การเลือกตั้งครั้งนี้จะต้องปล้ำฟัดยืดเยื้อต่อไปอีกหลายเดือน
เพราะเป็นการเลือกตั้งที่ใช้เวลานับคะแนนนานที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
กว่าจะประกาศผล เลือกตั้งได้จะต้องลุ้นเสียวกันไปอีก 180 วัน
หรือครบ 180 วัน แล้วก็ยังไม่ได้ ส.ส. ครบ 500 คน
หรือแย่กว่านั้น อาจประกาศผลเลือกตั้งไม่ได้ชั่วนิจนิรันดร
เห็นหรือยังว่าการเลือกตั้งมันยากส์ส์กว่าการลากตั้งอย่างนี้เอง
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าต้นเหตุของปัญหาทั้งหลายแหล่ไม่ได้เกิดจาก กกต.
เป็นหอกข้างแคร่ฝ่ายเดียว
ยังมีมือที่มองไม่เห็น และมือที่มองเห็นแว้บๆร่วมกันล้มการเลือกตั้ง
ครั้งนี้กันสุดลิ่มทิ่มประตู
ช่างไม่เห็นหัวประชาชนผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 20 ล้านคนกันบ้างเลย
แต่ก่อนอื่น “แม่ลูกจันทร์” ขออัพเดตข้อมูลผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ระบบแบ่งเขต
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ อย่างเป็นทางการอีกที
สรุปว่ามีประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 20.5 ล้านคน จากยอดผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
43 ล้านคน หรือคิดเป็น 47.7 เปอร์เซ็นต์
แยกเป็นบัตรดี 14.6 ล้านใบ บัตรเสีย 2.5 ล้านใบ และโหวตโน อีก 3.4 ล้านใบ
นี่เป็นข้อมูลที่ กกต.แถลงอย่างเป็นทางการ ซึ่งแตกต่างจากข้อมูลเบื้องต้นที่
“แม่ลูกจันทร์” กระชุ่นไว้พอสมควร
สรุปว่าภายใต้สถานการณ์ไม่ปกติทางการเมือง สามารถจัดเลือกตั้งได้สำเร็จ
ถึง 68 จังหวัด จาก 77 จังหวัด โดยไม่มีเหตุรุนแรง
และมีประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งเพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตย
ถึง 47.7 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นผลสำเร็จในระดับที่น่าพอใจ
แต่ยังมีปัญหาใหญ่ที่ กกต.ต้องเร่งแก้ไขอีก 3 ประการ
1, ยังมีหน่วยเลือกตั้งอีกกว่า 10,000 หน่วย จาก 93,000 หน่วย ที่
กกต.ต้องจัดเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว
2, ยังมีการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตอีก 83 เขตที่ กกต.จะต้องจัด
เลือกตั้งล่วงหน้า (แบบย้อนหลัง) เพื่อไม่ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งอีกกว่า
หนึ่งล้านคนต้องเสียสิทธิ์ทางการเมือง
3, ยังมีอีก 28 เขตเลือกตั้งใน 8 จังหวัดภาคใต้ที่ไม่มีผู้สมัครแม้แต่รายเดียว
ล่าสุด ที่ประชุม 5
กต.ตัดสินใจจะจัดเลือกตั้งซ่อมใหม่เฉพาะ 7 จังหวัด
ที่ยังเลือกตั้งไม่เสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์
เช่น จังหวัดปัตตานียังตกค้าง 1 หน่วย นราธิวาส 1 หน่วย ยะลา 46 หน่วย
เพชรบุรี 74 หน่วย ระยอง 27 หน่วย ประจวบคีรีขันธ์ 222 หน่วย และสตูล
อีก 300 หน่วย
คาดว่าจะจัดเลือกตั้งซ่อมใหม่ปลายเดือนนี้ หรืออย่างช้าต้นเดือนมีนาคม
“แม่ลูกจันทร์” มองแง่ดีว่า กกต.ไม่ได้เตะถ่วงการเลือกตั้งอย่างที่มีเสียงโจมตี
เพียงแต่มี กกต.บางคนชอบทำให้เรื่องสั้นเป็นเรื่องยาว
เช่น ปัญหา 28 เขตใน 9 จังหวัดภาคใต้ที่ยังไม่มีผู้สมัครแม้แต่คนเดียว
ซึ่งเป็นอำนาจของ กกต.สั่งให้เปิดรับสมัคร ส.ส.ใหม่ได้ตามกติกา
แต่ กกต.เล่นบทปลาดุกยักเงี่ยง เกี่ยงให้รัฐบาลออกพระราชกฤษฎีกาจัด
เลือกตั้งใหม่ 28 เขตซ้ำอีกที
ปัญหาคือพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งของเดิมยังไม่ถูกยกเลิกไป ถ้ารัฐบาล
จะออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งใหม่ เฉพาะ 28 เขตก็เท่ากับรัฐบาลออก
พระราชกฤษฎีกา 2 ฉบับซ้อนกัน
วันเลือกตั้งก็จะกลายเป็น 2 วัน ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 108 ที่กำหนดให้จัด
เลือกตั้งทั่วประเทศพร้อมกันในวันเดียว
“แม่ลูกจันทร์” ฟันธง ถ้ารัฐบาลบ้องตื้นทำตามข้อเสนอ กกต.รัฐบาลก็โดน
เช็กบิลข้อหาขัดรัฐธรรมนูญ
แถมทำให้การเลือกตั้งกลายเป็นโมฆะทันที
แบบนี้ก็จบเห่น่ะซีปู.
http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/402344
นี่แหละ หนทางที่จะทำให้ รัฎฐาธิปัตย์มาถึง กปปส.ได้ เดินหน้าเข้าไว้นะ
กกต. อย่าหยุด .งงง
หลุมพราง แม่ลูกจันทร์ ไทยรัฐออนไลน์
เพราะเป็นการเลือกตั้งที่ใช้เวลานับคะแนนนานที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
กว่าจะประกาศผล เลือกตั้งได้จะต้องลุ้นเสียวกันไปอีก 180 วัน
หรือครบ 180 วัน แล้วก็ยังไม่ได้ ส.ส. ครบ 500 คน
หรือแย่กว่านั้น อาจประกาศผลเลือกตั้งไม่ได้ชั่วนิจนิรันดร
เห็นหรือยังว่าการเลือกตั้งมันยากส์ส์กว่าการลากตั้งอย่างนี้เอง
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าต้นเหตุของปัญหาทั้งหลายแหล่ไม่ได้เกิดจาก กกต.
เป็นหอกข้างแคร่ฝ่ายเดียว
ยังมีมือที่มองไม่เห็น และมือที่มองเห็นแว้บๆร่วมกันล้มการเลือกตั้ง
ครั้งนี้กันสุดลิ่มทิ่มประตู
ช่างไม่เห็นหัวประชาชนผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 20 ล้านคนกันบ้างเลย
แต่ก่อนอื่น “แม่ลูกจันทร์” ขออัพเดตข้อมูลผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ระบบแบ่งเขต
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ อย่างเป็นทางการอีกที
สรุปว่ามีประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 20.5 ล้านคน จากยอดผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
43 ล้านคน หรือคิดเป็น 47.7 เปอร์เซ็นต์
แยกเป็นบัตรดี 14.6 ล้านใบ บัตรเสีย 2.5 ล้านใบ และโหวตโน อีก 3.4 ล้านใบ
นี่เป็นข้อมูลที่ กกต.แถลงอย่างเป็นทางการ ซึ่งแตกต่างจากข้อมูลเบื้องต้นที่
“แม่ลูกจันทร์” กระชุ่นไว้พอสมควร
สรุปว่าภายใต้สถานการณ์ไม่ปกติทางการเมือง สามารถจัดเลือกตั้งได้สำเร็จ
ถึง 68 จังหวัด จาก 77 จังหวัด โดยไม่มีเหตุรุนแรง
และมีประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งเพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตย
ถึง 47.7 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นผลสำเร็จในระดับที่น่าพอใจ
แต่ยังมีปัญหาใหญ่ที่ กกต.ต้องเร่งแก้ไขอีก 3 ประการ
1, ยังมีหน่วยเลือกตั้งอีกกว่า 10,000 หน่วย จาก 93,000 หน่วย ที่
กกต.ต้องจัดเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว
2, ยังมีการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตอีก 83 เขตที่ กกต.จะต้องจัด
เลือกตั้งล่วงหน้า (แบบย้อนหลัง) เพื่อไม่ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งอีกกว่า
หนึ่งล้านคนต้องเสียสิทธิ์ทางการเมือง
3, ยังมีอีก 28 เขตเลือกตั้งใน 8 จังหวัดภาคใต้ที่ไม่มีผู้สมัครแม้แต่รายเดียว
ล่าสุด ที่ประชุม 5 กต.ตัดสินใจจะจัดเลือกตั้งซ่อมใหม่เฉพาะ 7 จังหวัด
ที่ยังเลือกตั้งไม่เสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์
เช่น จังหวัดปัตตานียังตกค้าง 1 หน่วย นราธิวาส 1 หน่วย ยะลา 46 หน่วย
เพชรบุรี 74 หน่วย ระยอง 27 หน่วย ประจวบคีรีขันธ์ 222 หน่วย และสตูล
อีก 300 หน่วย
คาดว่าจะจัดเลือกตั้งซ่อมใหม่ปลายเดือนนี้ หรืออย่างช้าต้นเดือนมีนาคม
“แม่ลูกจันทร์” มองแง่ดีว่า กกต.ไม่ได้เตะถ่วงการเลือกตั้งอย่างที่มีเสียงโจมตี
เพียงแต่มี กกต.บางคนชอบทำให้เรื่องสั้นเป็นเรื่องยาว
เช่น ปัญหา 28 เขตใน 9 จังหวัดภาคใต้ที่ยังไม่มีผู้สมัครแม้แต่คนเดียว
ซึ่งเป็นอำนาจของ กกต.สั่งให้เปิดรับสมัคร ส.ส.ใหม่ได้ตามกติกา
แต่ กกต.เล่นบทปลาดุกยักเงี่ยง เกี่ยงให้รัฐบาลออกพระราชกฤษฎีกาจัด
เลือกตั้งใหม่ 28 เขตซ้ำอีกที
ปัญหาคือพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งของเดิมยังไม่ถูกยกเลิกไป ถ้ารัฐบาล
จะออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งใหม่ เฉพาะ 28 เขตก็เท่ากับรัฐบาลออก
พระราชกฤษฎีกา 2 ฉบับซ้อนกัน
วันเลือกตั้งก็จะกลายเป็น 2 วัน ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 108 ที่กำหนดให้จัด
เลือกตั้งทั่วประเทศพร้อมกันในวันเดียว
“แม่ลูกจันทร์” ฟันธง ถ้ารัฐบาลบ้องตื้นทำตามข้อเสนอ กกต.รัฐบาลก็โดน
เช็กบิลข้อหาขัดรัฐธรรมนูญ
แถมทำให้การเลือกตั้งกลายเป็นโมฆะทันที
แบบนี้ก็จบเห่น่ะซีปู.
http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/402344
นี่แหละ หนทางที่จะทำให้ รัฎฐาธิปัตย์มาถึง กปปส.ได้ เดินหน้าเข้าไว้นะ
กกต. อย่าหยุด .งงง