ช่วงนี้กระแสการเมืองแรงมาก แม้ผมอยู่ต่างประเทศก็ยังมีกระแสร้อนๆ เลยพยายามหากระแสเย็นๆมาชโลมใจบ้าง อ่านจากเฟชบุค แล้วรู้สึกดี เลยเอามาแบ่งปันนะครับ ผมรู้สึกว่าถ้อยคำของ อ.ดังตฤณ โดนใจหลายเรื่อง เหมือนเข้าใจ สภาวะโทสะเป็นอย่างดี และแง่คิดมุมมองเพื่อให้ใจเราเย็นลงก็ทำให้ผมคล้อยตามได้อย่างไม่น่าเชื่อ ลองอ่านดูนะครับ แล้วจะรู้ว่าธรรมะนั้นช่วยเราได้อย่างไร
รวบรวมวาทะ อ.ดังตฤณ : [ 11 ] : ความโกรธ - การให้อภัย
• ถ้าปากยังพ่นไฟ ใจก็ไม่มีทางเย็น
• โดนใช้อย่างขี้ข้า
น่าเสียใจน้อยกว่าเป็นข้าทาสของความโกรธ
• อายุบอกความแก่
การควบคุมอารมณ์บอกระดับอาวุโส
• เหตุเกิดจากไฟ
เราเลือกได้ว่าจะเป็นไฟ หรือน้ำนะ
ถ้าเลือกเป็นไฟ ก็เผาใจตนเองและผู้อื่น
ถ้าเลือกเป็นน้ำ ก็นำความเย็นสบายมาสู่สองฝ่าย
• ที่ใดมีใจรู้ ที่นั่นไม่มีใจร้อน
• ธรรมะมีหลายระดับ
ธรรมะใดปกป้องคุณ
จากความโกรธความเกลียด
และการแบ่งข้างเพื่อฟาดฟันกันไม่ได้
ธรรมะนั้น
ก็ยังป้องกันคุณ
จากการตายไปสู่ทุคติภูมิไม่ได้
• ความโกรธมีโทษทุกระดับ
สถานเบาคือเผาใจให้เป็นทุกข์
สถานกลางอาจผลักดันให้สังหารผู้อื่น
สถานหนักก็ถึงขั้นฆ่าได้ไม่เว้นแม้แต่ตนเอง !
: ไฟโกรธ คือบทลงโทษขั้นต้นของการขาดสติ
ไฟแค้นเป็นบทลงโทษขั้นกลาง
ไฟนรก เป็นบทลงโทษขั้นสุดท้าย
...และสิ่งที่จะถูกเผาผลาญก็ไม่ใช่อะไรอื่น
คือจิตวิญญาณของคุณเอง !!
• ผลของความเคียดแค้นคือใจที่ดำ
และสิ่งเดียวที่จะได้รับจากความตายในขณะใจดำคือภพที่มืด
• ทุกคนย่อมบอกว่ารักชีวิต
เห็นชีวิตตนเองมีค่ากว่าความเจ็บใจ
แต่ความเจ็บใจของตนมักมีค่ากว่าชีวิตคนอื่นเสมอ
. . . . . . . . . . . . . . . . . . .
• อย่าเกลียดใคร
เพราะคำอธิบายจากปากของเขา
จะเบากว่าคำด่าในหัวของเรา
• คนน่ารังเกียจอาจอยู่ข้างบ้าน
ในที่ทำงาน หรือแหล่งท่องเที่ยว
ถ้าคุณหาทางเป็นอิสระจากความเกลียดไม่ได้
โลกทั้งใบก็ไม่ต่างจากคุก
• คนเลวที่สุดในโลก
ไม่ใช่คนที่คุณพบว่าเขาทำเรื่องเลวกว่าใคร
แต่เป็นคนที่คุณพบว่าเขา
ทำให้ใจคุณมืดดำด้วยความเกลียดมากกว่าคนอื่น
• ความเกลียดเป็นทุกข์
ยิ่งเกลียดคนอื่นมากขึ้นเท่าไร
ใจคุณยิ่งเกลียดสภาพของตัวเองมากขึ้นเท่านั้น
• ที่สุดของการล้างแค้น
คือการรบกับความมืดในใจต่อ
ทั้งก่อนและหลังการแก้แค้น
สิ่งที่ตกค้างอยู่ในใจเรามากที่สุดคือความเกลียด
ความมืดดำ อันเกิดจากความเกลียด
จะทำให้คุณพร้อมสร้างศัตรูใหม่ขึ้นมาได้ตลอดเวลา
ถ้าไม่ใช่คน ก็เป็นอารมณ์ร้ายของตัวเอง
อารมณ์ร้ายจะตามรบกวนคุณไม่ให้เป็นสุข
สู้ยาก ไล่ยาก
วิธีแก้แค้นที่ดีที่สุดจึงไม่ใช่ทำให้ใครตาย
แต่เป็นการทำให้ความเกลียดจางหายไปจากใจเราเอง
• เป็นไปไม่ได้
ที่จะอภัยศัตรูขณะถือความเกลียดเป็นมิตร
แต่เป็นไปได้ที่จะอภัยมิตร
ขณะถือความเกลียดเป็นศัตรู
• ความเกลียดเป็นเหมือนจุดด่างพร้อยในชีวิต
ลบไม่ได้ก็คล้ายชีวิตสะอาดขึ้นไม่ได้
• นิสัยไม่อยากเอาเรื่องเอาราวใคร
ทำให้คุณไม่ต้องเหนื่อยทำใจนักเมื่อต้องอภัย
แต่คุณก็จำเป็นต้องฝึกอภัยไว้มาก
กว่าจะสร้างนิสัยไม่อยากเอาเรื่องเอาราวใครได้เป็นปกติ
• ความรู้สึกดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน
โดยเฉพาะตอนเอาชนะความเกลียด
และตอนเลิกถือสาหาความใครต่อใคร
เอาความเปรอะเปื้อนออกจากใจเสียได้
... ... ... ... ... ... ... ... ... ...
• คุณอาจโกรธโดยไม่ตั้งใจ แต่ไม่มีทางอภัยโดยบังเอิญ
• ความเจ็บใจที่มีแต่การนึกถึงใบหน้าคู่กรณี
จะยกระดับเป็นความอาฆาตแค้น
ความเจ็บใจที่ค่อยๆนึกถึงทางออกร่วมกัน
จะลดระดับลงเป็นความรู้สึกอภัยได้
• คนอารมณ์เย็นจริง ใช่ว่าไม่โกรธเลย
แต่เป็นคนที่เจอเรื่องกระทบแล้ว
เกิดความโกรธแล้ว
ไม่เห็นความโกรธเป็นตน
แต่เห็นความโกรธเป็นสิ่งดับได้อย่างรวดเร็ว
• ถ้าอยากพูดด่าหรืออยากลงมือทำร้ายใคร
ตอนนั้นความโกรธ มีไว้ห้าม ไม่ใช่มีไว้ดู
แต่ถ้าแค่หงุดหงิดคิดไม่ดีกับใคร
ตอนนั้นความโกรธ มีไว้ดู ไม่ใช่มีไว้ห้าม
ฝึกอยู่อย่างนี้
ไม่ว่าจะโกรธหนักหรือโกรธเบา
จิตของคุณจะกลายเป็นนักดูความโกรธ
คุณสมบัติเด่นของนักดูความโกรธคือไม่ถูกความโกรธครอบงำ
แล้วก็ไม่พยายามครอบงำความโกรธด้วย
กระทั่งเหมือนแยกกันเป็นคนละฝ่าย
ฝ่ายหนึ่งโกรธให้ดู อีกฝ่ายหนึ่งรู้ความโกรธไป
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
• ความโกรธ ไม่ใช่สิ่งที่ห้ามได้ทันที
หรือว่าไปตัดมันทิ้งได้ทันที แต่เป็นสิ่งที่ ถูกรู้ได้ทันที
• การยอมรับตามจริงคือการไม่ออกแรงเพิ่ม
ภาวะที่มันเกิดขึ้นแล้วเรายอมรับตามจริงคือภาวะที่เรามีสติเข้าไปแทนที่ความโกรธ
• ฝึกยอมรับว่าเราโกรธ
เห็นความโกรธเหมือนโรค
ปล่อยได้ก็เป็นสุขได้
พอเป็นสุขได้เราจะอภัยให้อย่างเป็นธรรมชาติ
ไม่ใช่หลอกตัวเองครับ
• ระลึกไว้
ถ้าเกิดโทสะแล้วยอมรับตามจริง
ว่ามันแรงขึ้นได้ก็อ่อนลงได้
จิตไม่ย้อมติดกับโทสะได้
ก็แปลว่าไม่ถูกครอบงำจากปีศาจไหนๆได้
• วูบแห่งการเผลอตัว
ด่าคนแปลกหน้าบนท้องถนน
คือการเผลอใจไปเป็นปีศาจแปลกหน้าขึ้นมาชั่วขณะ
• โทสะแรงๆมีไว้กดข่ม
ก่อนด่าหรือลงมือลงไม้โทสะอ่อนๆมีไว้รู้ว่าไม่เที่ยง
ก่อนจะสำคัญว่ามันเป็นตัวเรา
• โกรธแล้วขาดสติ
แล่นตามความโกรธจะได้อกุศลจิตโกรธแล้วเกิดสติ
รู้ว่าความโกรธไม่เที่ยงจะได้มหากุศลจิต
• ผู้หวงความโกรธไว้
ได้ชื่อว่าหวงทุกข์ไว้
ผู้ยินยอมเปล่งคำพูด
และลงมือกระทำการเพื่อรับใช้ความโกรธ
ย่อมได้ชื่อว่ายังทำตัวเป็นบ่าวไพร่ของโทสะ
ยากจะเอาชนะ
เพื่อเลื่อนชั้นขึ้นเป็นนายของกิเลส
ไม่อาจลิ้มรสความเยือกเย็นอันเป็นอมตะตามพระผู้สิ้นโกรธได้
: ปัญหาคือแม้คนเราจะเล็งเห็นโทษของความโกรธ
แต่ก็ยังไม่เห็นประโยชน์ว่าจะเลิกโกรธไปทำไม
ในเมื่อโลกนี้ยังเต็มไปด้วยเรื่องน่าโกรธ
และน่าให้แสดงความโกรธอยู่ชั่วนาตาปี
: สรุปคือการรบกับความโกรธที่ดีที่สุด
"คือการไม่คาดหวังเอากับตัวเองว่าจะไม่โกรธ
และเมื่อโกรธแล้วก็ให้ยอมรับตามจริง
เมื่อยอมรับตามจริงก็ย่อมเห็นความจริงอันไม่ควรยึดมั่นถือมั่น"
: ทางที่ถูกต้องทำความเข้าใจไว้ให้ดีๆตั้งแต่แรกว่า
ความโกรธ ความขัดเคือง
หรือความเกลียดความกลัวทั้งปวงนั้น หาใช่ตัวเราไม่
: โทสะเป็นเพียงความกระเพื่อมไหวของจิต
มิใช่ตัวจิตเอง
เปรียบเหมือนคลื่นไม่ใช่น้ำ
เป็นแค่อาการกระเพื่อมไหวของน้ำเท่านั้น
: ขอเพียงทบทวนบ่อยๆ
ตั้งป้อมเป็นฝ่ายรู้ฝ่ายดู
ไม่ช่วยโหม ไม่ฝืนต้าน
เมื่อผ่านไปนานวันนานเดือนเข้า
ก็จะเห็นความก้าวหน้าอย่างเป็นไปเองทีละน้อย
นั่นคือคุณเรียนรู้ที่จะตั้งจิตไว้อีกแบบ ใช้ชีวิตอีกแบบ
เลิกยึดมั่นถือมั่นว่าคุณต้องดี คุณจะเอาดี
แต่เปลี่ยนเป็นรับสภาพตามจริงว่า
จิตไม่จำเป็นต้องดี จิตไม่ได้มีไว้เพื่อเอาดี
จิตเป็นเพียงธรรมชาติที่ถูกกระทบได้
เกิดความกระเพื่อมไหวได้ แล้วกลับสงบลงได้เอง
: ขอเพียงไม่เอา ‘ตัวคุณ’ เป็นที่ตั้งของการรบ
วันหนึ่งการรบจะสิ้นสุด
โดยไม่มีใครแพ้ ไม่มีใครชนะ
มีแต่สภาพทุกข์คลี่คลายไปสู่ความดับสนิท เย็นสนิท
เป็นบรมสุขเหนือภาวะเร่าร้อนใดๆ
: "โกรธอย่างรู้ ดีกว่าหายโกรธอย่างไม่รู้"
จาก
• คิดจากความว่าง 4
: "รบกับความโกรธ อย่ารบกับตัวเอง"
• เวรที่ยืดเยื้อ เริ่มต้นจากเวรที่อภัยได้แล้วไม่อภัย
• อย่าถามว่าอภัยแล้วจะได้อะไรมา
ให้ถามว่าถ้าอภัยแล้วเป็นอิสระ
จากคุกร้อนๆที่ใจโดนขังอยู่จะเอาไหม
• ให้อภัยคนเลวหมดใจ
แล้วจะรู้สึกว่าต้องไปเกี่ยวข้องกับคนเลวน้อยลง
• อย่าเอาแต่สวดแผ่เมตตา
ให้ทำใจเป็นเมตตาด้วยความเข้าใจกันด้วย
ความเข้าใจนั่นแหละ
ที่ทำให้คนเรา อภัยได้จริง
ความเข้าใจนั่นแหละ
ที่ช่วยให้เรายัง มองหน้ากันได้ติด
และความเข้าใจนั่นแหละ
ที่จะยุติเรื่องเลวร้าย
. . . . . . . . . . . . . . . .
• การอภัยเป็นอะไรมากกว่าการแกล้งลืมครับ
มันคือการยกเอาโทษออกจากใจเราเอง
พอใจพ้นโทษจริง ก็พบความสุขแท้นะ
• การให้อภัยคือการไม่หวงอารมณ์โกรธไว้
ผู้ที่ฝึกให้อภัยไว้ก่อน
จึงกลายเป็นนักเจริญสติที่เห็นความไม่เที่ยงของความโกรธโดยง่าย
• เริ่มฝึกเมตตาตอนโกรธ
เห็นความโกรธเหมือนเชื้อโรคทางวิญญาณ
เป็นทุกข์ ไม่ควรอมไว้ด้วยใจ
พอคายออกได้ก็เป็นสุข ให้แผ่ความสุขนั้นนานๆ
• การให้อภัยของเราไม่ใช่ยางลบ
ที่ไปลบเจตนาร้ายของเขา
เมื่อเจตนาไม่ถูกลบ
ผลของเจตนาก็ต้องเกิด
เพียงแต่ถ้าเขาสำนึกผิดมันก็เบาบางลงได้
• การอภัยไม่ต้องเสียอะไรเพิ่ม
การจองเวรสิต้องเสียยิ่งกว่าเดิมไม่รู้เท่าไหร่
ทั้งเวลา ทั้งกำลังกายกำลังใจ
บุญบาปทำหน้าที่อยู่แล้ว
เราปล่อยเขาไปตามทางที่เขาสร้างเอง
เดินเอง และเสวยผลเองน่ะดีที่สุด
ถ้าผูกใจเจ็บก็เท่ากับ
พลอยกระโจนไปร่วมรับบาปอย่างใดอย่างหนึ่ง
บนเส้นทางของเขาด้วย
• การผูกกรรมมีความพิสดารลึกซึ้ง
เราคาดไม่ถึงหรอก
เรานึกว่าแค่ผูกใจเจ็บก็เป็นเรื่องส่วนตัวในใจ
แต่ความจริงมันเกิด กระแสเวรผูกพันระหว่างวิญญาณขึ้นมา
แม้เราไม่เคยเห็นหน้าค่าตาเขาก็ตาม
เขาเป็นฝ่ายกระทำต่อเราวันนี้
อนาคตจะต้องมีเรื่องมีราวให้เรามีอำนาจเหนือกว่า
และกรรมเก่าจะยั่วยุให้เราคิดเอาคืนบ้าง
ซึ่งก็แปลว่าเราจะมีโอกาสทำบาป
และรับผลจากบาปนั้นคืนในกาลต่อไป
. . . . . . . . . . . . . .
• การอภัยในเรื่องน่าเจ็บปวดที่สุด ทำได้ยากที่สุด
จึงแทบจะเป็นการทำแต้มสูงสุดในเกมกรรม
และกล่าวได้ว่าเป็นการใช้หนี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ถ้าทำไม่ได้ก็น่าเห็นใจ
แต่หากทำได้ ก็ไม่มีบุญกุศลชนิดไหนๆอีกแล้วที่คุณจะทำไม่ได้
• ก่อนอื่นต้องมองว่าตอนใครทำให้คุณเจ็บช้ำน้ำใจมากๆนั้น
คือรูปแบบหนึ่งของการโดนทวงหนี้
เมื่อมองอย่างนี้คุณจะเต็มใจให้อภัย
และทราบชัดจากความเบาหัวอก
ว่าหนี้เก่าถูกชำระแล้ว
อาจต้องผ่อนส่งหลายครั้ง
หรืออาจเหมารวบเบ็ดเสร็จในครั้งเดียว
• สรุปคือเมื่อถูกทำให้แค้น
แล้วไม่คิดแก้แค้น
เรียกว่าเป็นการใช้หนี้
ขอให้จำไว้ว่า
คุณอาจโกรธโดยไม่ตั้งใจ
แต่ไม่มีทางอภัยโดยบังเอิญ
อย่างน้อยต้องมีสิ่งสะกิดใจ
หรือมีใจเปี่ยมเมตตาเป็นทุนอยู่ก่อน
. . . . . . . . . . . . . . . . .
• คนโกรธยาก
คือพวกที่ไม่ทำให้โลกนี้แย่ลงกว่าที่เป็นอยู่
และเป็นพวกเดียวที่จะทำให้โลกนี้เย็นลงได้
• ถ้าสามารถช่วยคนที่ชอบได้จะเป็นสุข
ถ้าเต็มใจช่วยคนที่ไม่ชอบได้จะสุขกว่า
ถ้าพร้อมช่วยกระทั่งคนที่เกลียดได้จะสุขที่สุด
https://th-th.facebook.com/notes/%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%A4%E0%B8%93-dungtrin/%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B0-%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%A4%E0%B8%93-11-%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%98-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2/345530538847682
ธรรมะสำหรับผู้ติดตามการเมืองแล้วใจเครียดแค้น
รวบรวมวาทะ อ.ดังตฤณ : [ 11 ] : ความโกรธ - การให้อภัย
• ถ้าปากยังพ่นไฟ ใจก็ไม่มีทางเย็น
• โดนใช้อย่างขี้ข้า
น่าเสียใจน้อยกว่าเป็นข้าทาสของความโกรธ
• อายุบอกความแก่
การควบคุมอารมณ์บอกระดับอาวุโส
• เหตุเกิดจากไฟ
เราเลือกได้ว่าจะเป็นไฟ หรือน้ำนะ
ถ้าเลือกเป็นไฟ ก็เผาใจตนเองและผู้อื่น
ถ้าเลือกเป็นน้ำ ก็นำความเย็นสบายมาสู่สองฝ่าย
• ที่ใดมีใจรู้ ที่นั่นไม่มีใจร้อน
• ธรรมะมีหลายระดับ
ธรรมะใดปกป้องคุณ
จากความโกรธความเกลียด
และการแบ่งข้างเพื่อฟาดฟันกันไม่ได้
ธรรมะนั้น
ก็ยังป้องกันคุณ
จากการตายไปสู่ทุคติภูมิไม่ได้
• ความโกรธมีโทษทุกระดับ
สถานเบาคือเผาใจให้เป็นทุกข์
สถานกลางอาจผลักดันให้สังหารผู้อื่น
สถานหนักก็ถึงขั้นฆ่าได้ไม่เว้นแม้แต่ตนเอง !
: ไฟโกรธ คือบทลงโทษขั้นต้นของการขาดสติ
ไฟแค้นเป็นบทลงโทษขั้นกลาง
ไฟนรก เป็นบทลงโทษขั้นสุดท้าย
...และสิ่งที่จะถูกเผาผลาญก็ไม่ใช่อะไรอื่น
คือจิตวิญญาณของคุณเอง !!
• ผลของความเคียดแค้นคือใจที่ดำ
และสิ่งเดียวที่จะได้รับจากความตายในขณะใจดำคือภพที่มืด
• ทุกคนย่อมบอกว่ารักชีวิต
เห็นชีวิตตนเองมีค่ากว่าความเจ็บใจ
แต่ความเจ็บใจของตนมักมีค่ากว่าชีวิตคนอื่นเสมอ
. . . . . . . . . . . . . . . . . . .
• อย่าเกลียดใคร
เพราะคำอธิบายจากปากของเขา
จะเบากว่าคำด่าในหัวของเรา
• คนน่ารังเกียจอาจอยู่ข้างบ้าน
ในที่ทำงาน หรือแหล่งท่องเที่ยว
ถ้าคุณหาทางเป็นอิสระจากความเกลียดไม่ได้
โลกทั้งใบก็ไม่ต่างจากคุก
• คนเลวที่สุดในโลก
ไม่ใช่คนที่คุณพบว่าเขาทำเรื่องเลวกว่าใคร
แต่เป็นคนที่คุณพบว่าเขา
ทำให้ใจคุณมืดดำด้วยความเกลียดมากกว่าคนอื่น
• ความเกลียดเป็นทุกข์
ยิ่งเกลียดคนอื่นมากขึ้นเท่าไร
ใจคุณยิ่งเกลียดสภาพของตัวเองมากขึ้นเท่านั้น
• ที่สุดของการล้างแค้น
คือการรบกับความมืดในใจต่อ
ทั้งก่อนและหลังการแก้แค้น
สิ่งที่ตกค้างอยู่ในใจเรามากที่สุดคือความเกลียด
ความมืดดำ อันเกิดจากความเกลียด
จะทำให้คุณพร้อมสร้างศัตรูใหม่ขึ้นมาได้ตลอดเวลา
ถ้าไม่ใช่คน ก็เป็นอารมณ์ร้ายของตัวเอง
อารมณ์ร้ายจะตามรบกวนคุณไม่ให้เป็นสุข
สู้ยาก ไล่ยาก
วิธีแก้แค้นที่ดีที่สุดจึงไม่ใช่ทำให้ใครตาย
แต่เป็นการทำให้ความเกลียดจางหายไปจากใจเราเอง
• เป็นไปไม่ได้
ที่จะอภัยศัตรูขณะถือความเกลียดเป็นมิตร
แต่เป็นไปได้ที่จะอภัยมิตร
ขณะถือความเกลียดเป็นศัตรู
• ความเกลียดเป็นเหมือนจุดด่างพร้อยในชีวิต
ลบไม่ได้ก็คล้ายชีวิตสะอาดขึ้นไม่ได้
• นิสัยไม่อยากเอาเรื่องเอาราวใคร
ทำให้คุณไม่ต้องเหนื่อยทำใจนักเมื่อต้องอภัย
แต่คุณก็จำเป็นต้องฝึกอภัยไว้มาก
กว่าจะสร้างนิสัยไม่อยากเอาเรื่องเอาราวใครได้เป็นปกติ
• ความรู้สึกดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน
โดยเฉพาะตอนเอาชนะความเกลียด
และตอนเลิกถือสาหาความใครต่อใคร
เอาความเปรอะเปื้อนออกจากใจเสียได้
... ... ... ... ... ... ... ... ... ...
• คุณอาจโกรธโดยไม่ตั้งใจ แต่ไม่มีทางอภัยโดยบังเอิญ
• ความเจ็บใจที่มีแต่การนึกถึงใบหน้าคู่กรณี
จะยกระดับเป็นความอาฆาตแค้น
ความเจ็บใจที่ค่อยๆนึกถึงทางออกร่วมกัน
จะลดระดับลงเป็นความรู้สึกอภัยได้
• คนอารมณ์เย็นจริง ใช่ว่าไม่โกรธเลย
แต่เป็นคนที่เจอเรื่องกระทบแล้ว
เกิดความโกรธแล้ว
ไม่เห็นความโกรธเป็นตน
แต่เห็นความโกรธเป็นสิ่งดับได้อย่างรวดเร็ว
• ถ้าอยากพูดด่าหรืออยากลงมือทำร้ายใคร
ตอนนั้นความโกรธ มีไว้ห้าม ไม่ใช่มีไว้ดู
แต่ถ้าแค่หงุดหงิดคิดไม่ดีกับใคร
ตอนนั้นความโกรธ มีไว้ดู ไม่ใช่มีไว้ห้าม
ฝึกอยู่อย่างนี้
ไม่ว่าจะโกรธหนักหรือโกรธเบา
จิตของคุณจะกลายเป็นนักดูความโกรธ
คุณสมบัติเด่นของนักดูความโกรธคือไม่ถูกความโกรธครอบงำ
แล้วก็ไม่พยายามครอบงำความโกรธด้วย
กระทั่งเหมือนแยกกันเป็นคนละฝ่าย
ฝ่ายหนึ่งโกรธให้ดู อีกฝ่ายหนึ่งรู้ความโกรธไป
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
• ความโกรธ ไม่ใช่สิ่งที่ห้ามได้ทันที
หรือว่าไปตัดมันทิ้งได้ทันที แต่เป็นสิ่งที่ ถูกรู้ได้ทันที
• การยอมรับตามจริงคือการไม่ออกแรงเพิ่ม
ภาวะที่มันเกิดขึ้นแล้วเรายอมรับตามจริงคือภาวะที่เรามีสติเข้าไปแทนที่ความโกรธ
• ฝึกยอมรับว่าเราโกรธ
เห็นความโกรธเหมือนโรค
ปล่อยได้ก็เป็นสุขได้
พอเป็นสุขได้เราจะอภัยให้อย่างเป็นธรรมชาติ
ไม่ใช่หลอกตัวเองครับ
• ระลึกไว้
ถ้าเกิดโทสะแล้วยอมรับตามจริง
ว่ามันแรงขึ้นได้ก็อ่อนลงได้
จิตไม่ย้อมติดกับโทสะได้
ก็แปลว่าไม่ถูกครอบงำจากปีศาจไหนๆได้
• วูบแห่งการเผลอตัว
ด่าคนแปลกหน้าบนท้องถนน
คือการเผลอใจไปเป็นปีศาจแปลกหน้าขึ้นมาชั่วขณะ
• โทสะแรงๆมีไว้กดข่ม
ก่อนด่าหรือลงมือลงไม้โทสะอ่อนๆมีไว้รู้ว่าไม่เที่ยง
ก่อนจะสำคัญว่ามันเป็นตัวเรา
• โกรธแล้วขาดสติ
แล่นตามความโกรธจะได้อกุศลจิตโกรธแล้วเกิดสติ
รู้ว่าความโกรธไม่เที่ยงจะได้มหากุศลจิต
• ผู้หวงความโกรธไว้
ได้ชื่อว่าหวงทุกข์ไว้
ผู้ยินยอมเปล่งคำพูด
และลงมือกระทำการเพื่อรับใช้ความโกรธ
ย่อมได้ชื่อว่ายังทำตัวเป็นบ่าวไพร่ของโทสะ
ยากจะเอาชนะ
เพื่อเลื่อนชั้นขึ้นเป็นนายของกิเลส
ไม่อาจลิ้มรสความเยือกเย็นอันเป็นอมตะตามพระผู้สิ้นโกรธได้
: ปัญหาคือแม้คนเราจะเล็งเห็นโทษของความโกรธ
แต่ก็ยังไม่เห็นประโยชน์ว่าจะเลิกโกรธไปทำไม
ในเมื่อโลกนี้ยังเต็มไปด้วยเรื่องน่าโกรธ
และน่าให้แสดงความโกรธอยู่ชั่วนาตาปี
: สรุปคือการรบกับความโกรธที่ดีที่สุด
"คือการไม่คาดหวังเอากับตัวเองว่าจะไม่โกรธ
และเมื่อโกรธแล้วก็ให้ยอมรับตามจริง
เมื่อยอมรับตามจริงก็ย่อมเห็นความจริงอันไม่ควรยึดมั่นถือมั่น"
: ทางที่ถูกต้องทำความเข้าใจไว้ให้ดีๆตั้งแต่แรกว่า
ความโกรธ ความขัดเคือง
หรือความเกลียดความกลัวทั้งปวงนั้น หาใช่ตัวเราไม่
: โทสะเป็นเพียงความกระเพื่อมไหวของจิต
มิใช่ตัวจิตเอง
เปรียบเหมือนคลื่นไม่ใช่น้ำ
เป็นแค่อาการกระเพื่อมไหวของน้ำเท่านั้น
: ขอเพียงทบทวนบ่อยๆ
ตั้งป้อมเป็นฝ่ายรู้ฝ่ายดู
ไม่ช่วยโหม ไม่ฝืนต้าน
เมื่อผ่านไปนานวันนานเดือนเข้า
ก็จะเห็นความก้าวหน้าอย่างเป็นไปเองทีละน้อย
นั่นคือคุณเรียนรู้ที่จะตั้งจิตไว้อีกแบบ ใช้ชีวิตอีกแบบ
เลิกยึดมั่นถือมั่นว่าคุณต้องดี คุณจะเอาดี
แต่เปลี่ยนเป็นรับสภาพตามจริงว่า
จิตไม่จำเป็นต้องดี จิตไม่ได้มีไว้เพื่อเอาดี
จิตเป็นเพียงธรรมชาติที่ถูกกระทบได้
เกิดความกระเพื่อมไหวได้ แล้วกลับสงบลงได้เอง
: ขอเพียงไม่เอา ‘ตัวคุณ’ เป็นที่ตั้งของการรบ
วันหนึ่งการรบจะสิ้นสุด
โดยไม่มีใครแพ้ ไม่มีใครชนะ
มีแต่สภาพทุกข์คลี่คลายไปสู่ความดับสนิท เย็นสนิท
เป็นบรมสุขเหนือภาวะเร่าร้อนใดๆ
: "โกรธอย่างรู้ ดีกว่าหายโกรธอย่างไม่รู้"
จาก
• คิดจากความว่าง 4
: "รบกับความโกรธ อย่ารบกับตัวเอง"
• เวรที่ยืดเยื้อ เริ่มต้นจากเวรที่อภัยได้แล้วไม่อภัย
• อย่าถามว่าอภัยแล้วจะได้อะไรมา
ให้ถามว่าถ้าอภัยแล้วเป็นอิสระ
จากคุกร้อนๆที่ใจโดนขังอยู่จะเอาไหม
• ให้อภัยคนเลวหมดใจ
แล้วจะรู้สึกว่าต้องไปเกี่ยวข้องกับคนเลวน้อยลง
• อย่าเอาแต่สวดแผ่เมตตา
ให้ทำใจเป็นเมตตาด้วยความเข้าใจกันด้วย
ความเข้าใจนั่นแหละ
ที่ทำให้คนเรา อภัยได้จริง
ความเข้าใจนั่นแหละ
ที่ช่วยให้เรายัง มองหน้ากันได้ติด
และความเข้าใจนั่นแหละ
ที่จะยุติเรื่องเลวร้าย
. . . . . . . . . . . . . . . .
• การอภัยเป็นอะไรมากกว่าการแกล้งลืมครับ
มันคือการยกเอาโทษออกจากใจเราเอง
พอใจพ้นโทษจริง ก็พบความสุขแท้นะ
• การให้อภัยคือการไม่หวงอารมณ์โกรธไว้
ผู้ที่ฝึกให้อภัยไว้ก่อน
จึงกลายเป็นนักเจริญสติที่เห็นความไม่เที่ยงของความโกรธโดยง่าย
• เริ่มฝึกเมตตาตอนโกรธ
เห็นความโกรธเหมือนเชื้อโรคทางวิญญาณ
เป็นทุกข์ ไม่ควรอมไว้ด้วยใจ
พอคายออกได้ก็เป็นสุข ให้แผ่ความสุขนั้นนานๆ
• การให้อภัยของเราไม่ใช่ยางลบ
ที่ไปลบเจตนาร้ายของเขา
เมื่อเจตนาไม่ถูกลบ
ผลของเจตนาก็ต้องเกิด
เพียงแต่ถ้าเขาสำนึกผิดมันก็เบาบางลงได้
• การอภัยไม่ต้องเสียอะไรเพิ่ม
การจองเวรสิต้องเสียยิ่งกว่าเดิมไม่รู้เท่าไหร่
ทั้งเวลา ทั้งกำลังกายกำลังใจ
บุญบาปทำหน้าที่อยู่แล้ว
เราปล่อยเขาไปตามทางที่เขาสร้างเอง
เดินเอง และเสวยผลเองน่ะดีที่สุด
ถ้าผูกใจเจ็บก็เท่ากับ
พลอยกระโจนไปร่วมรับบาปอย่างใดอย่างหนึ่ง
บนเส้นทางของเขาด้วย
• การผูกกรรมมีความพิสดารลึกซึ้ง
เราคาดไม่ถึงหรอก
เรานึกว่าแค่ผูกใจเจ็บก็เป็นเรื่องส่วนตัวในใจ
แต่ความจริงมันเกิด กระแสเวรผูกพันระหว่างวิญญาณขึ้นมา
แม้เราไม่เคยเห็นหน้าค่าตาเขาก็ตาม
เขาเป็นฝ่ายกระทำต่อเราวันนี้
อนาคตจะต้องมีเรื่องมีราวให้เรามีอำนาจเหนือกว่า
และกรรมเก่าจะยั่วยุให้เราคิดเอาคืนบ้าง
ซึ่งก็แปลว่าเราจะมีโอกาสทำบาป
และรับผลจากบาปนั้นคืนในกาลต่อไป
. . . . . . . . . . . . . .
• การอภัยในเรื่องน่าเจ็บปวดที่สุด ทำได้ยากที่สุด
จึงแทบจะเป็นการทำแต้มสูงสุดในเกมกรรม
และกล่าวได้ว่าเป็นการใช้หนี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ถ้าทำไม่ได้ก็น่าเห็นใจ
แต่หากทำได้ ก็ไม่มีบุญกุศลชนิดไหนๆอีกแล้วที่คุณจะทำไม่ได้
• ก่อนอื่นต้องมองว่าตอนใครทำให้คุณเจ็บช้ำน้ำใจมากๆนั้น
คือรูปแบบหนึ่งของการโดนทวงหนี้
เมื่อมองอย่างนี้คุณจะเต็มใจให้อภัย
และทราบชัดจากความเบาหัวอก
ว่าหนี้เก่าถูกชำระแล้ว
อาจต้องผ่อนส่งหลายครั้ง
หรืออาจเหมารวบเบ็ดเสร็จในครั้งเดียว
• สรุปคือเมื่อถูกทำให้แค้น
แล้วไม่คิดแก้แค้น
เรียกว่าเป็นการใช้หนี้
ขอให้จำไว้ว่า
คุณอาจโกรธโดยไม่ตั้งใจ
แต่ไม่มีทางอภัยโดยบังเอิญ
อย่างน้อยต้องมีสิ่งสะกิดใจ
หรือมีใจเปี่ยมเมตตาเป็นทุนอยู่ก่อน
. . . . . . . . . . . . . . . . .
• คนโกรธยาก
คือพวกที่ไม่ทำให้โลกนี้แย่ลงกว่าที่เป็นอยู่
และเป็นพวกเดียวที่จะทำให้โลกนี้เย็นลงได้
• ถ้าสามารถช่วยคนที่ชอบได้จะเป็นสุข
ถ้าเต็มใจช่วยคนที่ไม่ชอบได้จะสุขกว่า
ถ้าพร้อมช่วยกระทั่งคนที่เกลียดได้จะสุขที่สุด
https://th-th.facebook.com/notes/%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%A4%E0%B8%93-dungtrin/%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B0-%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%A4%E0%B8%93-11-%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%98-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2/345530538847682