ถ้าภรรยาและสามีทั้งสอง หวังจะพบกันและกันทั้งในปัจจุบันทั้งในสัมปรายภพ ต้องสร้างเหตุอย่างไร ?

กระทู้สนทนา
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ เภสกฬามฤคทายวัน ใกล้บ้านสุงสุมารคีระ แคว้นภัคคะ ครั้งนั้นแล เวลาเช้า
พระผู้มีพระภาคทรงนุ่งแล้ว ทรงถือบาตรและจีวรเสด็จเข้าไปยังนิเวศน์ของนกุลบิดาคฤหบดี แล้วประทับนั่งบนอาสนะที่ปูลาดไว้
ครั้งนั้นแล คฤหบดีผู้นกุลบิดาและคฤหปตานีผู้นกุลมารดา เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง



ครั้นแล้ว คฤหบดีผู้นกุลบิดาได้กราบทูลกะพระผู้มีพระภาคว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ นับแต่เวลาที่ตระกูลนำคฤหปตานีผู้นกุลมารดาซึ่งยังเป็นสาวมา เพื่อข้าพระองค์ผู้ยังเป็นหนุ่ม
ข้าพระองค์มิได้รู้สึกจะประพฤตินอกใจคฤหปตานีผู้นกุลมารดาแม้ด้วยใจเลย ที่ไหนจะประพฤตินอกใจด้วยกายเล่า
ข้าพระองค์ทั้งสองปรารถนาพบกันและกันทั้งในปัจจุบันทั้งในสัมปรายภพ

แม้คฤหปตานีผู้นกุลมารดา ก็ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ นับแต่เวลาที่ตระกูลนำหม่อมฉันซึ่งยังเป็นสาวมา เพื่อคฤหบดีผู้นกุลบิดาซึ่งยังเป็นหนุ่ม
หม่อมฉันมิได้รู้สึกจะประพฤตินอกใจคฤหบดีผู้นกุลบิดาแม้ด้วยใจเลย ที่ไหนจะประพฤตินอกใจด้วยกายเล่า
หม่อมฉันทั้งสองปรารถนาพบกันและกันทั้งในปัจจุบัน ทั้งในสัมปรายภพ ฯ

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ดูกรคฤหบดีและคฤหปตานี ถ้าภรรยาและสามีทั้งสอง หวังจะพบกันและกันทั้งในปัจจุบันทั้งในสัมปรายภพไซร้
ทั้งสองเทียว พึงเป็นผู้มีศรัทธาเสมอกัน มีศีลเสมอกัน มีจาคะเสมอกัน มีปัญญาเสมอกัน
ภรรยาและสามีทั้งสองนั้น ย่อมได้พบกันและกันทั้งในปัจจุบัน ทั้งในสัมปรายภพ ฯ

ภรรยาและสามีทั้งสองเป็นผู้มีศรัทธา รู้ความประสงค์ของผู้ขอ มีความสำรวม เป็นอยู่โดยธรรม เจรจาคำที่น่ารักแก่กันและกัน
ย่อมมีความเจริญรุ่งเรืองมาก มีความผาสุก ทั้งสองฝ่ายมีศีลเสมอกัน รักใคร่กันมาก ไม่มีใจร้ายต่อกัน
ประพฤติธรรมในโลกนี้แล้ว ทั้งสองเป็นผู้มีศีลและวัตรเสมอกัน ย่อมเป็นผู้เสวยกามารมณ์ เพลิดเพลินบันเทิงใจอยู่ในเทวโลก ฯ




สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ปราสาทของมิคารมารดา ในบุพพาราม ใกล้พระนครสาวัตถี
ครั้งนั้นแล นางวิสาขามิคารมารดาเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง



พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะนางวิสาขามิคารมารดาว่า
ดูกรวิสาขา มาตุคามผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการ ชื่อว่า เป็นผู้ปฏิบัติเพื่อชัยชนะในโลกนี้ ชื่อว่าปรารภโลกนี้แล้ว
ธรรม ๔ ประการเป็นไฉน ?

ดูกรวิสาขา มาตุคามในโลกนี้
เป็นผู้จัดการงานดี ๑
สงเคราะห์คนข้างเคียงของสามีดี ๑
ประพฤติเป็นที่พอใจของสามี ๑
รักษาทรัพย์ที่สามีหามาได้ ๑


ดูกรวิสาขา มาตุคามเป็นผู้จัดการงานดีอย่างไร ?
ดูกรวิสาขามาตุคามในโลกนี้ เป็นคนขยัน ไม่เกียจคร้านในการงานภายในบ้านของสามี
คือ การทำผ้าขนสัตว์หรือการทำผ้าฝ้าย ประกอบด้วยปัญญาเครื่องพิจารณาอันเป็นอุบายในการงานนั้น อาจทำ อาจจัดได้
ดูกรวิสาขา มาตุคามเป็นผู้จัดการงานดีอย่างนี้แล ฯ

ดูกรวิสาขา มาตุคามเป็นผู้สงเคราะห์คนข้างเคียงของสามีดีอย่างไร ?
ดูกรวิสาขา มาตุคามในโลกนี้ ย่อมรู้การงานที่อันโตชนภายในบ้านของสามี
คือ ทาส คนใช้หรือกรรมกร ทำแล้วว่าทำแล้ว ที่ยังไม่ได้ทำว่ายังไม่ได้ทำ
รู้คนที่ป่วยไข้ว่าดีขึ้นหรือทรุดลง และแบ่งของเคี้ยวของบริโภคให้ตามเหตุที่ควร
ดูกรวิสาขา มาตุคามเป็นผู้สงเคราะห์คนข้างเคียงของสามีดีอย่างนี้แล ฯ

ดูกรวิสาขา มาตุคามเป็นผู้ประพฤติเป็นที่พอใจสามีอย่างไร ?
ดูกรวิสาขา มาตุคามในโลกนี้ ไม่ละเมิดสิ่งอันไม่เป็นที่พอใจของสามีแม้เพราะเหตุแห่งชีวิต
ดูกรวิสาขา มาตุคามประพฤติเป็นที่พอใจของสามีอย่างนี้แล ฯ

ดูกรวิสาขา มาตุคามรักษาทรัพย์ที่สามีหามาได้อย่างไร ?
ดูกรวิสาขา มาตุคามในโลกนี้ จัดการทรัพย์ ข้าวเปลือก เงินหรือทอง ที่สามีหามาได้ให้คงอยู่ ด้วยการรักษา คุ้มครอง
และไม่เป็นนักเลงการพนัน ไม่เป็นขโมย ไม่เป็นนักดื่ม ไม่ผลาญทรัพย์ให้พินาศ
ดูกรวิสาขา มาตุคามรักษาทรัพย์ที่สามีหามาได้อย่างนี้แล ฯ

ดูกรวิสาขา มาตุคามผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการนี้แล ชื่อว่าปฏิบัติเพื่อชัยชนะในโลกนี้ ชื่อว่าปรารภโลกนี้แล้ว ฯ

..

ดูกรวิสาขา มาตุคามผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการ ชื่อว่าปฏิบัติเพื่อชัยชนะในโลกหน้า ชื่อว่าปรารภโลกหน้าแล้ว
ธรรม ๔ ประการเป็นไฉน ?

ดูกรวิสาขา มาตุคามในโลกนี้
เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศรัทธา ๑
เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล ๑
เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยจาคะ ๑
เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยปัญญา ๑ ฯ


ดูกรวิสาขา มาตุคามเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศรัทธาอย่างไร ?
ดูกรวิสาขา มาตุคามในโลกนี้ เป็นผู้มีศรัทธา เชื่อพระปัญญาเครื่องตรัสรู้ของพระตถาคตว่า
แม้เพราะเหตุนี้ๆ พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ ถึงพร้อมแล้วด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว
ทรงรู้แจ้งโลก เป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึก ไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกธรรม
ดูกรวิสาขา มาตุคามเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศรัทธาอย่างนี้แล ฯ

ดูกรวิสาขา มาตุคามเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีลอย่างไร ?
ดูกรวิสาขา มาตุคามในโลกนี้ เป็นผู้งดเว้นจากปาณาติบาต จากอทินนาทาน จากกาเมสุมิจฉาจาร
จากมุสาวาท และจากการดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
ดูกรวิสาขา มาตุคามเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีลอย่างนี้แล ฯ

ดูกรวิสาขา มาตุคามเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยจาคะอย่างไร ?
ดูกรวิสาขา มาตุคามในโลกนี้ มีจิตปราศจากมลทิน คือ ความตระหนี่ มีจาคะอันปล่อยแล้ว
มีฝ่ามืออันชุ่ม ยินดีในการสละ ควรแก่การขอ ยินดีในการจำแนกทาน อยู่ครองเรือน
ดูกรวิสาขา มาตุคามเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยจาคะอย่างนี้แล ฯ

ดูกรวิสาขา มาตุคามเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยปัญญาอย่างไร ?
ดูกรวิสาขา มาตุคามในโลกนี้ เป็นผู้มีปัญญา
คือ ประกอบด้วยปัญญาเครื่องพิจารณาความเกิดและความดับ เป็นอริยะ ชำแรกกิเลส ให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ
ดูกรวิสาขา มาตุคามเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยปัญญาอย่างนี้แล ฯ

ดูกรวิสาขา มาตุคามประกอบด้วยธรรม ๔ ประการนี้แล ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อชัยชนะในโลกหน้า ชื่อว่าปรารภโลกหน้าแล้ว ฯ

มาตุคามผู้จัดการงานดี สงเคราะห์คนข้างเคียงของสามีดี ประพฤติเป็นที่พอใจของสามี รักษาทรัพย์ที่สามีหามาได้
มาตุคามนั้นเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศรัทธาและศีล ปราศจากความตระหนี่ รู้ความประสงค์ ชำระทางสัมปรายิกัตถประโยชน์อยู่เป็นนิตย์
นารีใดมีธรรม ๘ ประการนี้ ดังกล่าวมานี้ ปราชญ์ทั้งหลายกล่าวสรรเสริญนารีแม้นั้นว่า เป็นผู้มีศีล ตั้งอยู่ในธรรม พูดคำสัตย์
อุบาสิกาผู้มีศีลเช่นนั้น ถึงพร้อมด้วยอาการ ๑๖ อย่าง ประกอบด้วยองค์คุณ ๘ ประการ ย่อมเข้าถึงเทวโลกประเภทมนาปกายิกา ฯ

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่