จากมติชนออนไลน์

สำนักข่าวเอพีและเอเอฟพีรายงานว่า กรุงปักกิ่งของจีนถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันหนาเมื่อวันที่ 16 มกราคม ส่งผลให้ทัศนวิสัยลดลงเหลือเพียงมองเห็นได้ในระยะไม่กี่ร้อยเมตร และวัดปริมาณอนุภาคขนาดเล็กได้มากกว่าระดับที่ปลอดภัยถึง 26 เท่า

หมอกสีเทาปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า ส่งกลิ่นเหม็นไหม้ในแบบควันของโรงงานอุตสาหกรรมกระจายคลุ้งไปทั่ว ขณะที่ข้อมูลของทางการระบุว่า ฝุ่นละอองละเอียดในบรรยากาศทีมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 2.5 ไมครอน (พีเอ็ม 2.5) พุ่งทะลุ 500 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรในหลายๆ พื้นที่ของกรุงปักกิ่ง

ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (ฮู) แนะนำว่า ระดับของพีเอ็ม 2.5 ที่ร่างกายสามารถรับได้แบบที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต้องไม่เกิน 25 ไมโครกรัมในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง โดยดัชนีคุณภาพอากาศของทางการอยู่ที่ระดับราว 350 - 500 ขณะที่ตัวเลขของสถานทูตสหรัฐในกรุงปักกิ่งที่ติดตามวัดค่าคุณภาพอากาศอยู่ด้วยเช่นกันระบุว่า ดัชนีพุ่งสูงที่สุดถึง 671 เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งสูงกว่าระดับที่ฮูถือว่าปลอดภัยถึง 26 เท่า และเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว

สภาพอากาศที่เต็มไปด้วยมลพิษระดับรุนแรงซึ่งปกคลุมเมืองต่างๆ ของจีน เป็นผลมาจากการสังเวยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมาอย่างยาวนาน

การเผาไหม้ถ่านหินและการปล่อยไอเสียของรถยนต์เป็นแหล่งมลพิษหลัก ซึ่งยังเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรของคนนับแสนด้วยและเป็นปัญหาที่รัฐบาลจีนให้ความสำคัญอย่างมากในการแก้ไขในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา