ทั้งที่มันก็คือหัวโล้นรูปแบบหนึ่งไม่ใช่เหรอ เพียงแค่โล้นในบริเวณเหนือดวงตาขึ้นไปนิดหน่อย
หัวโล้นนั้นแย่อย่างไรก็ตามบทความนี้
10 อันดับของสังฆทาน ที่พระจะได้ประโยชน์มากที่สุด
อันดับ 10 แชมพู พระท่านไม่มีผมแล้วจะเอาแชมพูไปทำไมเนี่ย แถมยังฮอตฮิตติดท็อปเท็นของที่มีประโยชน์อีกด้วย แซงหน้าไมโล โอวัลติน ชาเขียว ขิงผง สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ทิชชู่ ฯลฯ ที่เห็นสลอนอยู่ในถังเหลืองซะด้วยซี คืองี้ เมื่อพระท่านไม่มีผมมาปกป้องหนังศีรษะเนี่ย ทั้งความร้อน ฝุ่นละออง เชื้อโรคต่างๆ ก็จะเข้าถึงหนังศีรษะของท่านได้โดยตรง แถมการรักษาสมดุลความชุ่มชื้นของหนังศีรษะก็จะเสียไป เพราะไม่มีผมปกคลุมทำให้หนังศีรษะของพระ มักจะแห้ง และเกิดโรคผิวหนังอยู่เสมอ เช่น ชันตุ เป็นต้น สิ่งที่จะช่วยบรรเทาได้ก็คือ แชมพูยา ที่มีส่วนผสมปกป้องหนังศีรษะ รักษาสมดุล สังเกตง่ายๆ ที่ฉลากจะมีคำว่า 'Scalp' เป็นสำคัญ ยี่ห้อที่เป็นแบบนี้ก็มักจะเป็นพวกแชมพูขจัดรังแค อย่างคลินิค, แพนทีน, Head & Shoulder, ไนโซรัล เป็นต้น แต่น่าเศร้าใจที่ไม่มีใครถวายแชมพู พระท่านจึงจำต้องใช้สบู่แก้ขัด ซึ่งทำให้ยิ่งคันหัว ศีรษะแห้งไปกันใหญ่ ดังนั้นจึงขอท่านโปรดจำไว้ ว่าเราควรซื้อแชมพูไปถวายพระ แต่ก็เลือกสูตรกันนิดนึงนะคะ ให้เป็นสูตรดูแลหนังศีรษะ เพราะถ้าเกิดเราเลือกสูตร 'เพื่อผมนิ่มสลวยดำเงางาม' ไปถวายท่าน... มิได้มีเจตนาแซวนะคะ
เน้นๆ
"ไม่มีผมมาปกป้องหนังศีรษะ ทั้งความร้อน แสงแดด ฝุ่นละออง เชื้อโรคต่างๆ ก็จะเข้าถึงหนังศีรษะได้โดยตรง แถมการรักษาสมดุลความชุ่มชื้นของหนังศีรษะก็จะเสียไป เพราะไม่มีผมปกคลุมทำให้หนังศีรษะ มักจะแห้ง และเกิดโรคผิวหนังอยู่เสมอ เช่น ชันตุ เป็นต้น"
หมายความว่า หน้าผากของคนเรา ต้องรับมือกับมลภาวะต่างๆ ทั้งแสงแดด ฝุ่นละออง แถมยังเสียสมดุลความชุ่มชื้น เพราะไม่มีผม ณ จุดนี้
การไว้ผมปิดหน้าผาก พอช่วยได้บ้าง แต่ก็ยังด้อยกว่ามีผมงอกขึ้นมาปิดบังจริงๆ
หัวข้อของคำถามนั้นเป็นมุมมอง อาจมีคำตอบได้ว่า เพราะคนส่วนใหญ่ไม่มีผมบนหน้าผาก จึงมองว่าหน้าผากโล้นสวย เพราะเป็นสิ่งปกติ แต่ที่สำคัญไปกว่า
นั้นคือ ทำไมธรรมชาติวิวัฒนาการให้ผมบนหน้าผากของคนหายไป จากสมัยบรรพบุรุษที่ยังเป็นลิงไร้หางที่มีผมหรือขนบนหน้าผาก
ทำไมการมีหน้าผากที่โล้น จึงถูกมองว่าสวยกว่ามีผมขึ้น
หัวโล้นนั้นแย่อย่างไรก็ตามบทความนี้
10 อันดับของสังฆทาน ที่พระจะได้ประโยชน์มากที่สุด
อันดับ 10 แชมพู พระท่านไม่มีผมแล้วจะเอาแชมพูไปทำไมเนี่ย แถมยังฮอตฮิตติดท็อปเท็นของที่มีประโยชน์อีกด้วย แซงหน้าไมโล โอวัลติน ชาเขียว ขิงผง สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ทิชชู่ ฯลฯ ที่เห็นสลอนอยู่ในถังเหลืองซะด้วยซี คืองี้ เมื่อพระท่านไม่มีผมมาปกป้องหนังศีรษะเนี่ย ทั้งความร้อน ฝุ่นละออง เชื้อโรคต่างๆ ก็จะเข้าถึงหนังศีรษะของท่านได้โดยตรง แถมการรักษาสมดุลความชุ่มชื้นของหนังศีรษะก็จะเสียไป เพราะไม่มีผมปกคลุมทำให้หนังศีรษะของพระ มักจะแห้ง และเกิดโรคผิวหนังอยู่เสมอ เช่น ชันตุ เป็นต้น สิ่งที่จะช่วยบรรเทาได้ก็คือ แชมพูยา ที่มีส่วนผสมปกป้องหนังศีรษะ รักษาสมดุล สังเกตง่ายๆ ที่ฉลากจะมีคำว่า 'Scalp' เป็นสำคัญ ยี่ห้อที่เป็นแบบนี้ก็มักจะเป็นพวกแชมพูขจัดรังแค อย่างคลินิค, แพนทีน, Head & Shoulder, ไนโซรัล เป็นต้น แต่น่าเศร้าใจที่ไม่มีใครถวายแชมพู พระท่านจึงจำต้องใช้สบู่แก้ขัด ซึ่งทำให้ยิ่งคันหัว ศีรษะแห้งไปกันใหญ่ ดังนั้นจึงขอท่านโปรดจำไว้ ว่าเราควรซื้อแชมพูไปถวายพระ แต่ก็เลือกสูตรกันนิดนึงนะคะ ให้เป็นสูตรดูแลหนังศีรษะ เพราะถ้าเกิดเราเลือกสูตร 'เพื่อผมนิ่มสลวยดำเงางาม' ไปถวายท่าน... มิได้มีเจตนาแซวนะคะ
เน้นๆ
"ไม่มีผมมาปกป้องหนังศีรษะ ทั้งความร้อน แสงแดด ฝุ่นละออง เชื้อโรคต่างๆ ก็จะเข้าถึงหนังศีรษะได้โดยตรง แถมการรักษาสมดุลความชุ่มชื้นของหนังศีรษะก็จะเสียไป เพราะไม่มีผมปกคลุมทำให้หนังศีรษะ มักจะแห้ง และเกิดโรคผิวหนังอยู่เสมอ เช่น ชันตุ เป็นต้น"
หมายความว่า หน้าผากของคนเรา ต้องรับมือกับมลภาวะต่างๆ ทั้งแสงแดด ฝุ่นละออง แถมยังเสียสมดุลความชุ่มชื้น เพราะไม่มีผม ณ จุดนี้
การไว้ผมปิดหน้าผาก พอช่วยได้บ้าง แต่ก็ยังด้อยกว่ามีผมงอกขึ้นมาปิดบังจริงๆ
หัวข้อของคำถามนั้นเป็นมุมมอง อาจมีคำตอบได้ว่า เพราะคนส่วนใหญ่ไม่มีผมบนหน้าผาก จึงมองว่าหน้าผากโล้นสวย เพราะเป็นสิ่งปกติ แต่ที่สำคัญไปกว่า
นั้นคือ ทำไมธรรมชาติวิวัฒนาการให้ผมบนหน้าผากของคนหายไป จากสมัยบรรพบุรุษที่ยังเป็นลิงไร้หางที่มีผมหรือขนบนหน้าผาก