เปิดเรื่องด้วยค่ายฝึกหน้าร้อนริมทะเลซึ่งมาริเอลเนียนพักผ่อนตามเคย หารู้ไม่ว่าใต้สมุทรนั้นกองทัพปลามีขาถือหอกเป็นฝูงนับร้อยกำลังว่ายเข้าฝั่ง  



ต่อจากตอนที่แล้วมิโนริเสนอให้ลงดันเจี้ยนตอนบ่าย รุนเดลฮอสไม่เข้าใจและโต้แย้งกลับ ทว่ามิโนริก็ยืนกรานให้หยุดพัก ไม่ยอมเออออเหมือนก่อนอีกต่อไป จนอิซูสุต้องช่วยพูดว่าให้ฟังมิโนริก่อน เพราะเด็กสาวซึ่งมักจะเป็นคนเงียบ ๆ ย่อมไม่ยืนกรานเสียงแข็งแบบนี้หากไม่มีเหตุผลที่ดีจริง ๆ  แล้วมิโนริก็อธิบายเพิ่มว่าที่บอกให้หยุดพักจริง ๆ แล้วคืออยากรู้จักทุกคนให้มากกว่านี้ ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ชอบลุยอยู่ข้างหน้า หรืออยู่ด้านหลัง ทำไมถึงใช้พลังที่ใช้สู้ แล้วมีพลังอะไรอื่นบ้าง เพราะไม่อย่างนั้นก็จะวางแผนไม่ได้  และเริ่มถามว่าทำไมรุนเดลฮอสถึงเลือกใช้พลัง Orb of Lava ซึ่งหนุ่มผมทองก็อธิบายว่าพลังนี้ร่ายแค่สองวิ แถมช่วงหน่วงเวลาแค่ 18 วิด้วย จึงสามารถใช้พลังนี้ได้บ่อยสุดในแต่ละศึก  



โทยะพูดถึงพลังของตนบ้างว่า หน้าที่ซามูไรคือดึงความสนใจ และการฟันศัตรูใช้ได้ในระยะสามเมตรเท่านั้น ซึ่งพลังของซามูไรนั้นไม่ใช่เพื่อสร้างความเสียหาย แต่เพื่อล่อให้ศัตรูนึกว่าถูกโจมตีหนักเท่านั้น ซามูไรมีพลังป้องกันตัวสูงซึ่งก็เหมาะกับหน้าที่แท๊งก์ ด้วยเหตุนี้พอรูดี้โยน Orb of Lava เข้าใส่ พลังยิงไกลเลยไปถึงก่อนระยะดาบสามเมตรของโทยะ กองทัพโครงกระดูกถึงได้พุ่งเข้าใส่รูดี้แทนจนเสียกระบวน ทำเอาสองหนุ่มเถียงกันจะเป็นฝ่ายโจมตี อิซูสุเลยเสนอว่าพลังของเธอชื่อ บทเพลงของคนขลาด น่าจะใช้ได้ และอธิบายว่าเป็นพลังสนับสนุนที่ลดพลังคู่ต่อสู้ที่ไม่ใช่คลาสต่อสู้ได้แบบต่อเนื่อง ซึ่งแม้เจ้าตัวจะรู้สึกว่าพลังนี้ไม่มีประโยชน์อะไรมากเพราะไม่ใช่พลังโจมตี (ก็เธออยู่สายสนับสนุนนี่นา) แต่ทุกคนฟังแล้วทึ่งกันหมด ทำเอารูดี้หันไปขอโทษมิโนริที่ตอนแรกวู่วามและขึ้นเสียงใส่ แต่มิโนริก็ยิ้มและตอบว่าเธอเองก็ไม่รู้เรื่องนี้เหมือนกันนั่นแหละ แล้วก็ถามถึงพลังของหนุ่มผมทองว่ามีอะไรอีกบ้าง


ในที่สุดทุกคนก็พร้อมลงดันเจี้ยน หนนี้มีการซุ่มซ่อนตัวมิดชิดดูลาดเลา วางแผนและวางตำแหน่งของทุกคนอย่างดี หลังจากที่เมื่อวานนั่งพูดคุยและวางแผนกันทั้งวันแล้ว ทั้ง Formation (รูปกระบวนทัพ) Operator (คนเช็คสเตตัสเพื่อน ๆ) Field Monitor (คนตรวจสอบสมรภูมิ) และ Patrol File (ลาดตระเวณ)  Formation คือ แท๊งก์ก็คือซามูไรโทยะจะทำหน้าที่ดึงความสนใจศัตรู จากนั้นคนอื่น ๆ ค่อยเข้าไปจัดการศัตรูทีละตัว ซึ่งรูดี้ก็เปลี่ยนมาใช้พลัง Lighting Chamber (ห้องสายฟ้า) เพื่อจัดการศัตรูแทน





ต่อมา Operator คือคนที่คอยเช็คสเตตัสเพื่อน ๆ ว่ายังโอเคอยู่ไม๊ ในเมื่อมีฮีลสองคน และเพื่อไม่ให้ใช้พลังชนกันเสียเปล่า เลยยกให้เซราระรับหน้าที่เช็คและฮีลไปคนเดียวพอ  ซึ่งเซราระก็ฮีลให้โทยะที่ได้ทำหน้าที่แท๊งก์เต็มตัวตามที่สัญญากับนาโอสึงุได้สักที
ส่วนมิโนริรับหน้าที่ Field Monitor คอยตรวจสอบรอบด้านเผื่อมีศัตรูมาเพิ่ม เพื่อให้คนอื่นพุ่งสมาธิกับการต่อสู้ตรงหน้าได้เต็มที่



เมื่อชัวร์แล้วว่าโทยะสกัดแก๊งโครงกระดูกได้ อิซูสุก็ใช้พลังสนับสนุน Resonance Beam หยุดการเคลื่อนไหวของศัตรู แล้วรูดี้ก็งัด Orb of Lava ออกมาสอยศัตรูต่อเนื่องตายหมดในลูกเดียว แล้วซ้ำด้วย Frigid Wind (สายลมเยือกแข็ง) ซึ่งแช่แข็งและสลายร่างศัตรูไปหมดในพริบตา



สุดท้าย Patrol file คือการลาดตระเวณเป็นกระบวนและตรวจสอบสมรภูมิรอบด้าน โดยที่ทุกคนหันมองรอบทิศเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีศัตรูตลบหลัง ขณะที่ฮีลเลอร์กับคนโจมตีพร้อมทำหน้าที่ เมื่อทุกคนเคลื่อนไปจนแน่ใจว่าไม่มีศัตรูแล้ว ต่างก็โห่ร้องด้วยความดีใจที่การลงดันเจี้ยนนี้สำเร็จลงจนได้

ในที่สุดมิโนริก็เข้าใจแล้วว่า การจะทำงานเป็นทีมนั้นต้องพูดจากัน ทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นความรู้ที่ไม่มีสอนไว้ เป็นสิ่งที่ต้องลงมือทำด้วยตนเอง และเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ปาร์ตี้กลายเป็นเพื่อนกันได้  มิโนริคิดขณะมองเพื่อน ๆ ทุกคนกำลังหัวเราะอย่างมีความสุข



ตัดไปทางปราสาทน้ำแข็งที่เหล่านักผจญภัยอยู่กันบ้าง เฮนเรียตต้าขอบคุณชิโรเอะสำหรับกระดาษ เพราะการเขียนบนวัสดุเขียนของโลกนี้ยากสำหรับเธอ แต่ชิโรเอะบอกว่าเอากระดาษไปเท่าที่ต้องการเลย ส่วนหมึกนี่เขายังทำได้ไม่เท่าที่พอใจนัก และให้เหตุผลว่าตอนเป็นเกมนั้นบางทีก็มีเควสต์ที่ต้องใช้แผนที่หรือเอกสาร แล้วยิ่งเป็นเอกสารเลเวลสูงก็ยิ่งต้องใช้กระดาษกับหมึกเลเวลสูง ชิโรเอะเลยพยายามเพิ่มเวลด้วยการลอกแผนที่จากกระดาษปาปิรุสกับเปลือกไม้ ซึ่งก็เพราะเป็นแผนที่ที่จะใช้ด้วย





เฮนเรียตต้าเห็นสีหน้าอิดโรยของหนุ่มแว่นก็ทักว่าการลอกแผนที่นี้คงยากน่าดู แต่พอชิโรเอะแก้ตัวว่าเหนื่อยเพราะการเต้นมากกว่า เฮนเรียตต้าก็เสนอให้ซ้อมด้วยกันคราวหน้าจะได้ไม่เหนื่อยอีก ถ้าอยากซ้อมเต้นเมื่อไหร่ก็บอกนะ (กริ๊ดดดด หันมาเชียร์เจ๊แว่นเข้าฮาเร็มเพิ่มอีกคนได้ไม๊เนี่ย ชิโรเอะหน้าแดงอ่ะ)



ชิโรเอะเมื่อถูกทักก็เริ่มทบทวนตัวเองว่าเขาเปลืองสมองไปคิดเรื่องนั้นมากเกินไปแล้วสินะ แล้วก็แอบแง้มดูเอกสารที่ริกันให้มาจากตอนที่แล้ว และทำให้เขากับอาคัทสึกิคิดมากเรื่องที่ว่า ถ้าตายแล้วจะสูญเสียความทรงจำ พอหนุ่มแว่นกังวลว่ายังมีสิ่งที่ยังไม่รู้เกี่ยวกับโลกนี้อีกมากก็เริ่มกังวลว่าต่อไปจะทำยังไงยังไม่รู้เลย แต่แล้วก็ได้ยินเสียงเรียกทางโทรจิตจากมิโนริ



มิโนริโทรมารายงานอาจารย์แว่นถึงผลการลงดันเจี้ยน ชิโรเอะฟังแค่เสียงก็รู้เลยว่าสำเร็จอย่างงดงาม ยิ่งได้ยินว่ากลุ่มมิโนริจัดการศึกค่อนข้างยากได้ก็ยิ่งดีใจ ก่อนจะฟังไปหัวเราะไป พอวางสายไปแล้ว ชายหนุ่มก็รู้ตัวว่าถึงกังวลกับอนาคตข้างหน้าและเรื่องที่ไม่รู้ไปก็ไม่ได้อะไร ความสดใสแบบมิโนริต่างหากที่ทำให้ก้าวไปข้างหน้าได้ แล้วก็ตั้งใจมั่นที่จะทำเรื่องที่อยู่ตรงหน้าไปทีละอย่าง เพื่อก้าวต่อไป








(ตอนนี้เกิดนึกอยากเชียร์รูทฮาเร็มขึ้นมาซะงั้น เจ๊แว่นไว้ช่วยวางแผน อาคัทสึกิอยู่หน่วยสอดแนม มิโนริคอยเยียวยาจิตใจ โอ๊วว แหล่มมม)

เจ้าหญิงเรเนเซียที่ดื่มชากับครัสตี้โดยมีเมดคอยรับใช้อยู่ใกล้ ๆ ก็แอบกระซิบกับครัสตี้โดยใช้ผ้าปิดปากว่าเชิญมาดื่มชาแบบเป็นทางการแบบนี้มันยุ่งยากน่าเบื่อ แต่พอครัสตี้แอบประชดว่าเจ้าหญิงคงอยากให้คนที่เจ้าระเบียบกว่านี้มาเชิญสินะ ก็ทำเอาสตรีสูงศักดิ์สะอึก ดังนั้นพอแว่นเกราะถามว่าพรุ่งนี้จะเชิญอีกได้ไหม เจ้าหญิงเลยตอบอ้อมแอ้มด้วยใบหน้าแดง ๆ ว่าเชิญทำตามใจเถอะ (เจ้าหญิงโดนปั่นหัวอีกแล้วววว)




สามสาวตี้เด็กใหม่ใส่ชุดว่ายน้ำไปล้างตัวกัน แล้วก็พูดถึงรูดี้ อีกสองสาวนึกว่าอิซูสุเข้ากันดีกับหนุ่มผมทอง แต่สาวนักดนตรีกลับบอกว่าเขาก็หน้าหล่อดีแต่ไม่ทำให้เธอใจเต้นเลย


คืนนั้นอิซูสุก็เล่นดนตรีโดยมีรูดี้นั่งฟัง หลังจากทั้งคู่พูดกันได้สักพักอิซูสุก็พยายามกลั้นหัวเราะ เมื่อรู้ว่าเธอมองรูดี้เหมือนน้องหมาโกลเด้นนี่เอง ถึงได้ไม่รู้สึกใจเต้นด้วยเลยสักติ๊ด พอคิดว่าจะติดต่อหลังค่ายนี้จบลง อิซูสุเลยจะลากชื่อรูดี้เข้าเฟรนด์ลิสต์แต่กลับพบว่าไม่อาจทำได้! (งานนี้ท่าจะเตรียมมีดราม่าแหงแซะ)





ซาฮัวกิน ปีศาจปลามีขา พุ่งทะยานขึ้นบกนับพันตัว แม้จะเลเวลแค่ราว 20-30 แต่มากันเป็นกองทัพเช่นนั้น จึงสร้างความแตกตื่นตกใจให้บรรดาเด็กใหม่ที่มาเข้าค่ายยิ่งนัก แม้แต่ผู้เล่นรุ่นพี่เองก็ยังไม่เคยเห็น และรีบสั่งให้เด็ก ๆ ถอยกลับเข้าป่าไปขณะที่พุ่งเข้าต่อสู้ทัพปลาฝูงใหญ่ทันที มาริเอลที่เจอหอกพุ่งเข้าใส่ตกใจจนล้ม ก่อนที่ซามูไรหนุ่มน้อยจะรีบเข้ามาช่วยต้านและบอกให้หัวหน้ากิลด์ของตนถอยไปดูแลเด็ก ๆ ในป่าทันที มาริเอลตั้งท่าจะแย้ง แต่โชริวก็สวนกลับว่า "ผมคือแม่ทัพของกิลด์จันทร์เสี้ยวนะ ช่วยทำตามที่ผมบอกเดี๋ยวนี้!"  หญิงสาวผมทองจึงยอมทำตามแต่โดยดี ขณะที่ในใจสับสนวุ่นวายว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่











ตอนหน้า: การกลับมาของราชากอบลิน
ทัพใหญ่ของเหล่าอมนุษย์เข้าจู่โจมแล้ว ทว่าคนของแผ่นดินกับนักผจญภัยยังไม่อาจละวางตัวตนเพื่อร่วมมือกันได้ อีกด้านพวกโทยะก็ต้องลุยเช่นกัน

.
.
.
เป็นตอนที่เฉลี่ยบทให้สาว ๆ ได้ออกกันทุกคน ดีจังแฮะ
ปล. ต้องการใส่เนื้อหาส่วนที่อนิเมยังไม่เฉลย กรุณาใส่แท็ก Spoil ด้วยนะคะ