแลตซีส ส่วนที่รังไข่ปกติดี ก็ให้เช็คติดตามผลทุก 6 เดือน นัดอีกทีก็ 7 มิถุนายน 2557 ก็เลยถามถึงผลการตรวจแป๊บสเมียร์ คุณหมอก็ถามเจ้าหน้าที่ๆ ก็หาไม่เจอๆ คงเพราะพึ่งมาตรวจเลยยังไม่มีประวัติ เลยทำหายมั้ง แต่มีจดในสมุดไว้คร่าวๆ ว่าเจอเชื้อ HPVอาจเป็นหรือไม่เป็นก็ได้ ให้พักผ่อนให้เพียงพอถ้าร่างการแข็งแรงก็จะสามารถกำจัดเชื้อตัวนี้ออกไปได้ ไม่น่าห่วง ก็สบายใจต่อไปก็สามารถตรวจอุลตร้าซาวด์ฟรีทุก 6 เดือนแล้ว
เจ้านายและเพื่อนๆ ก็รอลุ้นกันว่าผลจะออกมาตรงกับที่ตรวจกับคลินิกที่บริษัทจัดหามาตรวจให้พนักงานรึไม่ พอรู้ว่าเป็นเนื้องอกมดลูก บางคนที่มีประสบการณ์เคยตัดมาแล้วก็แนะนำให้ตัดมดลูกทิ้ง เหลือรังไข่ไว้สร้างฮอร์โมน เพราะอายุอานาม เรื่องมีลูกตัดทิ้งไปได้เลยเพราะขนาดแฟนก็ยังหาไม่ได้ บางคนก็พาเพื่อนหมอมาหาให้ปรึกษา ปรึกษาไปๆ มาๆ ก็จะขายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเมล็ดงาดำรักษาครอบจักรวาลที่นายแพทย์ท่านนั้นได้วิจัยและทำในรูปแคปซูล ก็เข้าใจในความหวังดีของทุกๆ คนนะคะ
วันที่ 25 ธันวาคม 2556 ทำบุญบริษัทที่ต่างจังหวัด ก็มีสายจากทางโรงพยาบาลติดต่อเข้ามาหลายครั้ง ก็ติดต่อกลับวันถัดมาแจ้งว่าผลตรวจแป๊ปสเมียร์เมื่อ 7 ธันวาคม 2556 ออกมามีค่าเซลล์บ่งชี้ HPV ที่อาจเปลี่ยนเป็นมะเร็งปากมดลูกให้ติดต่อคลินิกนรีเวชด่วน วันที่ 26 ธันวาคมก็เลยไปรับผลตรวจแล้วนำมาให้คุณหมอคลินิกพิเศษวันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม 2556 ดู คุณหมอเจอหน้าก็งง ถามว่ามาอะไร เพราะพึ่งคุยกันไปเมื่อเสาร์ที่แล้ว ก็เลยบอกไปว่าคงเพราะคุณพยาบาลเป็นห่วงคนไข้ก็เลยโทร.หาตั้งหลายครั้งให้นำผลมาให้อาจารย์ดูค่ะ คุณหมอก็เลยบอกว่าถ้างั้นก็ส่องกล้องแล้วกัน ต้องเอาเครื่องมือเข้าไปดูนะ ก็เลยถามว่าจะเหมือนอุลตร้าซาวด์ไม๊ คุณหมอก็บอกว่าคล้ายๆ กันแหละแต่ดูละเอียดกว่า ก็เลยหาคิวส่องกล้องได้เร็วสุดวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557 ก็ถือว่าโชคดีนะที่ได้ใช้ประกันสังคมที่โรงพยาบาลของรัฐ การบริการก็ถือว่าดีนะ อีกอย่างถ้าเราศึกษาข้อมูลก่อนไปตรวจก็จะเป็นผลดีกับคนไข้ในการซักถามคุณหมอ
ใกล้ถึงวันส่องกล้อง Colposcopy เพื่อนๆ คนเดิมๆ ก็จะบอกอีกว่าสงสัยคราวนี้เจ็บชวัร์ แถมบอกว่าเขาจะเอาปากเป็ดขยายให้กว้างๆ แล้วเอามือเข้าไปอีกแล้ว บางคนก็บอกว่าการส่องกล้องเป็นการเจาะที่แถวๆ สะดือประมาณ 3 รูปากกาเล็กๆ พอดีมีเพื่อนมีแฟนเป็นหมอดมยาจึงไว้วานให้ไปถามให้ก็ได้ความว่าน่าจะเป็นการเจาะ 3 รูแถวๆ สะดือ จึงค้นคว้าทางอินเตอร์เน็ตการส่องกล้อง และ โทร.หาคุณพยาบาลอีกแล้ว คุณพยาบาลก็ถามว่าที่คนไข้จะตรวจคือตรวจอะไรก็เลยอธิบายตั้งแต่ต้นจนจบมาที่ส่องกล้อง คุณพยาบาลเลยบอกว่ากรณีตรวจมะเร็งปากมดลูกน่ะ จะใช้ปากเป็ดขยายปากมดลูกแล้วนำกล้องขนาดจิ๋วเข้าไป ซึ่งที่กล้องนี้จะมีกรรไกรด้วยเผื่อเจอสิ่งแปลกปลอมจะตัดเลยไม่ต้องเอาเข้าเอาออกหลายเที่ยว และที่ว่าเอามือเข้าไปนั้นไม่มี คุณหมอจะใช้นิ้วมือไม่เกิน 2 นิ้วเท่านั้น
วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557 นัดส่องกล้องบ่ายแต่ไปซะเช้ารอจนเหนื่อย ได้ตรวจตอน 14.00 น. ตรวจครั้งนี้จะนุ่งกางเกงประจำห้องตรวจตัวหลวมๆ เหมือนถุงมากกว่าและตรงเป้าจะเปิดเฉพาะจุด ขึ้นขาหยั่งแบบห้อยขา ห้ามกระดุกกระดิก วันนี้เจอนักศึกษาแพทย์หญิงอีก 2 คน เลยบอกคุณหมอว่าจากอินเตอร์เน็ต ปากเป็ดมี 3 แบบ S M L คนไข้ขอขนาด S แล้วกันนะ แต่เอาเข้าจริงๆ ไม่ทราบว่าเป็นขนาดใดกันแน่ นักศึกษาแพทย์ติดตั้งเครื่องมือและให้อยู่นิ่งๆ เพราะเดี๋ยวกล้องเอียง ทั้งอาจารย์หมอประจำตัวเราและ นศ.แพทย์ก็ช่วยกันดูที่กล้องกันว่ามันมีอะไรที่จะศึกษาบ้าง สักพักก็บอกว่าเดี๋ยวจะตัดชิ้นเนื้อเล็กๆไปตรวจนะคะ เรารู้สึกแค่เหมือนมันหนึบๆ ไม่เจ็บเลยตอนตัด ตัดเสร็จก็ห้ามเลือดให้ ไม่มีการเอาผ้าก็อตใส่ข้างในเหมือนในคู่มือที่ให้ นัดฟังผลอีกทีวันจันทร์ที่ 10 มีนาคม 2557