คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 15
ว่ากันตามตรงนะ คือคนส่วนใหญ่สติขาดช่วงเยอะครับ
มีอาการเผลอ หรือเพลิน หลงเข้าไปในความคิดในอารมณ์บ่อยๆ แต่ก็ไม่รู้สึกตัวกันหรอก
เป็นเพราะชอบเสพ ชอบความเพลินความเคลิ้ม...
พอมีอะไรที่ดึงความสนใจกลับมาที่ร่างกาย ก็จะมีสติอยู่กับตัวระยะหนึ่ง
แล้วก็จะเคลิ้มไปในความคิดอดีตบ้าง อนาคตบ้าง ไม่ค่อยอยู่กับปัจจุบันกันหรอก
วิธีแก้คือฝึกสติครับ
ขยันรู้สึกตัวในชีวิตประจำวันให้เยอะที่สุด
เมื่อเผลอหรือเพลินไปกับความคิด ก็กลับมารู้สึกตัวให้ได้
โดยวิธี ลูบพวงมาลัยรถ ยกมือที่จับพวงมาลัยขึ้นลง
เวลาเร่งความเร็วหรือบรคก็รู้สึกถึงแรงกดที่เท้า
ในเวลาปกติ...จะเดินนั่ง ทุกอิริยาบถก็ควรขยันฝึก
จะงอมือเหยียดมือหรือขาก็รู้สึกตัวเข้าใว้
ตอนเริ่ม อาจจะรู้สึกตัวได้น้อย
ขยันฝึกไปเรื่อย จะกลับมารู้สึกตัวได้เยอะขึ้นเรื่อยๆ
หาฝึกได้ผลดีก็จะ...
เห็นอารมณ์ของตนเองได้ชัดขึ้น และจะค่อยๆแยกได้ละเอียดมากขึ้นเรื่อยๆตามกำลังสติที่ดีขึ้นครับ
ค่อยๆเห็นความคิดที่เป็นเหตุให้เกิดอารมณ์นั้น
เห็นความจำที่นำมาใช้เปรียบเทียบ
เห็นการสัมผัสต่างๆที่เกิดขึ้นกับตัว
เห็นสิ่งที่รับรู้
สิ่งเหล่านี้แยกกันชัดเจนครับ
และด้วยกำลังสติที่ดีมั่นคง เอื้อให้มีสมาธิดีขึ้นด้วย
จะช่วยให้ไม่มึนงงสงสัยอะไรง่ายๆ ลดความสับสน จับประเด็นต่างๆได้ดี ช่วยหนุนการเรียนรู้ได้ดีขึ้น
หากฝึกได้ผล....
สามารถให้ความสนใจต่อความคิดที่ดี
และสามารถละความสนใจในความคิดที่ไม่ดีได้อย่างง่ายๆเลยครับ
ความคิดอะไรจะเกิดนั้นบังคับกันไม่ได้ก็จริง..... แต่การเลือกว่าจะคิดสิ่งใดต่อหรือไม่คิดต่อ สามารถฝึกได้ครับ.....
-------------
จะรู้สึกตัวว่าที่ผ่านมาเราเคลิ้มหลง เผลอ เพลินไปอย่างไร...
ต้องฝึกเจริญสติให้ได้กำลังสติตื่นตัวในเบื้องต้นก่อน ซึ่งต้องขยันฝึกเยอะๆ
และมีศีล 5 เป็นพื้นฐานเบื้องต้นครับ.... ไม่งั้นก็เป็นแค่คิดว่ารู้สึกตัว
ไม่ใช่กำลังรู้สึกตัว
ผู้ที่สติเต็มตลอดเวลาก็มีครับ ใครทำได้ก็เป็นพระอรหันต์ครับ
มีอาการเผลอ หรือเพลิน หลงเข้าไปในความคิดในอารมณ์บ่อยๆ แต่ก็ไม่รู้สึกตัวกันหรอก
เป็นเพราะชอบเสพ ชอบความเพลินความเคลิ้ม...
พอมีอะไรที่ดึงความสนใจกลับมาที่ร่างกาย ก็จะมีสติอยู่กับตัวระยะหนึ่ง
แล้วก็จะเคลิ้มไปในความคิดอดีตบ้าง อนาคตบ้าง ไม่ค่อยอยู่กับปัจจุบันกันหรอก
วิธีแก้คือฝึกสติครับ
ขยันรู้สึกตัวในชีวิตประจำวันให้เยอะที่สุด
เมื่อเผลอหรือเพลินไปกับความคิด ก็กลับมารู้สึกตัวให้ได้
โดยวิธี ลูบพวงมาลัยรถ ยกมือที่จับพวงมาลัยขึ้นลง
เวลาเร่งความเร็วหรือบรคก็รู้สึกถึงแรงกดที่เท้า
ในเวลาปกติ...จะเดินนั่ง ทุกอิริยาบถก็ควรขยันฝึก
จะงอมือเหยียดมือหรือขาก็รู้สึกตัวเข้าใว้
ตอนเริ่ม อาจจะรู้สึกตัวได้น้อย
ขยันฝึกไปเรื่อย จะกลับมารู้สึกตัวได้เยอะขึ้นเรื่อยๆ
หาฝึกได้ผลดีก็จะ...
เห็นอารมณ์ของตนเองได้ชัดขึ้น และจะค่อยๆแยกได้ละเอียดมากขึ้นเรื่อยๆตามกำลังสติที่ดีขึ้นครับ
ค่อยๆเห็นความคิดที่เป็นเหตุให้เกิดอารมณ์นั้น
เห็นความจำที่นำมาใช้เปรียบเทียบ
เห็นการสัมผัสต่างๆที่เกิดขึ้นกับตัว
เห็นสิ่งที่รับรู้
สิ่งเหล่านี้แยกกันชัดเจนครับ
และด้วยกำลังสติที่ดีมั่นคง เอื้อให้มีสมาธิดีขึ้นด้วย
จะช่วยให้ไม่มึนงงสงสัยอะไรง่ายๆ ลดความสับสน จับประเด็นต่างๆได้ดี ช่วยหนุนการเรียนรู้ได้ดีขึ้น
หากฝึกได้ผล....
สามารถให้ความสนใจต่อความคิดที่ดี
และสามารถละความสนใจในความคิดที่ไม่ดีได้อย่างง่ายๆเลยครับ
ความคิดอะไรจะเกิดนั้นบังคับกันไม่ได้ก็จริง..... แต่การเลือกว่าจะคิดสิ่งใดต่อหรือไม่คิดต่อ สามารถฝึกได้ครับ.....
-------------
จะรู้สึกตัวว่าที่ผ่านมาเราเคลิ้มหลง เผลอ เพลินไปอย่างไร...
ต้องฝึกเจริญสติให้ได้กำลังสติตื่นตัวในเบื้องต้นก่อน ซึ่งต้องขยันฝึกเยอะๆ
และมีศีล 5 เป็นพื้นฐานเบื้องต้นครับ.... ไม่งั้นก็เป็นแค่คิดว่ารู้สึกตัว
ไม่ใช่กำลังรู้สึกตัว
ผู้ที่สติเต็มตลอดเวลาก็มีครับ ใครทำได้ก็เป็นพระอรหันต์ครับ
แสดงความคิดเห็น
เวลาขับรถ เหม่อลอยและสมองคิดเรื่องอื่น
ไม่แน่ใจเพื่อนๆ เคยเป็นกันหรือเปล่า
หรือปกติเป็นกันไหม เวลาขับรถครับ กลับบ้านจากที่ทำงานหรือ มาทำงานบ่อยครั้ง ขณะขับรถ ผมมักจะคิดถึงเรื่องอื่นๆ ที่ไม่ใช่สิ่งที่ตาเห็นตรงหน้า บางทีก็คิดเรื่องหนังที่ดูเมื่อคืน พรุ่งนี้จะกินอะไรดี จะแต่งบ้านแบบไหนดีหนะ ซื้อเฟอร์นิเจอร์อะไร ผมว่าบางทีผมเหม่อไปคิดเรื่องอื่น หลายนาทีเลยเชียวหละ แต่เมื่อเวลารถคันหน้า เหยียบเบรค จิตใจผมถึงกลับมาที่รถแล้วก็เบรคตาม คันหน้า เป็นแบบนี้หลายครั้ง
จนถึงที่หมายจะรู้สึกว่าถึงแล้วเหรอเร็วจัง เพราะตลอดทางที่ขับมามัวแต่คิดเรื่องอื่นตลอด
คือสงสัยว่าตอนที่กำลังคิดเรื่องอื่น จริงๆแล้ว สมองรับรู้หรือเปล่าเนี่ยว่ากำลังขับรถอยู่?
ตามความคิดผม รู้สึกเหมือนว่า เวลาผมเหม่อ รถจะขับช้า ตามความเร็วปกติ ตามคันหน้าไป ขับไปเรื่อยๆ ไม่มีการแซง เหมือน Auto Pilot เลย
แล้วสงสัยคนอื่นเค้าเหม่อลอยคิดเรื่องอื่นตอนขับรถกันไหมเนี่ย?