สวัสดีค่ะ
ตอนนี้มีน้องๆ นักศึกษาหลายคน ใกล้จบการศึกษาแล้ว และคงเริ่มมองหางานกันบ้างแล้วนะคะ อาจเป็นทั้งการฝากประวัติทางเว็บไซต์หางานต่างๆ ส่งประวัติตรงไปยังบริษัทที่ใฝ่ฝัน หรือ แม้แต่การฝากประวัติตามเอเจนซี่จัดหางาน
วันนี้มีข้อแนะนำเล็กๆ น้อยๆ เบื้องต้น สำหรับผู้มองหางาน ซึ่งใช้ได้ทั้งนักศึกษาจบใหม่ แม้กระทั่งผู้ที่ทำงานมาบ้างแล้ว แต่กำลังจะเปลี่ยนงานค่ะ ซึ่งหลายๆ คนอาจไม่รู้
หรือไม่เคยใส่ใจนะคะ
1. แหล่งหางาน
- เว็บไซต์หางาน เช่น Jobsd..., Jobtha..., Jobtopg..... สามารถค้นหาตำ แหน่งที่เราสนใจ แล้วเรากดสมัครไป หรือแค่ฝากประวัติออนไลน์ไว้ บริษัทที่เห็นประวัติคุณแล้วสนใจ จะโทรมาเชิญสัมภาษณ์เองค่ะ
- Walk in ฝากประวัติ ยังบริษัทต่างๆ บางคนอาจใช้วิธีนี้ค่ะ แต่อาจเสียเวลา เนื่องจากบริษัทอาจไม่มีตำแหน่งว่าง และไม่รับสมัครวิธีนี้ เราควรศึกษาข้อมูล หรือโทรสอบถามล่วงหน้าก็ดีนะคะ (ปัจจุบัน ยังเห็นน้องกลุ่มนักศึกษาใช้วิธีนี้ค่ะ เดินเป็นกลุ่มไปยังตึกต่างๆ แล้วไล่ฝากประวัติทั่วทั้งตึก)
- ร่วมงาน Job Fair ต่างๆ ค่ะ เราสามารถสมัครที่งานได้เลย บางบริษัทสัมภาษณ์และทราบผลทันทีเลยค่ะ มีตลอดทั้งปีค่ะ หากเราหาข้อมูลจากหบายๆ แหล่งดู
- ใช้เอเจนซี่จัดหางาน ปัจจุบันหลายๆ คนมักใช้วิธีนี้ เนื่องจากประหยัดเวลา ช่วยสกรีนงาน และช่วยต่อรองให้เราได้
- แนะนำจากเพื่อนๆ หรือคนรู้จัก
2. การสัมภาษณ์งาน
- การเตรียมตัว ควรหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทนั้นๆ เตรียมคำถามสิ่งที่อยากรู้ อย่าไปแบบไม่มีข้อมูล บางคนไปสัมภาษณ์ จำไม่ได้แม้แต่ตัวเองกำลังสัมภาษณ์กับบริษัทอะไร คงดูไม่ดีนักนะคะ แสดงถึงความไม่ใส่ใจอย่างยิ่งเลยค่ะ
- การแต่งกาย เห็นหลายๆ คนเคยตั้งกระทู้ถาม ว่าควรแต่งกายสัมภาษณ์งานอย่างไร ดูตามความเหมาะสมค่ะ หากไม่ใช่ตำแหน่งครีเอทีฟ ควรแต่งตามมาตรฐานทั่วไป
หญิง: ใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีสุภาพ + กระโปรง + รองเท้าคัทชู ผมรวบ หรือ จัดทรงให้เรียบร้อย
ชาย: เสื้อเชิ้ต + กางเกง + รองเท้าคัทชู
หากเป็นตำแหน่งที่ระดับกลางขึ้นไป หรือตำแหน่งที่ค่อนข้างดูเนี้ยบหน่อย (การโรงแรม ฝ่ายขาย ฯลฯ ใส่สูทไปเถอะค่ะ สูทสมัยใหม่ก็ได้) มันเป็นภาพจำแรก ที่สร้างความประทับใจได้ไม่น้อยเลย บางคนมาแบบสบายๆ อย่างยิ่ง เหมือนไม่ได้มาสัมภาษณ์งาน ก็ดูไม่เหมาะอย่างยิ่ง
- ไปให้ถึงก่อนเวลา สัก 15 นาที หากคุณติดงานด่วน หรือเหตุใดๆ ก็ตาม ทำให้ไปไม่ได้ ควรโทรแจ้งฝ่ายที่เกี่ยวข้องทันที อย่าหายเงียบไปหรือไม่แสดงตัว เพราะมันแสดงถึงมารยาทและความใส่ใจค่ะ
- เตรียมสมุดโน้ตไปด้วย เผื่อจดสิ่งจำเป็น อีกอย่างคือ สิ่งที่คุณเตรียมไปเกี่ยวกับบริษัท ไม่ว่าจะเป็นข้อมูล คำถาม จดใส่สมุดเลยค่ะ หากผู้สัมภาษณ์เปิดโอกาสให้ถาม ควรถามให้มากที่สุด เพื่อเป็นประโยชน์แก่ตัวเราเอง เอาสมุดจดคำถามมากางถามเลยค่ะ
สิ่งที่ควรถามนะคะ ได้แก่ รายละเอียดเนื้องานโดยละเอียด วันเวลาทำงาน ธุรกิจทำอะไร จำนวนพนักงานทั้งหมด และในแผนกวัฒนธรรมองค์กร เช่น บรรยากาศ สไตล์การทำงาน กฏระเบียบข้อสำคัญ การสอนงาน การอบรมต่างๆโอกาสก้าวหน้า แผนกที่เกี่ยวข้อง คุณต้องร่วมงานกับใครบ้าง สวัสดิการ อื่นๆ ที่อยากรู้ (ลองสังเกตบรรยากาศภายในและผู้คนด้วยค่ะ เราจะมีเซ้นกับที่ต่างๆ ว่า เราเหมาะกับที่นั่นมั้ย)
จุดนี้สำคัญนะคะ บางคนไม่ถามอะไรเลย พอเริ่มงานไปกลับไม่พอใจ เพราะไม่รู้ข้อมูลมาก่อน คิดซะว่า เราผู้หางานแต่ก็เป็นผู้เลือกได้ ไม่ใช่บริษัทเลือกเราอย่างเดียว เพราะฉะนั้น สิ่งที่เป็นประโยชน์มากที่สุด ควรถามมาให้มากที่สุด แม้แต่หากคุณไปแล้วไม่ชอบ คิดว่าคงไม่ร่วมงานแน่ๆ แต่โิกาสที่คุณจะได้สัมภาษณ์งานกับตำแหน่งผู้บริหาร ลองสอบถามดูค่ะ ถึงมุมมอง ความรู้และอะไรหลายๆ อย่าง แล้วสิ่งที่คุณได้ จะไม่ใช่แค่ การถูกสัมภาษณ์
ครั้งหน้าจะมีข้อแนะนำ ที่มีรายละเอียดมากขึ้นนะคะ เช่น การทำเรซูเม่ให้น่าสนใจ การทำจดหมายปะหน้า การร่อนใบสมัคร การขอ/ ต่อรองเงินเดือน ข้อคิดดีๆในการทำงาน และอื่นๆ
คร่าวๆ นะคะวันนี้ หลายๆ คนอาจคิดว่า มันเป็นสิ่งที่รู้อยู่แล้ว ทำไมยังต้องแนะนำ บอกตรงๆ เลยค่ะ
ว่า น้องๆ จบใหม่หรือแม้แต่บางคน อาจละเลยกับสิ่งเหล่านี้ กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่กลับไม่ใส่ใจ จริงๆ มีรายละเอียดอะไรอีกมาย ค่อยมาเจอกันกระทู้หน้านะคะ
สำหรับวันนี้ โชคดีนะคะทุกคน
ปล. ขออนุญาตแท็กสาวๆ โต๊ะเครื่องแป้ง และน้องๆ ชาวสยามสแควร์นะคะ
คำแนะนำในการหางาน (ใหม่) จากสาว HR
ตอนนี้มีน้องๆ นักศึกษาหลายคน ใกล้จบการศึกษาแล้ว และคงเริ่มมองหางานกันบ้างแล้วนะคะ อาจเป็นทั้งการฝากประวัติทางเว็บไซต์หางานต่างๆ ส่งประวัติตรงไปยังบริษัทที่ใฝ่ฝัน หรือ แม้แต่การฝากประวัติตามเอเจนซี่จัดหางาน
วันนี้มีข้อแนะนำเล็กๆ น้อยๆ เบื้องต้น สำหรับผู้มองหางาน ซึ่งใช้ได้ทั้งนักศึกษาจบใหม่ แม้กระทั่งผู้ที่ทำงานมาบ้างแล้ว แต่กำลังจะเปลี่ยนงานค่ะ ซึ่งหลายๆ คนอาจไม่รู้
หรือไม่เคยใส่ใจนะคะ
1. แหล่งหางาน
- เว็บไซต์หางาน เช่น Jobsd..., Jobtha..., Jobtopg..... สามารถค้นหาตำ แหน่งที่เราสนใจ แล้วเรากดสมัครไป หรือแค่ฝากประวัติออนไลน์ไว้ บริษัทที่เห็นประวัติคุณแล้วสนใจ จะโทรมาเชิญสัมภาษณ์เองค่ะ
- Walk in ฝากประวัติ ยังบริษัทต่างๆ บางคนอาจใช้วิธีนี้ค่ะ แต่อาจเสียเวลา เนื่องจากบริษัทอาจไม่มีตำแหน่งว่าง และไม่รับสมัครวิธีนี้ เราควรศึกษาข้อมูล หรือโทรสอบถามล่วงหน้าก็ดีนะคะ (ปัจจุบัน ยังเห็นน้องกลุ่มนักศึกษาใช้วิธีนี้ค่ะ เดินเป็นกลุ่มไปยังตึกต่างๆ แล้วไล่ฝากประวัติทั่วทั้งตึก)
- ร่วมงาน Job Fair ต่างๆ ค่ะ เราสามารถสมัครที่งานได้เลย บางบริษัทสัมภาษณ์และทราบผลทันทีเลยค่ะ มีตลอดทั้งปีค่ะ หากเราหาข้อมูลจากหบายๆ แหล่งดู
- ใช้เอเจนซี่จัดหางาน ปัจจุบันหลายๆ คนมักใช้วิธีนี้ เนื่องจากประหยัดเวลา ช่วยสกรีนงาน และช่วยต่อรองให้เราได้
- แนะนำจากเพื่อนๆ หรือคนรู้จัก
2. การสัมภาษณ์งาน
- การเตรียมตัว ควรหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทนั้นๆ เตรียมคำถามสิ่งที่อยากรู้ อย่าไปแบบไม่มีข้อมูล บางคนไปสัมภาษณ์ จำไม่ได้แม้แต่ตัวเองกำลังสัมภาษณ์กับบริษัทอะไร คงดูไม่ดีนักนะคะ แสดงถึงความไม่ใส่ใจอย่างยิ่งเลยค่ะ
- การแต่งกาย เห็นหลายๆ คนเคยตั้งกระทู้ถาม ว่าควรแต่งกายสัมภาษณ์งานอย่างไร ดูตามความเหมาะสมค่ะ หากไม่ใช่ตำแหน่งครีเอทีฟ ควรแต่งตามมาตรฐานทั่วไป
หญิง: ใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีสุภาพ + กระโปรง + รองเท้าคัทชู ผมรวบ หรือ จัดทรงให้เรียบร้อย
ชาย: เสื้อเชิ้ต + กางเกง + รองเท้าคัทชู
หากเป็นตำแหน่งที่ระดับกลางขึ้นไป หรือตำแหน่งที่ค่อนข้างดูเนี้ยบหน่อย (การโรงแรม ฝ่ายขาย ฯลฯ ใส่สูทไปเถอะค่ะ สูทสมัยใหม่ก็ได้) มันเป็นภาพจำแรก ที่สร้างความประทับใจได้ไม่น้อยเลย บางคนมาแบบสบายๆ อย่างยิ่ง เหมือนไม่ได้มาสัมภาษณ์งาน ก็ดูไม่เหมาะอย่างยิ่ง
- ไปให้ถึงก่อนเวลา สัก 15 นาที หากคุณติดงานด่วน หรือเหตุใดๆ ก็ตาม ทำให้ไปไม่ได้ ควรโทรแจ้งฝ่ายที่เกี่ยวข้องทันที อย่าหายเงียบไปหรือไม่แสดงตัว เพราะมันแสดงถึงมารยาทและความใส่ใจค่ะ
- เตรียมสมุดโน้ตไปด้วย เผื่อจดสิ่งจำเป็น อีกอย่างคือ สิ่งที่คุณเตรียมไปเกี่ยวกับบริษัท ไม่ว่าจะเป็นข้อมูล คำถาม จดใส่สมุดเลยค่ะ หากผู้สัมภาษณ์เปิดโอกาสให้ถาม ควรถามให้มากที่สุด เพื่อเป็นประโยชน์แก่ตัวเราเอง เอาสมุดจดคำถามมากางถามเลยค่ะ
สิ่งที่ควรถามนะคะ ได้แก่ รายละเอียดเนื้องานโดยละเอียด วันเวลาทำงาน ธุรกิจทำอะไร จำนวนพนักงานทั้งหมด และในแผนกวัฒนธรรมองค์กร เช่น บรรยากาศ สไตล์การทำงาน กฏระเบียบข้อสำคัญ การสอนงาน การอบรมต่างๆโอกาสก้าวหน้า แผนกที่เกี่ยวข้อง คุณต้องร่วมงานกับใครบ้าง สวัสดิการ อื่นๆ ที่อยากรู้ (ลองสังเกตบรรยากาศภายในและผู้คนด้วยค่ะ เราจะมีเซ้นกับที่ต่างๆ ว่า เราเหมาะกับที่นั่นมั้ย)
จุดนี้สำคัญนะคะ บางคนไม่ถามอะไรเลย พอเริ่มงานไปกลับไม่พอใจ เพราะไม่รู้ข้อมูลมาก่อน คิดซะว่า เราผู้หางานแต่ก็เป็นผู้เลือกได้ ไม่ใช่บริษัทเลือกเราอย่างเดียว เพราะฉะนั้น สิ่งที่เป็นประโยชน์มากที่สุด ควรถามมาให้มากที่สุด แม้แต่หากคุณไปแล้วไม่ชอบ คิดว่าคงไม่ร่วมงานแน่ๆ แต่โิกาสที่คุณจะได้สัมภาษณ์งานกับตำแหน่งผู้บริหาร ลองสอบถามดูค่ะ ถึงมุมมอง ความรู้และอะไรหลายๆ อย่าง แล้วสิ่งที่คุณได้ จะไม่ใช่แค่ การถูกสัมภาษณ์
ครั้งหน้าจะมีข้อแนะนำ ที่มีรายละเอียดมากขึ้นนะคะ เช่น การทำเรซูเม่ให้น่าสนใจ การทำจดหมายปะหน้า การร่อนใบสมัคร การขอ/ ต่อรองเงินเดือน ข้อคิดดีๆในการทำงาน และอื่นๆ
คร่าวๆ นะคะวันนี้ หลายๆ คนอาจคิดว่า มันเป็นสิ่งที่รู้อยู่แล้ว ทำไมยังต้องแนะนำ บอกตรงๆ เลยค่ะ
ว่า น้องๆ จบใหม่หรือแม้แต่บางคน อาจละเลยกับสิ่งเหล่านี้ กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่กลับไม่ใส่ใจ จริงๆ มีรายละเอียดอะไรอีกมาย ค่อยมาเจอกันกระทู้หน้านะคะ
สำหรับวันนี้ โชคดีนะคะทุกคน
ปล. ขออนุญาตแท็กสาวๆ โต๊ะเครื่องแป้ง และน้องๆ ชาวสยามสแควร์นะคะ