กลุ่มหมอ พยาบาล ใส่ชุดเครื่องแบบอันทรงเกียรติ์ ออกมาร่วมชุมนุมกับม๊อบกปปส.เป็นการแสดงถึงวุฒิภาวะจิตใจต่ำ เพราะเครื่องแบบหมอ พยาบาลตามหลักสากลคือบุคลากรที่มีคุณธรรมจริยธรรมในวิชาชีพ เป็นบุคลากรที่ช่วยคนทุกๆคนโดยไม่แบ่งแยกฝ่ายใด.
การแสดงออกทางการเมือง เป็นเหมือนการแบ่งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งหากหมอพยาบาลไม่เห็นด้วยก็ออกมาต่อต้านได้ด้วยเสื้อผ้าส่วนตัวปกติจะดีกว่าใส่ชุดวิชาชีพเพื่อมาเคลื่อนไหวทางการเมือง ทั้งๆที่ความรู้สูงระดับปัญญาชน แต่ไม่ได้ใช้วิจารณญานในการกระทำ ความคิดต่ำและจิตใจแคบ.
ที่ออกมาต่อต้านคัดค้านการเลือกตั้ง เพื่อไม่อยากให้มีการเลือกตั้ง กลัวว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะอีกเหมือนเกิม แล้วแพทย์พยาบาลก็สูญเสียประโยชน์หลายอย่าง
1. สูญเสียความโก้หรูในระบบศักดินาเจ้าคนนายคน เพราะสมัยก่อนๆๆๆทั้งหมอพยาบาล จะรักษาคนไข่ยังไงก็ได้ พูดจายังไงกับตาสีตาสาก็ได้ แต่เมื่อพรรคนายกฯทักษิณบริหารประเทศ ก็ประกาศให้ข้าราชการดูแลประชาชน พูดจาประสาดอกไม้กับประชาชน (สมัยก่อนๆๆร.พ.ของรัฐพูดกับคนไข้เหมือนคนไข้เป็นทาส มีคนท้องไปคลอดลูก รอหมอนาน เจ็บท้องร้องเสียงดัง พยาบาลดุด้วยน้ำเสียงตวาดว่า "ตอนเอากันร้องดังยังนี้ใหม ทีตอนนี้
แหกปากร้องเสียงดัง" )
ให้นโยบายรักษาบัตรทอง ทำให้กลุ่มหมอพยาบาลไม่พอใจอย่างมาก เพราะมีเวลาทำคลีนิคน้อยลงจึงขาดประโยชน์ ญาติโกโหติกาทุกคนจะมารักษาที่ร.พ.ก็แน่น ขาดเงินค่าทำการล่วงเวลาที่ปกติไม่ต้องทำก็รับเงินฟรี ไปรับงานโรงพยาบาลเอกชนได้ไม่มากเพราะเวลาน้อยลง
2. อยากทำให้โรงพยาบาลของประเทศไทยเป็นเมดิคอล ฮับ รับรักษาชาวต่างชาติที่มีเงินมาจ่าย แต่ไม่อยากรักษาคนบัตรทองเพราะไม่ได้เงินไม่ได้ค่าเฝ้าไข้ ทั้งๆที่การสร้างร.พ. รัฐ ก็มาจากงบภาษีประชาชน และเงินบริจาคของปชช. แต่จะเอา ร.พ.รัฐไปรักษาคนต่างชาติ เพราะต้องการโอ้อวดว่าเมืองไทยเก่ง. ให้ชาวโลกเชิดชูหรือไงล่ะ ส่วนคนไทยนอนรอความตายที่บ้านนั่นแหละ
หมอพยาบาลคงอยากเปลี่ยนอาชีพ มาเป็นอาชีพนักการเมืองล่ะมั๊ง จึงยอมเอาเครื่องแบบอันทรงเกียรติ์มาใส่เดินโชว์ร่วมการชุมนุม โดยไม่ใช้สมองคิดว่าถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ ระดับปัญญาชนยังแยกแยะไม่ออกว่าความถูกต้องและความเหมาะสมเป็นอย่างไรในสังคม แล้วจะสอนลูกๆหลานๆได้ยังไง ถ้าคิดว่าจะปฎิรูปประเทศก็จะแย่นะ เพราะปฎิรูปตัวเองยังไม่ได้เลย.
หมอและพยาบาลปัญญาชน หรือ ปัญญาควาย
การแสดงออกทางการเมือง เป็นเหมือนการแบ่งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งหากหมอพยาบาลไม่เห็นด้วยก็ออกมาต่อต้านได้ด้วยเสื้อผ้าส่วนตัวปกติจะดีกว่าใส่ชุดวิชาชีพเพื่อมาเคลื่อนไหวทางการเมือง ทั้งๆที่ความรู้สูงระดับปัญญาชน แต่ไม่ได้ใช้วิจารณญานในการกระทำ ความคิดต่ำและจิตใจแคบ.
ที่ออกมาต่อต้านคัดค้านการเลือกตั้ง เพื่อไม่อยากให้มีการเลือกตั้ง กลัวว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะอีกเหมือนเกิม แล้วแพทย์พยาบาลก็สูญเสียประโยชน์หลายอย่าง
1. สูญเสียความโก้หรูในระบบศักดินาเจ้าคนนายคน เพราะสมัยก่อนๆๆๆทั้งหมอพยาบาล จะรักษาคนไข่ยังไงก็ได้ พูดจายังไงกับตาสีตาสาก็ได้ แต่เมื่อพรรคนายกฯทักษิณบริหารประเทศ ก็ประกาศให้ข้าราชการดูแลประชาชน พูดจาประสาดอกไม้กับประชาชน (สมัยก่อนๆๆร.พ.ของรัฐพูดกับคนไข้เหมือนคนไข้เป็นทาส มีคนท้องไปคลอดลูก รอหมอนาน เจ็บท้องร้องเสียงดัง พยาบาลดุด้วยน้ำเสียงตวาดว่า "ตอนเอากันร้องดังยังนี้ใหม ทีตอนนี้แหกปากร้องเสียงดัง" )
ให้นโยบายรักษาบัตรทอง ทำให้กลุ่มหมอพยาบาลไม่พอใจอย่างมาก เพราะมีเวลาทำคลีนิคน้อยลงจึงขาดประโยชน์ ญาติโกโหติกาทุกคนจะมารักษาที่ร.พ.ก็แน่น ขาดเงินค่าทำการล่วงเวลาที่ปกติไม่ต้องทำก็รับเงินฟรี ไปรับงานโรงพยาบาลเอกชนได้ไม่มากเพราะเวลาน้อยลง
2. อยากทำให้โรงพยาบาลของประเทศไทยเป็นเมดิคอล ฮับ รับรักษาชาวต่างชาติที่มีเงินมาจ่าย แต่ไม่อยากรักษาคนบัตรทองเพราะไม่ได้เงินไม่ได้ค่าเฝ้าไข้ ทั้งๆที่การสร้างร.พ. รัฐ ก็มาจากงบภาษีประชาชน และเงินบริจาคของปชช. แต่จะเอา ร.พ.รัฐไปรักษาคนต่างชาติ เพราะต้องการโอ้อวดว่าเมืองไทยเก่ง. ให้ชาวโลกเชิดชูหรือไงล่ะ ส่วนคนไทยนอนรอความตายที่บ้านนั่นแหละ
หมอพยาบาลคงอยากเปลี่ยนอาชีพ มาเป็นอาชีพนักการเมืองล่ะมั๊ง จึงยอมเอาเครื่องแบบอันทรงเกียรติ์มาใส่เดินโชว์ร่วมการชุมนุม โดยไม่ใช้สมองคิดว่าถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ ระดับปัญญาชนยังแยกแยะไม่ออกว่าความถูกต้องและความเหมาะสมเป็นอย่างไรในสังคม แล้วจะสอนลูกๆหลานๆได้ยังไง ถ้าคิดว่าจะปฎิรูปประเทศก็จะแย่นะ เพราะปฎิรูปตัวเองยังไม่ได้เลย.