ด้านฝ่ายมาริเอลที่กำลังรับหน้าที่ป้องกันเมืองโชจิกับทัพเด็กใหม่ ก็กำลังประชุมกันอยู่ในโซนสนามเด็กเล่นว่าไม่เห็นวี่แววกอบลินเลย ขณะที่ทัพครัสตี้ไปรับหน้าข้าศึกแล้ว แล้วมิโนริก็เข้าไปขอร้องบางอย่างกับเซราระ (สาวเสิร์ฟน่ารักจุงเบย)


ทางด้านทัพครัสตี้ เจ๊บาร์ดมิสะทาอายแชโดว์เขียว เอ๊ย ร่ายเวทย์กล้องอินฟราเรดให้องค์หญิงมองในที่มืดได้ ก็เห็นฝูงกอบลินเป็นหมื่นเดินทัพมา โดยมีครัสตี้ยืนประจันหน้าสุดและเปิดฉากการโจมตีก่อนด้วยการฟาดขวานยักษ์ซึ่งสร้างความเสียหายให้ทัพหน้ากอบลินได้ชนิดที่เรียกว่ากวาดล้างเลยทีเดียว เยื้องไปด้านหลังครัสตี้มีผู้ใช้เวทย์สนับสนุนอีกสองคน



บนยอดเขาทางด้านข้างของครัสตี้ปรากฏยักษ์ไททัน เอ่อ ยักษ์ภูเขาสองตัวเลเวล 72 กะ 80 เสนาสาวมิสะก็สั่งการฮีลเลอร์ของตน และเมื่อครัสตี้ให้สัญญาณ พลังเวทย์จากทัพนักเวทย์ด้านหลังก็ถูกยิงออกไปราวกับธนูพุ่งจากแล่ง

เจ้าหญิงเห็นครัสตี้ยิ้มยามพุ่งเข้าฟาดฟันยักษ์ใหญ่ ทว่าก็กลับรู้สึกได้ถึงความเศร้าและเดียวดายของแว่นเกราะเช่นกัน (เดี๊ยนไม่เห็นค่ะ เห็นแต่พี่แกกะลังเมามัน)





ทางฝ่ายชิโรเอะที่ตอนนี้ตั้งค่ายกุมหน่วยสื่อสารประหนึ่งศูนย์บัญชาการยานรบ ก็วางแผนให้ทุกหน่วยผ่านโอเปอเรเตอร์สาว ๆ อีกด้านเรือไอน้ำ Ocypete ก็กลับไปรับนักผจญภัยอากิบะชุดสองแล้ว (หวังว่าไอแซคคงไปด้วยนะ อยากดูนายอาละวาดสุด ๆ อาจจะไปแท็คทีมกะแว่นเกราะกันอย่างร่าเริงและบ้าเลือด จนเจ้าหญิงนึกว่าไม่น่าห่วงเลยก็ได้ 555+)

คาราชินรู้สึกว่าศึกนี้ราบรื่นดี แต่ชิโรเอะห่วงทางด้านมาริเอลที่ปกป้องเมืองโชชิอยู่ เพราะว่านอกจากต้องสู้แบบล้อมกรอบกอบลินแล้ว อีกด้านก็ต้องปกป้องเมืองด้วย หากมีกอบลินหลุดรอดไป นักสู้ที่ล้อมกรอบกอบลินก็จะโดนขนาบและถูกตีแตกได้

อาคัทสึกิซึ่งดูจะอยากเข้าร่วมรบถามนายท่านของเธอว่าจะไม่เข้าไปในสมรภูมิหรือ แต่ชิโรเอะตอบว่าจนกว่าจะจัดขบวนทัพเรียบร้อยทั้งหมด เขาก็ไปไหนไม่ได้ ทำเอานินจาสาวต้องยอมอยู่นิ่ง ๆ ต่อไป (อยู่ในค่ายก็่น่าจะปลอดภัยนะ)




รูดี้ก็ยังคงขัดปลอกแขนเวทย์ที่ได้มาอย่างมีความสุข อิซูสุห่วงและถามว่าไม่เป็นไรแน่หรือ รูดี้ก็ยิ้มและตอบว่า ตอนนี้เขาอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมและไม่คิดว่าจะมีใครมาจัดการเขาได้เลยล่ะ


ทางสองพี่น้องมิโนริกับโทยะก็เดินลาดตระเวณสะพานแขวนซึ่งปลอดโปร่งเรียบร้อยดี จนกระทั่งมิโนริเห็นคลื่นน้ำเคลื่อนไหวเป็นระลอก  และเมื่อเรียกพวกมาริเอลมาดูก็เห็นทัพเมอร์แมนนับพันกำลังเคลื่อนมาตามลำน้ำ

มาริเอลไม่อยากให้พวกเด็ก ๆ ต่อสู้อีก แต่โทยะกับรูดี้บอกให้โจมตีก่อน และเมื่อหันไปเห็นสีหน้าพร้อมสู้ของเด็กทุกคน มาริเอลก็ขอบคุณที่เหนื่อยกันมาและขอให้สู้ต่อกันอีกหน มิโนริบอกให้ทุกคนแบ่งเป็นทีม โดยทีมของตนจะอยู่ฝ่ายสนับสนุน




และเมื่อชิโรเอะได้รับแจ้งว่านักผจญภัย 60 คนจะต้องเจอเมอร์แมนซาฮัวกินนับพัน ชิโรเอะก็สั่งให้เรือรบซึ่งอยู่ห่างจากฝั่ง 135 กม. รีบมุ่งหน้าไปช่วยโดยเร็ว  



ณ ชายหาด ทัพเมอร์แมนขึ้นบกมาเป็นจำนวนมาก นาโอสึงุอยากออกไปช่วย แต่โดนเนียงตะห้ามไว้ เพราะยังต้องรอฟื้น MP ที่ร่อยหรอจากศึกก่อนหน้าไปก่อน พวกรุ่นพี่จึงนั่งดูการต่อสู้ของรุ่นน้อง แล้วก็เห็นพัฒนาการของแต่ละคนชัดเจน อย่างเซราร่าที่เรียกมอนออกมาต่อสู้ได้แล้ว หรือการแท็กทีมประสานได้อย่างรู้ใจของอิซูสุกับรูดี้ รวมถึงพลังเวทย์ที่ทุ่มพลังใจทั้งหมดออกมาของเด็กหนุ่มผมทอง และแน่นอนว่ารวมถึงมิโนริที่ตอนนี้เป็นผู้วางแผนรบอย่างสมบูรณ์ไปแล้ว









นาโอสึงุนึกถึงสมัยเล่นเกมกับชิโรเอะและพูดคุยกัน ชิโรเอะสามารถมองค่าความสามารถของฝ่ายตรงข้ามได้ละเอียดระดับเปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ซ้ำยังสามารถอ่านสถานการณ์ในอีก 30 วินาทีล่วงหน้าได้ พอมาเห็นมิโนริที่กำลังใช้กลยุทธ์ที่ถอดแบบมาจากชิโรเอะไม่ผิดเพี้ยนแล้ว นาโอสึงุก็อดคิดไม่ได้ว่ามิโนริจะมองอนาคตล่วงหน้าได้กี่วินาที







มีสัญญาณเตือนดังที่สะพานซึ่งเป็นพลัง Druid ของเซราระซึ่งทิ้งมอนไว้ให้เตือนมาหากกอบลินมา  แล้วพวกมิโนริก็วิ่งไปทางสะพานเพื่อจัดการมอนโดยไม่ฟังเสียงร้องเรียกของนาโอสึงุ