ความเห็นส่วนตัวนะครับ
สีจีวรพระ ของธรรมยุตนั้น ควรจะคำนึงถึง ความเรียบง่าย ความสอดคล้องกับธรรมชาติ และ ความสมถะในแบบฉบับของพระป่า
ซึ่ง พ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านเลือกใช้สีกรัก น่าจะมีเหตุผลที่ดีพร้อมครับ ซึ่งประโยชน์ของการใช้สีกรัก คือ
1. เป็นสีที่มาจากการย้อมผ้า ตามธรรมชาติ หาได้ง่าย
2. ไม่ขึ้นอยู่กับกาลสมัย ไม่ว่าจะอีกกี่ปี ก็สามารถทำผ้าจีวรสีนี้จากธรรมชาติได้
3. ไม่เปื้อนง่าย เพราะมีสีค่อนข้างเข้ม
4. ไม่สวยงามมากเกินไปจนทำให้เกิดกิเลส ในอาภร
พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตน้ำย้อม 6 อย่าง คือ น้ำย้อมเกิดแต่รากหรือเหง้า 1 น้ำย้อมเกิดแต่ต้นไม้ 1 น้ำย้อมเกิดแต่เปลือกไม้ 1 น้ำย้อมเกิดแต่ใบไม้ 1 น้ำย้อมเกิดแต่ดอกไม้ 1 น้ำย้อมเกิดแต่ผลไม้ 1"
แต่ จีวรสีพระราชนิยม ที่บังคับขึ้นใหม่นั้น เป็นสีที่ ทำขึ้นได้ยาก เป็นการสร้างความเดือดร้อนให้ภิกษุในการต่อไปภายภาคหน้า
กระผมจึง ขอแสดงความเห็นว่า ไม่เห็นด้วย ให้บังคับสีจีวร ที่ไม่เป็นไปตาม พระธรรมวินัย และ ตามประเพณีของพ่อแม่ครูอาจารย์ครับ
เรื่องการบังคับใช้ สีจีวรใหม่ในธรรมยุต
สีจีวรพระ ของธรรมยุตนั้น ควรจะคำนึงถึง ความเรียบง่าย ความสอดคล้องกับธรรมชาติ และ ความสมถะในแบบฉบับของพระป่า
ซึ่ง พ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านเลือกใช้สีกรัก น่าจะมีเหตุผลที่ดีพร้อมครับ ซึ่งประโยชน์ของการใช้สีกรัก คือ
1. เป็นสีที่มาจากการย้อมผ้า ตามธรรมชาติ หาได้ง่าย
2. ไม่ขึ้นอยู่กับกาลสมัย ไม่ว่าจะอีกกี่ปี ก็สามารถทำผ้าจีวรสีนี้จากธรรมชาติได้
3. ไม่เปื้อนง่าย เพราะมีสีค่อนข้างเข้ม
4. ไม่สวยงามมากเกินไปจนทำให้เกิดกิเลส ในอาภร
พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตน้ำย้อม 6 อย่าง คือ น้ำย้อมเกิดแต่รากหรือเหง้า 1 น้ำย้อมเกิดแต่ต้นไม้ 1 น้ำย้อมเกิดแต่เปลือกไม้ 1 น้ำย้อมเกิดแต่ใบไม้ 1 น้ำย้อมเกิดแต่ดอกไม้ 1 น้ำย้อมเกิดแต่ผลไม้ 1"
แต่ จีวรสีพระราชนิยม ที่บังคับขึ้นใหม่นั้น เป็นสีที่ ทำขึ้นได้ยาก เป็นการสร้างความเดือดร้อนให้ภิกษุในการต่อไปภายภาคหน้า
กระผมจึง ขอแสดงความเห็นว่า ไม่เห็นด้วย ให้บังคับสีจีวร ที่ไม่เป็นไปตาม พระธรรมวินัย และ ตามประเพณีของพ่อแม่ครูอาจารย์ครับ