จาก fb
https://www.facebook.com/Assemblyforthedefenseofdemocracy
สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย ลองอ่านความเห็น อ.เกษียร ต่อ คณบดีทั้งแปดครับ
----------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณบดีคณะแพทยศาสตร์จาก 8 สถาบัน ประกอบด้วย คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล คณบดีคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมออกแถลงการณ์กลุ่มโรงเรียนแพทย์ เรื่อง ข้อเสนอของกลุ่มโรงเรียนแพทย์ต่อสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน
แถลงการณ์ระบุว่า เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันเกิดความแตกแยกรุนแรง และการสูญเสียมากขึ้น กลุ่มโรงเรียนแพทย์มีข้อเสนอดังต่อไปนี้
1.ประเทศไทยควรมีการปฏิรูปการเมืองโดยเร็ว ในประเด็นของการได้มาซึ่งอำนาจ การใช้อำนาจ และการตรวจสอบอำนาจรัฐ
2.เพื่อยุติความขัดแย้ง และความรุนแรงเฉพาะหน้าเห็นควรให้รัฐบาลรักษาการปัจจุบันเสียสละโดยยุติบทบาท เพื่อให้มีรัฐบาลเฉพาะกาลที่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายเข้ามาเพื่อแก้ไข ควบคุมสถานการณ์และจัดการเลือกตั้ง
3.แม้การเลือกตั้งจะเป็นพื้นฐานสำคัญของระบอบประชาธิปไตย แต่การกำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ทางโรงเรียนแพทย์เห็นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะนำมาซึ่งความขัดแย้ง ความแตกแยก ความรุนแรง ความสูญเสียและเป็นปัญหาต่อเนื่องในระยะยาว จึงเห็นควรกำหนดการเลือกตั้งใหม่หลังจากที่ทุกฝ่ายเห็นชอบในกติกาที่จะกำหนดขึ้น และทุกพรรคการเมืองพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้ง
4.ขอให้ทุกฝ่ายยุติการยั่วยุ การบิดเบือนข้อมูล และการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ 5.สนับสนุนให้ทุกฝ่ายมีการเจรจาร่วมกันโดยเร็วที่สุด เพื่อให้เกิดความสมานฉันท์
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรียนคณบดีแพทยศาสตร์ ๘ มหาวิทยาลัยทราบ
สืบเนื่องจากแถลงการณ์ให้รัฐบาลลาออกของท่านคณบดีแพทยศาสตร์ ๘ มหาวิทยาลัย
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1390212733&grpid&catid=19&subcatid=1903
ผมอ่านแล้วมีความเห็นต่างที่ใคร่เรียนว่า:
๑) รัฐบาลรักษาการยิ่งลักษณ์ไม่สามารถลาออกได้ตามรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้พ้นจากตำแหน่งไปพร้อมกับการยุบสภาผู้แทนราษฎรแล้ว และรัฐธรรมนูญระบุสั่งให้คณะรัฐมนตรีต้องอยู่ในตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าครม.ที่ตั้งขั้นใหม่จะเข้ามารับหน้าที่แทน นอกจากนี้ การยุบสภาฯทำได้ครั้งเดียว ทำซ้ำไม่ได้ ถ้าจะให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ลาออกซ้ำอีกก็ต้องใช้ Time Machine ย้อนเวลาไปฟื้นสภาฯขึ้นมาใหม่ ซึ่งในทางวิทยาศาสตร์ ท่านคณบดีน่าจะทราบดีว่าทำไม่ได้ (รบกวนอ่านมาตรา ๑๐๘, ๑๘๐, และ ๑๘๑ ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันดูหลาย ๆ รอบด้วยครับคุณหมอ
http://www.ombudsman.go.th/10/documents/law/Constitution2550.pdf)
๒) การเลือกตั้ง ๒ กุมภาพันธ์ที่จะต้องจัดขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาฯนั้น หากจะเกิดความขัดแย้ง แตกแยก รุนแรง สูญเสียและเป็นปัญหาต่อเนื่องในระยะยาว ก็เพราะพฤติกรรมการขัดขวางการเลือกตั้งโดยพลการและผิดกฎหมายของกปปส.ที่วางแผนและเจตนาทำอย่างดื้อดึง และการเลือกไม่เข้าร่วมการเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์เพื่อสนับสนุนกปปส. ไม่ใช่เพราะเหตุอื่น ยิ่งไม่ใช่ความผิดของประชาชนไทยผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนหลายสิบล้านคนทั้งในและนอกประเทศที่ต้องการไปใช้สิทธิตามกฎหมายของตนและได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งกันแล้วนับแสน ๆ คน อันที่จริงการเลือกตั้งเสียอีกที่เป็นช่องทางแก้ไขความขัดแย้ง แตกแยก หาทางออกจากความรุนแรงและการสูญเสียโดยสันติในกรอบกฎกติกาประชาธิปไตยที่เคารพเสียงและสิทธิของทุกคนเท่าเทียมกันเยี่ยงประชาคมโลกอารยะ ไม่ใช่การชุมนุมอย่างผิดกฎหมายในลักษณะอนาธิปไตย บุกยึดสถานที่ราชการ ขัดขวางการเลือกตั้ง จนมีผู้เสียชีวิตบาดเจ็บทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุมต่อเนื่องหลายราย
การที่กปปส.และพรรคประชาธิปัตย์ปฏิเสธการเลือกตั้งเพราะตระหนักแก่ใจตนว่าเป็นเสียงข้างน้อย คาดเล็งผลว่าคงแพ้ แทนที่จะพยายามรณรงค์ช่วงชิงเปลี่ยนใจประชาชนเสียงข้างมากให้หันมาสนับสนุนตนตามวิถีประชาธิปไตย กลับมักง่ายเลือกล้มการเลือกตั้งและทำลายมติเสียงข้างมากเอาดื้อ ๆ เยี่ยงอันธพาลแทน เมื่อความจริงเป็นเช่นนี้ สมควรที่คณบดีโรงเรียนแพทย์ทั้ง ๘ ท่านจะพร้อมใจกันไปขอเข้าพบคุณสุเทพ เทือกสุบรรณและกปปส. วิงวอนด้วยพลังบริสุทธิ์ของท่านให้พวกเขาหยุดยั้งการกระทำผิดกฎหมาย ทำลายระบอบประชาธิปไตย จึงจะเป็นการเกาถูกที่คัน หยุดความรุนแรง สูญเสียและปัญหาต่อเนื่องที่ต้นตออย่างแท้จริง แทนที่จะหันมาเรียกร้องให้รอนสิทธิคนไทยส่วนใหญ่ที่ต้องการไปเลือกตั้งตามสิทธิโดยชอบของตน
๓) ผมอยากเรียนคณบดีทั้ง ๘ ท่านว่า ตามหลักรัฐศาสตร์แล้ว ต้องเลือกตั้งก่อนปฏิรูป เพราะมีแต่การเลือกตั้งเท่านั้นที่ปฏิบัติต่อพลเมืองไทยทุกคนถ้วนหน้าอย่างเท่าเทียม ๑ คนมีสิทธิ์ ๑ เสียงเท่ากันไม่ว่าใคร จะเป็นคณบดี อาจารย์ นักการภารโรง แพทย์ พยาบาล คนไข้ สมาชิกเพื่อไทย สมาชิกประชาธิปัตย์ กปปส. นปช. มวลมหาประชาชนผู้ชุมนุม หรือเพื่อนคนไทยที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศและทั่วโลกที่ออกมาจุดเทียนเรียกร้องให้ Respect My Vote ฯลฯ และด้วยหลักประกันความเสมอภาคเท่าเทียมด้านสิทธิและอำนาจที่การเลือกตั้งหยิบยื่นให้นี่แหละ จึงจะค้ำประกันสืบต่อไปว่าการปฏิรูปที่จะเกิดขึ้นเราคนไทยทุกคนทุกฝ่ายจะเป็นเจ้าของมันร่วมกันเท่ากันคนละ ๑ หุ้น มีสิทธิอำนาจเท่ากันที่จะร่วมกำหนดว่าจะปฏิรูปหรือไม่ ปฏิรูปเมื่อไหร่ ปฏิรูปเรื่องอะไร อย่างไร ด้วยเหตุผลกลใด ฯลฯไม่มีใครจะรับเหมาผูกขาด ฉวยริบเอาอำนาจนั้นไปเป็นของตนกลุ่มเดียวคณะเดียวและปฏิรูปของตัวฝ่ายเดียวอย่างตามใจตัวเอง โดยไม่ต้องฟังเพื่อนคนไทยที่มีสิทธิและอำนาจเท่าเทียมกันคนอื่นแม้แต่น้อยด้วยพลังแห่งเสียงนกหวีดที่เป่าลั่นจากปากของตัว
ด้วยความนับถือ
เกษียร เตชะพีระ
ศาสตราจารย์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
สมาชิกสมัชชาปกป้องประชาธิปไตย
แถลงการณ์คณบดีคณะแพทยศาสตร์ 8 สถาบัน - อ.เกษียร ตอบ
สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย ลองอ่านความเห็น อ.เกษียร ต่อ คณบดีทั้งแปดครับ
----------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณบดีคณะแพทยศาสตร์จาก 8 สถาบัน ประกอบด้วย คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล คณบดีคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมออกแถลงการณ์กลุ่มโรงเรียนแพทย์ เรื่อง ข้อเสนอของกลุ่มโรงเรียนแพทย์ต่อสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน
แถลงการณ์ระบุว่า เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันเกิดความแตกแยกรุนแรง และการสูญเสียมากขึ้น กลุ่มโรงเรียนแพทย์มีข้อเสนอดังต่อไปนี้
1.ประเทศไทยควรมีการปฏิรูปการเมืองโดยเร็ว ในประเด็นของการได้มาซึ่งอำนาจ การใช้อำนาจ และการตรวจสอบอำนาจรัฐ
2.เพื่อยุติความขัดแย้ง และความรุนแรงเฉพาะหน้าเห็นควรให้รัฐบาลรักษาการปัจจุบันเสียสละโดยยุติบทบาท เพื่อให้มีรัฐบาลเฉพาะกาลที่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายเข้ามาเพื่อแก้ไข ควบคุมสถานการณ์และจัดการเลือกตั้ง
3.แม้การเลือกตั้งจะเป็นพื้นฐานสำคัญของระบอบประชาธิปไตย แต่การกำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ทางโรงเรียนแพทย์เห็นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะนำมาซึ่งความขัดแย้ง ความแตกแยก ความรุนแรง ความสูญเสียและเป็นปัญหาต่อเนื่องในระยะยาว จึงเห็นควรกำหนดการเลือกตั้งใหม่หลังจากที่ทุกฝ่ายเห็นชอบในกติกาที่จะกำหนดขึ้น และทุกพรรคการเมืองพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้ง
4.ขอให้ทุกฝ่ายยุติการยั่วยุ การบิดเบือนข้อมูล และการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ 5.สนับสนุนให้ทุกฝ่ายมีการเจรจาร่วมกันโดยเร็วที่สุด เพื่อให้เกิดความสมานฉันท์
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรียนคณบดีแพทยศาสตร์ ๘ มหาวิทยาลัยทราบ
สืบเนื่องจากแถลงการณ์ให้รัฐบาลลาออกของท่านคณบดีแพทยศาสตร์ ๘ มหาวิทยาลัย
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1390212733&grpid&catid=19&subcatid=1903
ผมอ่านแล้วมีความเห็นต่างที่ใคร่เรียนว่า:
๑) รัฐบาลรักษาการยิ่งลักษณ์ไม่สามารถลาออกได้ตามรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้พ้นจากตำแหน่งไปพร้อมกับการยุบสภาผู้แทนราษฎรแล้ว และรัฐธรรมนูญระบุสั่งให้คณะรัฐมนตรีต้องอยู่ในตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าครม.ที่ตั้งขั้นใหม่จะเข้ามารับหน้าที่แทน นอกจากนี้ การยุบสภาฯทำได้ครั้งเดียว ทำซ้ำไม่ได้ ถ้าจะให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ลาออกซ้ำอีกก็ต้องใช้ Time Machine ย้อนเวลาไปฟื้นสภาฯขึ้นมาใหม่ ซึ่งในทางวิทยาศาสตร์ ท่านคณบดีน่าจะทราบดีว่าทำไม่ได้ (รบกวนอ่านมาตรา ๑๐๘, ๑๘๐, และ ๑๘๑ ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันดูหลาย ๆ รอบด้วยครับคุณหมอ http://www.ombudsman.go.th/10/documents/law/Constitution2550.pdf)
๒) การเลือกตั้ง ๒ กุมภาพันธ์ที่จะต้องจัดขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาฯนั้น หากจะเกิดความขัดแย้ง แตกแยก รุนแรง สูญเสียและเป็นปัญหาต่อเนื่องในระยะยาว ก็เพราะพฤติกรรมการขัดขวางการเลือกตั้งโดยพลการและผิดกฎหมายของกปปส.ที่วางแผนและเจตนาทำอย่างดื้อดึง และการเลือกไม่เข้าร่วมการเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์เพื่อสนับสนุนกปปส. ไม่ใช่เพราะเหตุอื่น ยิ่งไม่ใช่ความผิดของประชาชนไทยผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนหลายสิบล้านคนทั้งในและนอกประเทศที่ต้องการไปใช้สิทธิตามกฎหมายของตนและได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งกันแล้วนับแสน ๆ คน อันที่จริงการเลือกตั้งเสียอีกที่เป็นช่องทางแก้ไขความขัดแย้ง แตกแยก หาทางออกจากความรุนแรงและการสูญเสียโดยสันติในกรอบกฎกติกาประชาธิปไตยที่เคารพเสียงและสิทธิของทุกคนเท่าเทียมกันเยี่ยงประชาคมโลกอารยะ ไม่ใช่การชุมนุมอย่างผิดกฎหมายในลักษณะอนาธิปไตย บุกยึดสถานที่ราชการ ขัดขวางการเลือกตั้ง จนมีผู้เสียชีวิตบาดเจ็บทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุมต่อเนื่องหลายราย
การที่กปปส.และพรรคประชาธิปัตย์ปฏิเสธการเลือกตั้งเพราะตระหนักแก่ใจตนว่าเป็นเสียงข้างน้อย คาดเล็งผลว่าคงแพ้ แทนที่จะพยายามรณรงค์ช่วงชิงเปลี่ยนใจประชาชนเสียงข้างมากให้หันมาสนับสนุนตนตามวิถีประชาธิปไตย กลับมักง่ายเลือกล้มการเลือกตั้งและทำลายมติเสียงข้างมากเอาดื้อ ๆ เยี่ยงอันธพาลแทน เมื่อความจริงเป็นเช่นนี้ สมควรที่คณบดีโรงเรียนแพทย์ทั้ง ๘ ท่านจะพร้อมใจกันไปขอเข้าพบคุณสุเทพ เทือกสุบรรณและกปปส. วิงวอนด้วยพลังบริสุทธิ์ของท่านให้พวกเขาหยุดยั้งการกระทำผิดกฎหมาย ทำลายระบอบประชาธิปไตย จึงจะเป็นการเกาถูกที่คัน หยุดความรุนแรง สูญเสียและปัญหาต่อเนื่องที่ต้นตออย่างแท้จริง แทนที่จะหันมาเรียกร้องให้รอนสิทธิคนไทยส่วนใหญ่ที่ต้องการไปเลือกตั้งตามสิทธิโดยชอบของตน
๓) ผมอยากเรียนคณบดีทั้ง ๘ ท่านว่า ตามหลักรัฐศาสตร์แล้ว ต้องเลือกตั้งก่อนปฏิรูป เพราะมีแต่การเลือกตั้งเท่านั้นที่ปฏิบัติต่อพลเมืองไทยทุกคนถ้วนหน้าอย่างเท่าเทียม ๑ คนมีสิทธิ์ ๑ เสียงเท่ากันไม่ว่าใคร จะเป็นคณบดี อาจารย์ นักการภารโรง แพทย์ พยาบาล คนไข้ สมาชิกเพื่อไทย สมาชิกประชาธิปัตย์ กปปส. นปช. มวลมหาประชาชนผู้ชุมนุม หรือเพื่อนคนไทยที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศและทั่วโลกที่ออกมาจุดเทียนเรียกร้องให้ Respect My Vote ฯลฯ และด้วยหลักประกันความเสมอภาคเท่าเทียมด้านสิทธิและอำนาจที่การเลือกตั้งหยิบยื่นให้นี่แหละ จึงจะค้ำประกันสืบต่อไปว่าการปฏิรูปที่จะเกิดขึ้นเราคนไทยทุกคนทุกฝ่ายจะเป็นเจ้าของมันร่วมกันเท่ากันคนละ ๑ หุ้น มีสิทธิอำนาจเท่ากันที่จะร่วมกำหนดว่าจะปฏิรูปหรือไม่ ปฏิรูปเมื่อไหร่ ปฏิรูปเรื่องอะไร อย่างไร ด้วยเหตุผลกลใด ฯลฯไม่มีใครจะรับเหมาผูกขาด ฉวยริบเอาอำนาจนั้นไปเป็นของตนกลุ่มเดียวคณะเดียวและปฏิรูปของตัวฝ่ายเดียวอย่างตามใจตัวเอง โดยไม่ต้องฟังเพื่อนคนไทยที่มีสิทธิและอำนาจเท่าเทียมกันคนอื่นแม้แต่น้อยด้วยพลังแห่งเสียงนกหวีดที่เป่าลั่นจากปากของตัว
ด้วยความนับถือ
เกษียร เตชะพีระ
ศาสตราจารย์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
สมาชิกสมัชชาปกป้องประชาธิปไตย