ราตรีสีอำพัน (117)
ท่านชายอะซันกางผ้ากรูซต้าร์บังไว้ ริมฝีปากอิ่มอุ่น ยังมิอยากผละออกจนนาทีสุดท้าย
หัวใจหมอเติ้ลเต้นแรงแทบจะหลุดออกจากร่าง ใบหน้าร้อนผ่าวหวิวๆเหมือนจะขาดใจ
พี่รองเงยหน้าจากเส้นทางที่เดินอยู่ขึ้นมาเห็นท่านชายหยุดรอและยกผ้าโผกหัวขึ้นมา
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับท่านชาย”
“ดูเหมือนจะมีอะไรเข้าไปในตาคู่สวยของหมอนะครับ” ท่านชายเฉไฉ ใบหน้าหมอเติ้ลแดงออกชมพู
“เอ! ผมว่าหมอเติ้ล ต้องแพ้ไอ้ฝุ่นบ้านี่แน่เลย ดูซิหน้าแดงกล่ำเชียว”
หมอเติ้ลเหลือทน “บ้าๆๆๆๆ!”
“บ้า แปลว่าอะไรครับอาจารย์ผมเห็นหมอชอบใช่กับผม”
“แปลว่าคนพูดเขาโมโหน่ะครับ ท่านชายชอบทำให้คุณหมอโมโหหรือครับ”
“ไม่ทราบครับ คุณหมออย่าโมโหเลย เดี๋ยวไม่สวยนะครับ” ท่านชายแหย่
“ฮึ” เสียงสะบัดขึ้นจมูก
“ท่าจะขัดใจมาก” พี่รองพรึมพรำเบาๆ
“สงสัยจะโดนจูจุ๊บ”เขาพูดเบาๆกับแป้ง แป้งตาลอย
“เฮ้ย! เขาจูบกัน ไม่ได้จูบแป้ง แต่ยังทันนะเพราะแขกเขามีภรรยาได้สี่คน”
เสียงทุบหลังพฤกษาดัง”ผลั๊ก” “เฮ้ย! อย่าเล่นแรงซิ พี่เจ็บ”
“พี่รองพูดแบบนี้ดูถูกแป้งนะคะ”
“เออ!เอาน่าแหย่หน่อยไม่ได้เลยคนสวย”
“หน้ากลมป๊อกนี่นะสวย” แป้งยังไม่หายอารมณ์เสีย
“กลมก็สวย กลมก็รัก นะนะ” พี่รองประเหลาะ
ท่านชายได้ยินทั้งสองส่งเสียงเหมือนเถียงกันเป็นภาษาไทย
“เขาสองคนเหมาะกันนะครับ”
“ใครได้พี่รองเป็นแฟนถือว่าโชคดีนะ ทั้งอบอุ่น ทั้งอ่อนโยน และ มีความรับผิดชอบ”
คุณพูดเหมือนท่านหญิงมาเรียม” ใครได้พี่ชายข้าเป็นแฟน นับว่าโชคดี รู้ผิด รู้ชอบ ทั้งหล่อ และใจกว้าง”
“ฮึ!ฉันว่าเวอร์ชั่นนี้คุณพูดเองมากกว่า”
“ไม่เชื่อก็ถามท่านหญิงซิครับ” ท่านชายยิ้มหวานแทบจะกลืนหมอเติ้ลลงไปไว้ที่อก
หนุ่มสาวมาถึงที่พักเวลาสี่โมงครึ่ง ทุกคนที่กลับมาก่อน ลงไปเล่นน้ำที่สระ
และฝากบอกผู้จัดการไว้ “คณะท่านชายไปลงสระหมดครับ”
“ไปร่วมวงกันหน่อยมั๊ยครับท่านชาย” พี่รองชวน
“ไม่ดีกว่ามังครับ ผมลง คงมีบางคนไม่กล้าลงแน่”
“ใครบอก แข่งกันยังได้เลย” หมอเติ้ลจะหาทางแก้ลำ “ผมชนะแล้วจะได้อะไรล่ะครับ” ท่านชายถาม
“ยังนึกไม่ออกว่าจะชนะได้อย่างไรฮึ!”
“เอาเป็นว่าถ้าชนะคืนนี้ต้องเต้นรำกับผมนะครับ” “ได้”
ทั้งสี่คนไปเปลี่ยนชุดว่ายน้ำ แป้งแต่งเป็นวันพีช (ชุดเดียวติดกัน) ติดกันตัวล่างเป็นกระโปรงดูพอไหวไม่โป๊นัก
หมอเติ้ลใส่เป็นผ้ายืดแขนสั้น กางกงขาสั้นยาวถึงเข่า สีน้ำเงินแถบฟ้า ท่านชาย และ พี่รอง ใส่กางเกงยืดขาสั้น กล้ามเนื้ออกแข็งแรงหน้าท้องเป็นซิกแพค พี่รองก็หุ่นไม่เลวแต่บางกว่า ขนอกเป็นแผงเหมือนๆกัน
“ค่อยยังชั่วไม่รกรุงรังเหมือนลิง” หมอเติ้ลนึก
หมอเติ้ลใส่หมวกว่ายน้ำ ใบหน้าสดใสดวงตาโตมีแววเอาเรื่อง
“ท่านคณะกรรมการขึ้นมาก่อนนะครับทั้งสองทั่นจะแข่งว่ายน้ำ” ทุกคนขึ้นมาเชียร์
“สองรอบนะใครแตะขอบสระก่อนชนะ” พี่รองสั่งเตรียมตัว
“นับถึงสามนะแล้วออกเลย”
“สาม” หมอเติ้ลถีบตัวนำลิ่ว เป็นท่าฟรีสไตค์ ท่านชายตามติด มูซา อับดุลนั่งลุ้นที่ข้างสระ
พี่รองเห็นท่านชายตามอยู่แต่เขาได้เปรียบเพราะเอาหน้าขึ้นหายใจครั้งเดียว แต่หมอเติ้ลขึ้นหายใจสองครั้ง รอบแรกหมอเติ้ลยังนำอยู่ไม่ไกล แล้วนาทีสุดท้ายท่านชายก็เป็นคนแรกที่แตะขอบสระ
“เฮ้!” เสียงเชียร์ลั่น ทั้งสองขึ้นมาที่ขอบสระ
“ป๋า คุณพ่อ เชียร์ใครคะเนี่ย” เติ้ลถามอย่างอารมณ์เสีย
“อ้าว!เขาก็เชียร์คนที่ชนะนะซิ ฮะฮ่า” ป๋าตอบ หมอเติ้ลยอมแพ้ แต่ค้อนให้ประชาชี จนรอบสระ
มะนั่งยิ้ม “เป็นไงเป็นหนึ่งมาตลอด ตอนนี้แย่ซะแล้ว” มะนึก
“แหม ทำเป็นเก่งนึกว่าจะชนะ เสียชื่อหมด” พี่รองแหย่ หมอเติ้ลวิ่งไล่ตีรอบสระ เสียงหัวเราะครื้นเครง
ป๋ามานั่งใกล้ๆมะเอามือโอบ ทั้งคู่คิดเหมือนกัน “เพียงไม่กี่ปี ลูกๆโตกันหมดแล้ว เพียงเหมือนเมื่อวันวานนี้เอง”
ยังไม่พอใจเห็นท่านชายพักอยู่ หมอเติ้ลเอามือไปผลักท่านชายจนหัวทิ่มลงน้ำ
แต่ไวพอกันเขาคว้ามือเธอทันเลยลงไปทั้งคู่ นัวเนียกันพักใหญ่ ท่านชายฉัตราทัศน์หัวเราะ
“เออๆ!พอดีกันเลยนะ” ที่ๆตกลงไปท่านชายยืนถึงเขาคว้าเอวแล้วยกหมอขึ้นเทินศีรษะ
“ปล่อยฉันนะ บ้า! อายเขา” เสียงท่านชายหัวเราะชอบใจ
“เกเรแบบนี้ผมลงโทษได้ไหมครับป๋า” “อย่าดีกว่า เดี๋ยวป๋าโดนมะหักคอตาย” ท่านชายยิ้มแล้วปล่อยเธอลง
ตะวันลับฟ้าแล้วทุกคนกลับไปอาบน้ำแล้วเตรียมตัวไปกินอาหารค่ำ
ห้องอาหารแยกออกมาต่างหากเป็นสัดส่วน บุปเฟ่จัดอยู่มุมใน พร้อมเครื่องดื่ม และพนักงานเสริฟ
ท่านชายใส่สูทลำลองสีดำทับเสื้อยืดโบโลสีม่วงขาวคาดเข็มขัด กางเกงสแลคสีดำ รองเท้าหนังขัดเป็นเงา
หนวด เครา มูซาเล็มให้อย่างประณีต
หมอเติ้ลใส่ชุดแซก คอแหลม แขนล้ำ ยาวลงมาเลยเข่าปลายบานย้วย ผมเกล้าอย่างงามด้วยฝีมือพี่แดง
ปักด้วยปิ่นทองคำขาวรูปวงเดือน สร้อยคอทองคำขาวที่มะให้ ใบหน้าแต่งบางๆ ลิปสีอ่อน
หลังอาหารค่ำ พฤกษาเอาวิดีโอมาต่อเข้าเครื่องเล่นให้ได้ดูกัน
ความสวยงามของมหานครเพตราดูกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ บนยอดเขากว้างที่ทั้งสี่คนขึ้นไป
ตอนท่านชายเอามือปิดตาหมอแล้วนึกถึงเพตราในยามรุ่งเรือง ปลายเท้าทั้งสองคนปรากฏเป็นภาพเลือนๆของหญิงนางหนึ่งซบอยู่เหมือนเอ่ยสิ่งใดแล้วค่อยๆจางหายไป “โซเฟียๆ” เสียงหมอเดิ้ลแผ่วลงดวงตาแดง
“ไม่ร้องให้ครับนางไปดีแล้ว นางเพียงต้องการมาลาเราครับ” เสียงท่านชายอ่อนโยน หมอเติ้ลพยักหน้าแล้วใช้ปลายนิ้วกรีดน้ำตา
“อ้าสิ่งที่พูดถึงมีอยู่จริงเป็นพยานให้ทุกคนเห็นด้วยภาพ
“อุ๊ย!” แป้งร้องเบาๆ ก่อนเขยื้อบเข้ากอดแขนป๋าแน่น ภาพถ่ายที่สู้ปีนด้วยม้าไปเก็บภาพด้านหลังมหานคร สวยงามสมปรารถนา ทุกคนประทับใจกับรายละเอียดที่พฤกษาเก็บภาพมา
ป๋าเปิดเป็นเพลงวอลซ์ บรรเลงเบาๆ แล้วลุกขึ้นโค้งมะ ลุงหม่อมโค้งท่านป้า พี่รองพาแป้งออก
ท่านชายลุกขึ้นโค้งกายอย่างสวยงามดูทั้งคู่จะแย่งซีน คนอื่นหมดไม่ว่าท่าทางที่สง่างาม ความหล่อและสวย
“ช่างเหมาะกันยิ่งนัก”มะเอ่ยเบาๆ มูซาเป็นตากล้อง พักใหญ่ปลี่ยนเป็นแทงโก้ ลุมบ้า และชะชะช้า
“เฮ้อ! แค่สบตากันก็จะละลายแล้วนะป้า” พี่แดงกระซิบ
***กลิ่นดอกโศกจางไป
***กลิ่นไอน้องยังอบอวล
***สุขล้ำดุจดั่งแดนสรวง
***ดาวร่วงสู่หัตถาของข้าเอย
ราตรีสีอำพัน (117)
ท่านชายอะซันกางผ้ากรูซต้าร์บังไว้ ริมฝีปากอิ่มอุ่น ยังมิอยากผละออกจนนาทีสุดท้าย
หัวใจหมอเติ้ลเต้นแรงแทบจะหลุดออกจากร่าง ใบหน้าร้อนผ่าวหวิวๆเหมือนจะขาดใจ
พี่รองเงยหน้าจากเส้นทางที่เดินอยู่ขึ้นมาเห็นท่านชายหยุดรอและยกผ้าโผกหัวขึ้นมา
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับท่านชาย”
“ดูเหมือนจะมีอะไรเข้าไปในตาคู่สวยของหมอนะครับ” ท่านชายเฉไฉ ใบหน้าหมอเติ้ลแดงออกชมพู
“เอ! ผมว่าหมอเติ้ล ต้องแพ้ไอ้ฝุ่นบ้านี่แน่เลย ดูซิหน้าแดงกล่ำเชียว”
หมอเติ้ลเหลือทน “บ้าๆๆๆๆ!”
“บ้า แปลว่าอะไรครับอาจารย์ผมเห็นหมอชอบใช่กับผม”
“แปลว่าคนพูดเขาโมโหน่ะครับ ท่านชายชอบทำให้คุณหมอโมโหหรือครับ”
“ไม่ทราบครับ คุณหมออย่าโมโหเลย เดี๋ยวไม่สวยนะครับ” ท่านชายแหย่
“ฮึ” เสียงสะบัดขึ้นจมูก
“ท่าจะขัดใจมาก” พี่รองพรึมพรำเบาๆ
“สงสัยจะโดนจูจุ๊บ”เขาพูดเบาๆกับแป้ง แป้งตาลอย
“เฮ้ย! เขาจูบกัน ไม่ได้จูบแป้ง แต่ยังทันนะเพราะแขกเขามีภรรยาได้สี่คน”
เสียงทุบหลังพฤกษาดัง”ผลั๊ก” “เฮ้ย! อย่าเล่นแรงซิ พี่เจ็บ”
“พี่รองพูดแบบนี้ดูถูกแป้งนะคะ”
“เออ!เอาน่าแหย่หน่อยไม่ได้เลยคนสวย”
“หน้ากลมป๊อกนี่นะสวย” แป้งยังไม่หายอารมณ์เสีย
“กลมก็สวย กลมก็รัก นะนะ” พี่รองประเหลาะ
ท่านชายได้ยินทั้งสองส่งเสียงเหมือนเถียงกันเป็นภาษาไทย
“เขาสองคนเหมาะกันนะครับ”
“ใครได้พี่รองเป็นแฟนถือว่าโชคดีนะ ทั้งอบอุ่น ทั้งอ่อนโยน และ มีความรับผิดชอบ”
คุณพูดเหมือนท่านหญิงมาเรียม” ใครได้พี่ชายข้าเป็นแฟน นับว่าโชคดี รู้ผิด รู้ชอบ ทั้งหล่อ และใจกว้าง”
“ฮึ!ฉันว่าเวอร์ชั่นนี้คุณพูดเองมากกว่า”
“ไม่เชื่อก็ถามท่านหญิงซิครับ” ท่านชายยิ้มหวานแทบจะกลืนหมอเติ้ลลงไปไว้ที่อก
หนุ่มสาวมาถึงที่พักเวลาสี่โมงครึ่ง ทุกคนที่กลับมาก่อน ลงไปเล่นน้ำที่สระ
และฝากบอกผู้จัดการไว้ “คณะท่านชายไปลงสระหมดครับ”
“ไปร่วมวงกันหน่อยมั๊ยครับท่านชาย” พี่รองชวน
“ไม่ดีกว่ามังครับ ผมลง คงมีบางคนไม่กล้าลงแน่”
“ใครบอก แข่งกันยังได้เลย” หมอเติ้ลจะหาทางแก้ลำ “ผมชนะแล้วจะได้อะไรล่ะครับ” ท่านชายถาม
“ยังนึกไม่ออกว่าจะชนะได้อย่างไรฮึ!”
“เอาเป็นว่าถ้าชนะคืนนี้ต้องเต้นรำกับผมนะครับ” “ได้”
ทั้งสี่คนไปเปลี่ยนชุดว่ายน้ำ แป้งแต่งเป็นวันพีช (ชุดเดียวติดกัน) ติดกันตัวล่างเป็นกระโปรงดูพอไหวไม่โป๊นัก
หมอเติ้ลใส่เป็นผ้ายืดแขนสั้น กางกงขาสั้นยาวถึงเข่า สีน้ำเงินแถบฟ้า ท่านชาย และ พี่รอง ใส่กางเกงยืดขาสั้น กล้ามเนื้ออกแข็งแรงหน้าท้องเป็นซิกแพค พี่รองก็หุ่นไม่เลวแต่บางกว่า ขนอกเป็นแผงเหมือนๆกัน
“ค่อยยังชั่วไม่รกรุงรังเหมือนลิง” หมอเติ้ลนึก
หมอเติ้ลใส่หมวกว่ายน้ำ ใบหน้าสดใสดวงตาโตมีแววเอาเรื่อง
“ท่านคณะกรรมการขึ้นมาก่อนนะครับทั้งสองทั่นจะแข่งว่ายน้ำ” ทุกคนขึ้นมาเชียร์
“สองรอบนะใครแตะขอบสระก่อนชนะ” พี่รองสั่งเตรียมตัว
“นับถึงสามนะแล้วออกเลย”
“สาม” หมอเติ้ลถีบตัวนำลิ่ว เป็นท่าฟรีสไตค์ ท่านชายตามติด มูซา อับดุลนั่งลุ้นที่ข้างสระ
พี่รองเห็นท่านชายตามอยู่แต่เขาได้เปรียบเพราะเอาหน้าขึ้นหายใจครั้งเดียว แต่หมอเติ้ลขึ้นหายใจสองครั้ง รอบแรกหมอเติ้ลยังนำอยู่ไม่ไกล แล้วนาทีสุดท้ายท่านชายก็เป็นคนแรกที่แตะขอบสระ
“เฮ้!” เสียงเชียร์ลั่น ทั้งสองขึ้นมาที่ขอบสระ
“ป๋า คุณพ่อ เชียร์ใครคะเนี่ย” เติ้ลถามอย่างอารมณ์เสีย
“อ้าว!เขาก็เชียร์คนที่ชนะนะซิ ฮะฮ่า” ป๋าตอบ หมอเติ้ลยอมแพ้ แต่ค้อนให้ประชาชี จนรอบสระ
มะนั่งยิ้ม “เป็นไงเป็นหนึ่งมาตลอด ตอนนี้แย่ซะแล้ว” มะนึก
“แหม ทำเป็นเก่งนึกว่าจะชนะ เสียชื่อหมด” พี่รองแหย่ หมอเติ้ลวิ่งไล่ตีรอบสระ เสียงหัวเราะครื้นเครง
ป๋ามานั่งใกล้ๆมะเอามือโอบ ทั้งคู่คิดเหมือนกัน “เพียงไม่กี่ปี ลูกๆโตกันหมดแล้ว เพียงเหมือนเมื่อวันวานนี้เอง”
ยังไม่พอใจเห็นท่านชายพักอยู่ หมอเติ้ลเอามือไปผลักท่านชายจนหัวทิ่มลงน้ำ
แต่ไวพอกันเขาคว้ามือเธอทันเลยลงไปทั้งคู่ นัวเนียกันพักใหญ่ ท่านชายฉัตราทัศน์หัวเราะ
“เออๆ!พอดีกันเลยนะ” ที่ๆตกลงไปท่านชายยืนถึงเขาคว้าเอวแล้วยกหมอขึ้นเทินศีรษะ
“ปล่อยฉันนะ บ้า! อายเขา” เสียงท่านชายหัวเราะชอบใจ
“เกเรแบบนี้ผมลงโทษได้ไหมครับป๋า” “อย่าดีกว่า เดี๋ยวป๋าโดนมะหักคอตาย” ท่านชายยิ้มแล้วปล่อยเธอลง
ตะวันลับฟ้าแล้วทุกคนกลับไปอาบน้ำแล้วเตรียมตัวไปกินอาหารค่ำ
ห้องอาหารแยกออกมาต่างหากเป็นสัดส่วน บุปเฟ่จัดอยู่มุมใน พร้อมเครื่องดื่ม และพนักงานเสริฟ
ท่านชายใส่สูทลำลองสีดำทับเสื้อยืดโบโลสีม่วงขาวคาดเข็มขัด กางเกงสแลคสีดำ รองเท้าหนังขัดเป็นเงา
หนวด เครา มูซาเล็มให้อย่างประณีต
หมอเติ้ลใส่ชุดแซก คอแหลม แขนล้ำ ยาวลงมาเลยเข่าปลายบานย้วย ผมเกล้าอย่างงามด้วยฝีมือพี่แดง
ปักด้วยปิ่นทองคำขาวรูปวงเดือน สร้อยคอทองคำขาวที่มะให้ ใบหน้าแต่งบางๆ ลิปสีอ่อน
หลังอาหารค่ำ พฤกษาเอาวิดีโอมาต่อเข้าเครื่องเล่นให้ได้ดูกัน
ความสวยงามของมหานครเพตราดูกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ บนยอดเขากว้างที่ทั้งสี่คนขึ้นไป
ตอนท่านชายเอามือปิดตาหมอแล้วนึกถึงเพตราในยามรุ่งเรือง ปลายเท้าทั้งสองคนปรากฏเป็นภาพเลือนๆของหญิงนางหนึ่งซบอยู่เหมือนเอ่ยสิ่งใดแล้วค่อยๆจางหายไป “โซเฟียๆ” เสียงหมอเดิ้ลแผ่วลงดวงตาแดง
“ไม่ร้องให้ครับนางไปดีแล้ว นางเพียงต้องการมาลาเราครับ” เสียงท่านชายอ่อนโยน หมอเติ้ลพยักหน้าแล้วใช้ปลายนิ้วกรีดน้ำตา
“อ้าสิ่งที่พูดถึงมีอยู่จริงเป็นพยานให้ทุกคนเห็นด้วยภาพ
“อุ๊ย!” แป้งร้องเบาๆ ก่อนเขยื้อบเข้ากอดแขนป๋าแน่น ภาพถ่ายที่สู้ปีนด้วยม้าไปเก็บภาพด้านหลังมหานคร สวยงามสมปรารถนา ทุกคนประทับใจกับรายละเอียดที่พฤกษาเก็บภาพมา
ป๋าเปิดเป็นเพลงวอลซ์ บรรเลงเบาๆ แล้วลุกขึ้นโค้งมะ ลุงหม่อมโค้งท่านป้า พี่รองพาแป้งออก
ท่านชายลุกขึ้นโค้งกายอย่างสวยงามดูทั้งคู่จะแย่งซีน คนอื่นหมดไม่ว่าท่าทางที่สง่างาม ความหล่อและสวย
“ช่างเหมาะกันยิ่งนัก”มะเอ่ยเบาๆ มูซาเป็นตากล้อง พักใหญ่ปลี่ยนเป็นแทงโก้ ลุมบ้า และชะชะช้า
“เฮ้อ! แค่สบตากันก็จะละลายแล้วนะป้า” พี่แดงกระซิบ
***กลิ่นดอกโศกจางไป
***กลิ่นไอน้องยังอบอวล
***สุขล้ำดุจดั่งแดนสรวง
***ดาวร่วงสู่หัตถาของข้าเอย