Air Arabia เป็นสายการบิน Low Cost ของ UAE หรือ สหรัฐอารับเอมิเรต มีสำนักงานอยู่ที่สนามบิน Sharjah International Airport
แถวที่นั่ง 6 ที่นั่งฝั่งละ 3 ที่นั่ง ฉันนั่งอยู่ริมทางเดินแถวถัดจากที่นั่งตรงประตู Emergency มาหนึ่งแถว ไฟลท์นี้บินจากกรุงเทพไป Sharjah, UAE และสำหรับผู้ที่จะต่อเครื่องไป Aman, Jordan Tbilisi, Georgia Kiro, Egyp
ที่เค้าท์เตอร์เช็คอินที่สุวรรณภูมิได้ยิน ว.แจ้งว่ามีผู้โดยสารไทยคนเดียวที่ไปทบิลิซี ตอนนั้นฉันยังงงว่า Sharjah นี่คือประเทศอะไร เพิ่งรู้คอนเช็คอินนี่แหละ
ตอนจองตั๋วฉันอ่านรีวิวในพันทิปสำหรับสายการบินนี้มีคนให้ 2/5 ให้ระวังเรื่องดีเลย์ตกเครื่อง ฉันเลยซื้อประกันการเดินทางของสายการบินเพิ่มอีกสี่ร้อยกว่าบาท เพื่อความอุ่นใจ และก็ได้มีประสบการณ์ได้ใช้ประกันนี้จริง
เที่ยวบิน กรุงเทพ-จอร์เจีย สายการบิน Air Arabia มีวันละ 1 เที่ยว รวมเวลาบิน 10 ชั่วโมงครึ่ง
Boarding Pass ออกมาให้ 2 ใบคือ
· สุวรรณภูมิ-ชาราจ
· ชาราจ-ทบิลิซี
ไฟลท์จากสุววณภูมิ-ชาราจ ตอนออกเดินทางดีเลย์ไปประมาณ 30 นาที ผู้โดยสารส่วนมากเป็นชาวอาหรับ ที่นั่งที่ติด Emergency gate หน้าฉันเป็นชาวอาหรับหญิง 2 คนชุดหญิงอาหรับยาวสีดำคลุมฮิยาบ ชาย 1 คนชุดลำลอง อายุประมาณสิบแปดมาด้วยกันที่สร้างความลำบากใจให้ Flight Attendant พอควร ตั้งแต่ไม่ยอมเอากระเป๋าไว้ในที่เก็บเหนือศีรษะ เอา Mc Donal มานั่งกินบนพื้นที่กว้างตรงทางออก Emergency นอนบนพื้นพร้อมกันทั้ง 3 คน ฉันรู้สึกช้อคกับพฤติกรรมวัยรุ่นอาหรับได้แต่ลุ้นให้ผ่านไฟลท์ด้วยดีจนถึง ชาราจ
เนื่องจากไฟลท์ดีเลย์ตั้งแต่สุวรรณภูมิทำให้เมื่อถึงสนามบินชาราจเวลาถึงก็ดีเลย์ประมาณ 15 นาที ฉันยอมรับว่าสำเนียงภาษาอังกฤษของอาหรับฟังยากมากกก เมื่อเครื่องบิน landing เสร็จ Flight attendant ประกาศให้ผู้ที่ต้องไปต่อเครื่องออกมาก่อนฉันดันได้ยินคำว่า Exit เป็น Exist เข้าใจไปเองว่าให้นั่งอยู่กับที่ จากยืนรอออกก็กลับลงนั่งเบาะเหมือนเดิม ผ่านไปสักพักฉันสะกิด Flight attendant และบอกว่า Tbilisi she รีบกวักมือบอก GO GO Go
รู้ตัวว่าต้องรีบแล้วรีบขอทางฝ่าผู้โดยสารเกินครึ่งลำแหวกทางออกมา แล้วมีรถบัส transfer จากเครื่องเข้า gate บนรถบัสมีผู้โดยสารที่ต่อเครื่องเหมือนกันจำนวนหนึ่ง
พอเข้ามาในสนามบินชาราจมีเจ้าหน้าที่ถือป้าย TBILISI ฉันเดินตามทางที่เจ้าหน้าที่พาไปเป็นเค้าท์เตอร์ของสายการบิน พนักงานหน้าเค้าท์เตอร์ 2 คน ผู้หญิง 1 ผู้ชาย 1 กำลังก้มหน้าเก็บตั๋ว พอฉันบอกว่าทบิลิซี ผู้หญิงอาหรับร่างท้วมหน้าคมในชุดยูนิฟอร์มเงยหน้าขึ้นมาบอกว่า Gate is closed ฉันถามว่าอะไรนะ? เธอชี้ไปที่นาฬิกาข้อมือบอกว่าเวลานี้เกทปิดแล้ว ทั้งๆที่จริงๆ เวลาตอนนั้นยังไม่ถึงบ่ายโมงดี ตอนนั้นรู้สึกงงๆ ว่าอ้าว..ยังไง
ข้างๆกันมีผู้ชายดูเหมือนคนอาหรับเพราะใช้ภาษาอาหรับคุยกับเจ้าหน้าที่อีก 2-3 คนหน้าเค้าท์เตอร์ ด้วยอาการไม่พอใจและเริ่มเสียงดัง สักพักมีคู่ชาย-หญิงอีก 2 คนเดินกลับมาที่เค้าท์เตอร์คุยกับเจ้าหน้าที่ด้วยอาการซีเรียส
.
มารู้หลังจากคุยว่า 2 คนคู่แฟนต้องการไปลอนดอน มาจากกรุงเทพ-อามมาน(จอร์แดน)-ลอนดอน ก็ตกเครื่องบอกว่าได้วิ่งตรงไปที่ gate ทั้งๆที่เครื่องบินยังไม่ take off แต่เจ้าหน้าที่ๆ gate ไม่ยอมให้ขึ้นเครื่องให้กลับมาที่เค้าท์เตอร์ก่อนทั้งๆที่ทุกคนมีตั๋ว boarding pass ตั้งแต่ check-in ที่สุวรรณภูมิ สองคนนี้เป็นคนจอร์แดนที่ไปอยู่และทำงานที่ลอนดอน กลับจากไปเที่ยวทางเกาะในภาคใต้ของไทย พูดอังกฤษและอาหรับได้ดี ฉันเลยอาศัยเกาะ 2 คนนี้ให้ช่วยเหลือในการคุยกับเจ้าหน้าที่ สรุปว่าในไฟลท์จากสุวรรณภูมิมีคนตกเครื่อง 6 คน โดย 5 คนต่อไปกรุงอามาร จอร์แดน 1 คนคือฉันต่อไปทบิลิซี
ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าทุกคนต้องรอไฟลท์ของวันพรุ่งนี้ (รออีก 24 ชั่วโมง) ซื่งต้องนอนรอที่สนามบิน ฉันแจ้งว่าฉันซื้อประกันการเดินทางของสายการบินมาแล้ว ทางสายการบินให้เซนต์เอกสารว่าถ้าไปถึงทบิลิซีแล้วทาง ต.ม. ไม่ให้เข้าฉันต้องรับผิดชอบค่าตั๋วบินกลับเอง (มีแบบนี้ด้วย) โอเคเซ็นต์ก็เซ็นต์.ในใจคิดว่าจะมีไม่ยอมให้เข้าอีกเหรอ
.
ทางเจ้าหน้าที่ให้ฉันรอพาไปห้องพักในสนามบินเป็นโรงแรมอยู่ชั้นเดียวกัน เป็นซอกหลืบจากส่วนของ Duty Free
ฉันรอเพื่อนคู่แฟนจากลอนดอน 2 คน ซึ่งทั้งหมดอีก 5 คนไม่มีใครซื้อประกันการเดินทางเลย เค้าเลยจะไม่ได้ที่พัก/อาหาร/และต้องซื้อตั๋วใหม่เอง ใช้เวลาประมาณเกือบชั่วโมงที่ทั้ง 5 คนโวยวายขอพบ Manager ของสายการบินเพราะไม่ใช่ความผิดของเค้าจนทั้งหมดได้ ห้องพัก/voucher อาหาร 3 มื้อ/Boarding pass สำหรับไฟลท์พรุ่งนี้
.
เราจึงได้ที่พักตามภาพและรอเวลาสำหรับไฟลท์ต่อไป
.
ถ้าต้องการดูภาพสนามบินที่ชาราจ ตามไปดูใน Youtube ที่แปะไว้ด้านล่างได้ค่ะ
สถานการณ์นี้สอนให้รู้ว่า หากเวลา transfer น้อยกว่าขั่วโมงครึง ให้รับความเสี่ยงในการตกไฟลท์ ควรซื้อประกันไว้
และโลกจะฟังคนที่เสียงดัง ให้สู้เพื่อสิทธิของตัวเอง เหมือนคำสุภาษิตหมาที่เห่าดังย่อมอิ่ม
จริงๆมีเหตุการณ์อื่นๆ ในสถานการณ์นี้อีกให้ได้เรียนรู้ในสถานะประชากรโลก ไว้มีเวลาจะมาเล่าต่อนะคะ รวมทั้งวิธีการเคลมประกันที่ตอนแรกเหมือนว่าจะไม่ได้แล้ว
[CR] ประสบการณ์ตกเครื่องสายการบิน Air Arabia กรุงเทพ-จอร์เจีย
แถวที่นั่ง 6 ที่นั่งฝั่งละ 3 ที่นั่ง ฉันนั่งอยู่ริมทางเดินแถวถัดจากที่นั่งตรงประตู Emergency มาหนึ่งแถว ไฟลท์นี้บินจากกรุงเทพไป Sharjah, UAE และสำหรับผู้ที่จะต่อเครื่องไป Aman, Jordan Tbilisi, Georgia Kiro, Egyp
ที่เค้าท์เตอร์เช็คอินที่สุวรรณภูมิได้ยิน ว.แจ้งว่ามีผู้โดยสารไทยคนเดียวที่ไปทบิลิซี ตอนนั้นฉันยังงงว่า Sharjah นี่คือประเทศอะไร เพิ่งรู้คอนเช็คอินนี่แหละ
ตอนจองตั๋วฉันอ่านรีวิวในพันทิปสำหรับสายการบินนี้มีคนให้ 2/5 ให้ระวังเรื่องดีเลย์ตกเครื่อง ฉันเลยซื้อประกันการเดินทางของสายการบินเพิ่มอีกสี่ร้อยกว่าบาท เพื่อความอุ่นใจ และก็ได้มีประสบการณ์ได้ใช้ประกันนี้จริง
เที่ยวบิน กรุงเทพ-จอร์เจีย สายการบิน Air Arabia มีวันละ 1 เที่ยว รวมเวลาบิน 10 ชั่วโมงครึ่ง
Boarding Pass ออกมาให้ 2 ใบคือ
· สุวรรณภูมิ-ชาราจ
· ชาราจ-ทบิลิซี
ไฟลท์จากสุววณภูมิ-ชาราจ ตอนออกเดินทางดีเลย์ไปประมาณ 30 นาที ผู้โดยสารส่วนมากเป็นชาวอาหรับ ที่นั่งที่ติด Emergency gate หน้าฉันเป็นชาวอาหรับหญิง 2 คนชุดหญิงอาหรับยาวสีดำคลุมฮิยาบ ชาย 1 คนชุดลำลอง อายุประมาณสิบแปดมาด้วยกันที่สร้างความลำบากใจให้ Flight Attendant พอควร ตั้งแต่ไม่ยอมเอากระเป๋าไว้ในที่เก็บเหนือศีรษะ เอา Mc Donal มานั่งกินบนพื้นที่กว้างตรงทางออก Emergency นอนบนพื้นพร้อมกันทั้ง 3 คน ฉันรู้สึกช้อคกับพฤติกรรมวัยรุ่นอาหรับได้แต่ลุ้นให้ผ่านไฟลท์ด้วยดีจนถึง ชาราจ
พอเข้ามาในสนามบินชาราจมีเจ้าหน้าที่ถือป้าย TBILISI ฉันเดินตามทางที่เจ้าหน้าที่พาไปเป็นเค้าท์เตอร์ของสายการบิน พนักงานหน้าเค้าท์เตอร์ 2 คน ผู้หญิง 1 ผู้ชาย 1 กำลังก้มหน้าเก็บตั๋ว พอฉันบอกว่าทบิลิซี ผู้หญิงอาหรับร่างท้วมหน้าคมในชุดยูนิฟอร์มเงยหน้าขึ้นมาบอกว่า Gate is closed ฉันถามว่าอะไรนะ? เธอชี้ไปที่นาฬิกาข้อมือบอกว่าเวลานี้เกทปิดแล้ว ทั้งๆที่จริงๆ เวลาตอนนั้นยังไม่ถึงบ่ายโมงดี ตอนนั้นรู้สึกงงๆ ว่าอ้าว..ยังไง
ข้างๆกันมีผู้ชายดูเหมือนคนอาหรับเพราะใช้ภาษาอาหรับคุยกับเจ้าหน้าที่อีก 2-3 คนหน้าเค้าท์เตอร์ ด้วยอาการไม่พอใจและเริ่มเสียงดัง สักพักมีคู่ชาย-หญิงอีก 2 คนเดินกลับมาที่เค้าท์เตอร์คุยกับเจ้าหน้าที่ด้วยอาการซีเรียส
ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าทุกคนต้องรอไฟลท์ของวันพรุ่งนี้ (รออีก 24 ชั่วโมง) ซื่งต้องนอนรอที่สนามบิน ฉันแจ้งว่าฉันซื้อประกันการเดินทางของสายการบินมาแล้ว ทางสายการบินให้เซนต์เอกสารว่าถ้าไปถึงทบิลิซีแล้วทาง ต.ม. ไม่ให้เข้าฉันต้องรับผิดชอบค่าตั๋วบินกลับเอง (มีแบบนี้ด้วย) โอเคเซ็นต์ก็เซ็นต์.ในใจคิดว่าจะมีไม่ยอมให้เข้าอีกเหรอ
.
ทางเจ้าหน้าที่ให้ฉันรอพาไปห้องพักในสนามบินเป็นโรงแรมอยู่ชั้นเดียวกัน เป็นซอกหลืบจากส่วนของ Duty Free
ฉันรอเพื่อนคู่แฟนจากลอนดอน 2 คน ซึ่งทั้งหมดอีก 5 คนไม่มีใครซื้อประกันการเดินทางเลย เค้าเลยจะไม่ได้ที่พัก/อาหาร/และต้องซื้อตั๋วใหม่เอง ใช้เวลาประมาณเกือบชั่วโมงที่ทั้ง 5 คนโวยวายขอพบ Manager ของสายการบินเพราะไม่ใช่ความผิดของเค้าจนทั้งหมดได้ ห้องพัก/voucher อาหาร 3 มื้อ/Boarding pass สำหรับไฟลท์พรุ่งนี้
.
เราจึงได้ที่พักตามภาพและรอเวลาสำหรับไฟลท์ต่อไป
สถานการณ์นี้สอนให้รู้ว่า หากเวลา transfer น้อยกว่าขั่วโมงครึง ให้รับความเสี่ยงในการตกไฟลท์ ควรซื้อประกันไว้
และโลกจะฟังคนที่เสียงดัง ให้สู้เพื่อสิทธิของตัวเอง เหมือนคำสุภาษิตหมาที่เห่าดังย่อมอิ่ม
จริงๆมีเหตุการณ์อื่นๆ ในสถานการณ์นี้อีกให้ได้เรียนรู้ในสถานะประชากรโลก ไว้มีเวลาจะมาเล่าต่อนะคะ รวมทั้งวิธีการเคลมประกันที่ตอนแรกเหมือนว่าจะไม่ได้แล้ว
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้