คืออะไรผมไม่รู้ แต่ผมรู้ว่ามีคนต้องมาฆ่ากันเพื่อมัน
ถ้าสภาประชาชนคือ
กลุ่มประชาชน ที่ประชาชนทั้งประเทศแต่งตั้งเพื่อตรวจสอบ อนุมัติ โครงการใหญ่ๆ เรื่องสำคัญๆ ของรัฐบาลว่าสามารถเดินหน้าต่อได้ไหม ในรูปแบบที่ประชาชนทั้งประเทศมีส่วนร่วม เช่นเปิดทีวีช่องใหม่ขึ้นมาช่องนึง เพื่อนำเสนอคณะบุคคลที่สมัครเข้ามาเป็นสภาประชาชน โดยสภาประชาชนแต่ละคนจะถือคะแนนเสียงของคนทั่วประเทศอยู่ ไม่ว่าชาวนา เภสัช หมอ พ่อค้า คนทำอาหาร โดยคนที่จะเข้ามาเป็นสภาประชาชนได้ต้องมีฐานเสียงขั้นต่ำ xxxxx ขึ้นไปถึงจะเริ่มมีสิทธิได้ ประมาณกลุ่มชาวนากลุ่มข้ามาไถแต่งตั้งนาย A ขึ้นมาเป็นตัวแทนตน ต้องมีคนโหวตนาย A เกิน xxxxx คนขึ้นไป นาย A จะได้เข้าไปเป็น 1 ในสภาประชาชน ทีวีจะต้องนำเสนอแนวคิดที่เป็นวีดีโอพรีเซ้นของสภาประชาชนที่เอามาให้ทางทีวี แล้วเปิดวนให้ทุกคนได้ดูไปเรื่อยๆ โดยให้เวลา 1 เดือน ถ้าฐานเสียงคนนั้นยังไม่ถึง xxxxx คนนั้นจะถูกคัดออกอย่างน้อยเป็นเวลา x ปี ถึงจะมีสิทธิเข้ามาสมัครใหม่ได้ ทำให้พวกเขาเป็นดาราในมุมมองนึง แต่เป็นแค่บุคคลที่ต้องการเข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมือง ซึ่งส่วนใหญ่คนเราจะเลือกคนที่สายอาชีพตรงกับตน หรือไม่ก็คนที่ชอบหรือคนที่เกลียดเป็นที่ตั้ง โดยประชาชนทุกคนจะมี1เสียงให้คนกลุ่มนี้ สามารถให้คะแนนที่เขตได้ เดือนละ2ครั้ง.... เปลี่ยนไปให้นาย A B C ได้เดือนละครั้งไม่ชอบนาย A ให้นาย B นาย B ปากเสียให้นาย C เปลี่ยนได้ทุกวันราชการ ถ้าว่างก็ไปได้ไปเปลี่ยนที่เขตด้วยการรูดบัตรประชาชน โดยทุกครั้งที่รูดจะมีการบันทึกวีดีโอไว้ว่า รูดกี่โมงวันไหนที่ไหน รูดคะแนนให้ใครสามารถตรวจสอบได้ทั้งทางรัฐบาลฝ่ายค้านและองค์กรอิสระ
โดยหน้าที่ของสภาประชาชนไม่ได้มีหน้าที่บริหารประเทศ แต่มีหน้าที่ตัดสินใจแทนประชาชนทั้งประเทศว่าจะอนุมัติโครงการ หรือไม่ไว้วางใจ สส สว หรือไม่ เฉพาะโครงการใหญ่ หรือกฏหมายสำคัญสำคัญ โดยทุกเดือนจะคัดเลือกสภาประชาชน 500 คนที่มีเสียงมากไปน้อย 500 ท่านแรกเข้าสภาประชาชน โดยรัฐบาลเรียกประชุม สภาประชาชนได้เดือนละครั้ง มีไว้เสนอโหวตโครงการหรืออนุมัติโครงการ หรือเปลี่ยนแปลงกฏหมาย และฝ่ายค้านก็สามารถเรียกได้เดือนละครั้ง และสามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจ สส สว ได้ เดือนละ 10 คน เสนอให้สภาประชาชนโหวต ไม่ไว้วางใจหรือวางใจ โดยจะเปิดคะแนนผลโหวตออกทีวีทั้งหมด ให้ประชาชนเห็นผ่านทีวีเสร็จแล้วจะมีการนับคะแนนภายใน 7 วัน ว่า นาย A B C D E F G H~~~~~~~ โดย 7 วันนี้ประชาชนที่ดูทีวี จะมีเวลาในการไปเปลี่ยนฐานเสียงของตนเองได้ภายใน 7 วัน และสามารถตรวจสอบคำตอบว่า ตัวแทนเขาอนุมัติโครงการ หรือ เลือกไว้วางใจ หรือไม่ไว้วางใจ สส คนไหนผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้ พอถึงวันที่ 7 คะแนนของสมาชิกผู้แทนคนนั้นมีค่าเท่าไหร่จะเอาไป+ - กับคำตอบที่เขาเลือก ถ้า สส หรือ สว คนไหน โดนไม่ไว้วางใจ 2 ครั้งจะโดนใบแดง โดยการโหวตการนำเสนอจะออกทีวีตลอด โดยผู้ตัดสินใจคือสภาประชาชน ไม่ใช่ นักการเมือง ดังนั้นพฤติกรรมเฮงซวยดึงเชงกันไปเรื่อยด่ากันในสภาจะไม่เกิดเพราะคู่กรณีจะไม่อยู่ในสภา ใครกวนตีนบ้าบอมากๆทำให้ สภาประชาชนเบื่อก็มีโอกาสโดนโหวตตรงข้ามกับที่ตนต้องการ ดังนั้นทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลจะมีมารยาทมากขึ้น โดยถ้าเป็นเรื่องอนุมัติโครงการ สภาประชาชนจะมีหน้าที่เหมือนผู้ถือหุ้นโดยจำนวนหุ้นคือเสียงของประชาชนที่ให้คะแนนเขา ส่วนอภิปรายไม่ไว้วางใจตัวสภาประชาชน จะทำหน้าที่เหมือนศาลแต่คะแนนที่ใช้สามารถปรับเปลี่ยนได้ภายใจ7วัน ว่าผุ้แทนสภาประชาชนตอบ yes หรือ no ให้สส คนไหนประชาชนมีสิทธิไปเปลี่ยนคำตอบเขาด้วยการไปเลือกคนอื่นในช่วงเวลา 7 วัน ว่าจะไว้ใจหรือไม่ไว้วางใจ สส สว ตาม ผู้แทนคนไหน พอครบ 7 วันรวมคะแนนถ้าพบว่าไม่ไว้วางใจ สส คนนั้นจะโดนใบ เหลือง ถ้าโดนอีกครั้งจะโดนใบแดงและหมดสิทธิเป็น สส สว เป็นระยะเวลา 8 ปี โดยเสียงแพ้ชนะจะอยู่ที่ 60/40 ต้องเห็นด้วยมากกว่า 60 หรือ ไว้วางใจมากกว่า 60 โครงการถึงจะผ่าน หรือ สส สว จะไม่โดนใบเหลือง กรณีที่เป็นโครงการ ถ้าคะแนนยังอยู่ที่59-41 สามารถเอากลับมาเสนอสภาประชาชนใหม่ได้โดยคัดกรองโครงการใหม่ แต่ถ้าต่ำกว่า 40 ห้ามนำกลับมาใหม่ภายในเวลา 1 ปี ประมาณไปทำการบ้านมาใหม่ซะคุณสอบตก
นี่คือส่วนที่สภาประชาชนจะควบคุมรัฐบาล
ส่วนรัฐบาลและฝ่ายค้าน สามารถตั้งคำถามสภาประชาชน ได้โดยการตั้งคำถามให้สภาประชาชนตอบออกทีวี โดยถามคนที่ให้คะแนนตรงข้ามกับตนเช่น รัฐเสนอโครงการ พัฒนาการส่งออกข้าว ปรากฏว่า สภาประชาชน กลุ่มตัวแทนร้านอาหาร กับ ตัวแทนกรมการค้าระหว่างประเทศตอบ NO รัฐบาลมีสิทธิ เลือก คน 20 คนที่ตอบ NO มาตอบคำถามออกทีวีให้ประชาชนตัดสินได้ ใครตอบห่วย ใครแถสีข้าง คนที่เลือกไม่พอใจ คะแนนก็อาจจะมีการย้ายฐานไปที่สภาประชาชนท่านอื่นที่เขาตอบถูกในประชาชนส่วนมากของประเทศ และในทางกลับกันฝ่ายค้านมีสิทธิถามสภาประชาชนที่ไว้วางใจ สส สว ว่าทำไมเขาไว้วางใจรัฐบาลออกทีวี ถ้าเขาตอบห่วยๆไม่น่าเชื่อถือ คนที่สนับสนุนเขาก็จะย้ายออกไปเช่นเดียวกัน ซึ่ง 7 วันต่อมาถึงจะนับคะแนน ว่าโครงการผ่าน ไว้วางใจไม่ไว้วางใจ
สภาผู้แทน ปรึกษาคิดโครงการ นำเสนอสภา--->
รัฐบาลฝ่ายค้าน กัดกันไปช่างมัน ถ้าโหวตผ่าน)---> นำเสนอสภาประชาชน(รัฐบาล+ฝ่ายค้านส่งตัวแทนบางคนมาพรีเซ้นให้สภาประชาชนตัดสินใจ )---> Yes/No --->ประชาชนทั่วประเทศเลือก Yes/No โดยการไปเปลี่ยนฐานเสียงตัวเองที่เขตภายในเวลา 7 วัน ถ้าเชื่อใจคนที่เลือกก็เกาพุงอยู่บ้าน--->7 วันผ่านไป นับคะแนนเสียงตาม คะแนนสภาประชาชนที่ vote yes/no โดยเป็นการ vote แบบช่างน้ำหนักตามผู้สนับสนุน ใครมีผู้สนับสนุนมากก็มีเสียงมาก(แต่สุดท้ายก็1 คน หนึ่งเสียง) ---> อนุมัติ ตีกลับ แช่แข็งโครงการ แจกใบแดง ใบเหลือง สว สส
ตาลายไหมครับ แต่ก็คือ สภาประชาชน คือ 1 ในแนวทางที่ประชาชนจะมีส่วนร่วมในการบริหารประเทศผ่านสื่อทีวี แล้วให้ประชาชนตัดสินใจ เป็นฟิลเตอร์กันรัฐบาลทำอะไรสุดซอย แต่นี่คือแนวคิดส่วนตัวของผม ประชาชนตาดำๆธรรมดา ไม่ใช่ของนาย สุเทพ ของเขาเป็นไงใครรู้บ้าง คุ้มไหมที่คนไทยต้องฆ่ากันเองเพื่อให้ได้ สภาประชาชนของนายสุเทพที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ใครทำหน้าที่อะไร ใครแต่งตั้ง ใครบริหารอะไร ดูแลประเทศยังไง ผมไม่เคยเห็นข้อมูลอะไรเลย ผมเลยจินตนาการเรื่อยเปื่อย มโนไปวันๆ ใครก็ได้บอกผมที อะไรคือสภาประชาชน
สส สว อายุเหมือนเดิม ทำหน้าที่บริหารเหมือนเดิม
สภาประชาชน 500 ท่านที่มีเสียงสนับสนุนมาก500คนแรกเข้าสภาแสดงความเห็นของแทนตน ใครห่วยจนไม่มีเสียงสนับสนุน ก็จะตกไป ไม่พอเจอถีบออกจากสภาแต่ยังมีคะแนนเสียงอยู่ให้ไปโหวต yes/no ที่เขตได้โดยเสียงแต่ไม่มีสิทธิไปแสดงความคิดเห็นในสภาประชาชน แล้วเอาคะแนนถัดไปเข้าแทน มีหน้าที่หลักคือแสดงความเห็นและเป็นตัวแทนเสียงประชาชนเท่านั้น ถามรายละเอียดโครงการเหมือนผู้ถือหุ้นสอบถามกรรมการบริหาร โดนถีบเข้าถีบออกลดความสำคัญได้ทุกเมื่อตามคะแนนนิยมของตน มีคะแนนสนับสนุนน้อยกว่า xxxxx ตลอด 1 เดือน โดนถีบออกไปเป็นบุคคลธรรมดาเสียงสนับสนุนเก่าเป็น X ให้ผู้สนับสนุนไปเลือกคนอื่นแทน หรือให้องค์กรของตนส่งคนอื่นไปแทนพรีเซ้นใหม่แล้วหวังว่าเสียงพอจนเขาเป็นสภาประชาชนต่อได้ สุดท้ายแล้วสภาประชาชนไม่ได้มีความสำคัญทางการบริหารเหมือนแค่ทำประชาวิจารณ์ทุกๆเดือน แต่สิ่งที่ต่างคือการนำเสนอให้ประชาชนสนใจต่อตัวบุคคลไม่ใช่Logic yes / no ok รัฐบาลและฝ่ายค้านจะต้องไปอธิบายให้ คนกลุ่มนี้เข้าใจ ถ้าคนกลุ่มนี้ไม่เข้าใจประชาชนทั่วไปก็ไม่เข้าใจ พฤติกรรมอัปรีทั้งหลาย ถ้าทำให้สภาประชาชนเกลียดก็อาจจะได้ผลตรงกันข้าม ซึ่งฝ่ายค้านและรัฐบาลจะต้องทำเสนอให้ตัวเองดูดีเข้าใจง่ายและน่าเชื่อถือที่สุดเพื่อให้พวกสภาประชาชนคล้อยตามตน ซึ่งประชาชนจะได้เห็นผ่านทีวีด้วยแล้วประชาชนมีสิทธิจะตัดสินใจภายใน 7 วัน เสียเวลาเดือนละ 1-2 วันเข้าสภาประชาชน นอกนั้นไปทำมาหากินตามปรกติ หรือถ้าจะหาเสียงเพิ่มด้วยการนำเสนอโครงการต่างให้รัฐบาลโดยผ่านพรีเซ้นท์ตัวเองที่จะวนลูปในช่องทีวีสภาประชาชน ในช่วงไม่มีการประชุมสภาประชาชน
ย้ำอีกครั้งผมมโนไปเอง ของคุณสเทพและกปปสเป็นไงมันเป็นปริศนาที่ล้ำลึกจนถึงก้นบึ้งของแบล็คโฮล ดีไม่ดีกรวงจนไม่มีไรดีก็เป็นได้จึงเงียบมาถึงทุกวันนี้ ใครมีความรู้เอามาให้ผมอ่านที
สภาประชาชนคือ
ถ้าสภาประชาชนคือ
กลุ่มประชาชน ที่ประชาชนทั้งประเทศแต่งตั้งเพื่อตรวจสอบ อนุมัติ โครงการใหญ่ๆ เรื่องสำคัญๆ ของรัฐบาลว่าสามารถเดินหน้าต่อได้ไหม ในรูปแบบที่ประชาชนทั้งประเทศมีส่วนร่วม เช่นเปิดทีวีช่องใหม่ขึ้นมาช่องนึง เพื่อนำเสนอคณะบุคคลที่สมัครเข้ามาเป็นสภาประชาชน โดยสภาประชาชนแต่ละคนจะถือคะแนนเสียงของคนทั่วประเทศอยู่ ไม่ว่าชาวนา เภสัช หมอ พ่อค้า คนทำอาหาร โดยคนที่จะเข้ามาเป็นสภาประชาชนได้ต้องมีฐานเสียงขั้นต่ำ xxxxx ขึ้นไปถึงจะเริ่มมีสิทธิได้ ประมาณกลุ่มชาวนากลุ่มข้ามาไถแต่งตั้งนาย A ขึ้นมาเป็นตัวแทนตน ต้องมีคนโหวตนาย A เกิน xxxxx คนขึ้นไป นาย A จะได้เข้าไปเป็น 1 ในสภาประชาชน ทีวีจะต้องนำเสนอแนวคิดที่เป็นวีดีโอพรีเซ้นของสภาประชาชนที่เอามาให้ทางทีวี แล้วเปิดวนให้ทุกคนได้ดูไปเรื่อยๆ โดยให้เวลา 1 เดือน ถ้าฐานเสียงคนนั้นยังไม่ถึง xxxxx คนนั้นจะถูกคัดออกอย่างน้อยเป็นเวลา x ปี ถึงจะมีสิทธิเข้ามาสมัครใหม่ได้ ทำให้พวกเขาเป็นดาราในมุมมองนึง แต่เป็นแค่บุคคลที่ต้องการเข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมือง ซึ่งส่วนใหญ่คนเราจะเลือกคนที่สายอาชีพตรงกับตน หรือไม่ก็คนที่ชอบหรือคนที่เกลียดเป็นที่ตั้ง โดยประชาชนทุกคนจะมี1เสียงให้คนกลุ่มนี้ สามารถให้คะแนนที่เขตได้ เดือนละ2ครั้ง.... เปลี่ยนไปให้นาย A B C ได้เดือนละครั้งไม่ชอบนาย A ให้นาย B นาย B ปากเสียให้นาย C เปลี่ยนได้ทุกวันราชการ ถ้าว่างก็ไปได้ไปเปลี่ยนที่เขตด้วยการรูดบัตรประชาชน โดยทุกครั้งที่รูดจะมีการบันทึกวีดีโอไว้ว่า รูดกี่โมงวันไหนที่ไหน รูดคะแนนให้ใครสามารถตรวจสอบได้ทั้งทางรัฐบาลฝ่ายค้านและองค์กรอิสระ
โดยหน้าที่ของสภาประชาชนไม่ได้มีหน้าที่บริหารประเทศ แต่มีหน้าที่ตัดสินใจแทนประชาชนทั้งประเทศว่าจะอนุมัติโครงการ หรือไม่ไว้วางใจ สส สว หรือไม่ เฉพาะโครงการใหญ่ หรือกฏหมายสำคัญสำคัญ โดยทุกเดือนจะคัดเลือกสภาประชาชน 500 คนที่มีเสียงมากไปน้อย 500 ท่านแรกเข้าสภาประชาชน โดยรัฐบาลเรียกประชุม สภาประชาชนได้เดือนละครั้ง มีไว้เสนอโหวตโครงการหรืออนุมัติโครงการ หรือเปลี่ยนแปลงกฏหมาย และฝ่ายค้านก็สามารถเรียกได้เดือนละครั้ง และสามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจ สส สว ได้ เดือนละ 10 คน เสนอให้สภาประชาชนโหวต ไม่ไว้วางใจหรือวางใจ โดยจะเปิดคะแนนผลโหวตออกทีวีทั้งหมด ให้ประชาชนเห็นผ่านทีวีเสร็จแล้วจะมีการนับคะแนนภายใน 7 วัน ว่า นาย A B C D E F G H~~~~~~~ โดย 7 วันนี้ประชาชนที่ดูทีวี จะมีเวลาในการไปเปลี่ยนฐานเสียงของตนเองได้ภายใน 7 วัน และสามารถตรวจสอบคำตอบว่า ตัวแทนเขาอนุมัติโครงการ หรือ เลือกไว้วางใจ หรือไม่ไว้วางใจ สส คนไหนผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้ พอถึงวันที่ 7 คะแนนของสมาชิกผู้แทนคนนั้นมีค่าเท่าไหร่จะเอาไป+ - กับคำตอบที่เขาเลือก ถ้า สส หรือ สว คนไหน โดนไม่ไว้วางใจ 2 ครั้งจะโดนใบแดง โดยการโหวตการนำเสนอจะออกทีวีตลอด โดยผู้ตัดสินใจคือสภาประชาชน ไม่ใช่ นักการเมือง ดังนั้นพฤติกรรมเฮงซวยดึงเชงกันไปเรื่อยด่ากันในสภาจะไม่เกิดเพราะคู่กรณีจะไม่อยู่ในสภา ใครกวนตีนบ้าบอมากๆทำให้ สภาประชาชนเบื่อก็มีโอกาสโดนโหวตตรงข้ามกับที่ตนต้องการ ดังนั้นทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลจะมีมารยาทมากขึ้น โดยถ้าเป็นเรื่องอนุมัติโครงการ สภาประชาชนจะมีหน้าที่เหมือนผู้ถือหุ้นโดยจำนวนหุ้นคือเสียงของประชาชนที่ให้คะแนนเขา ส่วนอภิปรายไม่ไว้วางใจตัวสภาประชาชน จะทำหน้าที่เหมือนศาลแต่คะแนนที่ใช้สามารถปรับเปลี่ยนได้ภายใจ7วัน ว่าผุ้แทนสภาประชาชนตอบ yes หรือ no ให้สส คนไหนประชาชนมีสิทธิไปเปลี่ยนคำตอบเขาด้วยการไปเลือกคนอื่นในช่วงเวลา 7 วัน ว่าจะไว้ใจหรือไม่ไว้วางใจ สส สว ตาม ผู้แทนคนไหน พอครบ 7 วันรวมคะแนนถ้าพบว่าไม่ไว้วางใจ สส คนนั้นจะโดนใบ เหลือง ถ้าโดนอีกครั้งจะโดนใบแดงและหมดสิทธิเป็น สส สว เป็นระยะเวลา 8 ปี โดยเสียงแพ้ชนะจะอยู่ที่ 60/40 ต้องเห็นด้วยมากกว่า 60 หรือ ไว้วางใจมากกว่า 60 โครงการถึงจะผ่าน หรือ สส สว จะไม่โดนใบเหลือง กรณีที่เป็นโครงการ ถ้าคะแนนยังอยู่ที่59-41 สามารถเอากลับมาเสนอสภาประชาชนใหม่ได้โดยคัดกรองโครงการใหม่ แต่ถ้าต่ำกว่า 40 ห้ามนำกลับมาใหม่ภายในเวลา 1 ปี ประมาณไปทำการบ้านมาใหม่ซะคุณสอบตก
นี่คือส่วนที่สภาประชาชนจะควบคุมรัฐบาล
ส่วนรัฐบาลและฝ่ายค้าน สามารถตั้งคำถามสภาประชาชน ได้โดยการตั้งคำถามให้สภาประชาชนตอบออกทีวี โดยถามคนที่ให้คะแนนตรงข้ามกับตนเช่น รัฐเสนอโครงการ พัฒนาการส่งออกข้าว ปรากฏว่า สภาประชาชน กลุ่มตัวแทนร้านอาหาร กับ ตัวแทนกรมการค้าระหว่างประเทศตอบ NO รัฐบาลมีสิทธิ เลือก คน 20 คนที่ตอบ NO มาตอบคำถามออกทีวีให้ประชาชนตัดสินได้ ใครตอบห่วย ใครแถสีข้าง คนที่เลือกไม่พอใจ คะแนนก็อาจจะมีการย้ายฐานไปที่สภาประชาชนท่านอื่นที่เขาตอบถูกในประชาชนส่วนมากของประเทศ และในทางกลับกันฝ่ายค้านมีสิทธิถามสภาประชาชนที่ไว้วางใจ สส สว ว่าทำไมเขาไว้วางใจรัฐบาลออกทีวี ถ้าเขาตอบห่วยๆไม่น่าเชื่อถือ คนที่สนับสนุนเขาก็จะย้ายออกไปเช่นเดียวกัน ซึ่ง 7 วันต่อมาถึงจะนับคะแนน ว่าโครงการผ่าน ไว้วางใจไม่ไว้วางใจ
สภาผู้แทน ปรึกษาคิดโครงการ นำเสนอสภา--->รัฐบาลฝ่ายค้าน กัดกันไปช่างมัน ถ้าโหวตผ่าน)---> นำเสนอสภาประชาชน(รัฐบาล+ฝ่ายค้านส่งตัวแทนบางคนมาพรีเซ้นให้สภาประชาชนตัดสินใจ )---> Yes/No --->ประชาชนทั่วประเทศเลือก Yes/No โดยการไปเปลี่ยนฐานเสียงตัวเองที่เขตภายในเวลา 7 วัน ถ้าเชื่อใจคนที่เลือกก็เกาพุงอยู่บ้าน--->7 วันผ่านไป นับคะแนนเสียงตาม คะแนนสภาประชาชนที่ vote yes/no โดยเป็นการ vote แบบช่างน้ำหนักตามผู้สนับสนุน ใครมีผู้สนับสนุนมากก็มีเสียงมาก(แต่สุดท้ายก็1 คน หนึ่งเสียง) ---> อนุมัติ ตีกลับ แช่แข็งโครงการ แจกใบแดง ใบเหลือง สว สส
ตาลายไหมครับ แต่ก็คือ สภาประชาชน คือ 1 ในแนวทางที่ประชาชนจะมีส่วนร่วมในการบริหารประเทศผ่านสื่อทีวี แล้วให้ประชาชนตัดสินใจ เป็นฟิลเตอร์กันรัฐบาลทำอะไรสุดซอย แต่นี่คือแนวคิดส่วนตัวของผม ประชาชนตาดำๆธรรมดา ไม่ใช่ของนาย สุเทพ ของเขาเป็นไงใครรู้บ้าง คุ้มไหมที่คนไทยต้องฆ่ากันเองเพื่อให้ได้ สภาประชาชนของนายสุเทพที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ใครทำหน้าที่อะไร ใครแต่งตั้ง ใครบริหารอะไร ดูแลประเทศยังไง ผมไม่เคยเห็นข้อมูลอะไรเลย ผมเลยจินตนาการเรื่อยเปื่อย มโนไปวันๆ ใครก็ได้บอกผมที อะไรคือสภาประชาชน
สส สว อายุเหมือนเดิม ทำหน้าที่บริหารเหมือนเดิม
สภาประชาชน 500 ท่านที่มีเสียงสนับสนุนมาก500คนแรกเข้าสภาแสดงความเห็นของแทนตน ใครห่วยจนไม่มีเสียงสนับสนุน ก็จะตกไป ไม่พอเจอถีบออกจากสภาแต่ยังมีคะแนนเสียงอยู่ให้ไปโหวต yes/no ที่เขตได้โดยเสียงแต่ไม่มีสิทธิไปแสดงความคิดเห็นในสภาประชาชน แล้วเอาคะแนนถัดไปเข้าแทน มีหน้าที่หลักคือแสดงความเห็นและเป็นตัวแทนเสียงประชาชนเท่านั้น ถามรายละเอียดโครงการเหมือนผู้ถือหุ้นสอบถามกรรมการบริหาร โดนถีบเข้าถีบออกลดความสำคัญได้ทุกเมื่อตามคะแนนนิยมของตน มีคะแนนสนับสนุนน้อยกว่า xxxxx ตลอด 1 เดือน โดนถีบออกไปเป็นบุคคลธรรมดาเสียงสนับสนุนเก่าเป็น X ให้ผู้สนับสนุนไปเลือกคนอื่นแทน หรือให้องค์กรของตนส่งคนอื่นไปแทนพรีเซ้นใหม่แล้วหวังว่าเสียงพอจนเขาเป็นสภาประชาชนต่อได้ สุดท้ายแล้วสภาประชาชนไม่ได้มีความสำคัญทางการบริหารเหมือนแค่ทำประชาวิจารณ์ทุกๆเดือน แต่สิ่งที่ต่างคือการนำเสนอให้ประชาชนสนใจต่อตัวบุคคลไม่ใช่Logic yes / no ok รัฐบาลและฝ่ายค้านจะต้องไปอธิบายให้ คนกลุ่มนี้เข้าใจ ถ้าคนกลุ่มนี้ไม่เข้าใจประชาชนทั่วไปก็ไม่เข้าใจ พฤติกรรมอัปรีทั้งหลาย ถ้าทำให้สภาประชาชนเกลียดก็อาจจะได้ผลตรงกันข้าม ซึ่งฝ่ายค้านและรัฐบาลจะต้องทำเสนอให้ตัวเองดูดีเข้าใจง่ายและน่าเชื่อถือที่สุดเพื่อให้พวกสภาประชาชนคล้อยตามตน ซึ่งประชาชนจะได้เห็นผ่านทีวีด้วยแล้วประชาชนมีสิทธิจะตัดสินใจภายใน 7 วัน เสียเวลาเดือนละ 1-2 วันเข้าสภาประชาชน นอกนั้นไปทำมาหากินตามปรกติ หรือถ้าจะหาเสียงเพิ่มด้วยการนำเสนอโครงการต่างให้รัฐบาลโดยผ่านพรีเซ้นท์ตัวเองที่จะวนลูปในช่องทีวีสภาประชาชน ในช่วงไม่มีการประชุมสภาประชาชน
ย้ำอีกครั้งผมมโนไปเอง ของคุณสเทพและกปปสเป็นไงมันเป็นปริศนาที่ล้ำลึกจนถึงก้นบึ้งของแบล็คโฮล ดีไม่ดีกรวงจนไม่มีไรดีก็เป็นได้จึงเงียบมาถึงทุกวันนี้ ใครมีความรู้เอามาให้ผมอ่านที