ทัศพล แบเลเว็ลด์ เตรียมพร้อมเทกออฟ "ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์"
ตลอดระยะเวลา 10 ฝน 10 หนาวที่ผ่านมา แสดงให้เห็นชัดถึงพัฒนาการของ "ไทย แอร์เอเชีย" ที่ค่อย ๆ เติบใหญ่ จากเด็กน้อยตั้งไข่หัดเดิน เป็นเด็กวัยซนที่พร้อมท้าชนและเรียนรู้กับทุกวิกฤตทุกสถานการณ์ที่ถาโถมใส่จนบางครั้งสายการบินหางแดงฝูงนี้มีเซไปนิดๆ บ้าง แต่ก็กลับมาตั้งหลัก สปีดเครื่องวิ่งต่อไปได้
"ประชาชาติธุรกิจ" ร่วมสัมภาษณ์ "ทัศพล แบเลเว็ลด์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทย แอร์เอเชีย ถึงแผนธุรกิจและทิศทางการแข่งขันของสายการบินต้นทุนต่ำในปี 2557 รวมถึงปัจจัยการเมืองที่ร้อนแรงจนสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์) น้องใหม่อย่าง "ไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์" พลอยได้รับผลกระทบจนต้องเลื่อนช่วงเปิดตัวไปด้วย จากเดิมตั้งเป้าเริ่มบินในช่วงไตรมาสแรกปีนี้
"ทัศพล" บอกว่า ที่ผ่านมา ไทย แอร์เอเชีย ไม่ได้รับผลกระทบถึงขั้นรุนแรง ยังอยู่ในขอบข่ายที่รับได้ ถ้ามองในแง่การตลาดแล้ว แม้จะมีปัจจัยลบทางด้านการเมือง ประเทศไทยก็ยังเนื้อหอมอยู่ดี เห็นได้จากสายการบินใหม่ ๆ ก็ยังเข้ามาเล่นตลาดโลว์คอสต์ในไทยจำนวนมาก
พร้อมบอกว่า ในตอนนี้ ประเทศไทยก็แค่ "สะอึก" เท่านั้น เราได้แต่รอจังหวะที่ทุกอย่างจบลง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับคืน คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 60 วันหลังเกิดวิกฤตกลับสู่ปกติ ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่น่าเที่ยวมากที่สุด เพราะจะได้ราคาแบบคุ้มค่าเงินสุด ๆ
"10 ปีที่ผ่านมา สายการบินโลว์คอสต์ที่เข้ามาชิงมาร์เก็ตแชร์กับเราก็จะมีนกแอร์และโอเรียนท์ไทย ซึ่งแต่ละรายต่างก็ปรับจุดยืนและหาตลาดของตัวเองกัน ช่วงแรกก็จะมีการรบราฆ่าฟันเรื่องราคากันบ้าง สงครามราคาเป็นเหมือนของตายที่ต้องอยู่คู่สายการบินโลว์คอสต์ มันเป็นการกระตุ้นตลาดให้โตขึ้น และทำให้คนรู้จักเราเร็วขึ้น"
และสำหรับ "ไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์" ที่ "ทัศพล" ในฐานะผู้ก่อตั้งและหุ้นส่วนสายการบินนี้ หมายมั่นปั้นมือชิมลางตลาดโลว์คอสต์เที่ยวบินระยะกลาง-ไกล รัศมีการบินไม่เกิน 8 ชั่วโมง เป็นสายการบินแรกในไทยนั้น เขาบอกว่า ณ ขณะนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องชะลอแผนเปิดตัวไปก่อน ด้วยสถานการณ์การเมืองที่ไม่เอื้ออำนวย
"เรารออย่างเดียวคือม็อบหยุด ม็อบหยุดเมื่อไหร่ เราเทกออฟไฟลต์บินแรกทันที แม้การเมืองจะยืดเยื้อเกินครึ่งปีแรก เราก็จะรอ ตอนนี้เรามีความพร้อมทุกอย่างแล้ว ขอแค่ทุกอย่างสงบลงเท่านั้น"
"ทัศพล" บอกด้วยว่า ตอนนี้ ไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์ มีเครื่องบินแอร์บัส เอ 330-300 จำนวน 377 ที่นั่ง เข้ามาแล้ว 1 ลำ ตามแผนรับมอบ 2 ลำในปีนี้ ซึ่งตอนนี้ได้นำไปบินเที่ยวบินเช่าเหมาลำหรือชาร์เตอร์ไฟลต์ให้กับบริษัทนำเที่ยวก่อน ดีกว่าปล่อยว่างไว้ ส่วนลำที่ 2 ของปีนี้จะเข้ามาตอนใกล้ ๆ ช่วงเปิดตัว โดยตามแผน "ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์" แล้ว จะเปิดบิน 3 เส้นทางใหม่ในแถบเอเชียเหนือ
และขณะนี้ดีมานด์จากนักท่องเที่ยวฝั่งเอเชียเหนือยังอ่อนไหวกับการเมืองไทยอยู่ จึงทำให้ต้องชะลอแผนไปก่อน
ต่อคำถามที่ว่าคู่แข่งตลาดเที่ยวบินระยะไกลอย่าง "นกสกู้ต" ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างสายการบิน "นกแอร์" และ "สกู้ต" ในเครือสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ซึ่งมีแผนเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้เช่นกันนั้น "ทัศพล" บอกว่า ในช่วงเริ่มต้นตลาดนี้ยังมีเล็กมาก เมื่อมี "นกสกู้ต" เข้ามาบินแย่งเค้กตลาดนี้ด้วย จะยิ่งทำให้คนตื่นตัวด้านการท่องเที่ยวมากขึ้น
"มันจะมาสนุกกันตอนตัดราคาตั๋วบินกันนี่แหละ ซึ่งผมเชื่อว่ามีดเราคมกว่าแน่นอน เพราะเราเป็นสายการบินโลว์คอสต์ตัวจริง"
"ทัศพล" บอกอีกว่า ไทย แอร์เอเชีย และไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์ จะทำกลยุทธ์ราคา เข็นโปรโมชั่นกันตลอดปี 52 สัปดาห์ ไม่เคยหยุดที่จะกระตุ้นตลาดและสร้างเครือข่ายเส้นทางบิน เพื่อรักษาการเป็นผู้นำตลาด และเพื่อครองมาร์เก็ตแชร์ในสัดส่วน 40%
ที่สำคัญ เขายังได้ชวน "นัดดา บุรณศิริ"มาบริหารสายการบินนี้ด้วยกัน โดยได้ประกาศแต่งตั้ง "นัดดา" เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนแรกอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่เคยบริหาร บริษัท วอร์เนอร์ มิวสิค (ประเทศไทย) จำกัด ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ซึ่งเป็นทั้งเก้าอี้และบริษัทเดียวกันกับที่ "ทัศพล" เคยบริหารมาก่อน
"ผมกับคุณนัดดา เราพูดภาษาเดียวกัน เข้าใจกัน เลยชวนเขามาร่วมงานด้วย และเชื่อว่าเขาจะนำมุมมองสร้างสรรค์และแปลกใหม่มาสู่อุตสาหกรรมการบินด้วย"
ในส่วนของไทย แอร์เอเชียนั้น "ทัศพล" ได้ให้สัมภาษณ์ถึงแผนธุรกิจว่า ปีนี้เป็นอีกปีที่ต้องเผชิญกับการแข่งขันอย่างรุนแรง โดยเฉพาะ "ตลาดในประเทศ" เพราะมีสายการบินใหม่ ๆ อย่าง "ไทยไลอ้อนแอร์" เข้ามาบุกตลาด แต่ในจังหวัดใหญ่ ๆ ไทย แอร์เอเชีย จะยังได้เปรียบอยู่
และถึงแม้การเมืองจะรุมเร้า แต่กลับเป็นตลาดที่โตดี ช่วยอุดตลาดต่างชาติที่เดินทางลดลง โดยปีที่แล้วจำนวนผู้โดยสารเที่ยวบินในประเทศของไทย แอร์เอเชียโต 18% ครองสัดส่วนถึง 50% ของผู้โดยสารทั้งหมด 9.6 ล้านคนในปี 2556 และสร้างรายได้คิดเป็นสัดส่วน 55% ในขณะที่ 45% เป็นรายได้จากเที่ยวบินระหว่างประเทศและเพื่อเป็นการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศอย่างต่อเนื่อง ไทย แอร์เอเชีย ได้จับมือกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ "ททท." จัดแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวใน 3 ภาค ทั้งเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และใต้ รวม 14 เส้นทาง ภายใต้ชื่องาน "ม่วน แซ่บ หนุกจังฮู้ บินทั่วไทยไปกับแอร์เอเชีย" เพื่อกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวไทยให้คึกคักทุกภาค ในช่วง 20 กุมภาพันธ์-30 มิถุนายนนี้ โดยได้ตั้งเป้าหมายผู้โดยสารจากการจัดกิจกรรมครั้งนี้กว่า 40,000 คน เกิดรายได้หมุนเวียนกว่า 305 ล้านบาท
"แม้ช่วงที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวต่างชาติจะลดลงไปบ้าง โดยเฉพาะตลาดจีนที่เราลดลงไปน้อยกว่า 30% ตอนนี้ก็เริ่มกลับมาแล้ว เพราะการเมืองไทยไม่ได้รุนแรงจนกระทั่งนักท่องเที่ยวต้องยกเลิกแผนเที่ยว และเลือกเดินทางไปต่างจังหวัดกันมาก ทำให้อัตราบรรทุกผู้โดยสารหรือโหลดแฟ็กเตอร์ช่วงไตรมาสแรกของปีเฉลี่ยน่าจะดีอยู่ที่ 84% ลดลงเพียงเล็กน้อยจาก 86% ของช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว"
ส่วนภาพรวมแผนธุรกิจในปีนี้ของ "ไทย แอร์เอเชีย" ซีอีโอหนุ่มบอกว่า ได้ตั้งเป้าจำนวนผู้โดยสารเติบโตเป็น 13 ล้านคน จากแผนการขยายฝูงบินเพิ่มอีก 8 ลำ เป็น 43 ลำ โดยมีแผนเพิ่มเส้นทางบินใหม่ทั้งในและระหว่างประเทศรวม 5-6 เส้นทาง
โดยจะเน้นบินตรงจากต่างประเทศเข้าหัวเมืองต่างจังหวัดของไทย เช่น เชียงใหม่ และภูเก็ต เพราะทิศทางการเติบโตดีมาก ขณะที่เส้นทางในประเทศจะเน้นเพิ่มความถี่เที่ยวบิน
เรียกว่าแม้จะต้องฝ่าฟันปัจจัยลบทางการเมืองแต่ก็พร้อมดันธุรกิจให้ก้าวเดินต่อไปข้างหน้าให้ได้...
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1393221605
เตรียมพร้อมเทคออฟ Thai Air Asia X
ตลอดระยะเวลา 10 ฝน 10 หนาวที่ผ่านมา แสดงให้เห็นชัดถึงพัฒนาการของ "ไทย แอร์เอเชีย" ที่ค่อย ๆ เติบใหญ่ จากเด็กน้อยตั้งไข่หัดเดิน เป็นเด็กวัยซนที่พร้อมท้าชนและเรียนรู้กับทุกวิกฤตทุกสถานการณ์ที่ถาโถมใส่จนบางครั้งสายการบินหางแดงฝูงนี้มีเซไปนิดๆ บ้าง แต่ก็กลับมาตั้งหลัก สปีดเครื่องวิ่งต่อไปได้
"ประชาชาติธุรกิจ" ร่วมสัมภาษณ์ "ทัศพล แบเลเว็ลด์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทย แอร์เอเชีย ถึงแผนธุรกิจและทิศทางการแข่งขันของสายการบินต้นทุนต่ำในปี 2557 รวมถึงปัจจัยการเมืองที่ร้อนแรงจนสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์) น้องใหม่อย่าง "ไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์" พลอยได้รับผลกระทบจนต้องเลื่อนช่วงเปิดตัวไปด้วย จากเดิมตั้งเป้าเริ่มบินในช่วงไตรมาสแรกปีนี้
"ทัศพล" บอกว่า ที่ผ่านมา ไทย แอร์เอเชีย ไม่ได้รับผลกระทบถึงขั้นรุนแรง ยังอยู่ในขอบข่ายที่รับได้ ถ้ามองในแง่การตลาดแล้ว แม้จะมีปัจจัยลบทางด้านการเมือง ประเทศไทยก็ยังเนื้อหอมอยู่ดี เห็นได้จากสายการบินใหม่ ๆ ก็ยังเข้ามาเล่นตลาดโลว์คอสต์ในไทยจำนวนมาก
พร้อมบอกว่า ในตอนนี้ ประเทศไทยก็แค่ "สะอึก" เท่านั้น เราได้แต่รอจังหวะที่ทุกอย่างจบลง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับคืน คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 60 วันหลังเกิดวิกฤตกลับสู่ปกติ ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่น่าเที่ยวมากที่สุด เพราะจะได้ราคาแบบคุ้มค่าเงินสุด ๆ
"10 ปีที่ผ่านมา สายการบินโลว์คอสต์ที่เข้ามาชิงมาร์เก็ตแชร์กับเราก็จะมีนกแอร์และโอเรียนท์ไทย ซึ่งแต่ละรายต่างก็ปรับจุดยืนและหาตลาดของตัวเองกัน ช่วงแรกก็จะมีการรบราฆ่าฟันเรื่องราคากันบ้าง สงครามราคาเป็นเหมือนของตายที่ต้องอยู่คู่สายการบินโลว์คอสต์ มันเป็นการกระตุ้นตลาดให้โตขึ้น และทำให้คนรู้จักเราเร็วขึ้น"
และสำหรับ "ไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์" ที่ "ทัศพล" ในฐานะผู้ก่อตั้งและหุ้นส่วนสายการบินนี้ หมายมั่นปั้นมือชิมลางตลาดโลว์คอสต์เที่ยวบินระยะกลาง-ไกล รัศมีการบินไม่เกิน 8 ชั่วโมง เป็นสายการบินแรกในไทยนั้น เขาบอกว่า ณ ขณะนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องชะลอแผนเปิดตัวไปก่อน ด้วยสถานการณ์การเมืองที่ไม่เอื้ออำนวย
"เรารออย่างเดียวคือม็อบหยุด ม็อบหยุดเมื่อไหร่ เราเทกออฟไฟลต์บินแรกทันที แม้การเมืองจะยืดเยื้อเกินครึ่งปีแรก เราก็จะรอ ตอนนี้เรามีความพร้อมทุกอย่างแล้ว ขอแค่ทุกอย่างสงบลงเท่านั้น"
"ทัศพล" บอกด้วยว่า ตอนนี้ ไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์ มีเครื่องบินแอร์บัส เอ 330-300 จำนวน 377 ที่นั่ง เข้ามาแล้ว 1 ลำ ตามแผนรับมอบ 2 ลำในปีนี้ ซึ่งตอนนี้ได้นำไปบินเที่ยวบินเช่าเหมาลำหรือชาร์เตอร์ไฟลต์ให้กับบริษัทนำเที่ยวก่อน ดีกว่าปล่อยว่างไว้ ส่วนลำที่ 2 ของปีนี้จะเข้ามาตอนใกล้ ๆ ช่วงเปิดตัว โดยตามแผน "ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์" แล้ว จะเปิดบิน 3 เส้นทางใหม่ในแถบเอเชียเหนือ
และขณะนี้ดีมานด์จากนักท่องเที่ยวฝั่งเอเชียเหนือยังอ่อนไหวกับการเมืองไทยอยู่ จึงทำให้ต้องชะลอแผนไปก่อน
ต่อคำถามที่ว่าคู่แข่งตลาดเที่ยวบินระยะไกลอย่าง "นกสกู้ต" ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างสายการบิน "นกแอร์" และ "สกู้ต" ในเครือสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ซึ่งมีแผนเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้เช่นกันนั้น "ทัศพล" บอกว่า ในช่วงเริ่มต้นตลาดนี้ยังมีเล็กมาก เมื่อมี "นกสกู้ต" เข้ามาบินแย่งเค้กตลาดนี้ด้วย จะยิ่งทำให้คนตื่นตัวด้านการท่องเที่ยวมากขึ้น
"มันจะมาสนุกกันตอนตัดราคาตั๋วบินกันนี่แหละ ซึ่งผมเชื่อว่ามีดเราคมกว่าแน่นอน เพราะเราเป็นสายการบินโลว์คอสต์ตัวจริง"
"ทัศพล" บอกอีกว่า ไทย แอร์เอเชีย และไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์ จะทำกลยุทธ์ราคา เข็นโปรโมชั่นกันตลอดปี 52 สัปดาห์ ไม่เคยหยุดที่จะกระตุ้นตลาดและสร้างเครือข่ายเส้นทางบิน เพื่อรักษาการเป็นผู้นำตลาด และเพื่อครองมาร์เก็ตแชร์ในสัดส่วน 40%
ที่สำคัญ เขายังได้ชวน "นัดดา บุรณศิริ"มาบริหารสายการบินนี้ด้วยกัน โดยได้ประกาศแต่งตั้ง "นัดดา" เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนแรกอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่เคยบริหาร บริษัท วอร์เนอร์ มิวสิค (ประเทศไทย) จำกัด ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ซึ่งเป็นทั้งเก้าอี้และบริษัทเดียวกันกับที่ "ทัศพล" เคยบริหารมาก่อน
"ผมกับคุณนัดดา เราพูดภาษาเดียวกัน เข้าใจกัน เลยชวนเขามาร่วมงานด้วย และเชื่อว่าเขาจะนำมุมมองสร้างสรรค์และแปลกใหม่มาสู่อุตสาหกรรมการบินด้วย"
ในส่วนของไทย แอร์เอเชียนั้น "ทัศพล" ได้ให้สัมภาษณ์ถึงแผนธุรกิจว่า ปีนี้เป็นอีกปีที่ต้องเผชิญกับการแข่งขันอย่างรุนแรง โดยเฉพาะ "ตลาดในประเทศ" เพราะมีสายการบินใหม่ ๆ อย่าง "ไทยไลอ้อนแอร์" เข้ามาบุกตลาด แต่ในจังหวัดใหญ่ ๆ ไทย แอร์เอเชีย จะยังได้เปรียบอยู่
และถึงแม้การเมืองจะรุมเร้า แต่กลับเป็นตลาดที่โตดี ช่วยอุดตลาดต่างชาติที่เดินทางลดลง โดยปีที่แล้วจำนวนผู้โดยสารเที่ยวบินในประเทศของไทย แอร์เอเชียโต 18% ครองสัดส่วนถึง 50% ของผู้โดยสารทั้งหมด 9.6 ล้านคนในปี 2556 และสร้างรายได้คิดเป็นสัดส่วน 55% ในขณะที่ 45% เป็นรายได้จากเที่ยวบินระหว่างประเทศและเพื่อเป็นการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศอย่างต่อเนื่อง ไทย แอร์เอเชีย ได้จับมือกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ "ททท." จัดแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวใน 3 ภาค ทั้งเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และใต้ รวม 14 เส้นทาง ภายใต้ชื่องาน "ม่วน แซ่บ หนุกจังฮู้ บินทั่วไทยไปกับแอร์เอเชีย" เพื่อกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวไทยให้คึกคักทุกภาค ในช่วง 20 กุมภาพันธ์-30 มิถุนายนนี้ โดยได้ตั้งเป้าหมายผู้โดยสารจากการจัดกิจกรรมครั้งนี้กว่า 40,000 คน เกิดรายได้หมุนเวียนกว่า 305 ล้านบาท
"แม้ช่วงที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวต่างชาติจะลดลงไปบ้าง โดยเฉพาะตลาดจีนที่เราลดลงไปน้อยกว่า 30% ตอนนี้ก็เริ่มกลับมาแล้ว เพราะการเมืองไทยไม่ได้รุนแรงจนกระทั่งนักท่องเที่ยวต้องยกเลิกแผนเที่ยว และเลือกเดินทางไปต่างจังหวัดกันมาก ทำให้อัตราบรรทุกผู้โดยสารหรือโหลดแฟ็กเตอร์ช่วงไตรมาสแรกของปีเฉลี่ยน่าจะดีอยู่ที่ 84% ลดลงเพียงเล็กน้อยจาก 86% ของช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว"
ส่วนภาพรวมแผนธุรกิจในปีนี้ของ "ไทย แอร์เอเชีย" ซีอีโอหนุ่มบอกว่า ได้ตั้งเป้าจำนวนผู้โดยสารเติบโตเป็น 13 ล้านคน จากแผนการขยายฝูงบินเพิ่มอีก 8 ลำ เป็น 43 ลำ โดยมีแผนเพิ่มเส้นทางบินใหม่ทั้งในและระหว่างประเทศรวม 5-6 เส้นทาง
โดยจะเน้นบินตรงจากต่างประเทศเข้าหัวเมืองต่างจังหวัดของไทย เช่น เชียงใหม่ และภูเก็ต เพราะทิศทางการเติบโตดีมาก ขณะที่เส้นทางในประเทศจะเน้นเพิ่มความถี่เที่ยวบิน
เรียกว่าแม้จะต้องฝ่าฟันปัจจัยลบทางการเมืองแต่ก็พร้อมดันธุรกิจให้ก้าวเดินต่อไปข้างหน้าให้ได้...
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1393221605