"หมอวรงค์" จวกยับ 7 ประเด็น จับโกหก"

นพ.วรงค์ เดชวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัว กล่าวถึงกรณีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์. อดีต รมว.พาณิชย์ ที่ออกมาแก้ตัวโครงการรับจำนำข้าว แบบจีทูจี หลังจากเงียบหายและไม่สามารถชี้แจงได้ร่วมสามปี ทั้งนี้ยังออกมาปกป้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และชี้แจงข้อกล่าวหาจีทูจีของตนเอง หลังจากที่ไม่สามารถชี้แจงใดๆได้เลยร่วมสามปี โดยได้ตั้งข้อสังเกตถึงข้ออ้างของนายบุญทรงไว้จำนวน 7 ประเด็นได้แก่
          1. นายบุญทรงกล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้ปล่อยปละละเลย เพราะมีอนุกรรมการ 2ชุด คืออนุกรรมการกำกับดูแลการรับจำนำข้าวและอนุกรรมการระบายข้าว เป็นผู้รับผิดชอบต่อสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น นายบุญทรงไม่รู้เลยหรือว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ และปล่อยให้อนุกรรมการเหล่านี้ดำเนินโครงการจนชาติเสียหายอย่างใหญ่หลวง ปล่อยให้มีการทุจริตการระบายข้าว ข้าวหาย นำข้าวเสื่อม ข้าวเน่า นั่งร้าน มาอยู่ในโกดัง คนของรัฐบาลก็พยายามบอกว่าข้าวปกติ อยู่ครบหรือแม้แต่การทุจริตการระบายข้าวแบบจีทูจี ตัวนายบุญทรงเองยังมาเถียงเลยว่า การระบายดังกล่าวคนอื่นก็เคยทำ ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าทุจริต แต่พยายามแก้ตัว อย่างนี้ยังไม่ถือว่าคุณยิ่งลักษณ์ปล่อยปละละเลย หรือจะให้ว่าอย่างไร
          นพ.วรงค์กล่าวต่อว่า ประเด็นที่ 2. และ 3 สามสอดคล้องกัน คือพยายามชี้ให้เห็นว่า GSSG และ Hainan เป็นรัฐวิสาหกิจของมณฑลโดยรัฐบาลจีนถือหุ้น 100% จึงถือเป็นรัฐ และอ้างว่าได้ทำสัญญาแบบจีทูจี ตามแนวที่เคยปฏิบัตินี้หลายครั้ง โดยเชื่อมโยงบริษัททำนองเดียวกัน ทำสัญญาจีทูจี ซื้อมันสำปะหลังสมัยท่านอภิสิทธิ์ และซื้อยางสมัยท่านประยุทธ์ แต่ป.ป.ช.กลับไม่ชี้มูล
          “ผมคิดว่าคุณบุญทรงจับแพะมาชนกับแกะ เรื่องมันสำปะหลังหรือยางพารา มาเทียบกับข้าวไม่ได้ ผมได้แสดงหลักฐานหนังสือจากCOFCO เพื่อยืนยันว่าการ การซื้อข้าวในนามรัฐของจีนต้องทำในนาม COFCO เท่านั้น แค่นี้ก็ยืนยันชัดเจนแล้วว่า สิ่งที่นายบุญทรง กล่าวมาทั้งหมดนั้นไม่ถูกต้อง และการที่คุณยิ่งลักษณ์ ออกมาปกป้องคุณบุญทรง อ้างว่าได้เห็นสัญญาจีทูจี คุณยิ่งลักษณ์ไม่เพียงแต่ปล่อยปละละเลยเท่านั้น แต่ถือว่ารู้เห็นเป็นใจด้วย” นพ วรงค์กล่าว
          อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงประเด็นที่ 4 ว่านายบุญทรงพูดถึงการเปิด LC ในการชำระเงินค่าข้าวว่า มีระเบียบของกระทรวงพาณิชย์ในการชำระเงิน และบอกว่าผู้ซื้อข้าวเพื่อส่งออกสามารถชำระเงินเป็นเช็ค หรือเงินสดก็ได้ ตนคิดว่านายบุญทรงพูดถูกว่าผู้ซื้อข้าวเพื่อส่งออก สามารถชำระเงินเป็นเช็คหรือเงินสดก็ได้ แต่นายบุญทรงทำไมไม่พูดว่า การซื้อขายระหว่างประเทศ รวมทั้งจีทูจี เขาต้องชำระด้วย LCเท่านั้น
          นพ.วรงค์กล่าวต่อถึงประเด็นที่ 5 ว่า นายบุญทรงพูดถึง ข้อโจมตีที่ว่ารัฐบาลระบายข้าว ในราคาที่ต่ำกว่าทุนทำให้ประเทศขาดทุนนั้น เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่ถูกต้อง เพราะในความเป็นจริง ข้าวเป็นสินค้าที่เสื่อมสภาพตลอดเวลา ทำให้ขายได้ในราคาที่ต่ำกว่าราคาที่รับจำนำ ข้อนี้นายบุญทรงพูดถูก แต่ไม่ตรงประเด็น เพราะประเด็นสำคัญที่จับได้ เป็นการขายข้าวราคาถูกให้แก่บริษัทที่ใกล้ชิด โดยหลีกเลี่ยงการประมูล โดยอ้างว่าเป็นการขายจีทูจี นายบุญทรงจะอธิบายอย่างไร ที่สำคัญนายไม่บุญทรงไม่พูดถึง ข้าวที่ระบายออกในนามจีทูจีกับจีน กลับวนอยู่ในประเทศไม่ส่งออกไปจีน นายบุญทรงจะอธิบายอย่างไร
          อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงประเด็นที่ 6 ว่านายบุญทรงกล่าวถึงข้าวหาย ข้าวเสื่อม โดยอ้างว่าความเสียหายใดๆ เกิดขึ้นรัฐบาลก็สามารถเรียกร้องเอาจากผู้รับฝากเก็บหรือจากธนาคารผู้ค้ำประกันได้จะเห็นว่าโดยหลักการนั้นดี แต่ข้อนี้ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ปล่อยปละละเลย เพราะที่ผ่านมาจะเห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่เคยฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายใดๆ ปล่อยให้รัฐมนตรี มากล่าวตลอดว่าข้าวครบ ข้าวดีไม่มีเสีย โดยไม่ใส่ใจที่จะตรวจสอบอย่างจริงจัง จนกระทั่งถูกตีแผ่ ว่าข้าวเน่า ข้าวเสื่อม หรือข้าวหายโดย มล.ปนัดดา ดิศศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและอดีตประธานอนุกรรมการตรวจสอบข้าวคงเหลือของรัฐ
          นพ.วรงค์กล่าวว่าประเด็นที่ 7 ความพยายามกล่าวย้ำว่าจีทูจีเป็นของจริง รวมทั้งการชำระเงินด้วยเช็ค เป็นระเบียบปฏิบัติของกระทรวงพาณิชย์ พร้อมทั้งพูดถึงมาตรา44 เกี่ยวกับเรื่องข้าว ที่คุ้มครองเจ้าหน้าที่ว่า เป็นการทำลายทางการเมืองน.ส.ยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทย ตนเรื่องนี้ก็วนเวียนซ้ำซาก ทั้งจีทูจี รวมทั้งการชำระเงิน ซึ่งได้อธิบายในข้อก่อนหน้าแล้ว ที่เลวร้ายก็คือข้าวเหล่านั้นที่อ้างว่าขายจีทูจีก็ไม่ได้ส่งออกไปจีน แต่กลับเวียนเทียนอยู่ภายในประเทศ ไม่พูดถึงการรับข้าวที่หน้าคลัง ซึ่งไม่เคยมีรัฐบาลไหนปฏิบัติในการซื้อแบบจีทูจี ไม่พูดถึงตัวแทนที่มีอำนาจซึ่งเป็นผู้ช่วยส.ส.ของพรรคเพื่อไทย
          “ส่วนมาตรา44 ผมดูแล้วไม่เกี่ยวข้องกับ คุณบุญทรงและคุณยิ่งลักษณ์หรอก เพราะการสอบนักการเมือง เขาให้เวลาและโอกาสเต็มที่ ส่วนเอกชนที่ร่วมกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ทุจริต ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีเอกชน ถูกดำเนินคดีพร้อมกันจำนวนมาก ถ้าให้เวลาสอบเหมือนคุณยิ่งลักษณ์ คดีเรียกค่าเสียหาย กว่าจะสอบเสร็จ จะหมดอายุความแน่นอน เพราะเอกชนอายุความแค่หนึ่งปี ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐอายุความสองปี ดังนั้นมาตรา 44จึงให้เจ้าหน้าที่ทำงานด้วยความสบายใจ เพื่อเร่งรวบรวมหลักฐาน ส่งฟ้องค่าเสียหายกลุ่มเอกชน ที่ร่วมโกงให้ทันอายุความ ไม่เกี่ยวกับคดีคุณบุญทรง หรือคุณยิ่งลักษณ์เลย ผมคิดว่าการที่รัฐบาลเร่งฟ้อง กลุ่มเอกชนที่ร่วมโกงให้ทันอายุความ รับรองว่าได้ใจประชาชน” นพ.วรงค์กล่าว

          ที่มา: http://www.siamrath.co.th
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่