หน้าเปิด
เปิดตอน ฮินะในตอนนี้กำลังอยู่ ณ สนามบินนาริตะ เพียงตัวคนเดียวเหงื่อตกพูดอะไรไม่ออก ได้แต่คิดว่า...
ฮินะ: (ทำไม...)
ฮินะ: (ตอนเกิดเรื่องแบบนี้กับฉันด้วย)
ย้อนกลับไปเมื่อ 1 เดือนก่อน มิกิบอกเรื่องที่โรงเรียนในเครือสาขาอื่นส่งคำร้องขอคนไปช่วยกล่าวสุนทราพจน์ ฮินะตอนแรกก็สงสัยว่าช่วงนี้หยุดฤดูร้อนไม่ใช่เหรอ โรงเรียนไม่ได้ปิดอยู่เหรอ แต่ก็ไม่ได้ติดใจและตกลงจะไปเลยถามมิกิต่อว่าโรงเรียนที่ไหน มิกิก็ดูให้และบอกชื่อโรงเรียนที่เขียนไว้ว่า "เฮียวโกะ" ตอนแรกฮินะก็งงๆว่าที่ไหนแต่มิกิแกล้งไม่บอกถึงสาขาที่เขียนไว้ชัดเจนด้วยเหมือนกันว่า "ออสเตเรีย"
สุดท้ายฮินะมาถึงสนามบินถึงได้รู้ตัวว่าโดนหลอกเข้าเต็มเป้าซะแล้ว ตอนนี้จึงได้แต่คิดว่าสาขาที่ออสเตเรียเลยงั้นเหรอ ทำไมโรงเรียนของเธอถึงมีโรงเรียนในเครือด้วย แน่นอนว่าโรคกลัวความสูงขั้นรุนแรงของฮินะต้องทำให้ไม่อยากขึ้นเครื่องบินอยู่แล้ว ไม่อยากไปที่ไหนก็ตามที่ต้องไปด้วยเครื่องบิน แต่จะปฎิเสธตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วในเมื่อตั๋วที่นั่งก็จัดมาให้เป็นถึง "ชั้นบิสิเนสคลาส" ที่แพงหูฉี่ แต่ถึงจะปฎิเสธไม่ได้เธอก็ไม่อยากขึ้นเครื่องบินด้วยตัวคนเดียวแบบนี้อยู่ดีจนอยากจะร้องไห้แล้ว คิดแล้วคิดอีกยังไงตอนนี้ก็ช่วยไม่ได้แล้ว ฮินะก็เลยคิดว่าตอนนี้ไปเช็คอินและไปรอที่บิสิเนสเลาจน์ก่อนดีกว่า
บิสิเนสเลาจน์ ก็คือพื้นที่พักผ่อนสำหรับผู้ที่มีตั๋วชั้นบิสิเนสเท่านั้นที่จะเข้าได้ โดยจะมีของว่าง เครื่องดื่ม อินเตอร์เน็ต หรืออะไรก็แล้วแต่ที่สนามบินจะมีให้บริการ ทุกอย่างฟรี ส่วนฮินะก็มานั่งพักดื่มกาแฟและของว่างและอดคิดไม่ได้ว่าจะเป็นของว่างมือสุดท้ายบนพื้นดินรึเปล่า พอมองดูรอบๆห้องก็มีแต่คนและคิดว่าคนพวกนี้เองก็เตรียมขึ้นเครื่องเหมือนกันสินะ แล้วทำไมถึงยังดูสบายใจได้แบบนี้ ไม่คิดบ้างเลยเหรอว่ามิสิทธิ์ตายเพราะเครื่องตกได้
ตอนนั้นเองที่มีพ่อลูกคู่หนึ่งที่ลูกเป็นเด็กประถมพูดกับพ่ออยู่ว่าข้างนอกมีเครื่องบินเพียบเลย อดใจรอจะขึ้นเครื่องบินครั้งแรกไม่ไหวแล้วด้วยความตื่นเต้นดีใจสุดๆ พ่อเองก็บอกหวังจะให้เป็นเที่ยวที่สนุกเหมือนกัน คราวนี้พอเห็นฮินะเด็กก็หันมาพูดว่าดูฮินะหน้าซีดเชียว พ่อก็เลยบอกว่าดูฮินะจะเป็นโรคแพ้เครื่องบินละมั้ง เด็กก็เลยมาคุยกับฮินะถามว่ากลัวเครื่องบินเหรอ ฮินะเลยตกใจและรีบบอกว่าไม่ได้กลัวซักหน่อยแค่รู้สึกไม่ค่อยดีเท่านั้นเอง เด็กที่เหมือนจะรู้มากก็เลยพูดอีกว่าสถิติที่คนจะตายจากการนั่งเครื่องบินก็แค่ 0.001% เอง เป็นพาหนะที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว เด็กเลยบอกเพราะงั้นไม่ต้องหน้าซีดเพราะไม่เป็นไรอยู่แล้ว พูดแล้วก็ขำใหญ่
ฮินะที่เจอเด็กข่มแบบนี้ก็เลยทนไม่ไหว เข้าไปจับไหล่เด็กแล้วพูดกับเด็กว่า...
ฮินะ: แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า...
ฮินะ: 0.001% นั้นจะไม่เกิดขึ้นวันนี้สักหน่อย
ฮินะ: แล้วถ้าเกิดขึ้นวันนี้ล่ะ...
ฮินะ: พวกเราาาาาทั้งหมดก็จะตาย เข้าใจไหม
เด็กที่เจอฮินะขู่เข้าไปก็เลยตัวสั่นกลัวจนต้องกลับไปหาพ่อบอกไม่อยากขึ้นเครื่องบินแล้ว
......
.....
....
...
..
.
ทั้งหมดนั้นคือสิ่งที่ฮินะคิดอยากจะบอกเด็กคนนี้ซะเหลือเกิน (แค่คิดเล่นๆตั้งแต่ตอนที่เด็กหันมาเห็นฮินะ)
ระหว่างนั้นเองก็มีการประกาศบอกว่าเครื่องที่จะไปออสเตเรียพร้อมให้บริการแล้ว ฮินะก็ถึงกับคิดเลยว่า...
ฮินะ: (อุ๊ก.. ถะ...)
ฮินะ: (ถึงเวลาแล้วสินะ!!)
แล้วฮินะก็มาถึงตัวเครื่องโดยมีแอร์โฮสเตสรอต้อนรับและช่วยบอกถึงตำแหน่งที่นั่งให้ และเหมือนจะซวยอีกที่ดันได้ที่นั่งข้างหน้าต่างพอดีซึ่งปกติแล้วจะเป็นที่นั่งวิวดีแท้ๆ แต่เมื่อได้ที่นั่งข้างหน้าต่างก็ช่วยไม่ได้ ฮินะก็มานั่งและเพื่อลดความกลัวก็เลยพยายามจะไม่มองไปนอกหน้าต่างจึงปิดหน้าต่างซะ แต่พอปิดก็มองไม่เห็นอะไรเลยจนเป็นกังวลอีกก็เลยคิดอยู่ว่าจะปิดดีหรือเปิดดี แต่ตอนนั้นเองก็มีประกาศจากกัปตันแล้วว่ากำลังจะออกแล้วให้คาดเข็มขัด ฮินะถึงกับตกใจคิดเลยว่ามัวแต่คิดเรื่องเปิดปิดหน้าต่างใช้เวลาไปขนาดนี้เลยเหรอ
ตอนนี้ฮินะก็เริ่มกลัวจนตัวสั่นได้แต่ภาวนาว่าถึงเวลาบินแล้ว ได้แต่คิดว่าไม่อยากไปๆและคิดถึงฮายาเตะจนอยากจะบอกเลยว่าถ้ารอดกลับมาได้จะสารภาพรักเลยทีเดียว ช่วงที่กำลังกลัวตัวสั่นจนจะร้องไห้นั้นเองฮินะก็รู้สึกจากการสั่นของเครื่องแล้วว่าเครื่องบินเริ่มขยับแล้ว สักพักเครื่องบินก็เริ่มเร่งขึ้นจนฮินะรู้สึกได้ว่าตัวเองหลังติดเบาะ วินาทีนี้ฮินะถึงกับหลับตาปี้คิดถึงฮายาเตะว่าเธอกับฮายาเตะจะได้เจอกันอีกไหม และแล้วเครื่องก็ขึ้นจากพื้นและไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆจนกระทั้งกัปตันประกาศบอกผู้โดยสารว่าออกบินตามกำหนดแล้วและกรุณาอย่าพึ่งปลดเข็มขัดนิรภัยจนกระทั้งไฟเตือนดับ วินาทีนี้ฮินะที่น้ำตาไหลเป็นทางแล้วก็คิดเลยว่า
ฮินะ: (รอดปาฏิหาริย์)
[เรื่องปกติจ้า]
ถึงจะผ่านช่วงเวลาแห่งความน่ากลัวสำหรับฮินะมาได้แล้วแต่ยังไงซะตอนนี้ก็ถือว่ายังอยู่บนฟ้าอยู่ดี เหลือเวลาอีก 9 ชั่วโมง 45 นาทีกว่าจะถึงซิดนีย์ ฮินะเลยคิดว่าจะหลับมันตลอดทางจากนี้เลย แต่พอจะเริ่มหลับคุณแอร์ก็เสิร์ฟอาหารพอดี ทำเอาฮินะอยากจะบ่นเลยว่าขอเธอนอนได้ไหม แต่เพราะรู้ว่าเป็นหน้าที่ของคุณแอร์เขาก็เลยยอมลุกขึ้นมากินแต่โดยดีทั้งน้ำตา และยังดีที่อาหารชั้นบิสิเนสอร่อยด้วยก็เลยทำให้ฮินะหายเครียดได้นิดนึง
หลังจากกินหมดแล้วฮินะก็คิดว่าคราวนี้แหละจะนอนแล้ว แต่ไม่ทันได้หลับจู่ๆเครื่องก็สั่นอย่างแรง ตอนนั้นเองที่กัปตันประกาศบอกว่าเครื่องกำลังบินอยู่ในอากาศปั่นป่วนจึงขอให้ผู้โดยสารคาดเข็มขัดทันที แต่ฮินะคิดเลยว่าจะให้คาดเข็มขัดเนี้ยนะ เกิดเครื่องตกขึ้นมาด้วยความสูงขนาดนี้ถึงคาดไปก็ไร้ความหมายสิ (ที่เขาให้คาดก็เพื่อตัวหลุดจากเก้าอี้ไปกระแทกอะไรเข้าหรือหลุดออกจากที่นั่ง) ฮินะเลยไม่สนขอข่มตานอนให้ได้และจะตื่นตอนที่ถึงซีดนีย์แล้วเท่านั้น จะหลับมันรวดเดียว 8 ชั่วโมงเลย แต่เพราะแรงสั่นของเครื่องก็เลยทำเอานอนไม่ได้เลยจนได้แต่คิดโวยวาย
ตอนนั้นเองที่ไอกะเข้ามาถามว่าจะให้ช่วยกุมมือให้มั้ยและบอกว่าตอนนี้ก็ออกจากอากาศปั่นป่วนแล้วด้วย ฮินะแปลกใจเลยที่ทำไมไอกะถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ไอกะบอกเพราะเธอเป็นรองประธาน ฮินะเลยถึงกับถามเลยว่ามาอยู่ด้วยตั้งแต่เมื่อไร ไอกะบอกก็ตั้งแต่ตอนที่ฮินะจ้องเด็กอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อที่บิสิเนสเลาจน์นั้นแหละ ฮินะเลยถึงกับโวยเลยว่าแล้วทำไมถึงไม่พูดอะไรให้เธอรู้ตัวบ้างเลย ไอกะบอกเห็นฮินะตอนที่กระวนกระวายตัวคนเดียวแล้วมันน่ารักดี และ....
ไอกะ: รู้สึกว่าจะได้ยินอะไรที่ไม่ควรด้วยสิ...
ไอกะ: ตอนที่เธออุบอิบๆชื่อผู้ชายคนนั้นออกมา
ฮินะถึงกับหน้าแดงอายสุดๆจนรีบซึนบอกไม่ได้อุบอิบๆนะ แต่ไอกะก็จะบอกว่าฮินะพูดชื่อ.. "ฮายา..." ฮินะถึงกับรีบบอกเลยว่าไม่มีทางพูดแน่ๆ
หลังจากนั้น... ฮินะก็พึ่งนึกได้ว่ายังต้องมีขึ้นเที่ยวกลับด้วยนิ พอคิดแล้วก็เหงื่อตกเลย
จบตอน
[Spoil] Hayate no Gotoku! - 438
เปิดตอน ฮินะในตอนนี้กำลังอยู่ ณ สนามบินนาริตะ เพียงตัวคนเดียวเหงื่อตกพูดอะไรไม่ออก ได้แต่คิดว่า...
ฮินะ: (ทำไม...)
ฮินะ: (ตอนเกิดเรื่องแบบนี้กับฉันด้วย)
ย้อนกลับไปเมื่อ 1 เดือนก่อน มิกิบอกเรื่องที่โรงเรียนในเครือสาขาอื่นส่งคำร้องขอคนไปช่วยกล่าวสุนทราพจน์ ฮินะตอนแรกก็สงสัยว่าช่วงนี้หยุดฤดูร้อนไม่ใช่เหรอ โรงเรียนไม่ได้ปิดอยู่เหรอ แต่ก็ไม่ได้ติดใจและตกลงจะไปเลยถามมิกิต่อว่าโรงเรียนที่ไหน มิกิก็ดูให้และบอกชื่อโรงเรียนที่เขียนไว้ว่า "เฮียวโกะ" ตอนแรกฮินะก็งงๆว่าที่ไหนแต่มิกิแกล้งไม่บอกถึงสาขาที่เขียนไว้ชัดเจนด้วยเหมือนกันว่า "ออสเตเรีย"
สุดท้ายฮินะมาถึงสนามบินถึงได้รู้ตัวว่าโดนหลอกเข้าเต็มเป้าซะแล้ว ตอนนี้จึงได้แต่คิดว่าสาขาที่ออสเตเรียเลยงั้นเหรอ ทำไมโรงเรียนของเธอถึงมีโรงเรียนในเครือด้วย แน่นอนว่าโรคกลัวความสูงขั้นรุนแรงของฮินะต้องทำให้ไม่อยากขึ้นเครื่องบินอยู่แล้ว ไม่อยากไปที่ไหนก็ตามที่ต้องไปด้วยเครื่องบิน แต่จะปฎิเสธตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วในเมื่อตั๋วที่นั่งก็จัดมาให้เป็นถึง "ชั้นบิสิเนสคลาส" ที่แพงหูฉี่ แต่ถึงจะปฎิเสธไม่ได้เธอก็ไม่อยากขึ้นเครื่องบินด้วยตัวคนเดียวแบบนี้อยู่ดีจนอยากจะร้องไห้แล้ว คิดแล้วคิดอีกยังไงตอนนี้ก็ช่วยไม่ได้แล้ว ฮินะก็เลยคิดว่าตอนนี้ไปเช็คอินและไปรอที่บิสิเนสเลาจน์ก่อนดีกว่า
บิสิเนสเลาจน์ ก็คือพื้นที่พักผ่อนสำหรับผู้ที่มีตั๋วชั้นบิสิเนสเท่านั้นที่จะเข้าได้ โดยจะมีของว่าง เครื่องดื่ม อินเตอร์เน็ต หรืออะไรก็แล้วแต่ที่สนามบินจะมีให้บริการ ทุกอย่างฟรี ส่วนฮินะก็มานั่งพักดื่มกาแฟและของว่างและอดคิดไม่ได้ว่าจะเป็นของว่างมือสุดท้ายบนพื้นดินรึเปล่า พอมองดูรอบๆห้องก็มีแต่คนและคิดว่าคนพวกนี้เองก็เตรียมขึ้นเครื่องเหมือนกันสินะ แล้วทำไมถึงยังดูสบายใจได้แบบนี้ ไม่คิดบ้างเลยเหรอว่ามิสิทธิ์ตายเพราะเครื่องตกได้
ตอนนั้นเองที่มีพ่อลูกคู่หนึ่งที่ลูกเป็นเด็กประถมพูดกับพ่ออยู่ว่าข้างนอกมีเครื่องบินเพียบเลย อดใจรอจะขึ้นเครื่องบินครั้งแรกไม่ไหวแล้วด้วยความตื่นเต้นดีใจสุดๆ พ่อเองก็บอกหวังจะให้เป็นเที่ยวที่สนุกเหมือนกัน คราวนี้พอเห็นฮินะเด็กก็หันมาพูดว่าดูฮินะหน้าซีดเชียว พ่อก็เลยบอกว่าดูฮินะจะเป็นโรคแพ้เครื่องบินละมั้ง เด็กก็เลยมาคุยกับฮินะถามว่ากลัวเครื่องบินเหรอ ฮินะเลยตกใจและรีบบอกว่าไม่ได้กลัวซักหน่อยแค่รู้สึกไม่ค่อยดีเท่านั้นเอง เด็กที่เหมือนจะรู้มากก็เลยพูดอีกว่าสถิติที่คนจะตายจากการนั่งเครื่องบินก็แค่ 0.001% เอง เป็นพาหนะที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว เด็กเลยบอกเพราะงั้นไม่ต้องหน้าซีดเพราะไม่เป็นไรอยู่แล้ว พูดแล้วก็ขำใหญ่
ฮินะที่เจอเด็กข่มแบบนี้ก็เลยทนไม่ไหว เข้าไปจับไหล่เด็กแล้วพูดกับเด็กว่า...
ฮินะ: แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า...
ฮินะ: 0.001% นั้นจะไม่เกิดขึ้นวันนี้สักหน่อย
ฮินะ: แล้วถ้าเกิดขึ้นวันนี้ล่ะ...
ฮินะ: พวกเราาาาาทั้งหมดก็จะตาย เข้าใจไหม
เด็กที่เจอฮินะขู่เข้าไปก็เลยตัวสั่นกลัวจนต้องกลับไปหาพ่อบอกไม่อยากขึ้นเครื่องบินแล้ว
......
.....
....
...
..
.
ทั้งหมดนั้นคือสิ่งที่ฮินะคิดอยากจะบอกเด็กคนนี้ซะเหลือเกิน (แค่คิดเล่นๆตั้งแต่ตอนที่เด็กหันมาเห็นฮินะ)
ระหว่างนั้นเองก็มีการประกาศบอกว่าเครื่องที่จะไปออสเตเรียพร้อมให้บริการแล้ว ฮินะก็ถึงกับคิดเลยว่า...
ฮินะ: (อุ๊ก.. ถะ...)
ฮินะ: (ถึงเวลาแล้วสินะ!!)
แล้วฮินะก็มาถึงตัวเครื่องโดยมีแอร์โฮสเตสรอต้อนรับและช่วยบอกถึงตำแหน่งที่นั่งให้ และเหมือนจะซวยอีกที่ดันได้ที่นั่งข้างหน้าต่างพอดีซึ่งปกติแล้วจะเป็นที่นั่งวิวดีแท้ๆ แต่เมื่อได้ที่นั่งข้างหน้าต่างก็ช่วยไม่ได้ ฮินะก็มานั่งและเพื่อลดความกลัวก็เลยพยายามจะไม่มองไปนอกหน้าต่างจึงปิดหน้าต่างซะ แต่พอปิดก็มองไม่เห็นอะไรเลยจนเป็นกังวลอีกก็เลยคิดอยู่ว่าจะปิดดีหรือเปิดดี แต่ตอนนั้นเองก็มีประกาศจากกัปตันแล้วว่ากำลังจะออกแล้วให้คาดเข็มขัด ฮินะถึงกับตกใจคิดเลยว่ามัวแต่คิดเรื่องเปิดปิดหน้าต่างใช้เวลาไปขนาดนี้เลยเหรอ
ตอนนี้ฮินะก็เริ่มกลัวจนตัวสั่นได้แต่ภาวนาว่าถึงเวลาบินแล้ว ได้แต่คิดว่าไม่อยากไปๆและคิดถึงฮายาเตะจนอยากจะบอกเลยว่าถ้ารอดกลับมาได้จะสารภาพรักเลยทีเดียว ช่วงที่กำลังกลัวตัวสั่นจนจะร้องไห้นั้นเองฮินะก็รู้สึกจากการสั่นของเครื่องแล้วว่าเครื่องบินเริ่มขยับแล้ว สักพักเครื่องบินก็เริ่มเร่งขึ้นจนฮินะรู้สึกได้ว่าตัวเองหลังติดเบาะ วินาทีนี้ฮินะถึงกับหลับตาปี้คิดถึงฮายาเตะว่าเธอกับฮายาเตะจะได้เจอกันอีกไหม และแล้วเครื่องก็ขึ้นจากพื้นและไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆจนกระทั้งกัปตันประกาศบอกผู้โดยสารว่าออกบินตามกำหนดแล้วและกรุณาอย่าพึ่งปลดเข็มขัดนิรภัยจนกระทั้งไฟเตือนดับ วินาทีนี้ฮินะที่น้ำตาไหลเป็นทางแล้วก็คิดเลยว่า
ฮินะ: (รอดปาฏิหาริย์)
[เรื่องปกติจ้า]
ถึงจะผ่านช่วงเวลาแห่งความน่ากลัวสำหรับฮินะมาได้แล้วแต่ยังไงซะตอนนี้ก็ถือว่ายังอยู่บนฟ้าอยู่ดี เหลือเวลาอีก 9 ชั่วโมง 45 นาทีกว่าจะถึงซิดนีย์ ฮินะเลยคิดว่าจะหลับมันตลอดทางจากนี้เลย แต่พอจะเริ่มหลับคุณแอร์ก็เสิร์ฟอาหารพอดี ทำเอาฮินะอยากจะบ่นเลยว่าขอเธอนอนได้ไหม แต่เพราะรู้ว่าเป็นหน้าที่ของคุณแอร์เขาก็เลยยอมลุกขึ้นมากินแต่โดยดีทั้งน้ำตา และยังดีที่อาหารชั้นบิสิเนสอร่อยด้วยก็เลยทำให้ฮินะหายเครียดได้นิดนึง
หลังจากกินหมดแล้วฮินะก็คิดว่าคราวนี้แหละจะนอนแล้ว แต่ไม่ทันได้หลับจู่ๆเครื่องก็สั่นอย่างแรง ตอนนั้นเองที่กัปตันประกาศบอกว่าเครื่องกำลังบินอยู่ในอากาศปั่นป่วนจึงขอให้ผู้โดยสารคาดเข็มขัดทันที แต่ฮินะคิดเลยว่าจะให้คาดเข็มขัดเนี้ยนะ เกิดเครื่องตกขึ้นมาด้วยความสูงขนาดนี้ถึงคาดไปก็ไร้ความหมายสิ (ที่เขาให้คาดก็เพื่อตัวหลุดจากเก้าอี้ไปกระแทกอะไรเข้าหรือหลุดออกจากที่นั่ง) ฮินะเลยไม่สนขอข่มตานอนให้ได้และจะตื่นตอนที่ถึงซีดนีย์แล้วเท่านั้น จะหลับมันรวดเดียว 8 ชั่วโมงเลย แต่เพราะแรงสั่นของเครื่องก็เลยทำเอานอนไม่ได้เลยจนได้แต่คิดโวยวาย
ตอนนั้นเองที่ไอกะเข้ามาถามว่าจะให้ช่วยกุมมือให้มั้ยและบอกว่าตอนนี้ก็ออกจากอากาศปั่นป่วนแล้วด้วย ฮินะแปลกใจเลยที่ทำไมไอกะถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ไอกะบอกเพราะเธอเป็นรองประธาน ฮินะเลยถึงกับถามเลยว่ามาอยู่ด้วยตั้งแต่เมื่อไร ไอกะบอกก็ตั้งแต่ตอนที่ฮินะจ้องเด็กอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อที่บิสิเนสเลาจน์นั้นแหละ ฮินะเลยถึงกับโวยเลยว่าแล้วทำไมถึงไม่พูดอะไรให้เธอรู้ตัวบ้างเลย ไอกะบอกเห็นฮินะตอนที่กระวนกระวายตัวคนเดียวแล้วมันน่ารักดี และ....
ไอกะ: รู้สึกว่าจะได้ยินอะไรที่ไม่ควรด้วยสิ...
ไอกะ: ตอนที่เธออุบอิบๆชื่อผู้ชายคนนั้นออกมา
ฮินะถึงกับหน้าแดงอายสุดๆจนรีบซึนบอกไม่ได้อุบอิบๆนะ แต่ไอกะก็จะบอกว่าฮินะพูดชื่อ.. "ฮายา..." ฮินะถึงกับรีบบอกเลยว่าไม่มีทางพูดแน่ๆ
หลังจากนั้น... ฮินะก็พึ่งนึกได้ว่ายังต้องมีขึ้นเที่ยวกลับด้วยนิ พอคิดแล้วก็เหงื่อตกเลย
จบตอน