วิธีการ “ปล่อยเลือด” ช่วยชีวิต จาก โรคหลอดเลือดในสมองแตกฉับพลัน
โดยแพทย์จากไต้หวัน
เหล่าลูกกตัญญูหลายท่านเสียใจว่า ก่อนหน้านี้ไม่มีโอกาศได้อ่านบทความที่ห่วงใยดูแลพ่อแม่ของท่าน, ฉะนั้น ก็ควรที่จะได้ค่อยๆ พิจารณศึกษาดู, ก่อนที่มันจะสายเกินแก้กับวิถีการเยียวยาเบื้องต้นที่ผิดพลาด การแกัไขในภายหลังก็อาจจะสายเกินไป
สำหรับท่านที่ดูแลคุณพ่อคุณแม่ของท่านอยู่ ควรจะต้องเรียนรู้ถึงช่วงจังหวะที่จะเกิดของโรคหลอดเลือดสมองนี้ เส้นเลือดฝอยที่อยู่ในสมอง เมื่อแตก เลือดจะไหลซึมออกมาอย่างช้าๆ เมื่อพบกับสถานการณ์อย่างนี้ ขออย่าได้ตื่นตกใจจนเกินไป ให้ตั้งสติ ไม่ว่าช่วงจังหวะที่เกิดเหตุนั้นอยู่ ณ ที่ใด (ไม่ว่า จะเป็นห้องน้ำ ห้องนอน หรือ ห้องนั่งเล่น ) อย่าเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเป็นอันขาด เพราะถ้ามีการเคลื่อนย้าย จะเป็นตัวช่วยเร่งรอยแตกของเส้นเลือดฝอยให้มากขึ้น ดังนั้น สิ่งแรกที่ควรทำคือ ประคองผู้ป่วยให้เอนนั่งตัวตรงให้มั่นคงก่อน ระวังอย่าให้ล้มเอนลงอีก นี่คือการเริ่มต้นการรักษา ( ปล่อยเลือด )
ถ้าหากในบ้านมีเข็มฉีดยาอยู่ จะเป็นการณ์ดีที่สุด หากไม่มี ให้ใช้เข็มเย็บผ้าก็ได้ แทงเข้าไปที่ปลายนิ้วมือทั้งสิบของผู้ป่วย ( ไม่มีจุดกำหนดที่แน่นอน โดยให้ห่างจากปลายเล็บนิ้วพอประมาณ ) แทงให้มีเลือดไหลออกมา (ในกรณีที่เลือดไม่ไหลออกมา, ให้ใช้มือช่วยบีบได้ ) เมื่อนิ้วมือทั้งสิบถูกแทงเลือดออกมาแล้ว ( แต่ละนิ้วมีหนึ่งหยด) ประมาณไม่กี่นาทีต่อมา ผู้ป่วยจะฟื้นตื่นขึ้นมา
ถ้าเกิดอาการปากเบี้ยว ให้ดึงหูทั้ง 2 ข้างของเขา จนหูเป็นสีแดง, ที่ด้านล่างของใบหูทั้งสองข้าง ให้แทงไปสองครั้งของแต่ละข้าง จนมีเลือดไหลออกมาสองจุดด้วยกัน เพียงไม่กี่นาทีต่อมา ปากก็จะกลับฟื้นคืนสภาพเดิมได้ และให้รอจนกระทั่ง ผู้ป่วยฟื้นคืนสภาพ กลับมาเป็นปกติทุกอย่าง โดยไม่รู้สึกว่ามีอะไรที่ผิดปกติแล้ว จึงค่อยนำส่งต่อไปหาแพทย์, ดังนี้ จึงจะเป็นการแน่ใจว่า ได้ผ่านพ้นขีดอันตรายไปแล้ว
มิฉะนั้น ถ้าหากรีบร้อนอุ้มขี้นรถพยาบาลพาไปหาแพทย์ทันทีนั้น เกรงว่าในระหว่างทางที่ไป จะเกิดอาการช็อคขึ้นมา ก่อนที่จะไปถึงโรงพยาบาล เส้นเลือดฝอยในสมองของเขา อาจแตกเกือบทั้งหมดก็ได้ หรือในกรณีที่ท่านโชคดีไม่ถึงตาย มีบุญวาสนาเหมือนท่าน "ซุน" ที่ทุกวันนี้ยังดูแข็งแรงเคลื่อนไหวเองได้ นั่นก็คงเป็นเพราะได้ใบบุญของบรรพบุรุษใหการคุ้มครองไว้
ถ้าหากว่า พวกเราสามารถจดจำวิธีการนี้ ( ปล่อยเลือด ช่วยชีวิต ) ไว้ได้ การให้ความช่วยเหลือได้ทันที ในช่วงระยะเวลาที่สั้นสั้นนี้ สามารถทำให้ฟื้นคืนจากความตายได้ อีกทั้งยังรักษาความสมบูรณ์(หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์)ของอาการ(สามสิบสอง)ได้ครบถ้วน
ไปอ่านพบมานะค่ะ อยากทราบว่าวิธีการแบบนี้ว่ามันมีความเป็นไปได้จริงหรือคะ
“ปล่อยเลือด” ช่วยชีวิต จาก โรคหลอดเลือดในสมองแตกฉับพลัน มันมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน
โดยแพทย์จากไต้หวัน
เหล่าลูกกตัญญูหลายท่านเสียใจว่า ก่อนหน้านี้ไม่มีโอกาศได้อ่านบทความที่ห่วงใยดูแลพ่อแม่ของท่าน, ฉะนั้น ก็ควรที่จะได้ค่อยๆ พิจารณศึกษาดู, ก่อนที่มันจะสายเกินแก้กับวิถีการเยียวยาเบื้องต้นที่ผิดพลาด การแกัไขในภายหลังก็อาจจะสายเกินไป
สำหรับท่านที่ดูแลคุณพ่อคุณแม่ของท่านอยู่ ควรจะต้องเรียนรู้ถึงช่วงจังหวะที่จะเกิดของโรคหลอดเลือดสมองนี้ เส้นเลือดฝอยที่อยู่ในสมอง เมื่อแตก เลือดจะไหลซึมออกมาอย่างช้าๆ เมื่อพบกับสถานการณ์อย่างนี้ ขออย่าได้ตื่นตกใจจนเกินไป ให้ตั้งสติ ไม่ว่าช่วงจังหวะที่เกิดเหตุนั้นอยู่ ณ ที่ใด (ไม่ว่า จะเป็นห้องน้ำ ห้องนอน หรือ ห้องนั่งเล่น ) อย่าเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเป็นอันขาด เพราะถ้ามีการเคลื่อนย้าย จะเป็นตัวช่วยเร่งรอยแตกของเส้นเลือดฝอยให้มากขึ้น ดังนั้น สิ่งแรกที่ควรทำคือ ประคองผู้ป่วยให้เอนนั่งตัวตรงให้มั่นคงก่อน ระวังอย่าให้ล้มเอนลงอีก นี่คือการเริ่มต้นการรักษา ( ปล่อยเลือด )
ถ้าหากในบ้านมีเข็มฉีดยาอยู่ จะเป็นการณ์ดีที่สุด หากไม่มี ให้ใช้เข็มเย็บผ้าก็ได้ แทงเข้าไปที่ปลายนิ้วมือทั้งสิบของผู้ป่วย ( ไม่มีจุดกำหนดที่แน่นอน โดยให้ห่างจากปลายเล็บนิ้วพอประมาณ ) แทงให้มีเลือดไหลออกมา (ในกรณีที่เลือดไม่ไหลออกมา, ให้ใช้มือช่วยบีบได้ ) เมื่อนิ้วมือทั้งสิบถูกแทงเลือดออกมาแล้ว ( แต่ละนิ้วมีหนึ่งหยด) ประมาณไม่กี่นาทีต่อมา ผู้ป่วยจะฟื้นตื่นขึ้นมา
ถ้าเกิดอาการปากเบี้ยว ให้ดึงหูทั้ง 2 ข้างของเขา จนหูเป็นสีแดง, ที่ด้านล่างของใบหูทั้งสองข้าง ให้แทงไปสองครั้งของแต่ละข้าง จนมีเลือดไหลออกมาสองจุดด้วยกัน เพียงไม่กี่นาทีต่อมา ปากก็จะกลับฟื้นคืนสภาพเดิมได้ และให้รอจนกระทั่ง ผู้ป่วยฟื้นคืนสภาพ กลับมาเป็นปกติทุกอย่าง โดยไม่รู้สึกว่ามีอะไรที่ผิดปกติแล้ว จึงค่อยนำส่งต่อไปหาแพทย์, ดังนี้ จึงจะเป็นการแน่ใจว่า ได้ผ่านพ้นขีดอันตรายไปแล้ว
มิฉะนั้น ถ้าหากรีบร้อนอุ้มขี้นรถพยาบาลพาไปหาแพทย์ทันทีนั้น เกรงว่าในระหว่างทางที่ไป จะเกิดอาการช็อคขึ้นมา ก่อนที่จะไปถึงโรงพยาบาล เส้นเลือดฝอยในสมองของเขา อาจแตกเกือบทั้งหมดก็ได้ หรือในกรณีที่ท่านโชคดีไม่ถึงตาย มีบุญวาสนาเหมือนท่าน "ซุน" ที่ทุกวันนี้ยังดูแข็งแรงเคลื่อนไหวเองได้ นั่นก็คงเป็นเพราะได้ใบบุญของบรรพบุรุษใหการคุ้มครองไว้
ถ้าหากว่า พวกเราสามารถจดจำวิธีการนี้ ( ปล่อยเลือด ช่วยชีวิต ) ไว้ได้ การให้ความช่วยเหลือได้ทันที ในช่วงระยะเวลาที่สั้นสั้นนี้ สามารถทำให้ฟื้นคืนจากความตายได้ อีกทั้งยังรักษาความสมบูรณ์(หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์)ของอาการ(สามสิบสอง)ได้ครบถ้วน
ไปอ่านพบมานะค่ะ อยากทราบว่าวิธีการแบบนี้ว่ามันมีความเป็นไปได้จริงหรือคะ