ชื่อแกงดูจะไม่ค่อยสุภาพซักเท่าไหร่ แต่ถ้ามาเทียบกับรสชาติและหน้าตาแล้วท่านจะติดใจ
แกงกะหรี่ที่จะนำเสนอนี้ อาจไม่เหมือนแกงกะหรี่ทั่ว ๆ ไป ลอง ๆ ดูก็แล้วกันว่ามันต่างกัน
อย่างไร แต่ถ้าในท้องถิ่น แกงแบบนี้จะเรียกแกงกะหรี่ ซึ่งจริง ๆ แล้วจะนิยมใช้เนื้อวัว หรือ
เนื้อแพะ มาแกง
วันนี้ถือว่าเป็นการเอาใจคนที่ไม่กินเนื้อ โดยลองใช้ส่วนซี่โครงอ่อนของหมูมาแกงแทน
หลังจากทำแล้ว ชิมแล้ว กินแล้ว บอกตัวเองว่า น่าจะทำตั้งนานแล้ว อร่อย นุ่ม มาก ๆ
ที่บอกว่าเป็นเมนูแก้หนาว นั่นก็เพราะงานนี้อัดเครื่องเทศเรียกว่ากะให้ร้อนแรงเต็มที่
นอกจากที่เห็นยังมีเครื่องเทศท้องถิ่นที่เรียก มะส่าหล่าอีก 2 ซอง (ไม่ได้ถ่ายรูป)
น้ำพริกแกง ประกอบด้วย กระเทียม ขิงแก่ พริกแห้งเม็ดใหญ่ กะปิแค่หัวแม่มือ
(บางคนอาจไม่ใส่เลยก็ได้) และหอมแดง ซึ่งต้องจัดหนัก ๆ หน่อย
เมนูทดลอง ใช้ซี่โครงอ่อนหมู 1 ก.ก. เพราะไม่มั่นใจว่าจะเข้าท่าหรือเปล่า ปกติใช้แต่
เนื้อวัว หรือเนื้อแพะ
น้ำพริก เครื่องเทศ ขมิ้นผง มะส่าล่า น้ำมันพืช ใส่ลงไปในหม้อหมูที่เตรียมไว้
คลุกทั้งหมดให้เข้ากัน ยกขึ้นตั้งไฟอ่อนบนเตา
ผัดด้วยความใจเย็น จนน้ำแห้งงวดกลิ่นหอมหวนจวนจมูก แล้วเติมน้ำขลุกขลิกผัดต่อ
ให้เข้าเนื้อ
ถ่ายลงหม้อแกง เติมน้ำเคี่ยวต่อด้วยไฟอ่อน จนหมูเปื่อยนุ่ม น้ำงวดขลุกขลิก
ทีเด็ดหลังจากหมูเปื่อยนุ่มก่อนปิดไฟ ประมาณ 5 นาที คือนี่ครับ
ขิงแก่ทุบ กับมะส่าหล่า ใส่ลงไป
ในที่สุดก็เป็นอย่างนี้ ทั้งกลิ่นและรสชาติ รวมถึงความเปื่อยนุ่มน่าแทะของซี่โครงอ่อน
มันร้อนแรงจริง ๆ
ยิ่งมาเจออาจาด หวาน เปรี้ยว แก้เลี่ยนเข้ากันอย่างดี อย่างนี้ไม่ว่าข้าวนึ่งหรือข้าวเจ้า
หรือขนมปังแถว โรตีจืด ได้ทั้งนั้นไม่เกี่ยงละครับ
หนาว ๆ อย่างนี้ ลองทำกันดูนะครับ ผงมะส่าหล่าใช้ผมกะหรี่แทนได้ครับ
สวัสดีครับ
เมนูแก้หนาว ด้วยความร้อนแรงของเครื่องเทศ "แกงกะหรี่หมู"
แกงกะหรี่ที่จะนำเสนอนี้ อาจไม่เหมือนแกงกะหรี่ทั่ว ๆ ไป ลอง ๆ ดูก็แล้วกันว่ามันต่างกัน
อย่างไร แต่ถ้าในท้องถิ่น แกงแบบนี้จะเรียกแกงกะหรี่ ซึ่งจริง ๆ แล้วจะนิยมใช้เนื้อวัว หรือ
เนื้อแพะ มาแกง
วันนี้ถือว่าเป็นการเอาใจคนที่ไม่กินเนื้อ โดยลองใช้ส่วนซี่โครงอ่อนของหมูมาแกงแทน
หลังจากทำแล้ว ชิมแล้ว กินแล้ว บอกตัวเองว่า น่าจะทำตั้งนานแล้ว อร่อย นุ่ม มาก ๆ
ที่บอกว่าเป็นเมนูแก้หนาว นั่นก็เพราะงานนี้อัดเครื่องเทศเรียกว่ากะให้ร้อนแรงเต็มที่
นอกจากที่เห็นยังมีเครื่องเทศท้องถิ่นที่เรียก มะส่าหล่าอีก 2 ซอง (ไม่ได้ถ่ายรูป)
น้ำพริกแกง ประกอบด้วย กระเทียม ขิงแก่ พริกแห้งเม็ดใหญ่ กะปิแค่หัวแม่มือ
(บางคนอาจไม่ใส่เลยก็ได้) และหอมแดง ซึ่งต้องจัดหนัก ๆ หน่อย
เมนูทดลอง ใช้ซี่โครงอ่อนหมู 1 ก.ก. เพราะไม่มั่นใจว่าจะเข้าท่าหรือเปล่า ปกติใช้แต่
เนื้อวัว หรือเนื้อแพะ
น้ำพริก เครื่องเทศ ขมิ้นผง มะส่าล่า น้ำมันพืช ใส่ลงไปในหม้อหมูที่เตรียมไว้
คลุกทั้งหมดให้เข้ากัน ยกขึ้นตั้งไฟอ่อนบนเตา
ผัดด้วยความใจเย็น จนน้ำแห้งงวดกลิ่นหอมหวนจวนจมูก แล้วเติมน้ำขลุกขลิกผัดต่อ
ให้เข้าเนื้อ
ถ่ายลงหม้อแกง เติมน้ำเคี่ยวต่อด้วยไฟอ่อน จนหมูเปื่อยนุ่ม น้ำงวดขลุกขลิก
ทีเด็ดหลังจากหมูเปื่อยนุ่มก่อนปิดไฟ ประมาณ 5 นาที คือนี่ครับ
ขิงแก่ทุบ กับมะส่าหล่า ใส่ลงไป
ในที่สุดก็เป็นอย่างนี้ ทั้งกลิ่นและรสชาติ รวมถึงความเปื่อยนุ่มน่าแทะของซี่โครงอ่อน
มันร้อนแรงจริง ๆ
ยิ่งมาเจออาจาด หวาน เปรี้ยว แก้เลี่ยนเข้ากันอย่างดี อย่างนี้ไม่ว่าข้าวนึ่งหรือข้าวเจ้า
หรือขนมปังแถว โรตีจืด ได้ทั้งนั้นไม่เกี่ยงละครับ
หนาว ๆ อย่างนี้ ลองทำกันดูนะครับ ผงมะส่าหล่าใช้ผมกะหรี่แทนได้ครับ
สวัสดีครับ