เรียกสินไหมค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม ครับ ประโยชน์ของผู้ใช้รถที่ถูกละเมิดที่หลายคนไม่เคยเรียก จากการถูกคู่กรณีชน เราก็มักจะซ่อมจบๆกันไปคือสินไหมค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม
1. หลังจากเฉี่ยวชนเรียกประกันมาเครียร์แล้ว ให้ใช้มือถือถ่ายหัวกระดาษของใบเคลมที่ประกันคู่กรณีออกให้ด้วย ว่าที่ไหน เบอร์อะไร
2.เอาใบเคลมของประกันฝ่ายเราเข้าซ่อมในศูนย์หรืออู่ในเคลือ ก่อนให้อย่าลืมถ่ายเอกสารไว้
3.เมื่อรถซ่อมเสร็จ ขอสำเนาเอกสารรายการซ่อม และใบรับรถส่งรถที่มีวันที่ชัดเจน มาถึงขั้นตอนเรียกสินไหมล่ะ
4.โทรหาประกันคู่กรณี แจ้งเลยว่าจะยื่นเรียกสินไหมค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม
5.เขาจะให้เบอร์ fax ฝ่ายเคลมมา
6.เอกสารที่ต้อง fax คือ
6.1หนังสือที่ผมมีตัวอย่างจากการใช้จริงให้ด้านล่างของกระทู้ หากมีเส้นทางแน่นอนต้องเขียนแผนที่เดินทางด้วย
6.2สำเนาใบเคลมหรือรายละเอียดการซ่อม และเอกสารที่ระบุวันรับและส่งคืน
6.3สำเนาบัตรบัตรประชาชน
6.4สำเนาหน้ากรมธรรนของเรา ไม่ต้อง fax เบอร์บัญชี
7.Fax แล้วรอ 2วันทำการ แล้วโทรตามไปถามว่าใครรับเรื่อง จะมีหมายเลขเคลมขึ้นมาด้วย จดไว้จะได้ติดต่อกันง่าย
8.รออนุมัติ จะมี จนท.นั้นๆโทรมาแจ้งว่าได้เท่าไร ต่อรองได้ จะได้ 50%เสมอ
9. มี fax ใบตกลงรับค่าชดเชย มาเซ็นต์แล้ว fax กลับ
10.จะออกเชคให้อาจไปรับเองหรือส่งไปรษณีย์ ใช้เวลาออกเชคใน 7วัน ประกันโทรมาครั้งแรกให้วันละ 500x28=14000 ผมก็เลยขอ1000 ต่อวัน รวม 28000 จบที่วันละ 600x28=16800 บาท แปลว่าทุกท่านที่เคยถูกละเมิด ถูกคนอื่นขับรถชนท้ายแล้วท่านไม่เรียกสินไหม ท่านกำลังเสียประโยชน์ไป 16800 บาทนะครับ ตอนนี้เคสผมอยู่ในขั้นตอนรอเชคครับ ดีกว่าไม่ได้เลย ----------------------------- ข้าพเจ้า xxxxxx เจ้าของรถ mitsubishi lancer ex ทะเบียน xxxx กทม ถูกรถยนต์ที่ขับโดยคุณ xxxxxx ยี่ห้อ xxxxx ทะเบียน xxxx กทม ชนท้ายที่ xxxx เมื่อวันที่ xxxxx ทำให้รถข้าพเจ้ามีความเสียหายคือ xxxxx xxxxx xxxxx xxxxx ข้าพเจ้าได้จึงได้นำรถเข้าซ่อมที่ศูนย์มิตซูบิชิสาขา xxx ในวันที่ xxxx ซ่อมเสร็จ วันที่ xxxxx เป็นเวลา 28 วัน ข้าพเจ้าทำงานเป็น xxxxxx ทั่วกรุงเทพปริมณฑลต้องใช้รถทุกวันราวๆ xxx กม./วัน ต้องนั่งแท๊กซี่ไปทำงานแทนประกอบกับความไม่สะดวกในการเดินทางอย่างมาก จึงขอเรียกสินไหมดังนี้ 1. ค่าขาดผลประโยชน์จากการใช้รถ xxxx บาทต่อวัน เป็นระยะเวลา 28วัน รวม xxxxx บาท 2. ค่าเสื่อมสภาพรถจากอุบัติเหตุ xxxxx บาท รวมทั้งสิ้น xxxxx บาท ค่าชดเชยประโยชน์จากการใช้รถที่หายไป ลืมบอกไปว่า..ในข้อ 2. ค่าเสื่อมสภาพรถจากอุบัติเหตุไม่อนุมัตินะครับ เพราะถือว่าเขาเปลี่ยนชิ้นส่วนให้เราแล้วจึงไม่เกิดการเสื่อมสภาพ ได้แต่ 1. ค่าขาดผลประโยชน์จากการใช้รถ ถ้าไม่พอใจสินไหมที่อนุมัติตกลงกันไม่ได้ ก็ต้องร้องต่อ คปภ. แต่ต้องดำเนินการเอง fax เคลมไม่ได้ ยุ่งยากและเสียเวลาเรา ซึ่งข้อนี้ บ.ประกันมันรู้เลยกดราคาเราเผื่อต่อเพราะรู้ว่าเราไม่อยากไปร้องอีก จุดที่เขาประเมินคือรถอยู่ในอู่จริงกี่วันมากกว่าครับ สูงสุดที่มีคนได้กันคือ 1500บาทต่อวันแต่ต้องร้องไปที่ คปภ.ถึงได้นะครับ เคสทั่วไปมักได้ 500 เท่านั้นแหละ ถ้าเช่ารถก็ขอใบเสร็จมายืนยันด้วยนะครับ แต่ก็ไม่ได้เต็มค่าเช่าอยู่ดี เข้าเนื้อแน่นอน จริงๆต่อให้ทดแทน 1000 ต่อวันก็ไม่คุ้มหรือกำไรหรอกนะครับ รถที่ถูกซ่อมไม่มีวัน100%เหมือนเดิม บ.ประกันคู่กรณีก็ไม่ได้เด่นดังอะไร เกิดมาพึ่งได้ยิน ได้แค่นี้ก็บุญแล้ว ทำใจๆ เลยคิดแบบง่ายๆว่าดีกว่าไม่ได้ก็พอใจแล้วครับ
เครดิตบทความโดย....หาต้นตอไม่เจอครับ ส่งต่อๆกันมาเรื่อย
เรื่องน่ารู้ แต่หลายคนมองข้าม
เรียกสินไหมค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม ครับ ประโยชน์ของผู้ใช้รถที่ถูกละเมิดที่หลายคนไม่เคยเรียก จากการถูกคู่กรณีชน เราก็มักจะซ่อมจบๆกันไปคือสินไหมค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม
1. หลังจากเฉี่ยวชนเรียกประกันมาเครียร์แล้ว ให้ใช้มือถือถ่ายหัวกระดาษของใบเคลมที่ประกันคู่กรณีออกให้ด้วย ว่าที่ไหน เบอร์อะไร
2.เอาใบเคลมของประกันฝ่ายเราเข้าซ่อมในศูนย์หรืออู่ในเคลือ ก่อนให้อย่าลืมถ่ายเอกสารไว้
3.เมื่อรถซ่อมเสร็จ ขอสำเนาเอกสารรายการซ่อม และใบรับรถส่งรถที่มีวันที่ชัดเจน มาถึงขั้นตอนเรียกสินไหมล่ะ
4.โทรหาประกันคู่กรณี แจ้งเลยว่าจะยื่นเรียกสินไหมค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม
5.เขาจะให้เบอร์ fax ฝ่ายเคลมมา
6.เอกสารที่ต้อง fax คือ
6.1หนังสือที่ผมมีตัวอย่างจากการใช้จริงให้ด้านล่างของกระทู้ หากมีเส้นทางแน่นอนต้องเขียนแผนที่เดินทางด้วย
6.2สำเนาใบเคลมหรือรายละเอียดการซ่อม และเอกสารที่ระบุวันรับและส่งคืน
6.3สำเนาบัตรบัตรประชาชน
6.4สำเนาหน้ากรมธรรนของเรา ไม่ต้อง fax เบอร์บัญชี
7.Fax แล้วรอ 2วันทำการ แล้วโทรตามไปถามว่าใครรับเรื่อง จะมีหมายเลขเคลมขึ้นมาด้วย จดไว้จะได้ติดต่อกันง่าย
8.รออนุมัติ จะมี จนท.นั้นๆโทรมาแจ้งว่าได้เท่าไร ต่อรองได้ จะได้ 50%เสมอ
9. มี fax ใบตกลงรับค่าชดเชย มาเซ็นต์แล้ว fax กลับ
10.จะออกเชคให้อาจไปรับเองหรือส่งไปรษณีย์ ใช้เวลาออกเชคใน 7วัน ประกันโทรมาครั้งแรกให้วันละ 500x28=14000 ผมก็เลยขอ1000 ต่อวัน รวม 28000 จบที่วันละ 600x28=16800 บาท แปลว่าทุกท่านที่เคยถูกละเมิด ถูกคนอื่นขับรถชนท้ายแล้วท่านไม่เรียกสินไหม ท่านกำลังเสียประโยชน์ไป 16800 บาทนะครับ ตอนนี้เคสผมอยู่ในขั้นตอนรอเชคครับ ดีกว่าไม่ได้เลย ----------------------------- ข้าพเจ้า xxxxxx เจ้าของรถ mitsubishi lancer ex ทะเบียน xxxx กทม ถูกรถยนต์ที่ขับโดยคุณ xxxxxx ยี่ห้อ xxxxx ทะเบียน xxxx กทม ชนท้ายที่ xxxx เมื่อวันที่ xxxxx ทำให้รถข้าพเจ้ามีความเสียหายคือ xxxxx xxxxx xxxxx xxxxx ข้าพเจ้าได้จึงได้นำรถเข้าซ่อมที่ศูนย์มิตซูบิชิสาขา xxx ในวันที่ xxxx ซ่อมเสร็จ วันที่ xxxxx เป็นเวลา 28 วัน ข้าพเจ้าทำงานเป็น xxxxxx ทั่วกรุงเทพปริมณฑลต้องใช้รถทุกวันราวๆ xxx กม./วัน ต้องนั่งแท๊กซี่ไปทำงานแทนประกอบกับความไม่สะดวกในการเดินทางอย่างมาก จึงขอเรียกสินไหมดังนี้ 1. ค่าขาดผลประโยชน์จากการใช้รถ xxxx บาทต่อวัน เป็นระยะเวลา 28วัน รวม xxxxx บาท 2. ค่าเสื่อมสภาพรถจากอุบัติเหตุ xxxxx บาท รวมทั้งสิ้น xxxxx บาท ค่าชดเชยประโยชน์จากการใช้รถที่หายไป ลืมบอกไปว่า..ในข้อ 2. ค่าเสื่อมสภาพรถจากอุบัติเหตุไม่อนุมัตินะครับ เพราะถือว่าเขาเปลี่ยนชิ้นส่วนให้เราแล้วจึงไม่เกิดการเสื่อมสภาพ ได้แต่ 1. ค่าขาดผลประโยชน์จากการใช้รถ ถ้าไม่พอใจสินไหมที่อนุมัติตกลงกันไม่ได้ ก็ต้องร้องต่อ คปภ. แต่ต้องดำเนินการเอง fax เคลมไม่ได้ ยุ่งยากและเสียเวลาเรา ซึ่งข้อนี้ บ.ประกันมันรู้เลยกดราคาเราเผื่อต่อเพราะรู้ว่าเราไม่อยากไปร้องอีก จุดที่เขาประเมินคือรถอยู่ในอู่จริงกี่วันมากกว่าครับ สูงสุดที่มีคนได้กันคือ 1500บาทต่อวันแต่ต้องร้องไปที่ คปภ.ถึงได้นะครับ เคสทั่วไปมักได้ 500 เท่านั้นแหละ ถ้าเช่ารถก็ขอใบเสร็จมายืนยันด้วยนะครับ แต่ก็ไม่ได้เต็มค่าเช่าอยู่ดี เข้าเนื้อแน่นอน จริงๆต่อให้ทดแทน 1000 ต่อวันก็ไม่คุ้มหรือกำไรหรอกนะครับ รถที่ถูกซ่อมไม่มีวัน100%เหมือนเดิม บ.ประกันคู่กรณีก็ไม่ได้เด่นดังอะไร เกิดมาพึ่งได้ยิน ได้แค่นี้ก็บุญแล้ว ทำใจๆ เลยคิดแบบง่ายๆว่าดีกว่าไม่ได้ก็พอใจแล้วครับ
เครดิตบทความโดย....หาต้นตอไม่เจอครับ ส่งต่อๆกันมาเรื่อย