วิเคราะห์อารมณ์กราฟจากคนเล่นเทคนิคไม่เป็น

หลายคนอาจขำว่าใครจะไปรู้ล่วงหน้าได้ว่ากราฟจะออกมาเป็นอย่างไร
ถ้าเป็นนักเทคนิคก็คงใช้วิธีรอให้กราฟมันทำแล้วเราค่อยตาม แต่นี่ลากเส้นเอาเองดื้อๆ

กราฟ
เวลา: สัปดาห์นี้ -> สัปดาห์หน้า -> ถัดไป -> ถัดจากนั้น -> สุดท้าย
กราฟ: ตอนนี้ -> ย่อนิดๆ หรือไม่ย่อแต่ออกข้าง -> พุ่งขึ้นต่อ -> ลง -> ลงแรงขึ้น
อารมณ์: ลังเล -> ลังเล ไม่มั่นใจ -> มั่นใจมากขึ้น -> ยังมั่นใจอยู่ -> เริ่มรู้ตัว

แต่ผมกลับมองว่ากราฟนี้มีพลังงานอะไรที่ซ่อนอยู่
กราฟส่วนที่วาดต่อเติมเข้ามาอาจทำนายตลาดได้ถ้านำมาเปรียบเทียบกับอารมณ์ตลาดในช่วงนี้
สัปดาห์หน้าคาดว่าจะยังมีความกล้ำกึ่งของความมั่นใจและไม่มั่นใจผสมปนเปกันไป
แต่เชื่อฝ่ายที่คิดว่าขึ้นได้ต่อจะมีมากกว่า โดยอาจมีย่อนิดๆ แล้วค่อยไต่ระดับขึ้นไปใหม่
สัปดาห์หน้าคนที่มองลงจะโดนกระแนะกระแหนว่ามองพลาด และฝ่ายมองขึ้นจะมีความลำพองว่าตัวเองมองถูก
จนเริ่มมีความมั่นใจค่อนข้างมากในช่วง 2-3 สัปดาห์ถัดจากนี้ ทำให้ดัชนีไต่ระดับขึ้นแรง
พอถึงจุดนึงจะมีเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดคิดเกิดขึ้นอีกและจะถูกนำมาใช้เป็นข้ออ้างในการลง(ซึ่งความจริงอาจไม่เกี่ยวกันเลยก็ตาม)
ลงรอบนี้ส่วนใหญ่ที่มองขึ้นมาก่อนหน้ายังมั่นใจว่ารอบที่แล้วก็ย่อนิดเดียวแล้วขึ้นมาได้ถึงตรงนี้
เลยไม่มีใครระวังตัว สุดท้ายมันจะลงหนักและแรงตามกราฟช่วงสุดท้ายที่เห็นในรูป
แต่จะลงไปทำโลว์ใหม่และลึกกว่าเดิม หรือแค่เกือบถึงโลว์เดิมแล้วเด้งเป็นไซด์เวย์ออกข้างไปเรื่อยๆ ยังไม่รู้

ตลาดหุ้นและกราฟมันมักจะไม่แสดงผลแบบตรงตัว เช่นขึ้นแล้วต้องย่อทันที หรือจบเวฟนี้ต้องต่อเวฟนั้นทันที
ผมมองว่านอกจากใช้วิชาเทคนิคแล้วยังต้องนำสภาพอารมณ์ตลาดมาวิเคราะห์ถึงแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ด้วย

กราฟข้างบนทีแรกผมมองว่าไม่มีอะไร คงลากเส้นไปตามใจชอบ
แต่พอลองนำอารมณ์ตลาดในช่วงนี้และก่อนหน้านี้มารวมเข้าไป ผมว่าเราอาจได้เห็นภาพคล้ายๆ แบบนี้ก็ได้นะครับ
และไทม์เฟรมที่เห็นในกราฟจะไม่ได้เกิดและเสร็จสิ้นภายในไม่กี่วัน แต่อาจะใช้เวลาหลายอาทิตย์เลยทีเดียว

ยอดที่สูงสุดในกราฟที่วาดเติมเข้ามา น่าจะเป็นช่วงที่คนส่วนใหญ่มั่นใจเกือบสุดขีดแล้วว่าเทรนด์เปลี่ยนขาขึ้นแล้ว
และพร้อมซื้อ พร้อมไล่ราคากันเต็มที่  หลังจากนั้นพอราฟลงก็ยังมั่นใจว่าแค่ย่อ ก็ทยอยรับกันต่อเนื่อง สุดท้ายกว่าจะรู้ตัวมันก็ลงมาลึกแล้ว

นี่เป็นแค่ Experimental Analysis ของผม ซึ่งอยากทดลองวิเคราะห์หรือมองตลาดและแนวโน้มในอนาคตแบบอื่นดูบ้าง
โดยไม่ยึดติดแค่แนวทางของเทคนิคอลหรือพื้นฐานเพียงอย่างเดียว ซึ่งอาจถูกหรือไม่ถูกต้องก็ได้ ซึ่งผมมีสิทธิ์ที่จะคิด
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่