เห็นว่าคุณ Motif ไม่ว่างอาทิตย์นี้ เลยมานั่งทำแทนอาทิตย์นึง ถ้าอ่านแล้วงงก็ไม่ต้องงนะเพราะผมเองก็งงเหมือนกัน
จากตอนที่แล้ว มิโนริโทรจิตมาหาชิโรเอะเพื่อขอให้ช่วยเรื่องรูดี้ ทำให้ชิโรเอะแปลกใจนิดๆ
เพราะที่ผ่านมา หลังจากเข้ากิล Log Horizon มาแล้ว ถึงแม้มิโนริจะเข้ามาขอคำแนะนำบ่อยๆ
แต่ก็ไม่เคยเอ่ยปากขอความช่วยเหลือเลยสักครั้ง ทำให้ชิโรเอะเข้าใจได้ทันทีถึงความสำคัญของเรื่องนี้ได้ทันที
จึงรีบหยิบกระเป๋าสัมภาระ และฝากให้คาราชินเป็นคนดูแลต่อ
"ฉันเองก็มีบางสิ่งที่ทำไม่ได้ ยิ่งเป็นโลกที่ไร้เหตุผลใบนี้ด้วยแล้วสิ่งที่ทำไม่ได้นั้นคงมีมากมายมหาศาล แต่หากมิโนริต้องการแล้วล่ะก็..."
หลังจากที่ขึ้นกริฟฟินแล้ว ชิโรเอะก็บอกให้มิโนริรายงานสถานการณ์และระบุตำแหน่งปัจจุบัน
เมื่อชิโรเอะได้ข้อมูลมาพอสมควรแล้ว ก็สั่งให้พวกมิโนริใช้สกิลตามที่คำนวณไว้
จากนั้นก็คิดถึงเรื่องที่ตนเองได้ไปฟังมาจากนักปราชญ์แห่งทะเลสาบ
ตรงนี้อ่านแล้วงงๆ นิดนึง เลยไปหา LN มาอ่านเพิ่ม แต่ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดี แต่เหมือนจะสรุปว่า (ถ้าผิดยังไงช่วยทักมาด้วยนะครับ)
พลังงานลึกลับที่ทำให้มนุษย์หรืออมนุษย์สามารถเคลื่อนไหวได้คือ วิญญาณ
ซึ่งประกอบไปด้วย Psyche และ Anima (ไม่รู้จะใช้คำไหนแทนดี) โดย Psyche ก็คือ MP และ Anima ก็คือ HP
หากเกิดการตายขึ้น Psyche กับ Anima ก็จะแยกออกจากกัน และหากปล่อยไว้สักพัก Anima ก็จะค่อยๆ กระจายไป
การใช้สกิลชุบชีวิตก็คือการรวบรวม Anima กลับมา แน่นอนว่าคนของแผ่นดินหากใช้สกิลชุบชีวิตทันทีที่ตายก็ช่วยได้ก็ไม่ต่างกัน
แต่หากเวลาผ่านไป จนไม่มี Anima เหลือแล้ว Psyche ก็จะไม่มีที่ให้กลับ
ถ้าอยู่ในสถานะนี้แล้ว กรณีที่เป็นนักผจญภัย Psyche และ Anima ก็จะกลับไปรวมกันที่โบสถ์ แต่หากเป็นคนของแผ่นดินก็จะตายไปเลย
ในกรณีของรูดี้นั้น ชีพจรยังเต้น ร่างกายยังอุ่นอยู่ ก็แปลว่า Psyche ยังไม่กลับมาเชื่อมต่อกับ Anima
ตอนนี้เท่าที่พอทำได้ก็คือการยื้อ Anima ไว้เรื่อยๆ จนกว่าจะหาทางช่วยได้
แฟลชแบคกลับไปเมื่อครั้งชิโรเอะยังอยู่ในปาร์ตี้น้ำชา คานามิเข้ามาอ้อนบอกว่าอยากไปดูพระอาทิตย์เที่ยงคืน แต่ชิโรเอะบอกว่าเป็นไปไม่ได้หรอก คานามิจึงบอกว่าตัวเองน่ะเป็นคนช่างฝันนะ และชิโร่ก็ต้องทำให้ฝันของตัวเองเป็นจริงด้วย
และเมื่อคิดถึงคำพูดของนักปราชญ์เรื่องเวทมนตร์ระดับเปลี่ยนแปลงโลก
ชิโรเอะก็เหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้ จึงวานให้อาคัทสึกิคุมบังเหียนให้ จากนั้นก็หยิบขวดหมึกขึ้นมา
อีกด้านนึง มิสะและเรเนเซีย ไปหาครัสตี้เพื่อรายงานผลการต่อสู้
แต่ครัสตี้กำลังอาบน้ำอยู่พอดี เจ้าหญิงที่ได้เห็นซิกแพคของพ่อแว่นเกราะระยะประชิด ก็มิวายหน้าแดงขึ้นมาทันที
ขณะที่ครัสตี้กับเรเนเซียกำลังคุยกันอยู่ ก็มีเสียงหอนดังขึ้นมา เรเนเซียจึงถามครัสตี้ว่าใช่ราชากอบลินรึเปล่า
แต่ครัสตี้บอกว่า ราชากอบลิน จะไม่ออกมาจาก Seventh Fall แน่นอน
เสียงที่ได้ยินคงเป็นพวกกองทัพของนายพลกอบลินมากกว่า และบอกว่าตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาไปจัดการตัวพ่อมันในรังหรอก
แต่จะจัดการไอ้พวกตัวลูกที่ออกมาให้เหี้ยนไปเลย (รอยยิ้มสมฉายา Berserker จริงๆ)
กลับมาทางชิโรเอะ มีการติดต่อจากกองบัญชาการว่า ทัพหนุนทางชายหาดที่มาริเอลอยู่ มาถึงแล้ว จึงโล่งใจทางนั้นได้เปราะนึง
เมื่อมาถึงจุดหมายแล้ว ชิโรเอะจึงร่อนลงที่สะพานและก็สั่งให้อาคัทสึกิเคลียร์พื้นที่ทันที
โดยกำชับว่าอย่าให้ คน หรือ มอนสเตอร์ เข้ามาโดยเด็ดขาด จากนั้นก็รีบวิ่งไปหาพวกมิโนริ
เมื่อชิโรเอะวิ่งมาถึงแล้ว ก็ให้มิโนริรับเข้าปาร์ตี้เพื่อใช้สกิลใหม่ และบอกย้ำให้พวกมิโนริห้ามบอกใครเด็ดขาด
จากนั้นก็ใช้สกิล มานา แชนแนลลิ่ง โดยสกิลนี้จะดูดมานาคนในปาร์ตี้มารวมกัน แล้วก็หารเฉลี่ยแบ่งกลับไปให้เท่าๆ กัน
เพื่อทำให้ MP หรือ Psyche ของรูดี้เพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับนึง แต่รูดี้ก็ยังไม่ได้สติขึ้นมา
ชิโรเอะจึงสันนิฐานว่า Psyche และ Anima ยังไม่ได้เชื่อมต่อกัน
จึงตัดสินใจใช้ไอเท็ม กำยานคืนชีพ เพื่อทำให้รูดี้ฟื้นขึ้นมาเป็นซอมบี้ โดยมีเวลาแค่ 3 นาทีก่อนผลของไอเท็มจะหมดไป
พอรูดี้ฟื้นขึ้นมา อิซุสุก็ดึงเข้ามากอดแล้วก็โทษว่าเป็นความผิดของตัวเอง เพราะทั้งๆ ที่รู้ว่ารูดี้เป็นคนของแผ่นดินแต่ก็ยังให้รูดี้มาด้วย
มิโนริเองก็บอกว่าเป็นความผิดของเธอด้วย เพราะเรื่องนี้เธอเองก็รู้เหมือนกัน แต่ก็ยังเงียบไว้
รูดี้ที่เหมือนเริ่มปลงชีวิต ก็โดนชิโรเอะต่อว่า ถ้าหากยอมตัดใจง่ายๆ แบบนี้ อย่าบังอาจเรียกตัวเองว่านักผจญภัย
และหยิบกระดาษสัญญาแผ่นนึงขึ้นมาให้ดู จากนั้นก็อ่านเงื่อนไขที่ระบุอยู่ในนั้นให้ฟัง
1. พันธะสัญญาจะมีผลทันทีที่รูดี้เซนต์ชื่อ ชิโรเอะจะต้องรับรูดี้เข้ากิล Log Horizon
2. ในฐานะสมาชิกของกิล Log Horizon รูดี้จะต้องทำภารกิจที่ได้รับอย่างเหมาะสมกับตำแหน่งของตนเอง
3. กิล Log Horizon จะต้องสนับสนุนสิ่งที่จำเป็นในการทำภารกิจของรูดี้ รวมถึง การมอบสถานะ "นักผจญภัย" ให้ด้วย
4. พันธะสัญญานี้ จะต้องได้รับการเห็นชอบและเต็มใจลงนามทั้งสองฝ่าย
ชิโรเอะเริ่มได้ไอเดียนี้จากการเห็นเนียนตะทำอาหารด้วยตัวเองและการสร้างสิ่งของที่ไม่เคยทำได้ตอนที่ยังเป็นเกมส์
จึงคิดว่าอาชีพรองของตัวเองนั้น ก็น่าจะมีประโยชน์เช่นกัน
กระดาษที่ใช้ทำสัญญา คือ แฟรี่คิงเปเปอร์ ซึ่งสร้างจากวัตถุดิบที่ดีที่สุดเท่าที่มีในเกมส์
หมึกได้มาจาก ไทม์ดราก้อนอาย
อีกทั้งตัวสัญญาก็ร่างขึ้นโดยตัวชิโรเอะที่มีอาชีพรองเป็นอาลักษณ์เลเวล 90
แม้จะไม่รู้ว่าผลลัพท์จะเป็นยังไง แต่ก็ต้องลองดูเท่านั้น
หลังจากยื่นเอกสารสัญญาและปากกาให้รูดี้แล้ว ชิโรเอะก็เตือนว่าสิ่งที่จะตามมาอาจทำให้โลกที่รูดี้เคยรู้จักเปลี่ยนไปโดนสิ้นเชิง และไม่คิดว่านักผจญภัยจะมีเกียรติยศอย่างที่รูดี้ต้องการ
แต่รูดี้ก็บอกว่าตนเองไม่สนใจเรื่องหยุมหยิมพรรณ์นั้น เค้าแค่อยากจะช่วยคนที่ต้องการให้เค้าช่วยก็เท่านั้น
เพราะอย่างนั้นจึงต้องการเป็นนักผจญภัย
อิสุซุที่เห็นความตั้งใจจริงของรูดี้ จึงช่วยประคองมือรูดี้ที่ยังไม่ค่อยมีแรงให้ใช้ปากกาง่ายขึ้น
เมื่อจรดปลายปากกาขนนกลงบนเอกสารสัญญา ก็มีแสงจากน้ำหมึกสว่างขึ้นมา
และทันทีที่ลากเส้นสุดท้ายเสร็จ ก็มีแสงเจิดจ้าพยุงร่างกายของรูดี้ให้ลอยขึ้น
เมื่อเห็นพันธะสัญญาสัมฤทธิ์ผลแล้ว ชิโรเอะก็บอกว่าจากนี้รูดี้จะตายหนึ่งครั้งและก็จะไปกลับมาเกิดอีกครั้งที่โบสถ์
ไกลออกไปที่ปราสาท นักปราชญ์แห่งทะเลสาปได้คอยเฝ้ามองดูเสาแห่งแสงที่เกิดขึ้นจากการทำพันธะสัญญา
ตัดกลับไปทางฝั่งของเรเนเซีย ที่ตอนนี้กำลังดูครัสตี้จัดกระบวนทัพเตรียมรับมือกองทัพของนายพลกอบลิน
ไม่นานนักในช่องเขาก็เริ่มปรากฏทัพไดร์วูฟจำนวนมหาศาล ครัสตี้ที่กำลังรออยู่ก็ให้สัญญาณมือเริ่มโจมตีทันที
แน่นอนว่ากองทัพมดมิอาจสู้กับคชสารได้ หลังจากเริ่มศึกได้แค่เพียงครู่เดียว ฝูงกอบลินผู้โชคร้ายก็โดนจัดการไม่เหลือซาก
โดยมีครัสตี้เป็นคนลาสชอตตัวนายพลที่รอดมาจากซัมมอนฟินิกส์ (เวลาได้เอาขวานหนักๆ จามหัวมอนสเตอร์เนี่ย มันคงสะใจดีเนอะ)
ที่ชายหาด หลังจากหมดศึกใหญ่ มาริเอลที่ไม่เคยเข้าร่วมเรดครั้งใหญ่ๆ แบบนี้ ก็หมดแรงนอนแผ่ให้นาโอสึกุช่วยพัดลมเย็นๆ ให้
(แอบหนีงานมาเที่ยวทะเล แต่ดันต้องเหนื่อยกว่าเดิมอีก อิอิ)
หลังจากที่ส่งรูดี้ไปเกิดใหม่แล้ว มิโนริก็เดินเข้ามาถามชิโรเอะที่กำลังนั่งอยู่ริมแม่น้ำว่าทำไมถึงพูดกับรูดี้เรื่องนักผจญภัยกับรูดี้
ชิโรเอะก็ตอบง่ายๆ ว่า ตอนที่ยังเป็นเกมส์อยู่คำนี้ก็คงใช้กับผู้เล่นด้วยกันเท่านั้น
แต่ตอนนี้เค้าอยากใช้คำนี้กับทุกๆ คนที่พร้อมจะออกไปผจญภัยตามหาทิวทัศน์ยามรุ่งอรุณที่ไม่มีใครเคยเห็นกับตัวเค้า
มิโนริก็ตอบรับด้วยใบหน้าที่บอกไม่ถูกว่าเข้าใจที่ชิโรเอะพูดรึเปล่า โดยมีอาคัทสึกิคอยดูอยู่ห่างๆ
กลับไปที่เมืองอากิบะ รูดี้ฟื้นขึ้นมาในโบสถ์ พอเปิดหน้าต่างสเตตัสก็เห็นว่าตอนนี้ตัวเองมีซับคลาสนักผจญภัยแล้ว
โดยซับคลาสนักผจญภัยก็จะมีความสามารถเหมือนกับนักผจญภัยทุกอย่าง เช่น เกิดใหม่ที่โบสถ์ เฟรนด์ลิสท์ โบนัสค่าประสบการณ์ ฯลฯ
ขณะที่กำลังดีใจอยู่ อิซุสุก็เข้ามาในโบสถ์โดยใช้สกิลคอลล์ออฟโฮม
พอเห็นรูดี้อยู่บนแท่นบูชา ก็เดินจ้ำอ้าวเข้าไปเขกหัวคอมโบทันที ข้อหาที่ทำให้เป็นห่วง
ตอนหน้า
งานเต้นรำของสองเรา
เมื่อการต่อสู้จบลง ทั้งอิสเทิรล์และภาคีโต๊ะกลมต่างพร้อมก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยกัน และได้จัดงานเต้นรำเพื่อฉลองความสำเร็จครั้งนี้ขึ้นมา
แต่อาคัทสึกิกลับกำลังกลุ้มใจอยู่คนเดียว
ปล. ต้องการใส่เนื้อหาส่วนที่อนิเมยังไม่เฉลย กรุณาใส่แท็ก Spoil ด้วยนะครับ
[Spoil เฉพาะกิจ] Log Horizon Episode 20 พันธะสัญญา
จากตอนที่แล้ว มิโนริโทรจิตมาหาชิโรเอะเพื่อขอให้ช่วยเรื่องรูดี้ ทำให้ชิโรเอะแปลกใจนิดๆ
เพราะที่ผ่านมา หลังจากเข้ากิล Log Horizon มาแล้ว ถึงแม้มิโนริจะเข้ามาขอคำแนะนำบ่อยๆ
แต่ก็ไม่เคยเอ่ยปากขอความช่วยเหลือเลยสักครั้ง ทำให้ชิโรเอะเข้าใจได้ทันทีถึงความสำคัญของเรื่องนี้ได้ทันที
จึงรีบหยิบกระเป๋าสัมภาระ และฝากให้คาราชินเป็นคนดูแลต่อ
หลังจากที่ขึ้นกริฟฟินแล้ว ชิโรเอะก็บอกให้มิโนริรายงานสถานการณ์และระบุตำแหน่งปัจจุบัน
เมื่อชิโรเอะได้ข้อมูลมาพอสมควรแล้ว ก็สั่งให้พวกมิโนริใช้สกิลตามที่คำนวณไว้
จากนั้นก็คิดถึงเรื่องที่ตนเองได้ไปฟังมาจากนักปราชญ์แห่งทะเลสาบ
ตรงนี้อ่านแล้วงงๆ นิดนึง เลยไปหา LN มาอ่านเพิ่ม แต่ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดี แต่เหมือนจะสรุปว่า (ถ้าผิดยังไงช่วยทักมาด้วยนะครับ)
พลังงานลึกลับที่ทำให้มนุษย์หรืออมนุษย์สามารถเคลื่อนไหวได้คือ วิญญาณ
ซึ่งประกอบไปด้วย Psyche และ Anima (ไม่รู้จะใช้คำไหนแทนดี) โดย Psyche ก็คือ MP และ Anima ก็คือ HP
หากเกิดการตายขึ้น Psyche กับ Anima ก็จะแยกออกจากกัน และหากปล่อยไว้สักพัก Anima ก็จะค่อยๆ กระจายไป
การใช้สกิลชุบชีวิตก็คือการรวบรวม Anima กลับมา แน่นอนว่าคนของแผ่นดินหากใช้สกิลชุบชีวิตทันทีที่ตายก็ช่วยได้ก็ไม่ต่างกัน
แต่หากเวลาผ่านไป จนไม่มี Anima เหลือแล้ว Psyche ก็จะไม่มีที่ให้กลับ
ถ้าอยู่ในสถานะนี้แล้ว กรณีที่เป็นนักผจญภัย Psyche และ Anima ก็จะกลับไปรวมกันที่โบสถ์ แต่หากเป็นคนของแผ่นดินก็จะตายไปเลย
ในกรณีของรูดี้นั้น ชีพจรยังเต้น ร่างกายยังอุ่นอยู่ ก็แปลว่า Psyche ยังไม่กลับมาเชื่อมต่อกับ Anima
ตอนนี้เท่าที่พอทำได้ก็คือการยื้อ Anima ไว้เรื่อยๆ จนกว่าจะหาทางช่วยได้
แฟลชแบคกลับไปเมื่อครั้งชิโรเอะยังอยู่ในปาร์ตี้น้ำชา คานามิเข้ามาอ้อนบอกว่าอยากไปดูพระอาทิตย์เที่ยงคืน แต่ชิโรเอะบอกว่าเป็นไปไม่ได้หรอก คานามิจึงบอกว่าตัวเองน่ะเป็นคนช่างฝันนะ และชิโร่ก็ต้องทำให้ฝันของตัวเองเป็นจริงด้วย
และเมื่อคิดถึงคำพูดของนักปราชญ์เรื่องเวทมนตร์ระดับเปลี่ยนแปลงโลก
ชิโรเอะก็เหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้ จึงวานให้อาคัทสึกิคุมบังเหียนให้ จากนั้นก็หยิบขวดหมึกขึ้นมา
อีกด้านนึง มิสะและเรเนเซีย ไปหาครัสตี้เพื่อรายงานผลการต่อสู้
แต่ครัสตี้กำลังอาบน้ำอยู่พอดี เจ้าหญิงที่ได้เห็นซิกแพคของพ่อแว่นเกราะระยะประชิด ก็มิวายหน้าแดงขึ้นมาทันที
ขณะที่ครัสตี้กับเรเนเซียกำลังคุยกันอยู่ ก็มีเสียงหอนดังขึ้นมา เรเนเซียจึงถามครัสตี้ว่าใช่ราชากอบลินรึเปล่า
แต่ครัสตี้บอกว่า ราชากอบลิน จะไม่ออกมาจาก Seventh Fall แน่นอน
เสียงที่ได้ยินคงเป็นพวกกองทัพของนายพลกอบลินมากกว่า และบอกว่าตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาไปจัดการตัวพ่อมันในรังหรอก
แต่จะจัดการไอ้พวกตัวลูกที่ออกมาให้เหี้ยนไปเลย (รอยยิ้มสมฉายา Berserker จริงๆ)
กลับมาทางชิโรเอะ มีการติดต่อจากกองบัญชาการว่า ทัพหนุนทางชายหาดที่มาริเอลอยู่ มาถึงแล้ว จึงโล่งใจทางนั้นได้เปราะนึง
เมื่อมาถึงจุดหมายแล้ว ชิโรเอะจึงร่อนลงที่สะพานและก็สั่งให้อาคัทสึกิเคลียร์พื้นที่ทันที
โดยกำชับว่าอย่าให้ คน หรือ มอนสเตอร์ เข้ามาโดยเด็ดขาด จากนั้นก็รีบวิ่งไปหาพวกมิโนริ
เมื่อชิโรเอะวิ่งมาถึงแล้ว ก็ให้มิโนริรับเข้าปาร์ตี้เพื่อใช้สกิลใหม่ และบอกย้ำให้พวกมิโนริห้ามบอกใครเด็ดขาด
จากนั้นก็ใช้สกิล มานา แชนแนลลิ่ง โดยสกิลนี้จะดูดมานาคนในปาร์ตี้มารวมกัน แล้วก็หารเฉลี่ยแบ่งกลับไปให้เท่าๆ กัน
เพื่อทำให้ MP หรือ Psyche ของรูดี้เพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับนึง แต่รูดี้ก็ยังไม่ได้สติขึ้นมา
ชิโรเอะจึงสันนิฐานว่า Psyche และ Anima ยังไม่ได้เชื่อมต่อกัน
จึงตัดสินใจใช้ไอเท็ม กำยานคืนชีพ เพื่อทำให้รูดี้ฟื้นขึ้นมาเป็นซอมบี้ โดยมีเวลาแค่ 3 นาทีก่อนผลของไอเท็มจะหมดไป
พอรูดี้ฟื้นขึ้นมา อิซุสุก็ดึงเข้ามากอดแล้วก็โทษว่าเป็นความผิดของตัวเอง เพราะทั้งๆ ที่รู้ว่ารูดี้เป็นคนของแผ่นดินแต่ก็ยังให้รูดี้มาด้วย
มิโนริเองก็บอกว่าเป็นความผิดของเธอด้วย เพราะเรื่องนี้เธอเองก็รู้เหมือนกัน แต่ก็ยังเงียบไว้
รูดี้ที่เหมือนเริ่มปลงชีวิต ก็โดนชิโรเอะต่อว่า ถ้าหากยอมตัดใจง่ายๆ แบบนี้ อย่าบังอาจเรียกตัวเองว่านักผจญภัย
และหยิบกระดาษสัญญาแผ่นนึงขึ้นมาให้ดู จากนั้นก็อ่านเงื่อนไขที่ระบุอยู่ในนั้นให้ฟัง
1. พันธะสัญญาจะมีผลทันทีที่รูดี้เซนต์ชื่อ ชิโรเอะจะต้องรับรูดี้เข้ากิล Log Horizon
2. ในฐานะสมาชิกของกิล Log Horizon รูดี้จะต้องทำภารกิจที่ได้รับอย่างเหมาะสมกับตำแหน่งของตนเอง
3. กิล Log Horizon จะต้องสนับสนุนสิ่งที่จำเป็นในการทำภารกิจของรูดี้ รวมถึง การมอบสถานะ "นักผจญภัย" ให้ด้วย
4. พันธะสัญญานี้ จะต้องได้รับการเห็นชอบและเต็มใจลงนามทั้งสองฝ่าย
ชิโรเอะเริ่มได้ไอเดียนี้จากการเห็นเนียนตะทำอาหารด้วยตัวเองและการสร้างสิ่งของที่ไม่เคยทำได้ตอนที่ยังเป็นเกมส์
จึงคิดว่าอาชีพรองของตัวเองนั้น ก็น่าจะมีประโยชน์เช่นกัน
กระดาษที่ใช้ทำสัญญา คือ แฟรี่คิงเปเปอร์ ซึ่งสร้างจากวัตถุดิบที่ดีที่สุดเท่าที่มีในเกมส์
หมึกได้มาจาก ไทม์ดราก้อนอาย
อีกทั้งตัวสัญญาก็ร่างขึ้นโดยตัวชิโรเอะที่มีอาชีพรองเป็นอาลักษณ์เลเวล 90
แม้จะไม่รู้ว่าผลลัพท์จะเป็นยังไง แต่ก็ต้องลองดูเท่านั้น
หลังจากยื่นเอกสารสัญญาและปากกาให้รูดี้แล้ว ชิโรเอะก็เตือนว่าสิ่งที่จะตามมาอาจทำให้โลกที่รูดี้เคยรู้จักเปลี่ยนไปโดนสิ้นเชิง และไม่คิดว่านักผจญภัยจะมีเกียรติยศอย่างที่รูดี้ต้องการ
แต่รูดี้ก็บอกว่าตนเองไม่สนใจเรื่องหยุมหยิมพรรณ์นั้น เค้าแค่อยากจะช่วยคนที่ต้องการให้เค้าช่วยก็เท่านั้น
เพราะอย่างนั้นจึงต้องการเป็นนักผจญภัย
อิสุซุที่เห็นความตั้งใจจริงของรูดี้ จึงช่วยประคองมือรูดี้ที่ยังไม่ค่อยมีแรงให้ใช้ปากกาง่ายขึ้น
เมื่อจรดปลายปากกาขนนกลงบนเอกสารสัญญา ก็มีแสงจากน้ำหมึกสว่างขึ้นมา
และทันทีที่ลากเส้นสุดท้ายเสร็จ ก็มีแสงเจิดจ้าพยุงร่างกายของรูดี้ให้ลอยขึ้น
เมื่อเห็นพันธะสัญญาสัมฤทธิ์ผลแล้ว ชิโรเอะก็บอกว่าจากนี้รูดี้จะตายหนึ่งครั้งและก็จะไปกลับมาเกิดอีกครั้งที่โบสถ์
ไกลออกไปที่ปราสาท นักปราชญ์แห่งทะเลสาปได้คอยเฝ้ามองดูเสาแห่งแสงที่เกิดขึ้นจากการทำพันธะสัญญา
ตัดกลับไปทางฝั่งของเรเนเซีย ที่ตอนนี้กำลังดูครัสตี้จัดกระบวนทัพเตรียมรับมือกองทัพของนายพลกอบลิน
ไม่นานนักในช่องเขาก็เริ่มปรากฏทัพไดร์วูฟจำนวนมหาศาล ครัสตี้ที่กำลังรออยู่ก็ให้สัญญาณมือเริ่มโจมตีทันที
แน่นอนว่ากองทัพมดมิอาจสู้กับคชสารได้ หลังจากเริ่มศึกได้แค่เพียงครู่เดียว ฝูงกอบลินผู้โชคร้ายก็โดนจัดการไม่เหลือซาก
โดยมีครัสตี้เป็นคนลาสชอตตัวนายพลที่รอดมาจากซัมมอนฟินิกส์ (เวลาได้เอาขวานหนักๆ จามหัวมอนสเตอร์เนี่ย มันคงสะใจดีเนอะ)
ที่ชายหาด หลังจากหมดศึกใหญ่ มาริเอลที่ไม่เคยเข้าร่วมเรดครั้งใหญ่ๆ แบบนี้ ก็หมดแรงนอนแผ่ให้นาโอสึกุช่วยพัดลมเย็นๆ ให้
(แอบหนีงานมาเที่ยวทะเล แต่ดันต้องเหนื่อยกว่าเดิมอีก อิอิ)
หลังจากที่ส่งรูดี้ไปเกิดใหม่แล้ว มิโนริก็เดินเข้ามาถามชิโรเอะที่กำลังนั่งอยู่ริมแม่น้ำว่าทำไมถึงพูดกับรูดี้เรื่องนักผจญภัยกับรูดี้
ชิโรเอะก็ตอบง่ายๆ ว่า ตอนที่ยังเป็นเกมส์อยู่คำนี้ก็คงใช้กับผู้เล่นด้วยกันเท่านั้น
แต่ตอนนี้เค้าอยากใช้คำนี้กับทุกๆ คนที่พร้อมจะออกไปผจญภัยตามหาทิวทัศน์ยามรุ่งอรุณที่ไม่มีใครเคยเห็นกับตัวเค้า
มิโนริก็ตอบรับด้วยใบหน้าที่บอกไม่ถูกว่าเข้าใจที่ชิโรเอะพูดรึเปล่า โดยมีอาคัทสึกิคอยดูอยู่ห่างๆ
กลับไปที่เมืองอากิบะ รูดี้ฟื้นขึ้นมาในโบสถ์ พอเปิดหน้าต่างสเตตัสก็เห็นว่าตอนนี้ตัวเองมีซับคลาสนักผจญภัยแล้ว
โดยซับคลาสนักผจญภัยก็จะมีความสามารถเหมือนกับนักผจญภัยทุกอย่าง เช่น เกิดใหม่ที่โบสถ์ เฟรนด์ลิสท์ โบนัสค่าประสบการณ์ ฯลฯ
ขณะที่กำลังดีใจอยู่ อิซุสุก็เข้ามาในโบสถ์โดยใช้สกิลคอลล์ออฟโฮม
พอเห็นรูดี้อยู่บนแท่นบูชา ก็เดินจ้ำอ้าวเข้าไปเขกหัวคอมโบทันที ข้อหาที่ทำให้เป็นห่วง
ตอนหน้า งานเต้นรำของสองเรา
เมื่อการต่อสู้จบลง ทั้งอิสเทิรล์และภาคีโต๊ะกลมต่างพร้อมก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยกัน และได้จัดงานเต้นรำเพื่อฉลองความสำเร็จครั้งนี้ขึ้นมา
แต่อาคัทสึกิกลับกำลังกลุ้มใจอยู่คนเดียว
ปล. ต้องการใส่เนื้อหาส่วนที่อนิเมยังไม่เฉลย กรุณาใส่แท็ก Spoil ด้วยนะครับ