คือจะบอกว่าก่อนเลือกตั้งเราคนที่เห็นด้วยกับ สปป. ถูก
ยัดเยียด ความเป็นสีตรงข้าม เป็นศัตรูกับ กปปส.
แต่มาวันนี้หลังเลือกตั้ง ที่ต่อให้กลุ่มคนที่ร่วมกับพรรคการเมืองบางพรรคบอยคอท การเลือกตั้ง แต่ก็ยังมีผู้ไปใช้สิทธิ์ 45% ซึ่งก็มากพอที่จะทำให้การเลือกในระบอบประชาธิปไตยเดินหน้าต่อไปได้เพราะหน่วยที่ต้องเลือกตั้งซ่อมมีน้อยและมีเวลาจัดการถึง 180 วันให้ครบ 100% ดังนั้น ผมยังขอประกาศจุดยืนชัดเจนว่า
ที่ผม Vote No นั้นไม่ได้หมายความว่าผมเข้าข้าง กปปส แต่อย่างใด และอย่าพยายามดึง Vote No มารวมเพื่อสร้างความชอบธรรมซึ่งไม่มีอยู่แล้ว
และยังคงเชื่อมั่นว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะลุล่วงไปได้ไม่โมฆะแน่นอนเพราะ พื้นที่เลือกตั้งซ่อมมีน้อยและยังมีเวลานานถึง 180 วัน
และถึงจะมีอำนาจใดมาทำให้โมฆะ ประชาชนส่วนใหญ่ก็ไม่ยอมรับอำนาจนอกระบบอยู่ดี ดังนั้น
อย่ามาซี๊ซั๊วดึง Vote No เป็นกปปส. เด็ดขาด เพราะในสายตาเราพวก กปปส. คือ สิ่งที่เป็นภัยคุกคามต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนและความปลอดภัย เพราะตั้งแต่ กปปส. ปิด กทม. เราไม่ได้รู้สึกถึงความปลอดภัยในการแสดงออกทางความคิดเห็นหรือแม้กระทั่งการเดินทางไปใช้สิทธิเลย
ทั้งนี้ยังมีความเห็นเช่นเดิมว่า กปปส. ได้พลาดโอกาศที่จะปฎิรูปอย่างถูกต้องชอบธรรมไปแล้วเพียงเพราะความไม่ศรัทธาใน
คนเท่ากัน และระบอบประชาธิปไตย
และฝ่ายรัฐบาลก็ยังไม่สามารถบรรเทาความกังวลของประชาชนที่กลัวอันตรายจากการไปใช้สิทธิได้
ขอประณาม กปปส ที่เอา vote no ไปเป็นตัวเลขเลือกข้าง
แต่มาวันนี้หลังเลือกตั้ง ที่ต่อให้กลุ่มคนที่ร่วมกับพรรคการเมืองบางพรรคบอยคอท การเลือกตั้ง แต่ก็ยังมีผู้ไปใช้สิทธิ์ 45% ซึ่งก็มากพอที่จะทำให้การเลือกในระบอบประชาธิปไตยเดินหน้าต่อไปได้เพราะหน่วยที่ต้องเลือกตั้งซ่อมมีน้อยและมีเวลาจัดการถึง 180 วันให้ครบ 100% ดังนั้น ผมยังขอประกาศจุดยืนชัดเจนว่า
ที่ผม Vote No นั้นไม่ได้หมายความว่าผมเข้าข้าง กปปส แต่อย่างใด และอย่าพยายามดึง Vote No มารวมเพื่อสร้างความชอบธรรมซึ่งไม่มีอยู่แล้ว
และยังคงเชื่อมั่นว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะลุล่วงไปได้ไม่โมฆะแน่นอนเพราะ พื้นที่เลือกตั้งซ่อมมีน้อยและยังมีเวลานานถึง 180 วัน
และถึงจะมีอำนาจใดมาทำให้โมฆะ ประชาชนส่วนใหญ่ก็ไม่ยอมรับอำนาจนอกระบบอยู่ดี ดังนั้นอย่ามาซี๊ซั๊วดึง Vote No เป็นกปปส. เด็ดขาด เพราะในสายตาเราพวก กปปส. คือ สิ่งที่เป็นภัยคุกคามต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนและความปลอดภัย เพราะตั้งแต่ กปปส. ปิด กทม. เราไม่ได้รู้สึกถึงความปลอดภัยในการแสดงออกทางความคิดเห็นหรือแม้กระทั่งการเดินทางไปใช้สิทธิเลย
ทั้งนี้ยังมีความเห็นเช่นเดิมว่า กปปส. ได้พลาดโอกาศที่จะปฎิรูปอย่างถูกต้องชอบธรรมไปแล้วเพียงเพราะความไม่ศรัทธาใน คนเท่ากัน และระบอบประชาธิปไตย
และฝ่ายรัฐบาลก็ยังไม่สามารถบรรเทาความกังวลของประชาชนที่กลัวอันตรายจากการไปใช้สิทธิได้