++++อยากแท็กเจาะกลุ่มวัยรุ่นนักศึกษา ถ้าเห็นว่าแท็กไม่เหมาะสมจะให้แก้ไขแบบไหนบอกได้เลยนะคะ++++
เจตนาที่เอามาลงกระทู้เพราะอยากให้เห็นตัวอย่างนะคะ ว่าการไปติดต่อขอสัมภาษณ์อย่างน้อยๆควรเตรียมตัวอย่างไร
จขกท.ยังคงเชื่อว่าโดยพื้นฐานแล้วคนไทยใจดี คุยง่าย เข้าใจอะไรง่าย เพราะเราใส่ใจและนึกถึงใจเขาใจเรา
------------ข้อความต่อไปนี้ก็อปมาจากสเตตัสของรุ่นพี่ค่ะ---------------
จริงๆมหาวิทยาลัยในเมืองไทยที่เป็นนานาชาติมีหลายแห่งและก็ดีๆน่าเรียนกันทั้งนั้น
เอาจริงเคยชื่นชมในความเก่งและน่าอิจฉาของเด็กๆเหล่านี้
...แต่พอได้เจอเด็กนานาชาติกลุ่มหนึ่งที่เข้ามาติดต่อขอสัมภาษณ์องค์กรก็มานั่งคิดว่าน้องๆมีจุดอ่อนบางอย่าง...
1.น้องมาเดินห้างกะว่าจะมาขอสัมฯเอาดาบหน้า พอมาถึงที่ออฟฟิศ น้องขอสัมภาษณ์เลยพร้อมกระดาษเตรียมจด (ทั้งที่สิ่งที่น้องต้องการทราบถ้าเป็นคนที่เรียนมหาลัยแล้วจะพอวิเคราะห์ได้ว่าเป็นความลับขององค์กร,ข้อคำถามค่อนข้างลึก) ...อนุมานได้ว่าหนูควรมีจดหมายจากมหาวิทยาลัยมานะลูก
2.พี่ถามว่ามีจดหมายไหม ไม่มีพี่ไม่ว่าเพราะก็อยากสนับสนุนการศึกษาน้อง แต่ติดที่ ณ วันที่น้องเข้ามาที่ออฟฟิศ งานค่อนข้างวุ่นวาย มีการจัดจ็อบแฟร์ไม่มีบุคลากรเพียงพอที่จะให้สัมภาษณ์ จึงถามว่าสะดวกอาทิตย์หน้าไหม ...น้องตอบงานหนูต้องส่งวันจันทร์ค่ะ(น้องมาหาวันพฤหัส)... สิ่งที่หนูควรมีอีกคือการวางแผนเรื่องเวลานะลูก..เวลาเท่านี้ไม่น่าเพียงพอสำหรับการเจอเหตุการณ์ฉุกเฉินแบบนี้
3.จึงบอกให้น้องมาวันรุ่งขึ้น เพราะสงสารกลัวไม่มีงานส่ง สรุปพอวันรุ่งขึ้นมา น้องได้เจอกับผู้ใหญ่กว่าเรา ผู้ใหญ่ถามหาจดหมาย ...T-T น้องจึงตอบว่าไม่ได้เอามา พร้อมฝากข้อคำถามเอาไว้ให้บอกว่า ข้อคำถามจะมีประมาณนี้ ..และเดี๋ยวจะส่งเมล์มาให้...แต่ไม่ฝากเบอร์ หรือขอเบอร์ติดต่อใดๆ หนูเอ้ย...ต้องรอบคอบสิ่ เราทำงานอยากได้งานต้องรู้ช่องทางติดต่อหน่วยงานนั้นๆไงลูก
3.วันรุ่งขึ้นเมล์ส่งมาจริง ...แต่เป็นข้อคำถามแบบแปล(จากต้นฉบับเป็นeng) แค่นั้นเลย ที่บอกว่าแค่นั้นเพราะแม้แต่ คำสวัสดี ..เรียน..Dear...ไม่มีเอ่ยชื่อองค์กรหรือนามใครใดๆ แถมจบท้ายก็ไม่มี ขอบคุณ..จึงเรียนมาเพื่อทราบ..ขอแสดงความนับถือ..หรือไม่มีแม้กระทั่งลงชื่อน้องสักนิด ...มีเพียง send form my iPhone ซึ่งนั่นไม่นับเป็นการส่งmailที่ดีนะลูก ...
4.ท้ายสุดจึงโดนผู้ใหญ่ทางเราส่งเมล์ตอบไปว่า...
เรียน...นักศึกษา
ไหนล่ะคะจดหมายจากทางมหาวิทยาลัย
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(.....ลงนาม......)
ฝ่ายทรัพยากรบุคคล/////เซ็นเซอร์ชื่อและสาขาห้างสรรพสินค้า/////
ปล.เรื่องนี้ไม่ได้เพื่อสร้างอคติ และจู่โจมมหาวิทยาลัยนานาชาติใดๆบนโลก เพราะอาจเป็นความส่วนบุคคลของเด็กจำนวน4-5คนนี้ จุดประสงค์หลักคืออยากให้รุ่นน้องที่ผ่านมาอ่านเจอทุกคนรู้และรู้จักเอาไปใช้เป็นบทเรียน
ปล.2น้องฟุ้ดฟิ้ดฟอไฟมาก หน้าตาน่ารักด้วย อยากให้สัมภาษณ์ใจจะขาด
---------------------
ใครมีความเห็นอะไรก็เข้ามาแลกเปลี่ยนกันได้นะคะ
เตือน)))น้องๆนักเรียนนักศึกษาคนไหนได้การบ้านต้องไปติดต่อขอสัมภาษณ์เข้ามาอ่านหน่อยจ้า
เจตนาที่เอามาลงกระทู้เพราะอยากให้เห็นตัวอย่างนะคะ ว่าการไปติดต่อขอสัมภาษณ์อย่างน้อยๆควรเตรียมตัวอย่างไร
จขกท.ยังคงเชื่อว่าโดยพื้นฐานแล้วคนไทยใจดี คุยง่าย เข้าใจอะไรง่าย เพราะเราใส่ใจและนึกถึงใจเขาใจเรา
------------ข้อความต่อไปนี้ก็อปมาจากสเตตัสของรุ่นพี่ค่ะ---------------
จริงๆมหาวิทยาลัยในเมืองไทยที่เป็นนานาชาติมีหลายแห่งและก็ดีๆน่าเรียนกันทั้งนั้น
เอาจริงเคยชื่นชมในความเก่งและน่าอิจฉาของเด็กๆเหล่านี้
...แต่พอได้เจอเด็กนานาชาติกลุ่มหนึ่งที่เข้ามาติดต่อขอสัมภาษณ์องค์กรก็มานั่งคิดว่าน้องๆมีจุดอ่อนบางอย่าง...
1.น้องมาเดินห้างกะว่าจะมาขอสัมฯเอาดาบหน้า พอมาถึงที่ออฟฟิศ น้องขอสัมภาษณ์เลยพร้อมกระดาษเตรียมจด (ทั้งที่สิ่งที่น้องต้องการทราบถ้าเป็นคนที่เรียนมหาลัยแล้วจะพอวิเคราะห์ได้ว่าเป็นความลับขององค์กร,ข้อคำถามค่อนข้างลึก) ...อนุมานได้ว่าหนูควรมีจดหมายจากมหาวิทยาลัยมานะลูก
2.พี่ถามว่ามีจดหมายไหม ไม่มีพี่ไม่ว่าเพราะก็อยากสนับสนุนการศึกษาน้อง แต่ติดที่ ณ วันที่น้องเข้ามาที่ออฟฟิศ งานค่อนข้างวุ่นวาย มีการจัดจ็อบแฟร์ไม่มีบุคลากรเพียงพอที่จะให้สัมภาษณ์ จึงถามว่าสะดวกอาทิตย์หน้าไหม ...น้องตอบงานหนูต้องส่งวันจันทร์ค่ะ(น้องมาหาวันพฤหัส)... สิ่งที่หนูควรมีอีกคือการวางแผนเรื่องเวลานะลูก..เวลาเท่านี้ไม่น่าเพียงพอสำหรับการเจอเหตุการณ์ฉุกเฉินแบบนี้
3.จึงบอกให้น้องมาวันรุ่งขึ้น เพราะสงสารกลัวไม่มีงานส่ง สรุปพอวันรุ่งขึ้นมา น้องได้เจอกับผู้ใหญ่กว่าเรา ผู้ใหญ่ถามหาจดหมาย ...T-T น้องจึงตอบว่าไม่ได้เอามา พร้อมฝากข้อคำถามเอาไว้ให้บอกว่า ข้อคำถามจะมีประมาณนี้ ..และเดี๋ยวจะส่งเมล์มาให้...แต่ไม่ฝากเบอร์ หรือขอเบอร์ติดต่อใดๆ หนูเอ้ย...ต้องรอบคอบสิ่ เราทำงานอยากได้งานต้องรู้ช่องทางติดต่อหน่วยงานนั้นๆไงลูก
3.วันรุ่งขึ้นเมล์ส่งมาจริง ...แต่เป็นข้อคำถามแบบแปล(จากต้นฉบับเป็นeng) แค่นั้นเลย ที่บอกว่าแค่นั้นเพราะแม้แต่ คำสวัสดี ..เรียน..Dear...ไม่มีเอ่ยชื่อองค์กรหรือนามใครใดๆ แถมจบท้ายก็ไม่มี ขอบคุณ..จึงเรียนมาเพื่อทราบ..ขอแสดงความนับถือ..หรือไม่มีแม้กระทั่งลงชื่อน้องสักนิด ...มีเพียง send form my iPhone ซึ่งนั่นไม่นับเป็นการส่งmailที่ดีนะลูก ...
4.ท้ายสุดจึงโดนผู้ใหญ่ทางเราส่งเมล์ตอบไปว่า...
เรียน...นักศึกษา
ไหนล่ะคะจดหมายจากทางมหาวิทยาลัย
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(.....ลงนาม......)
ฝ่ายทรัพยากรบุคคล/////เซ็นเซอร์ชื่อและสาขาห้างสรรพสินค้า/////
ปล.เรื่องนี้ไม่ได้เพื่อสร้างอคติ และจู่โจมมหาวิทยาลัยนานาชาติใดๆบนโลก เพราะอาจเป็นความส่วนบุคคลของเด็กจำนวน4-5คนนี้ จุดประสงค์หลักคืออยากให้รุ่นน้องที่ผ่านมาอ่านเจอทุกคนรู้และรู้จักเอาไปใช้เป็นบทเรียน
ปล.2น้องฟุ้ดฟิ้ดฟอไฟมาก หน้าตาน่ารักด้วย อยากให้สัมภาษณ์ใจจะขาด
---------------------
ใครมีความเห็นอะไรก็เข้ามาแลกเปลี่ยนกันได้นะคะ