เรื่องมีอยู่ว่าเกิดอุบัติเหตุช่วงต้นปี เกิดเหตุรถชนซึ่งผมไม่มีประกันแต่คู่กรณีมีประกันชั้น 1
แล้วสรุปทางคดีผมเป็นฝ่ายถูกจากการสอบสวนกับทางร้อยเวร
พอถึงช่วงที่กำลังเคลียร์กับประกันคู่กรณีผมไม่ได้ใส่แว่นบวกกับเกิดอาการปวดหัวและมีการเซ็นเอกสารการเคลมและพร้อมกับใบบันทึกความที่สน.
มีการเปรียบเทียบปรับ(คู่กรณี 100บาท) ซึ่งผมไม่ค่อยทราบว่าต้องเรียกร้องยังไง
-สรุปทางประกันชั้น1 เขามีการซ่อมรถให้อยู่ในสภาพปกติ ส่วนภายหลังผมมีการสอบถามเรื่องค่าสินไหมทดแทน(ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ) สรุปทางประกันชั้น1 อ้างให้ผมไปเรียกกับพรบ.รถ คู่กรณี และไม่มีการให้ใบเคลมหรือใบกรรมทันให้กับทางผม แล้วพอถึงวันส่งซ่อมให้ทางอู่รถก็มีเวลาซ่อมเกือบ 1เดือนแล้วทางอู่รถแจ้งเอารถมาคืนไม่กี่วันที่ผ่านมาและซ่อมไม่ตรงตามที่อ้างคือซ่อมไม่ครบซ่อมไม่เสร็จส่วนอะไหล่ไม่ตรงที่เสื่อมเสียไป พร้อมพอติดต่อประกันภัยคู่กรณีก็อ้างจะติดต่ออู่รถให้ แต่เรื่องมันก็เงียบเกือบ 3วันแล้วครับ
ปล.ติดต่อเองทุกอย่างตั้งแต่การซ่อมรถและทั้งทวงค่าสินไหมพรบ.กับคู่กรณี วุ่นวายมากครับ
ปล.สรุปผมควรทำยังไงครับให้ได้เงินค่าสินไหมจากทางประกันภัยและพรบ.ของคู่กรณีครับ
ต้องทำอย่างไรกับกรณีนี้การเรียกค่าสินไหมทดแทน(ค่าขาดประโยชน์จากการใช้งานรถ)และซ่อมรถ(ไม่เสร็จ)ให้อยู่สภาพปกติ
แล้วสรุปทางคดีผมเป็นฝ่ายถูกจากการสอบสวนกับทางร้อยเวร
พอถึงช่วงที่กำลังเคลียร์กับประกันคู่กรณีผมไม่ได้ใส่แว่นบวกกับเกิดอาการปวดหัวและมีการเซ็นเอกสารการเคลมและพร้อมกับใบบันทึกความที่สน.
มีการเปรียบเทียบปรับ(คู่กรณี 100บาท) ซึ่งผมไม่ค่อยทราบว่าต้องเรียกร้องยังไง
-สรุปทางประกันชั้น1 เขามีการซ่อมรถให้อยู่ในสภาพปกติ ส่วนภายหลังผมมีการสอบถามเรื่องค่าสินไหมทดแทน(ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ) สรุปทางประกันชั้น1 อ้างให้ผมไปเรียกกับพรบ.รถ คู่กรณี และไม่มีการให้ใบเคลมหรือใบกรรมทันให้กับทางผม แล้วพอถึงวันส่งซ่อมให้ทางอู่รถก็มีเวลาซ่อมเกือบ 1เดือนแล้วทางอู่รถแจ้งเอารถมาคืนไม่กี่วันที่ผ่านมาและซ่อมไม่ตรงตามที่อ้างคือซ่อมไม่ครบซ่อมไม่เสร็จส่วนอะไหล่ไม่ตรงที่เสื่อมเสียไป พร้อมพอติดต่อประกันภัยคู่กรณีก็อ้างจะติดต่ออู่รถให้ แต่เรื่องมันก็เงียบเกือบ 3วันแล้วครับ
ปล.ติดต่อเองทุกอย่างตั้งแต่การซ่อมรถและทั้งทวงค่าสินไหมพรบ.กับคู่กรณี วุ่นวายมากครับ
ปล.สรุปผมควรทำยังไงครับให้ได้เงินค่าสินไหมจากทางประกันภัยและพรบ.ของคู่กรณีครับ