ช่วงเย็นวันที่ 12 ก.พ. ที่ผ่านมา ประมาณ 17.45 น. น้องแซ้งได้เข้าไปพบ “น้องลัคกี้” วัย 8 เดือน น้องหมาของพี่สาว นอนแน่นิ่งหายใจรวยรินอยู่ข้างเล้าไก่ซึ่งอยู่ภายในวัดสายทอง ต.หนองแดง อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น บริเวณหัวและใบหน้าของน้องลัคกี้เป็นแผลฉกรรจ์… กระโหลกและปากยุบ ลิ้นฉีก นอนจมกองเลือด มี “พระคม” พระลูกวัดซึ่งเป็นเจ้าของเล้าไก่นี้ และ “เด็กชายอายุ 14 ปี” ซึ่งสนิทกับพระคม กำลังยืนมองร่างของน้องลัคกี้อยู่ เด็กชายอายุ 14 มีสีหน้าตื่นกลัว ต่างกับพระคมที่มีสีหน้านิ่งเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่พูดอะไรกับน้องแซ้งใดๆ เลย
น้องแซ้งรีบเข้าไปอุ้มร่างของน้องลัคกี้ รู้สึกได้ว่า หัวใจของน้องยังเต้นอยู่ จึงรีบอุ้มน้องกลับบ้านมาหาพี่สาว ...เหมือนจะรอ...พบและได้ยินเสียง...เจ้านายที่น้องลัคกี้รัก และรักน้องลัคกี้ที่สุด...เป็นครั้งสุดท้าย
เมื่อส่งน้องลัคกี้ถึงมือพี่สาว น้องลัคกี้ก็ขาดใจตายทันที...
หลังจากนั้น ทางครอบครัวน้องแซ้ง ทั้งพี่สาว ลุง ป้า ได้ไปสอบถามพระคม ซึ่งเป็นเจ้าของเล้าไก่ (ภายในมีทั้งไก่ธรรมดาและไก่ชน) ที่พบร่างของน้องลัคกี้นอนเลือดอาบอยู่ด้านข้าง บริเวณพื้นที่กุฎิของพระคม ว่า… “ใครฆ่าน้องลัคกี้ ???”
พระคมปฎิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็น ถามเด็กชายอายุ 14 ปี และพระอีกรูปที่กำลังกวาดพื้นบริเวณนั้นอยู่ ทุกคนตอบเหมือนกันหมดว่า… ไม่รู้
ขณะที่พี่สาวของน้องแซ้งเดินไปถามพระคมว่า...เห็นคนฆ่าน้องลัคกี้มั้ย??? พระคมตอบว่า ไม่เห็น เพราะไม่ได้อยู่วัดทั้งวัน แต่กลับพูดขึ้นมาว่า เห็นหมาตัวสีส้มๆ กัดไก่ชนของพระคมตาย เพิ่งฝังซากไก่ไป 4-5 ตัว
สภาพที่เกิดเหตุ จุดที่พบร่างของน้องลัคกี้ถูกทำร้ายอย่างโหดเหี้ยมทารุณสุดเลือดเย็น พบจอบและค้อนเปื้อนเลือดตกอยู่ ลุงจึงได้ถือค้อนที่เปื้อนเลือดเดินเข้าไปพูดกับพระคมว่า… นี่คือค้อนที่ใช้ทุบหัวน้องลัคกี้ เห็นมั้ยว่า ใครทุบ??? พระคมมีอาการกระวนกระวาย ไม่สบตาลุงและป้าที่ยืนอยู่ตรงนั้นและพูดเสียงดังว่า ลุงขู่จะฆ่าพระคม
ลุงพูดว่า ไม่คิดจะทำอะไรกับคนที่ฆ่าน้องลัคกี้ แค่อยากถามว่าทำไมถึงทำได้ลง ถ้าน้องไปกัดไก่จริง ก็เอาซากไก่มา ตายกี่ตัว ลุงจะรับผิดชอบ พระคมก็นิ่ง ไม่พูดอะไร
แต่เมื่อน้าชายของน้องแซ้งตะโกนที่หน้าบ้านซึ่งอยู่ติดกับวัดสายทอง ด่าคนที่ฆ่าน้องลัคกี้ สาปแช่งให้ตายเหมือนกับที่ทำกับน้องลัคกี้ โดยที่ไม่ได้เอ่ยชื่อพระคมหรือใครเลย …ก็มีชาวบ้านที่ได้ยิน พูดขึ้นมาว่า ทำไมตะโกนด่าพระขนาดนี้
ระหว่างที่คุยกัน พระคมยังพูดว่า จะแจ้งความและฟ้องพี่สาวกับน้องแซ้งที่ทำให้วัดเสื่อมเสียชื่อเสียง
เมื่อทางครอบครัวของน้องแซ้ง ต้องมาสูญเสียน้องลัคกี้ไปจากการกระทำของคน...ที่ไม่มีความเป็นคน ทำร้ายได้แม้กระทั่งน้องหมาที่ไม่มีทางต่อสู้อย่างโหดเหี้ยมทารุณ
ซึ่งจากลักษณะบริเวณที่เกิดเหตุ ทางครอบครัวของน้องแซ้งคาดว่า
น้องลัคกี้น่าจะถูกทำร้ายในเล้าไก่ เพราะมีรอยเลือดสาดเต็มอยู่ภายในกรงไก่ โดยใช้จอบสับแล้วทุบด้วยค้อน ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว… แต่หลายครั้ง จนน้องมีสภาพเช่นนี้ ตอนที่น้องแซ้งลูบหัวของน้องลัคกี้ ความรู้สึกคือ เหมือนกระโหลกข้างในหัวของน้อง...แหลกละเอียด ก่อนจะลากร่างที่เหลือลมหายใจรวยรินของน้องออกมาทิ้งไว้นอกเล้าไก่ ปลอกคอน้องหลุดจากคอ อีกทั้ง “ฆาตกรใจบาป” ยัง ขี้ขลาด ไม่กล้ายอมรับแสดงตัวออกมา
ด้วยความคับแค้นเสียใจ น้องแซ้งจึงได้โพสต์รูปและการตายอย่างน่าสงสารของน้องลัคกี้ผ่านเฟซบุ๊กในวันที่น้องถูกฆ่าตาย มีคนในหมู่บ้านได้มาเห็นโพสต์ ทำให้ชาวบ้านบางคนเกิดความไม่พอใจ พูดกันว่า จะฟ้องน้องแซ้งและพี่สาวที่ทำให้วัดเสื่อมเสียชื่อเสียง ...แค่เรื่องหมาๆ ทำเป็นเรื่องใหญ่… และจะเอาเรื่องที่น้องแซ้งนำการตายของน้องลัคกี้มาโพสต์ในเฟซบุ๊กทำให้วัดเสียชื่อจนถึงที่สุด
ทำให้พี่สาวของน้องแซ้งซึ่งกำลังท้องแก่ใกล้คลอดในอีกไม่กี่วันนี้และน้องแซ้งซึ่งมีอายุเพียง 18 ปี รู้สึกกดดันและกังวล
ทั้งที่ในความเป็นจริง… คนที่ทำให้วัดสายทอง ต.หนองแดง อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ต้องมัวหมองเสื่อมเสียชื่อเสียง ก็คือ ฆาตกรใจบาปที่ฆ่าน้องหมาที่ไม่มีทางต่อสู้หรือแม้แต่จะปกป้องเอาชีวิตรอด ในเขตพื้นที่ของวัด ซึ่งเป็นเขตอภัยทานต่างหาก ไม่ใช่ครอบครัวของน้องแซ้ง ซึ่งเป็น… ผู้สูญเสีย
และคนที่จะทำให้...เสียชื่อ...มากกว่านี้ ก็คือ คนบางคนตรงนั้นที่คิดว่า… หมาตายแค่นี้… ทำเป็นเรื่องใหญ่
...หนึ่งชีวิตเหมือนกัน ...รักชีวิตไม่อยากเจ็บปวดทรมานจนตายเหมือนกัน ขอถามว่า ถ้า “ชีวิต” ที่คุณรักและผูกพัน ต้องมาถูกฆ่าตายอย่างป่าเถื่อนโหดเหี้ยมเช่นนี้ คุณจะเห็นว่าเป็น “เรื่องเล็ก” มั้ย ???
ป้าของน้องแซ้งจึงพาน้องแซ้งเข้าแจ้งความที่ สน.สีชมพู ท้องที่เกิดเหตุ ซึ่งทางตำรวจได้รับแจ้งความ และได้เรียกครอบครัวของน้องแซ้งและพระคม เจ้าของเล้าไก่ ให้ไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันศุกร์ที่ 21 ก.พ.นี้ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
น้องลัคกี้ เป็นน้องหมาพันธุ์เทอเรียผสม ที่พี่สาวของน้องแซ้งรับเลี้ยงไว้ก่อนที่น้องจะถูกคนเอาไปทิ้ง ตั้งแต่ตอนที่น้องลัคกี้มีอายุได้เพียง 1 อาทิตย์ น้องลัคกี้เป็นน้องหมาที่น่ารัก ขี้เล่น พี่สาวของน้องแซ้งเลี้ยงน้องลัคกี้เหมือนคนในครอบครัว อาบน้ำให้ทุกวัน นอนด้วยกันเล่นด้วยกันตลอด
ในวันเกิดเหตุก่อนที่น้องลัคกี้จะถูกคนใจบาปฆ่าตาย น้องลัคกี้เข้าไปเล่นกับพี่สาวของน้องแซ้งในบ้าน แต่พี่สาวของน้องแซ้งซึ่งกำลังท้องแก่ใกล้คลอด รู้สึกไม่สบาย จึงให้น้องลัคกี้ออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน แล้วตัวเองก็นอนหลับไป จนช่วงเย็นเมื่อน้องแซ้งกลับจากไปเตะบอลเล่นกับเพื่อนๆ พี่สาวก็บอกให้น้องแซ้งไปตามน้องลัคกี้กลับบ้าน น้าชายบอกว่า เห็นน้องลัคกี้กระโดดน้ำเล่นในสระน้ำของวัดสายทองที่อยู่ติดกับบ้าน ตอนประมาณ 5 โมงเย็น น้องแซ้งจึงเดินเข้าไปตามหาน้องลัคกี้ในวัด จนกระทั่งเดินไปพบร่างของน้องถูกทำร้ายอยู่ดังกล่าว
น้องแซ้งบอกว่า น้องลัคกี้ไม่ได้เข้าไปในบริเวณวัดบ่อยครั้งนัก เพราะปกติน้องลัคกี้จะชอบตามน้องแซ้งไปเล่นเตะบอลเป็นประจำ เมื่อลูกบอลตกน้ำ น้องลัคกี้ก็จะกระโดดน้ำลงไปเก็บลูกบอลขึ้นมาให้
ความรักความผูกพันระหว่างน้องลัคกี้กับครอบครัวของน้องแซ้ง….โดยเฉพาะพี่สาวของน้องแซ้งที่เป็นเจ้านายสุดที่รักของน้องลัคกี้มี...มากมายเหลือเกิน ตลอดระยะเวลา 8 เดือนแห่งความรัก ความผูกพันและความสุข… จนลมหายใจสุดท้ายของน้องลัคกี้ ก็ยังรอที่จะได้ “พบ” เจ้านายสุดที่รัก...ก่อนตาย
ครอบครัวของน้องแซ้งได้ฝังศพของน้องลัคกี้ไว้ในบริเวณบ้าน ในจุดที่… น้องลัคกี้ชอบเอากระดูกไปซ่อน เพื่อให้น้องลัคกี้ได้อยู่ใน “ที่โปรด” ของตัวเองอย่างสงบสุข...ตลอดไป
กี่ครั้งแล้ว... กับการที่ “คนฆ่าน้องหมา” เพราะ “น้องหมากัดไก่”
ตามหลักของพุทธศาสนา ได้แบ่งสัตว์ออกเป็น 2 ประเภท คือ สัตว์ประเสริฐและสัตว์เดรัจฉาน โดยในโลกของสัตว์เดรัจฉานนั้นจะไม่มีความรู้จักผิดชอบชั่วดี และสัตว์ประเสริฐจะมีอยู่เพียงชนิดเดียว ก็คือ มนุษย์ นั้นเอง (อ้างอิงจาก วิกิพีเดีย)
น้องหมาและไก่ มีพฤติกรรมตามสัญชาตญาณของสัตว์เดรัจฉานซึ่งไม่มีความรู้จักผิดชอบชั่วดี...แล้ว มนุษย์ ที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ทำร้ายทำลายชีวิตของสัตว์ที่ไม่มีทางต่อสู้อย่างโหดเหี้ยมป่าเถื่อนผิดมนุษย์ คือ สัตว์ชนิดไหน ???
เมื่อน้องหมากัดไก่ เจ้าของไก่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากเจ้าของน้องหมาได้ แต่ไม่มีสิทธิ์ “ฆ่า-ทารุณน้องหมา” ได้ตามอำเภอใจ ดังนั้น เมื่อ “คนฆ่าน้องหมา” ก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายและถูกสังคมลงโทษ… อย่างสาสม
--------------------------
ทีมงานSOS ขอขอบพระคุณ เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรขอนแก่น ที่ได้ประสานและช่วยเหลือในการทำคดีให้กับครองครัวน้องเซ้ง รวมทั้งการช่วยเหลือทุกๆด้านค่ะ
โปรดช่วยกันแชร์ “การตายของน้องลัคกี้” ให้สังคมได้รับรู้ เพื่อ
...ให้กำลังใจ ครอบครัวของน้องแซ้ง ให้ต่อสู้เพื่อน้องลัคกี้จนถึงที่สุด
...ให้กำลังใจและชื่นชม เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.สีชมพู ดำเนินคดีสืบหา “ฆาตกรใจบาปที่ฆ่าน้องลัคกี้” และนำตัวมาลงโทษให้จงได้ เพราะน้อยครั้งนัก ที่ตำรวจจะรับแจ้งความคดี “คนฆ่าน้องหมา” เช่นนี้
...และ “ขอเสียงสะท้อนจากสังคม” บอกให้ ฆาตกรใจทมิฬที่ฆ่าน้องลัคกี้ได้รับรู้ว่า นอกจาก กฎหมาย ก็ยังมี กฎของสังคมและกฎแห่งกรรม ที่ กฎหมู่ จะมาอยู่เหนือไม่ได้ และกำลังไล่ล่า “มัน” อยู่ อย่างไม่มีวันที่จะหนีได้พ้น
ที่มา :
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.465520496882167.1073741857.110567645710789&type=1
**แก้ไขครั้งที่ 1 ปรับปรุงตำแหน่งรูปภาพ
**แก้ไขครั้งที่ 2 เพิ่มเติมที่มาจาก เพจ SOS ANIMALS Thailand
ถูกจอบสับ-ค้อนทุบหัว ในเขตอภัยทาน… วัดสายทอง จ.ขอนแก่น ...ใครฆ่า...น้องลัคกี้ ??? (SOS ANIMALS Thailand)
น้องแซ้งรีบเข้าไปอุ้มร่างของน้องลัคกี้ รู้สึกได้ว่า หัวใจของน้องยังเต้นอยู่ จึงรีบอุ้มน้องกลับบ้านมาหาพี่สาว ...เหมือนจะรอ...พบและได้ยินเสียง...เจ้านายที่น้องลัคกี้รัก และรักน้องลัคกี้ที่สุด...เป็นครั้งสุดท้าย
เมื่อส่งน้องลัคกี้ถึงมือพี่สาว น้องลัคกี้ก็ขาดใจตายทันที...
หลังจากนั้น ทางครอบครัวน้องแซ้ง ทั้งพี่สาว ลุง ป้า ได้ไปสอบถามพระคม ซึ่งเป็นเจ้าของเล้าไก่ (ภายในมีทั้งไก่ธรรมดาและไก่ชน) ที่พบร่างของน้องลัคกี้นอนเลือดอาบอยู่ด้านข้าง บริเวณพื้นที่กุฎิของพระคม ว่า… “ใครฆ่าน้องลัคกี้ ???”
พระคมปฎิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็น ถามเด็กชายอายุ 14 ปี และพระอีกรูปที่กำลังกวาดพื้นบริเวณนั้นอยู่ ทุกคนตอบเหมือนกันหมดว่า… ไม่รู้
ขณะที่พี่สาวของน้องแซ้งเดินไปถามพระคมว่า...เห็นคนฆ่าน้องลัคกี้มั้ย??? พระคมตอบว่า ไม่เห็น เพราะไม่ได้อยู่วัดทั้งวัน แต่กลับพูดขึ้นมาว่า เห็นหมาตัวสีส้มๆ กัดไก่ชนของพระคมตาย เพิ่งฝังซากไก่ไป 4-5 ตัว
สภาพที่เกิดเหตุ จุดที่พบร่างของน้องลัคกี้ถูกทำร้ายอย่างโหดเหี้ยมทารุณสุดเลือดเย็น พบจอบและค้อนเปื้อนเลือดตกอยู่ ลุงจึงได้ถือค้อนที่เปื้อนเลือดเดินเข้าไปพูดกับพระคมว่า… นี่คือค้อนที่ใช้ทุบหัวน้องลัคกี้ เห็นมั้ยว่า ใครทุบ??? พระคมมีอาการกระวนกระวาย ไม่สบตาลุงและป้าที่ยืนอยู่ตรงนั้นและพูดเสียงดังว่า ลุงขู่จะฆ่าพระคม
ลุงพูดว่า ไม่คิดจะทำอะไรกับคนที่ฆ่าน้องลัคกี้ แค่อยากถามว่าทำไมถึงทำได้ลง ถ้าน้องไปกัดไก่จริง ก็เอาซากไก่มา ตายกี่ตัว ลุงจะรับผิดชอบ พระคมก็นิ่ง ไม่พูดอะไร
แต่เมื่อน้าชายของน้องแซ้งตะโกนที่หน้าบ้านซึ่งอยู่ติดกับวัดสายทอง ด่าคนที่ฆ่าน้องลัคกี้ สาปแช่งให้ตายเหมือนกับที่ทำกับน้องลัคกี้ โดยที่ไม่ได้เอ่ยชื่อพระคมหรือใครเลย …ก็มีชาวบ้านที่ได้ยิน พูดขึ้นมาว่า ทำไมตะโกนด่าพระขนาดนี้
ระหว่างที่คุยกัน พระคมยังพูดว่า จะแจ้งความและฟ้องพี่สาวกับน้องแซ้งที่ทำให้วัดเสื่อมเสียชื่อเสียง
เมื่อทางครอบครัวของน้องแซ้ง ต้องมาสูญเสียน้องลัคกี้ไปจากการกระทำของคน...ที่ไม่มีความเป็นคน ทำร้ายได้แม้กระทั่งน้องหมาที่ไม่มีทางต่อสู้อย่างโหดเหี้ยมทารุณ
ซึ่งจากลักษณะบริเวณที่เกิดเหตุ ทางครอบครัวของน้องแซ้งคาดว่า น้องลัคกี้น่าจะถูกทำร้ายในเล้าไก่ เพราะมีรอยเลือดสาดเต็มอยู่ภายในกรงไก่ โดยใช้จอบสับแล้วทุบด้วยค้อน ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว… แต่หลายครั้ง จนน้องมีสภาพเช่นนี้ ตอนที่น้องแซ้งลูบหัวของน้องลัคกี้ ความรู้สึกคือ เหมือนกระโหลกข้างในหัวของน้อง...แหลกละเอียด ก่อนจะลากร่างที่เหลือลมหายใจรวยรินของน้องออกมาทิ้งไว้นอกเล้าไก่ ปลอกคอน้องหลุดจากคอ อีกทั้ง “ฆาตกรใจบาป” ยัง ขี้ขลาด ไม่กล้ายอมรับแสดงตัวออกมา
ด้วยความคับแค้นเสียใจ น้องแซ้งจึงได้โพสต์รูปและการตายอย่างน่าสงสารของน้องลัคกี้ผ่านเฟซบุ๊กในวันที่น้องถูกฆ่าตาย มีคนในหมู่บ้านได้มาเห็นโพสต์ ทำให้ชาวบ้านบางคนเกิดความไม่พอใจ พูดกันว่า จะฟ้องน้องแซ้งและพี่สาวที่ทำให้วัดเสื่อมเสียชื่อเสียง ...แค่เรื่องหมาๆ ทำเป็นเรื่องใหญ่… และจะเอาเรื่องที่น้องแซ้งนำการตายของน้องลัคกี้มาโพสต์ในเฟซบุ๊กทำให้วัดเสียชื่อจนถึงที่สุด
ทำให้พี่สาวของน้องแซ้งซึ่งกำลังท้องแก่ใกล้คลอดในอีกไม่กี่วันนี้และน้องแซ้งซึ่งมีอายุเพียง 18 ปี รู้สึกกดดันและกังวล
ทั้งที่ในความเป็นจริง… คนที่ทำให้วัดสายทอง ต.หนองแดง อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ต้องมัวหมองเสื่อมเสียชื่อเสียง ก็คือ ฆาตกรใจบาปที่ฆ่าน้องหมาที่ไม่มีทางต่อสู้หรือแม้แต่จะปกป้องเอาชีวิตรอด ในเขตพื้นที่ของวัด ซึ่งเป็นเขตอภัยทานต่างหาก ไม่ใช่ครอบครัวของน้องแซ้ง ซึ่งเป็น… ผู้สูญเสีย
และคนที่จะทำให้...เสียชื่อ...มากกว่านี้ ก็คือ คนบางคนตรงนั้นที่คิดว่า… หมาตายแค่นี้… ทำเป็นเรื่องใหญ่
...หนึ่งชีวิตเหมือนกัน ...รักชีวิตไม่อยากเจ็บปวดทรมานจนตายเหมือนกัน ขอถามว่า ถ้า “ชีวิต” ที่คุณรักและผูกพัน ต้องมาถูกฆ่าตายอย่างป่าเถื่อนโหดเหี้ยมเช่นนี้ คุณจะเห็นว่าเป็น “เรื่องเล็ก” มั้ย ???
ป้าของน้องแซ้งจึงพาน้องแซ้งเข้าแจ้งความที่ สน.สีชมพู ท้องที่เกิดเหตุ ซึ่งทางตำรวจได้รับแจ้งความ และได้เรียกครอบครัวของน้องแซ้งและพระคม เจ้าของเล้าไก่ ให้ไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันศุกร์ที่ 21 ก.พ.นี้ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
น้องลัคกี้ เป็นน้องหมาพันธุ์เทอเรียผสม ที่พี่สาวของน้องแซ้งรับเลี้ยงไว้ก่อนที่น้องจะถูกคนเอาไปทิ้ง ตั้งแต่ตอนที่น้องลัคกี้มีอายุได้เพียง 1 อาทิตย์ น้องลัคกี้เป็นน้องหมาที่น่ารัก ขี้เล่น พี่สาวของน้องแซ้งเลี้ยงน้องลัคกี้เหมือนคนในครอบครัว อาบน้ำให้ทุกวัน นอนด้วยกันเล่นด้วยกันตลอด
ในวันเกิดเหตุก่อนที่น้องลัคกี้จะถูกคนใจบาปฆ่าตาย น้องลัคกี้เข้าไปเล่นกับพี่สาวของน้องแซ้งในบ้าน แต่พี่สาวของน้องแซ้งซึ่งกำลังท้องแก่ใกล้คลอด รู้สึกไม่สบาย จึงให้น้องลัคกี้ออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน แล้วตัวเองก็นอนหลับไป จนช่วงเย็นเมื่อน้องแซ้งกลับจากไปเตะบอลเล่นกับเพื่อนๆ พี่สาวก็บอกให้น้องแซ้งไปตามน้องลัคกี้กลับบ้าน น้าชายบอกว่า เห็นน้องลัคกี้กระโดดน้ำเล่นในสระน้ำของวัดสายทองที่อยู่ติดกับบ้าน ตอนประมาณ 5 โมงเย็น น้องแซ้งจึงเดินเข้าไปตามหาน้องลัคกี้ในวัด จนกระทั่งเดินไปพบร่างของน้องถูกทำร้ายอยู่ดังกล่าว
น้องแซ้งบอกว่า น้องลัคกี้ไม่ได้เข้าไปในบริเวณวัดบ่อยครั้งนัก เพราะปกติน้องลัคกี้จะชอบตามน้องแซ้งไปเล่นเตะบอลเป็นประจำ เมื่อลูกบอลตกน้ำ น้องลัคกี้ก็จะกระโดดน้ำลงไปเก็บลูกบอลขึ้นมาให้
ความรักความผูกพันระหว่างน้องลัคกี้กับครอบครัวของน้องแซ้ง….โดยเฉพาะพี่สาวของน้องแซ้งที่เป็นเจ้านายสุดที่รักของน้องลัคกี้มี...มากมายเหลือเกิน ตลอดระยะเวลา 8 เดือนแห่งความรัก ความผูกพันและความสุข… จนลมหายใจสุดท้ายของน้องลัคกี้ ก็ยังรอที่จะได้ “พบ” เจ้านายสุดที่รัก...ก่อนตาย
ครอบครัวของน้องแซ้งได้ฝังศพของน้องลัคกี้ไว้ในบริเวณบ้าน ในจุดที่… น้องลัคกี้ชอบเอากระดูกไปซ่อน เพื่อให้น้องลัคกี้ได้อยู่ใน “ที่โปรด” ของตัวเองอย่างสงบสุข...ตลอดไป
กี่ครั้งแล้ว... กับการที่ “คนฆ่าน้องหมา” เพราะ “น้องหมากัดไก่”
ตามหลักของพุทธศาสนา ได้แบ่งสัตว์ออกเป็น 2 ประเภท คือ สัตว์ประเสริฐและสัตว์เดรัจฉาน โดยในโลกของสัตว์เดรัจฉานนั้นจะไม่มีความรู้จักผิดชอบชั่วดี และสัตว์ประเสริฐจะมีอยู่เพียงชนิดเดียว ก็คือ มนุษย์ นั้นเอง (อ้างอิงจาก วิกิพีเดีย)
น้องหมาและไก่ มีพฤติกรรมตามสัญชาตญาณของสัตว์เดรัจฉานซึ่งไม่มีความรู้จักผิดชอบชั่วดี...แล้ว มนุษย์ ที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ทำร้ายทำลายชีวิตของสัตว์ที่ไม่มีทางต่อสู้อย่างโหดเหี้ยมป่าเถื่อนผิดมนุษย์ คือ สัตว์ชนิดไหน ???
เมื่อน้องหมากัดไก่ เจ้าของไก่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากเจ้าของน้องหมาได้ แต่ไม่มีสิทธิ์ “ฆ่า-ทารุณน้องหมา” ได้ตามอำเภอใจ ดังนั้น เมื่อ “คนฆ่าน้องหมา” ก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายและถูกสังคมลงโทษ… อย่างสาสม
--------------------------
ทีมงานSOS ขอขอบพระคุณ เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรขอนแก่น ที่ได้ประสานและช่วยเหลือในการทำคดีให้กับครองครัวน้องเซ้ง รวมทั้งการช่วยเหลือทุกๆด้านค่ะ
โปรดช่วยกันแชร์ “การตายของน้องลัคกี้” ให้สังคมได้รับรู้ เพื่อ
...ให้กำลังใจ ครอบครัวของน้องแซ้ง ให้ต่อสู้เพื่อน้องลัคกี้จนถึงที่สุด
...ให้กำลังใจและชื่นชม เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.สีชมพู ดำเนินคดีสืบหา “ฆาตกรใจบาปที่ฆ่าน้องลัคกี้” และนำตัวมาลงโทษให้จงได้ เพราะน้อยครั้งนัก ที่ตำรวจจะรับแจ้งความคดี “คนฆ่าน้องหมา” เช่นนี้
...และ “ขอเสียงสะท้อนจากสังคม” บอกให้ ฆาตกรใจทมิฬที่ฆ่าน้องลัคกี้ได้รับรู้ว่า นอกจาก กฎหมาย ก็ยังมี กฎของสังคมและกฎแห่งกรรม ที่ กฎหมู่ จะมาอยู่เหนือไม่ได้ และกำลังไล่ล่า “มัน” อยู่ อย่างไม่มีวันที่จะหนีได้พ้น
ที่มา : https://www.facebook.com/media/set/?set=a.465520496882167.1073741857.110567645710789&type=1
**แก้ไขครั้งที่ 1 ปรับปรุงตำแหน่งรูปภาพ
**แก้ไขครั้งที่ 2 เพิ่มเติมที่มาจาก เพจ SOS ANIMALS Thailand