′หมอวรงค์′ แฉ รมว.พาณิชย์ ทำจีทูจีลวงโลก
′หมอวรงค์′ แฉ รมว.พาณิชย์ ทำจีทูจีลวงโลก ล้มสัญญาเพราะกลัวติดคุก ปูดเครือข่ายม่วงสามสิบ อุบล เอี่ยวข้าวเหนียวหาย บี้ รัฐ แยกแยะคุณภาพข้าว เร่งระบายจ่ายเงินชาวนา แนะ โรงสีพันแห่ง ปล่อยกู้รัฐพันล้าน
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ เวลา 10.40 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก ปชป. กล่าวถึงกรณีที่นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฏิบัตหน้าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยอมรับบริษัทจีนในเครือเป่ยต้าหวงล้มสัญญาซื้อข้าวรัฐบาลไทย ว่า เป็นการซื้อขายแบบหน้าคลังโดยไม่มีสัญญาจริง แต่เป็นเครือข่ายที่มาทำเหมือนกับสยามอินดิก้า เป็นเครือข่ายม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี เพราะการซื้อขายหน้าคลังแบบจีทูจีไม่มีประเทศไหนในโลกเขาทำกัน นอกจากรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จนกระทั่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกมาชี้มูลเรื่องจีทูจีเก๊ก็เลยทำให้เกิดความกลัวว่าจะติดคุกที่นำจีทูจีปลอมมาอ้างเป็นความผิดซ้ำซาก ตนจึงขอย้ำว่าสัญญาดังกล่าวไม่มีจริงจึงล้มเพราะกลัวติดคุก ทั้งนี้เห็นว่าถึงเวลาที่รัฐบาลต้องพูดความจริงแทนคำโกหก
นพ.วรงค์ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีข้าวเหนียวจากโรงสีอุดรประเสริฐผล ที่ส่งโรงสีโชควรลักษณ์ และโรงสีสิงห์โตทอง โดยในส่วนที่สูญหายคือข้าวที่ต้องส่งให้โรงสีโชควรลักษณ์ จำนวน 3.4 ล้านตัน หายไปในระหว่างการขนส่งระหว่างวันที่ 5 มีนาคม 56 เหตุการณ์เกิดนานแล้วเหตุใดจึงเพิ่งมีการแจ้งว่าสูญหาย ทั้งนี้ข้าวเหนียวดังกล่าวให้บรรจุถุงขาย 1.8 ล้านตัน ทยอยขายเดือนละ 3 แสนตัน นับตั้งแต่เดือนมกราคม 56 เป็นต้นไป ดังนั้นการขนย้ายเดือนมีนาคม56 และเป็นสัญญาที่เซ็นในเดือนกุมภาพันธ์56 แต่จากการตรวจสอบพบว่ามีการทำข้าวเหนียวถุงจริงเพียง 10% นอกนั้นมีแต่กระดาษเท่านั้น ทำให้เกิดไฟลนก้นเพราะประชาธิปัตย์ยื่นร้องต่อ ป.ป.ช. ช่วงที่ผ่านมาจึงพยายามหาแพะปัดความรับผิดชอบจากฝ่ายการเมืองและข้าราชการระดับสูงให้หลุดจากการทุจริตข้าวถุง โดยอ้างว่าข้าวหายเพื่อหาแพะมารับผิดชอบแทนในระหว่างที่ ป.ป.ช.กำลังตรวจสอบ
นพ.วรงค์ กล่าวด้วยว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเห็นใจชาวนา เร่งหาเงินมาจ่ายให้กับชาวนา เพราะเป็นรัฐบาลรักษาการมีอำนาจจำกัด ขณะนี้ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์แจวเรือหนี มีการทำหนังสือของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ถึง รัฐมนตรีพาณิชย์ให้ รัฐมนตรีคลังยืนยันว่าจะเดินหน้าหรือชะลอกู้เงิน เพราะหมิ่นเหม่ต่อการขัดรัฐธรรมนูญ แต่รัฐมนตรีพาณิชย์ ยืนยันเดินหน้า ทั้งที่เป็นรัฐบาลรักษาการ ดังนั้นชาวนาจึงไม่มีทางได้เงิน เพราะรัฐบาลต้องขายข้าวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ถ้ามีรัฐบาลใหม่เข้ามาจะแก้ปัญหาให้ชาวนาได้ ซึ่งการขายข้าว รัฐบาลต้องกล้ายอมรับความจริงว่าข้าวในโกดัง 17 ล้านตัน มีปัญหา ข้าวเสื่อมสภาพ ข้าวเน่า สต๊อคลม ดังนั้นต้องแยกสินทรัพย์คุณภาพดีและเสื่อมสภาพ เพื่อให้เกิดความมั่นใจวงการค้า ทำให้มีประสิทธิภาพในการขายให้ได้เงินมาชำระหนี้ชาวนาได้ง่ายมากขึ้น นอกจากนี้ขอเสนอแนะให้โรงสีปล่อยกู้ให้รัฐบาล 1,000 แห่ง แห่งละ100 ล้าน รวม 1 พันล้านบาท และคนแดนไกลและรัฐบาลให้กู้อีก 3 หมื่นล้านบาท ก็จะทำให้รัฐบาลได้เงินมาจ่ายชาวนา เพราะคนเหล่านี้ได้ประโยชน์จากโครงการจำนำข้าวบนความทุกข์ยากของชาวนามานานแล้ว และขอให้รัฐบาลเร่งหามาตรการรองรับข้าวนาปรับที่จะมาถึงในวันที่ 1 มี.ค.นี้ ซึ่งรัฐบาลมีเวลาเหลือแค่ 3 สัปดาห์ ที่ต้องเร่งแก้ปัญหานี้และบอกให้ชัดว่าข้าวนาปรังจะเข้าโครงการจำนำข้าวหรือไม่
มติชิน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1391579589&grpid=&catid=01&subcatid=0100
G2G ลวงโลก เอาหลักฐานไปยื่นปปช.หรือยัง
′หมอวรงค์′ แฉ รมว.พาณิชย์ ทำจีทูจีลวงโลก ล้มสัญญาเพราะกลัวติดคุก ปูดเครือข่ายม่วงสามสิบ อุบล เอี่ยวข้าวเหนียวหาย บี้ รัฐ แยกแยะคุณภาพข้าว เร่งระบายจ่ายเงินชาวนา แนะ โรงสีพันแห่ง ปล่อยกู้รัฐพันล้าน
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ เวลา 10.40 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก ปชป. กล่าวถึงกรณีที่นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฏิบัตหน้าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยอมรับบริษัทจีนในเครือเป่ยต้าหวงล้มสัญญาซื้อข้าวรัฐบาลไทย ว่า เป็นการซื้อขายแบบหน้าคลังโดยไม่มีสัญญาจริง แต่เป็นเครือข่ายที่มาทำเหมือนกับสยามอินดิก้า เป็นเครือข่ายม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี เพราะการซื้อขายหน้าคลังแบบจีทูจีไม่มีประเทศไหนในโลกเขาทำกัน นอกจากรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จนกระทั่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกมาชี้มูลเรื่องจีทูจีเก๊ก็เลยทำให้เกิดความกลัวว่าจะติดคุกที่นำจีทูจีปลอมมาอ้างเป็นความผิดซ้ำซาก ตนจึงขอย้ำว่าสัญญาดังกล่าวไม่มีจริงจึงล้มเพราะกลัวติดคุก ทั้งนี้เห็นว่าถึงเวลาที่รัฐบาลต้องพูดความจริงแทนคำโกหก
นพ.วรงค์ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีข้าวเหนียวจากโรงสีอุดรประเสริฐผล ที่ส่งโรงสีโชควรลักษณ์ และโรงสีสิงห์โตทอง โดยในส่วนที่สูญหายคือข้าวที่ต้องส่งให้โรงสีโชควรลักษณ์ จำนวน 3.4 ล้านตัน หายไปในระหว่างการขนส่งระหว่างวันที่ 5 มีนาคม 56 เหตุการณ์เกิดนานแล้วเหตุใดจึงเพิ่งมีการแจ้งว่าสูญหาย ทั้งนี้ข้าวเหนียวดังกล่าวให้บรรจุถุงขาย 1.8 ล้านตัน ทยอยขายเดือนละ 3 แสนตัน นับตั้งแต่เดือนมกราคม 56 เป็นต้นไป ดังนั้นการขนย้ายเดือนมีนาคม56 และเป็นสัญญาที่เซ็นในเดือนกุมภาพันธ์56 แต่จากการตรวจสอบพบว่ามีการทำข้าวเหนียวถุงจริงเพียง 10% นอกนั้นมีแต่กระดาษเท่านั้น ทำให้เกิดไฟลนก้นเพราะประชาธิปัตย์ยื่นร้องต่อ ป.ป.ช. ช่วงที่ผ่านมาจึงพยายามหาแพะปัดความรับผิดชอบจากฝ่ายการเมืองและข้าราชการระดับสูงให้หลุดจากการทุจริตข้าวถุง โดยอ้างว่าข้าวหายเพื่อหาแพะมารับผิดชอบแทนในระหว่างที่ ป.ป.ช.กำลังตรวจสอบ
นพ.วรงค์ กล่าวด้วยว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเห็นใจชาวนา เร่งหาเงินมาจ่ายให้กับชาวนา เพราะเป็นรัฐบาลรักษาการมีอำนาจจำกัด ขณะนี้ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์แจวเรือหนี มีการทำหนังสือของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ถึง รัฐมนตรีพาณิชย์ให้ รัฐมนตรีคลังยืนยันว่าจะเดินหน้าหรือชะลอกู้เงิน เพราะหมิ่นเหม่ต่อการขัดรัฐธรรมนูญ แต่รัฐมนตรีพาณิชย์ ยืนยันเดินหน้า ทั้งที่เป็นรัฐบาลรักษาการ ดังนั้นชาวนาจึงไม่มีทางได้เงิน เพราะรัฐบาลต้องขายข้าวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ถ้ามีรัฐบาลใหม่เข้ามาจะแก้ปัญหาให้ชาวนาได้ ซึ่งการขายข้าว รัฐบาลต้องกล้ายอมรับความจริงว่าข้าวในโกดัง 17 ล้านตัน มีปัญหา ข้าวเสื่อมสภาพ ข้าวเน่า สต๊อคลม ดังนั้นต้องแยกสินทรัพย์คุณภาพดีและเสื่อมสภาพ เพื่อให้เกิดความมั่นใจวงการค้า ทำให้มีประสิทธิภาพในการขายให้ได้เงินมาชำระหนี้ชาวนาได้ง่ายมากขึ้น นอกจากนี้ขอเสนอแนะให้โรงสีปล่อยกู้ให้รัฐบาล 1,000 แห่ง แห่งละ100 ล้าน รวม 1 พันล้านบาท และคนแดนไกลและรัฐบาลให้กู้อีก 3 หมื่นล้านบาท ก็จะทำให้รัฐบาลได้เงินมาจ่ายชาวนา เพราะคนเหล่านี้ได้ประโยชน์จากโครงการจำนำข้าวบนความทุกข์ยากของชาวนามานานแล้ว และขอให้รัฐบาลเร่งหามาตรการรองรับข้าวนาปรับที่จะมาถึงในวันที่ 1 มี.ค.นี้ ซึ่งรัฐบาลมีเวลาเหลือแค่ 3 สัปดาห์ ที่ต้องเร่งแก้ปัญหานี้และบอกให้ชัดว่าข้าวนาปรังจะเข้าโครงการจำนำข้าวหรือไม่
มติชิน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1391579589&grpid=&catid=01&subcatid=0100