ผมเป็นลูกค้า Serenade AIS มานานครับ มีเบอร์กับ Operator นี้มาแล้ว 3 เบอร์ยังใช้อยู่ ผมซื้อ iPhone กับที่นี่ 2 เครื่อง คือ iPhone4 กับ iPhone5 รวมทั้ง iPad3 เนื่องจากผมใช้บริการกับทางมา AIS 12 ปี เพราะพบว่ามีปัญหาเวลา internet ผมใช้เกินกว่า 3 GB ความเร็วจะลดลงมากจนอืดกว่าผมใช้ EDGE เสียอีกเพราะความเร็วที่แจ้งว่า 64 Kbps นั้นมาจริงประมาณ 4-5 Kbps เท่านั้น ผมเลยต้องไปดู package เพิ่มเติม
ผมเข้าไปเช็ค package ใหม่เนื่องจากเดิมใช้ package 839 บาท โทร 500 นาที 300 sms 50 mms Internet ไม่จำกัด (ความเร็วสูงสุด 3 GB จากนั้นใช้ความเร็วสูงสุด 64 Kbps ) Wifi ไม่จำกัด
ผมไปเช็ค package ใหม่ พบว่า สำหรับ iPhone 670 บาท โทร 500นาที 300 sms 50 mms Internet ไม่จำกัด (ความเร็วสูงสุด 3 GB จากนั้นใช้ความเร็วสูงสุด 256 Kbps )Wifi ไม่จำกัด
เลยสอบถามทาง Callcenter ไป ซึ่งก็ได้รับคำตอบมาว่า package ใหม่นั้น เฉพาะลูกค้าใหม่ของ AIS ที่ซื้อ iPhone กับ AIS เท่านั้น เลยสอบถามว่าสามารถเปลี่ยนโปรโมชั่นได้หรือไม่ เพราะโทรศัพท์ต่างๆ iPhone หรือ iPad ผมก็ใช้ที่นี่มานาน โปรใหม่นั้นคุ้มค่ามากกว่า แต่ทาง callcenter แจ้งว่าไม่สามารถเปลี่ยนให้ได้ เพราะระบบจะใช้ IMEI ในการลงทะเบียนกับระบบเท่านั้น ผมจึงสอบถามว่าทาง AIS จะดูแลลูกค้าเก่าอย่างไร สำหรับลูกค้าที่มี Brand royalty ขนาดนี้ ซึ่งผมก็ไม่ได้คำตอบอะไรจาก Callcenter
เลยเข้ามาบ่นให้เพื่อนๆฟังครับ เพื่อจะได้รับรู้โดยทั่วกันครับ
เดี๋ยวนี้ AIS สนใจแต่ลูกค้าใหม่ใช่ไหมครับ
ผมเข้าไปเช็ค package ใหม่เนื่องจากเดิมใช้ package 839 บาท โทร 500 นาที 300 sms 50 mms Internet ไม่จำกัด (ความเร็วสูงสุด 3 GB จากนั้นใช้ความเร็วสูงสุด 64 Kbps ) Wifi ไม่จำกัด
ผมไปเช็ค package ใหม่ พบว่า สำหรับ iPhone 670 บาท โทร 500นาที 300 sms 50 mms Internet ไม่จำกัด (ความเร็วสูงสุด 3 GB จากนั้นใช้ความเร็วสูงสุด 256 Kbps )Wifi ไม่จำกัด
เลยสอบถามทาง Callcenter ไป ซึ่งก็ได้รับคำตอบมาว่า package ใหม่นั้น เฉพาะลูกค้าใหม่ของ AIS ที่ซื้อ iPhone กับ AIS เท่านั้น เลยสอบถามว่าสามารถเปลี่ยนโปรโมชั่นได้หรือไม่ เพราะโทรศัพท์ต่างๆ iPhone หรือ iPad ผมก็ใช้ที่นี่มานาน โปรใหม่นั้นคุ้มค่ามากกว่า แต่ทาง callcenter แจ้งว่าไม่สามารถเปลี่ยนให้ได้ เพราะระบบจะใช้ IMEI ในการลงทะเบียนกับระบบเท่านั้น ผมจึงสอบถามว่าทาง AIS จะดูแลลูกค้าเก่าอย่างไร สำหรับลูกค้าที่มี Brand royalty ขนาดนี้ ซึ่งผมก็ไม่ได้คำตอบอะไรจาก Callcenter
เลยเข้ามาบ่นให้เพื่อนๆฟังครับ เพื่อจะได้รับรู้โดยทั่วกันครับ