ความล้มเหลว
“ เล่าเซี่ยงชุน “
ผมเคยเล่าว่า ผมเขียนหนังสือส่งไปลงในวารสารต่าง ๆ เป็นเวลานานมาแล้ว ได้ลงพิมพ์บ้าง
ลงตะกร้าบ้าง ก็ไม่ทุกข์ร้อนอะไร จนวารสารที่ได้ลงพิมพ์ล้มเลิกไปบ้าง เปลี่ยนนโยบายบ้าง
คงเหลือที่ติดต่อกันอยู่ไม่กี่ราย
มีอยู่รายหนึ่งเป็นวารสารที่มีชื่อเสียงมากและแพร่หลายมานานแล้ว ผมไม่กล้าเขียนเรื่องอย่างที่
เคยเขียนส่งไปให้ แต่เขามีหน้าสำหรับผู้อ่าน ที่สนใจอ่านเรื่องของเขา แล้วมีความคิดเห็นอย่างไร
ก็เสนอไปได้ ผมก็ย่อมจะไม่ละโอกาสอันดีนี้ เป็นแน่
ผมเขียนส่งไปก็ได้ลงหลายครั้ง เช่นเรื่องที่เกี่ยวกับความซื่อสัตย์ เรื่องที่เกี่ยวกับสลากกินแบ่ง
หรือเรื่องที่เกี่ยวกับเหรียญสลึง และเรื่องที่เกี่ยวกับความมีน้ำใจ เป็นต้น
คราวนี้ผมอ่านเรื่อง ความล้มเหลว ที่ว่าเราไม่ควรท้อถอยกับความล้มเหลวในบางเรื่อง เพราะ
อาจจะทำให้ประสบความสำเร็จในอีกบางเรื่องก็ได้ ผมก็เกิดความคิดเกี่ยวกับความล้มเหลวของ
ตนเองขึ้นมา จึงรีบเขียนส่งไปให้เมื่อเดือนมกราคม ปีนี้เอง เนื้อเรื่องมีอยู่ว่า
ความล้มเหลว
เมื่อผมอ่านเรื่อง ความล้มเหลวไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ในฉบับที่ แล้ว ก็เห็นว่าเป็นเรื่องทำนองเดียวกับ
ชีวิตของผม คือผมรักการอ่านและการเขียนมาตั้งแต่เด็ก ตั้งใจจะเป็นนักเขียนหรือนักประพันธ์ให้ได้
โดยเริ่มเขียนเรื่องสั้นส่งไปลงพิมพ์ในวารสาร ตั้งแต่อายุ ๑๙ ปี พอถึงคราวเกณฑ์ทหารก็สมัครเข้า
รับราชการ พอเป็นนายสิบ ก็เขียนหนังสือต่อไปใหม่ ผมเขียนอย่างสม่ำเสมอมาจนเกษียณอายุ
ราชการ และเขียนต่อมาจนถึงบัดนี้ แต่ก็ไม่ได้มีชื่อเสียงว่าเป็นนักเขียน ส่งไปที่ไหนก็ได้ลงพิมพ์บ้าง
ไม่ได้ลงบ้าง เหมือนเมื่อเริ่มตันนั้นเอง แต่ชีวิตราชการทหารของผม ก่อนเกษียณอายุ ได้รับยศพันเอก
ซึ่งเป็นคนเดียวในหน่วยของผม ที่เป็นพันเอกโดยไม่ได้สำเร็จปริญญา
แล้วก็ใส่นามปากกา “เล่าเซี่ยงชุน” ที่ผมใช้อยู่เป็นประจำในการเขียนเรื่องจีน โดยมีชื่อและนามสกุลจริง
กำกับไปด้วย
อีกไม่กี่วันก็ได้รับโทรศัพท์จากวาสารฉบับนี้ เป็นเสียงผู้หญิงทักถามถึงเรื่องที่ผมส่งไป บอกว่าเคยเอา
เรื่องของผมลงพิมพ์หลายครั้งแล้ว คราวนี้ก็ดี บก.พิจารณาแล้วคงจะลงให้ในอีก ๒-๓ ฉบับข้างหน้า
แต่ขอทราบว่าจะใช้ชื่อจริงอย่างเดิมได้หรือไม่
ผมก็นึกขึ้นมาได้ว่าทุกเรื่องที่เขาลงพิมพ์ จะใช้ชื่อและนามสกุลของผู้เขียนทั้งสิ้น ผมก็บอกว่า มันเป็น
เรื่อง ความล้มเหลว ของนักเขียนเล็ก ๆ คนหนึ่ง ซึ่งเขียนหนังสือมานับสิบปีแล้ว ก็ไม่มีใครรู้จักชื่อเสียง
เธอก็บอกว่าเขียนมานานแล้วหรือคะ ผมก็ว่าเขียนมานานมากจนได้พิมพ์เป็นเล่มหลายเล่มแล้ว เธอก็ว่า
เรื่องอะไรบ้าง แสดงว่าเธอก็ไม่รู้จัก “เล่าเซี่ยงชุน” เหมือนกัน (ฮา)
ผมก็กลั้นหัวเราะแล้วก็บอกไปตามตรงว่า เห็นไหมคุณยังไม่รู้จักเลย ผมจึงใช้นามปากกา แทนชื่อจริง
เพราะเป็นความล้มเหลวของชื่อนี้ ถ้าใช้ชื่อจริงมันก็กลับเป็นความสำเร็จซีครับ
เธอผู้นั้นก็อึ้งไป
จนกระทั่งได้รับหนังสือฉบับประจำเดือน เมษายน ๒๕๕๐ ผมจึงรีบฉีกซองออกอย่างรวดเร็ว ด้วยความ
หวังว่าคงจะได้เห็นเรื่องของตนเอง ในหน้าแรก ๆ ของหนังสือ
ปรากฏว่าพลิกไปจนถึงหน้าสุดท้าย ก็ต้องผิดหวัง เพราะไม่พบเรื่องที่ส่งไปให้เลย
และในเดือนต่อมา เมื่อได้รับหนังสือฉบับประจำเดือน พฤษภาคม ๒๕๕๐ ก็เป็นเช่นเดียวกัน คือไม่มี
เรื่องของ “ เล่าเซียงชุน “ ตามเคย
นี่ไงครับ เรื่อง” ความล้มเหลว” ของ”เล่าเซี่ยงชุน”
###########
จากคุณ : เจียวต้าย - [ 25 มี.ค. 50 09:20:50 ]
คห.๑
คุณปู่เจียวต้ายคะ อ่านแล้ว ขอสมัครเป็นหลานสาวค่ะ
เพราะ profile ของคุณปู่ ช่างเหมือนคุณปู่ตัวจริงเสียงจริงของหนูเหลือเกิน
ถ้าคุณปู่ของหนูยังอยู่ ป่านนี้ก็คงเกือบ 90 แล้วล่ะค่ะ ท่านก็เป็นทหารตั้งแต่ได้เกณฑ์
เข้าเป็นนายสิบเหมือนกัน รับราชการมาจนเกษียณอายุในยศพันโทเหมือนกัน ที่ต่างกัน
คือท่านเป็นนักอ่านค่ะ ไม่ปรากฏว่าเคยเขียนอะไรกับเขาแต่อย่างใด แต่ที่ท่านทำไว้ก็คือ
ทำให้หนูโตมากับหนังสือหนังหาเต็มบ้านไปหมด ก็เลยกลายเป็นนิสัยรักการอ่านของหนูน่ะค่ะ
ไม่ทราบว่าใบสมัครจะผ่านไหมคะเนี่ย
[ 25 มี.ค. 50 11:58:58 ]
คห.๒
มาส่งใบสมัครแข่งดีกว่า
อิอิ.. ล้อเล่นค่ะ
คุณปู่เจียวต้าย ได้ถูกยึดให้เป็นคุณปู่ของ(คห.๒)ไปเรียบร้อยแล้ว
นับตั้งแต่ก่อนไปกรุงเทพฯ เมื่องานอินดี้บุ้ค แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้เรียกเต็มคำ
จนกระทั่งได้พบท่านนั่นแหละค่ะ
มาช่วยกระตุ้น..ใบสมัครของคุณ(คห.๑)ดีกว่า
คุณปู่คะ.. หลาน ๆ เริ่มมากขึ้นทุกที อย่าเพิ่งลืม(คห.๒)นะคะ เร็ว ๆ นี้จะซื้อขนมไปฝาก
ฮั่นแน่ะ.. มีสินบนด้วย
[ 25 มี.ค. 50 14:07:46 ]
คห.๓
ต้องเลี้ยงต้อนรับหลานๆ
[ 25 มี.ค. 50 14:12:05 ]
คห.๔
เข้ามาลงชื่อค่ะ
[ 25 มี.ค. 50 14:36:35 ]
ตอบ
จะให้เป็นลุง เป็นตา หรือเป็นปู่ ก็ได้ทั้งนั้นครับ
แล้วแต่จะสมัครใจ ไม่ต้องเขียนใบสมัครหรอกครับ
ว่าแต่คุณปู่ท่านเป็นทหารเหล่าไหนล่ะครับ
คงไม่มีวันที่จะลืม(คห.๒)หรอกครับ
ว่าแต่ว่าคุณ(คห.๓) จะเลี้ยงต้อนรับนี่ จะขัดข้องไหมเอ่ย
รวมทั้งคุณ(คห.๔)ด้วยครับ
คงจะไม่ปล่อยให้ล้มเหลวอย่าง เล่าเซี่ยงชุน นะครับ
จากคุณ : เจียวต้าย - [ 25 มี.ค. 50 18:27:35 ]
เหล่าเสนารักษ์ค่ะ
สรุปว่ารับสมัครแล้วใช่ไหมคะ
[ 25 มี.ค. 50 19:43:30 ]
คห.๕
เอ้า คุณท่านเจียวต้าย มีหลานสาวตรึมเลยทีนี้
หนูสมัครทีเด็ดกว่านั้น
หนูไม่สมัครเป็นหลานสาวหรอกเจ้าค่ะ หนูสมัครเป็นคนโปรดดีกว่า
งุงุงุงุ เป็นหลานสาว เป็นเหลน หรือเป็นอะไรก็ได้เนอะ แต่เป็นคนโปรด งุงุงุงุ
(สงสัยใบสมัครหนูจะโดน ริบตั้งแต่ไม่ถึงมือท่านค่ะ)
[ 26 มี.ค. 50 08:44:30 ]
คุณ (คห.๕) เล่นยุให้กินโซดากับน้ำเปล่าอยู่เรื่อย จะโปรดได้ยังไงล่ะครับ.
จากคุณ : เจียวต้าย - [ 26 มี.ค. 50 09:43:41 ]
คห.๖
บ้านนี้ครื้นเครงดีจังเลย.......
คริ...คริ...มาร่วมวงช้าไปหน่อยน่ะค๊ะ...คุณปู่ คุณลุง คุณพี่ และ บรรดาคุณน้อง ๆ ทั้งหลาย
[ 26 มี.ค. 50 13:24:37 ]
คห.๗
มาบอกให้ใจชื้น(หรือเปล่า)ว่า
รู้จักนักเขียนชื่อ 'เล่าเซี่ยงชุน' มาก่อนได้อ่านผลงานของคุณลุงเจียวต้ายอีกค่ะ
(ขออนุญาตเรียกอย่างนี้นะคะ เพราะคุณพ่อก็รุ่นใกล้ ๆ กันนี่แหละ)
สามก๊กฉบับลิ่วล้อสนุกออก
[ 26 มี.ค. 50 15:23:56 ]
คห.๘
งืม...ปิดท้ายว่า ...ฮา...แต่หนิงว่ามันฮาไม่ออกแฮะ เลยไม่รู้ว่าจะถูกใจจุดประสงค์
ของคุณเจียวต้ายหรือเปล่า...งืม งืม (บ่นขมุบขมิบ)
จะไปกรอกใบสมัครกะเค้ามั่ง แต่ทีนี้ไม่เคยมีคุณลุง ขออนุญาติเรียกเป็นอาแปะแทนละกัน ^^
เพ่ยหนิงขอคารวะด้วยน้ำชาหนึ่งจอก
[ 26 มี.ค. 50 16:14:35 ]
ความจริงเรื่องนี้ไม่หรรษานะครับ
เพียงแต่ผมเห็นเป็นเรื่องธรรมดาเท่านั้น
คุณ(คห.๖) เห็นว่าเขาเข้ามาครื้นเครงก็ถูกวัตถุประสงค์แล้วครับ
อย่าเครียดครับ
ไม่ใช่แค่ใจชื้นนะครับคุณ(คห.๗) ดีใจมากที่สุดเชียวละ ที่มีคนบอกว่า สามก๊กฉบับลิ่วล้อ สนุก
แต่กว่าจะรู้ว่าเจียวต้ายคือเล่าเซี่ยงชุน ก็สองปีนะครับ
คุณ(คห.๘) ช่วยฮาหน่อยเถอะครับ เล่าเซี่ยงชุน เข้ามาในวงวรรณกรรมตั้งแต่ปี ๒๕๓๔ หนังสือใหญ่
ระดับโลกยังไม่เคยได้ยินชื่อเลยครับ
ขอบคุณที่คารวะด้วยน้ำชาจีน แม้จะฝืด ๆ คอนะครับ.
จากคุณ : เจียวต้าย - [ 26 มี.ค. 50 17:48:50 ]
Create Date : 18 ธันวาคม 2552
Last Update : 18 ธันวาคม 2552 19:50:09 น.
ความล้มเหลว ๑ ก.พ.๕๗
“ เล่าเซี่ยงชุน “
ผมเคยเล่าว่า ผมเขียนหนังสือส่งไปลงในวารสารต่าง ๆ เป็นเวลานานมาแล้ว ได้ลงพิมพ์บ้าง
ลงตะกร้าบ้าง ก็ไม่ทุกข์ร้อนอะไร จนวารสารที่ได้ลงพิมพ์ล้มเลิกไปบ้าง เปลี่ยนนโยบายบ้าง
คงเหลือที่ติดต่อกันอยู่ไม่กี่ราย
มีอยู่รายหนึ่งเป็นวารสารที่มีชื่อเสียงมากและแพร่หลายมานานแล้ว ผมไม่กล้าเขียนเรื่องอย่างที่
เคยเขียนส่งไปให้ แต่เขามีหน้าสำหรับผู้อ่าน ที่สนใจอ่านเรื่องของเขา แล้วมีความคิดเห็นอย่างไร
ก็เสนอไปได้ ผมก็ย่อมจะไม่ละโอกาสอันดีนี้ เป็นแน่
ผมเขียนส่งไปก็ได้ลงหลายครั้ง เช่นเรื่องที่เกี่ยวกับความซื่อสัตย์ เรื่องที่เกี่ยวกับสลากกินแบ่ง
หรือเรื่องที่เกี่ยวกับเหรียญสลึง และเรื่องที่เกี่ยวกับความมีน้ำใจ เป็นต้น
คราวนี้ผมอ่านเรื่อง ความล้มเหลว ที่ว่าเราไม่ควรท้อถอยกับความล้มเหลวในบางเรื่อง เพราะ
อาจจะทำให้ประสบความสำเร็จในอีกบางเรื่องก็ได้ ผมก็เกิดความคิดเกี่ยวกับความล้มเหลวของ
ตนเองขึ้นมา จึงรีบเขียนส่งไปให้เมื่อเดือนมกราคม ปีนี้เอง เนื้อเรื่องมีอยู่ว่า
ความล้มเหลว
เมื่อผมอ่านเรื่อง ความล้มเหลวไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ในฉบับที่ แล้ว ก็เห็นว่าเป็นเรื่องทำนองเดียวกับ
ชีวิตของผม คือผมรักการอ่านและการเขียนมาตั้งแต่เด็ก ตั้งใจจะเป็นนักเขียนหรือนักประพันธ์ให้ได้
โดยเริ่มเขียนเรื่องสั้นส่งไปลงพิมพ์ในวารสาร ตั้งแต่อายุ ๑๙ ปี พอถึงคราวเกณฑ์ทหารก็สมัครเข้า
รับราชการ พอเป็นนายสิบ ก็เขียนหนังสือต่อไปใหม่ ผมเขียนอย่างสม่ำเสมอมาจนเกษียณอายุ
ราชการ และเขียนต่อมาจนถึงบัดนี้ แต่ก็ไม่ได้มีชื่อเสียงว่าเป็นนักเขียน ส่งไปที่ไหนก็ได้ลงพิมพ์บ้าง
ไม่ได้ลงบ้าง เหมือนเมื่อเริ่มตันนั้นเอง แต่ชีวิตราชการทหารของผม ก่อนเกษียณอายุ ได้รับยศพันเอก
ซึ่งเป็นคนเดียวในหน่วยของผม ที่เป็นพันเอกโดยไม่ได้สำเร็จปริญญา
แล้วก็ใส่นามปากกา “เล่าเซี่ยงชุน” ที่ผมใช้อยู่เป็นประจำในการเขียนเรื่องจีน โดยมีชื่อและนามสกุลจริง
กำกับไปด้วย
อีกไม่กี่วันก็ได้รับโทรศัพท์จากวาสารฉบับนี้ เป็นเสียงผู้หญิงทักถามถึงเรื่องที่ผมส่งไป บอกว่าเคยเอา
เรื่องของผมลงพิมพ์หลายครั้งแล้ว คราวนี้ก็ดี บก.พิจารณาแล้วคงจะลงให้ในอีก ๒-๓ ฉบับข้างหน้า
แต่ขอทราบว่าจะใช้ชื่อจริงอย่างเดิมได้หรือไม่
ผมก็นึกขึ้นมาได้ว่าทุกเรื่องที่เขาลงพิมพ์ จะใช้ชื่อและนามสกุลของผู้เขียนทั้งสิ้น ผมก็บอกว่า มันเป็น
เรื่อง ความล้มเหลว ของนักเขียนเล็ก ๆ คนหนึ่ง ซึ่งเขียนหนังสือมานับสิบปีแล้ว ก็ไม่มีใครรู้จักชื่อเสียง
เธอก็บอกว่าเขียนมานานแล้วหรือคะ ผมก็ว่าเขียนมานานมากจนได้พิมพ์เป็นเล่มหลายเล่มแล้ว เธอก็ว่า
เรื่องอะไรบ้าง แสดงว่าเธอก็ไม่รู้จัก “เล่าเซี่ยงชุน” เหมือนกัน (ฮา)
ผมก็กลั้นหัวเราะแล้วก็บอกไปตามตรงว่า เห็นไหมคุณยังไม่รู้จักเลย ผมจึงใช้นามปากกา แทนชื่อจริง
เพราะเป็นความล้มเหลวของชื่อนี้ ถ้าใช้ชื่อจริงมันก็กลับเป็นความสำเร็จซีครับ
เธอผู้นั้นก็อึ้งไป
จนกระทั่งได้รับหนังสือฉบับประจำเดือน เมษายน ๒๕๕๐ ผมจึงรีบฉีกซองออกอย่างรวดเร็ว ด้วยความ
หวังว่าคงจะได้เห็นเรื่องของตนเอง ในหน้าแรก ๆ ของหนังสือ
ปรากฏว่าพลิกไปจนถึงหน้าสุดท้าย ก็ต้องผิดหวัง เพราะไม่พบเรื่องที่ส่งไปให้เลย
และในเดือนต่อมา เมื่อได้รับหนังสือฉบับประจำเดือน พฤษภาคม ๒๕๕๐ ก็เป็นเช่นเดียวกัน คือไม่มี
เรื่องของ “ เล่าเซียงชุน “ ตามเคย
นี่ไงครับ เรื่อง” ความล้มเหลว” ของ”เล่าเซี่ยงชุน”
###########
จากคุณ : เจียวต้าย - [ 25 มี.ค. 50 09:20:50 ]
คห.๑
คุณปู่เจียวต้ายคะ อ่านแล้ว ขอสมัครเป็นหลานสาวค่ะ
เพราะ profile ของคุณปู่ ช่างเหมือนคุณปู่ตัวจริงเสียงจริงของหนูเหลือเกิน
ถ้าคุณปู่ของหนูยังอยู่ ป่านนี้ก็คงเกือบ 90 แล้วล่ะค่ะ ท่านก็เป็นทหารตั้งแต่ได้เกณฑ์
เข้าเป็นนายสิบเหมือนกัน รับราชการมาจนเกษียณอายุในยศพันโทเหมือนกัน ที่ต่างกัน
คือท่านเป็นนักอ่านค่ะ ไม่ปรากฏว่าเคยเขียนอะไรกับเขาแต่อย่างใด แต่ที่ท่านทำไว้ก็คือ
ทำให้หนูโตมากับหนังสือหนังหาเต็มบ้านไปหมด ก็เลยกลายเป็นนิสัยรักการอ่านของหนูน่ะค่ะ
ไม่ทราบว่าใบสมัครจะผ่านไหมคะเนี่ย
[ 25 มี.ค. 50 11:58:58 ]
คห.๒
มาส่งใบสมัครแข่งดีกว่า
อิอิ.. ล้อเล่นค่ะ
คุณปู่เจียวต้าย ได้ถูกยึดให้เป็นคุณปู่ของ(คห.๒)ไปเรียบร้อยแล้ว
นับตั้งแต่ก่อนไปกรุงเทพฯ เมื่องานอินดี้บุ้ค แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้เรียกเต็มคำ
จนกระทั่งได้พบท่านนั่นแหละค่ะ
มาช่วยกระตุ้น..ใบสมัครของคุณ(คห.๑)ดีกว่า
คุณปู่คะ.. หลาน ๆ เริ่มมากขึ้นทุกที อย่าเพิ่งลืม(คห.๒)นะคะ เร็ว ๆ นี้จะซื้อขนมไปฝาก
ฮั่นแน่ะ.. มีสินบนด้วย
[ 25 มี.ค. 50 14:07:46 ]
คห.๓
ต้องเลี้ยงต้อนรับหลานๆ
[ 25 มี.ค. 50 14:12:05 ]
คห.๔
เข้ามาลงชื่อค่ะ
[ 25 มี.ค. 50 14:36:35 ]
ตอบ
จะให้เป็นลุง เป็นตา หรือเป็นปู่ ก็ได้ทั้งนั้นครับ
แล้วแต่จะสมัครใจ ไม่ต้องเขียนใบสมัครหรอกครับ
ว่าแต่คุณปู่ท่านเป็นทหารเหล่าไหนล่ะครับ
คงไม่มีวันที่จะลืม(คห.๒)หรอกครับ
ว่าแต่ว่าคุณ(คห.๓) จะเลี้ยงต้อนรับนี่ จะขัดข้องไหมเอ่ย
รวมทั้งคุณ(คห.๔)ด้วยครับ
คงจะไม่ปล่อยให้ล้มเหลวอย่าง เล่าเซี่ยงชุน นะครับ
จากคุณ : เจียวต้าย - [ 25 มี.ค. 50 18:27:35 ]
เหล่าเสนารักษ์ค่ะ
สรุปว่ารับสมัครแล้วใช่ไหมคะ
[ 25 มี.ค. 50 19:43:30 ]
คห.๕
เอ้า คุณท่านเจียวต้าย มีหลานสาวตรึมเลยทีนี้
หนูสมัครทีเด็ดกว่านั้น
หนูไม่สมัครเป็นหลานสาวหรอกเจ้าค่ะ หนูสมัครเป็นคนโปรดดีกว่า
งุงุงุงุ เป็นหลานสาว เป็นเหลน หรือเป็นอะไรก็ได้เนอะ แต่เป็นคนโปรด งุงุงุงุ
(สงสัยใบสมัครหนูจะโดน ริบตั้งแต่ไม่ถึงมือท่านค่ะ)
[ 26 มี.ค. 50 08:44:30 ]
คุณ (คห.๕) เล่นยุให้กินโซดากับน้ำเปล่าอยู่เรื่อย จะโปรดได้ยังไงล่ะครับ.
จากคุณ : เจียวต้าย - [ 26 มี.ค. 50 09:43:41 ]
คห.๖
บ้านนี้ครื้นเครงดีจังเลย.......
คริ...คริ...มาร่วมวงช้าไปหน่อยน่ะค๊ะ...คุณปู่ คุณลุง คุณพี่ และ บรรดาคุณน้อง ๆ ทั้งหลาย
[ 26 มี.ค. 50 13:24:37 ]
คห.๗
มาบอกให้ใจชื้น(หรือเปล่า)ว่า
รู้จักนักเขียนชื่อ 'เล่าเซี่ยงชุน' มาก่อนได้อ่านผลงานของคุณลุงเจียวต้ายอีกค่ะ
(ขออนุญาตเรียกอย่างนี้นะคะ เพราะคุณพ่อก็รุ่นใกล้ ๆ กันนี่แหละ)
สามก๊กฉบับลิ่วล้อสนุกออก
[ 26 มี.ค. 50 15:23:56 ]
คห.๘
งืม...ปิดท้ายว่า ...ฮา...แต่หนิงว่ามันฮาไม่ออกแฮะ เลยไม่รู้ว่าจะถูกใจจุดประสงค์
ของคุณเจียวต้ายหรือเปล่า...งืม งืม (บ่นขมุบขมิบ)
จะไปกรอกใบสมัครกะเค้ามั่ง แต่ทีนี้ไม่เคยมีคุณลุง ขออนุญาติเรียกเป็นอาแปะแทนละกัน ^^
เพ่ยหนิงขอคารวะด้วยน้ำชาหนึ่งจอก
[ 26 มี.ค. 50 16:14:35 ]
ความจริงเรื่องนี้ไม่หรรษานะครับ
เพียงแต่ผมเห็นเป็นเรื่องธรรมดาเท่านั้น
คุณ(คห.๖) เห็นว่าเขาเข้ามาครื้นเครงก็ถูกวัตถุประสงค์แล้วครับ
อย่าเครียดครับ
ไม่ใช่แค่ใจชื้นนะครับคุณ(คห.๗) ดีใจมากที่สุดเชียวละ ที่มีคนบอกว่า สามก๊กฉบับลิ่วล้อ สนุก
แต่กว่าจะรู้ว่าเจียวต้ายคือเล่าเซี่ยงชุน ก็สองปีนะครับ
คุณ(คห.๘) ช่วยฮาหน่อยเถอะครับ เล่าเซี่ยงชุน เข้ามาในวงวรรณกรรมตั้งแต่ปี ๒๕๓๔ หนังสือใหญ่
ระดับโลกยังไม่เคยได้ยินชื่อเลยครับ
ขอบคุณที่คารวะด้วยน้ำชาจีน แม้จะฝืด ๆ คอนะครับ.
จากคุณ : เจียวต้าย - [ 26 มี.ค. 50 17:48:50 ]
Create Date : 18 ธันวาคม 2552
Last Update : 18 ธันวาคม 2552 19:50:09 น.