ข้อเท็จจริง เกี่ยวกับนโยบายจำนำข้าว
1. นโยบายจำนำข้าวเป็นนโยบายที่ถูกนำมาใช้โดยหลายรัฐบาล อาทิ รัฐบาลชวน หลีกภัย, รัฐบาลสุรยุทธ์ จุลานนท์, รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช เป็นต้น นโยบายจำนำข้าวจึงเป็นนโยบายที่พิสูจน์มาแล้วว่าสามารถ “ปฏิบัติได้จริง” !!
2. ธนาคารโลกรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจไทย ปี 2557 ว่าถ้ารัฐบาลสามารถจ่ายเงินชาวนาที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าว 130,000 ล้านบาทได้จนครบ รัฐบาลจะสามารถกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศได้ คิดเป็น จีดีพี ร้อยละ 1 ของประเทศ
(In addition, the arrears in the Paddy Pledging Program which amounts to Bt130 billion or 1 percent of GDP will limit rice farming household spending until they are paid.
http://www.worldbank.org/content/dam/Worldbank/document/EAP/Thailand/thailand_economic_monitor_february_11_2014_english.pdf, pg. 4)
3. ประเทศไทยนับเป็น 1 ใน 20 ประเทศทั่วโลกที่ใช้นโยบาย อุดหนุนราคาสินค้าเกษตรประเภทข้าวหรือข้าวสาลี ซึ่งโครงการที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ได้สนับสนุน และเสริมสร้างภาคเกษตรกรรมให้แข็งแกร่งขึ้น ด้วยการมุ่งเน้นที่การเพิ่มผลิตภาพทางการเกษตร และช่วยเหลือกลุ่มคนยากจน ซึ่งรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก่อนยุบสภา อยู่ระหว่างการดำเนินการ โซนนิ่งภาคเกษตร โดยวิเคราะห์ความเหมาะสมของดิน พื้นดิน แหล่งน้ำ
โลจิสติก และความต้องการของตลาด
4. นโยบายจำนำเป็นการเพิ่มอำนาจการต่อรองทางการค้าให้กับชาวนา ตัดวงจรพ่อค้าคนกลางและโรงสีที่เป็นผู้กำหนดราคาและนำส่วนต่างนี้อัดฉีดลงไปในมือชาวนาโดยตรง โดยจะเห็นได้อย่างชัดเจนถ้ามีการเปรียบเทียบเงินที่ชาวนาได้รับจากโครงการรับจำนำของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ คือ ประมาณ 15,000 บาท ต่อเกวียน กับ เงินที่ชาวนาได้รับจากโครงการประกันของรัฐบาลอภิสิทธิ์ ประมาณ 6,000 บาท ต่อเกวียน
5. มีการสร้างความเข้าใจที่ผิดในโลกสังคมออนไลน์ว่า ที่ผ่านมารัฐบาลขายข้าวแล้วไม่เคยเอาเงินไปจ่ายให้ชาวนาเลย ในขณะที่ในข้อเท็จจริง จำนวนเกษตรกรที่นำผลผลิตมาจำนำ และรับได้ประโยชน์จากโครงการไปแล้วมีดังนี้ (ข้อมูล ณ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2556)
- นาปี 2554/2555 มีจำนวนเกษตรกรได้รับประโยชน์ไปแล้ว 1,294,210 ราย
- นาปรัง 2555 มีจำนวนเกษตรกรได้รับประโยชน์ไปแล้ว 1,411,831 ราย
- นาปี 2555/1556 มีจำนวนเกษตรกรได้รับประโยชน์ไปแล้ว 2,227,549 ราย
- นาปรัง 2556 มีจำนวนเกษตรกรได้รับประโยชน์ไปแล้ว 1,037,584 ราย
- นาปี 2556/2557 มีจำนวนเกษตรกรได้รับประโยชน์ไปแล้ว 307,382 ราย
จึงต้องตั้งคำถามว่า วันนี้การขัดขวางการจ่ายเงินให้แก่ชาวนาไม่ว่าจะเป็น การขัดขวางไม่ให้เกิดการกู้เงิน หรือ การขัดขวางไม่ให้เกิดการจ่ายเงิน ก็ตาม เป็นการ “ช่วยเหลือชาวนา” ที่แท้จริงหรือไม่?
ข้อเท็จจริง โครงการจำนำข้าว
1. นโยบายจำนำข้าวเป็นนโยบายที่ถูกนำมาใช้โดยหลายรัฐบาล อาทิ รัฐบาลชวน หลีกภัย, รัฐบาลสุรยุทธ์ จุลานนท์, รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช เป็นต้น นโยบายจำนำข้าวจึงเป็นนโยบายที่พิสูจน์มาแล้วว่าสามารถ “ปฏิบัติได้จริง” !!
2. ธนาคารโลกรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจไทย ปี 2557 ว่าถ้ารัฐบาลสามารถจ่ายเงินชาวนาที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าว 130,000 ล้านบาทได้จนครบ รัฐบาลจะสามารถกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศได้ คิดเป็น จีดีพี ร้อยละ 1 ของประเทศ
(In addition, the arrears in the Paddy Pledging Program which amounts to Bt130 billion or 1 percent of GDP will limit rice farming household spending until they are paid. http://www.worldbank.org/content/dam/Worldbank/document/EAP/Thailand/thailand_economic_monitor_february_11_2014_english.pdf, pg. 4)
3. ประเทศไทยนับเป็น 1 ใน 20 ประเทศทั่วโลกที่ใช้นโยบาย อุดหนุนราคาสินค้าเกษตรประเภทข้าวหรือข้าวสาลี ซึ่งโครงการที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ได้สนับสนุน และเสริมสร้างภาคเกษตรกรรมให้แข็งแกร่งขึ้น ด้วยการมุ่งเน้นที่การเพิ่มผลิตภาพทางการเกษตร และช่วยเหลือกลุ่มคนยากจน ซึ่งรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก่อนยุบสภา อยู่ระหว่างการดำเนินการ โซนนิ่งภาคเกษตร โดยวิเคราะห์ความเหมาะสมของดิน พื้นดิน แหล่งน้ำ
โลจิสติก และความต้องการของตลาด
4. นโยบายจำนำเป็นการเพิ่มอำนาจการต่อรองทางการค้าให้กับชาวนา ตัดวงจรพ่อค้าคนกลางและโรงสีที่เป็นผู้กำหนดราคาและนำส่วนต่างนี้อัดฉีดลงไปในมือชาวนาโดยตรง โดยจะเห็นได้อย่างชัดเจนถ้ามีการเปรียบเทียบเงินที่ชาวนาได้รับจากโครงการรับจำนำของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ คือ ประมาณ 15,000 บาท ต่อเกวียน กับ เงินที่ชาวนาได้รับจากโครงการประกันของรัฐบาลอภิสิทธิ์ ประมาณ 6,000 บาท ต่อเกวียน
5. มีการสร้างความเข้าใจที่ผิดในโลกสังคมออนไลน์ว่า ที่ผ่านมารัฐบาลขายข้าวแล้วไม่เคยเอาเงินไปจ่ายให้ชาวนาเลย ในขณะที่ในข้อเท็จจริง จำนวนเกษตรกรที่นำผลผลิตมาจำนำ และรับได้ประโยชน์จากโครงการไปแล้วมีดังนี้ (ข้อมูล ณ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2556)
- นาปี 2554/2555 มีจำนวนเกษตรกรได้รับประโยชน์ไปแล้ว 1,294,210 ราย
- นาปรัง 2555 มีจำนวนเกษตรกรได้รับประโยชน์ไปแล้ว 1,411,831 ราย
- นาปี 2555/1556 มีจำนวนเกษตรกรได้รับประโยชน์ไปแล้ว 2,227,549 ราย
- นาปรัง 2556 มีจำนวนเกษตรกรได้รับประโยชน์ไปแล้ว 1,037,584 ราย
- นาปี 2556/2557 มีจำนวนเกษตรกรได้รับประโยชน์ไปแล้ว 307,382 ราย
จึงต้องตั้งคำถามว่า วันนี้การขัดขวางการจ่ายเงินให้แก่ชาวนาไม่ว่าจะเป็น การขัดขวางไม่ให้เกิดการกู้เงิน หรือ การขัดขวางไม่ให้เกิดการจ่ายเงิน ก็ตาม เป็นการ “ช่วยเหลือชาวนา” ที่แท้จริงหรือไม่?