พระป่า ไม่เปลี่ยนสีจีวรยึดตามหลักโบราณ

กระทู้ข่าว


จากการที่สมเด็จพระวันรัต รักษาการเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ในฐานะรักษาการเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุตได้ลงนามในคำสั่งประกาศคณะธรรมยุตเรื่องการครองผ้าไตรจีวรสีพระราชนิยมสนองพระราชศรัทธาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยจะเริ่มใช้ในวันวิสาขบูชา 13 พ.ค.นี้ ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 16 ก.พ. พระธรรมฐิติญาณ (ศรีจันทร์) วัดบึงพลาญชัย จ.ร้อยเอ็ด ในฐานะเจ้าคณะภาค 10 ธรรมยุต กล่าวว่า ได้รับทราบประกาศของคณะธรรมยุตแล้ว แต่พระสายวิปัสสนากรรมฐาน หรือสายพระป่า ยังคงยึดธรรมเนียมปฏิบัติครูบาอาจารย์ที่มีมาแต่โบราณ คงไม่เปลี่ยนสีครองจีวร และในส่วนของวัดก็ต้องดูกาลเทศะ โดยจะครองจีวรตามคำสั่งต่อเมื่อมีพระราชพิธีหรือความเหมาะสม

อย่างไรก็ตามพระสายวิปัสสนากรรมฐานจะยึดพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะใครบวชก่อนหลังจะเคารพกันที่พรรษาถึงแม้จะมีสมณศักดิ์สูงก็ต้องไหว้พระที่พรรษามากกว่าถึง แม้จะไม่มีสมณศักดิ์ก็ตาม ขณะที่การครองจีวรก็เช่นกันจะยึดธรรมเนียมปฏิบัติที่สืบทอดมาจากรุ่นครูบาอาจารย์ ซึ่งเรื่องนี้เคยหารือกับสมเด็จพระวันรัต ก่อนที่จะมีประกาศแล้วถึงข้อปฏิบัติดังกล่าวซึ่งทางท่านก็ว่าไม่ได้แจ้งว่าเป็นการบังคับแต่อย่างใด

ด้าน ดร.สวัสดิ์ อโณทัย คณบดีคณะปรัชญาและศาสนา มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น กล่าวว่า ในพระวินัยปิฎกระบุไว้ชัดเจนถึงสีจีวรว่าใช้จากสีน้ำฝาดไม้แก่นขนุนย้อม แต่ในปัจจุบันจีวรทำในเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะทำให้สีไม่ตรงกับสีที่บัญญัติไว้ในพระวินัยแท้จริง แต่ถ้าแบ่งพระสงฆ์จะมี 2 ลักษณะ คือ อรัญวาสี กับคามวาสี ในส่วนคามวาสี จะอยู่ในชุมชนอยู่กับชาวบ้านนุ่งห่มจะสะอาด จะนุ่งห่มจีวรสีเหลืองหรือสีทอง

ส่วนอรัญวาสี จะใช้สีกรัก เพราะต้องนั่งใต้ต้นไม้ และเข้ากับธรรมชาติ รวมทั้งเป็นการป้องกันอันตรายจากสัตว์ร้ายได้ด้วย เวลาไปนั่งวิปัสสนากรรมฐาน สำหรับการที่คณะสงฆ์ธรรมยุตเปลี่ยนสีจีวรเป็นสีพระราชนิยมนั้นทำได้และก็เคยมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาช่วงหนึ่งสมัยสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช แห่งวัดบวรนิเวศวิหาร

คณบดีคณะปรัชญาฯ กล่าวต่อว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชประสงค์อยากให้คณะสงฆ์ที่จะเข้าพระราชพิธี ครองจีวรสีเดียวกัน เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จึงได้มีมติมหาเถรสมาคมออกมาว่าเวลาพระสงฆ์ทั้ง 2 นิกายเข้าวังจะต้องครองจีวรสีพระราชนิยม เพื่อเป็นการสร้างความประนีประนอมระหว่างธรรมยุตและมหานิกาย

ดังนั้นการที่ธรรมยุตประกาศใช้จีวรสีพระราชนิยมเป็นสีประจำคณะธรรมยุต เป็นการแสดงชิงไหวชิงพริบทางการเมืองศาสนา หากพระธรรมยุตยึดสีพระราชนิยมเป็นของตนเองแล้วต่อไปเข้าพิธีมหานิกายต้องอนุวัตตามที่ธรรมยุตปฏิบัติ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงประนีประนอมความต่างของสีจีวรแต่ละนิกายด้วยการสร้างความกลมกลืนในเวลาเข้าพระราชพิธีด้วยการครองจีวรสีเดียวกันโดยพระองค์ไม่ได้มีการบังคับให้เปลี่ยน

“พอมีประกาศดังกล่าวมีคำถามพระมหานิกายจะปฏิบัติเช่นไร โดยมติ มส.ให้มหานิกายต้องครองจีวรสีพระราชนิยมเวลาเข้าวัง ทางคณะสงฆ์มหานิกายก็ต้องปฏิบัติตามนั้น พอปฏิบัติตามก็กลายเป็นเครื่องมือ หรือเรียกว่า "เบ้" ซึ่งมหานิกายมีพระมากกว่า 2 แสนรูป แต่ธรรมยุตมีเพียงประมาณ 30,000 รูป ทำให้คนส่วนน้อยต้องมาอนุวัตตามคนส่วนใหญ่ นี่คือวิธีการเดินเกมการเมืองสัญลักษณ์ทางศาสนา” ดร.สวัสดิ์ กล่าว

เดลินิวส์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่