เป็นการเขียนรีวิวครั้งแรกค่ะ เพราะมีเพื่อน ๆ หลายคนบอกถ้าชอบเที่ยว มีทริปดี ๆ ควรนำมาแชร์กันบ้าง
เลยเป็นครั้งแรกที่เข้ามาสมัครในพันทิพย์ค่ะ โดยขอเริ่มจากทริปประทับใจที่เพิ่งผ่านมานะคะ
ก่อนอื่นดิฉันเป็นคนทำงาน Event ค่ะ โดยติดนิสัยชอบเตรียม ชอบแพลน และวางกำหนดการซะเลย ซึ่งนำมาประยุกต์ใช้ในทริปการเดินทางตนเองเสมอ และก็จะนำโปรแกรมที่วางแล้วไปขายให้กับเหล่าเพื่อน ๆ เพื่อหาลูกทัวร์ร่วมเดินทาง ซึ่งทำให้ดิฉันได้เพื่อร่วมเดินทางอย่างรวดเร็ว
สังขละบุรี เมืองสวรรค์ตะวันตก (2 วัน 1 คืน)
กรุงเทพ ฯ - ตัวเมืองกาญจน์ - ตลาดทองผาภูมิ - สังขละบุรี - ด่านเจดีย์สามองค์ - ไทรโยคน้อย - กรุงเทพ ฯ
Concept :
เที่ยวครบ ที่ไหนว่าดี ว่าสวย เราจะไป โดยทริปนี้เราเดินทางด้วยรถตู้ รถบัสโต้ลม รถมอเตอร์ไซค์ รถสองแถว เรือหางยาว และรถไฟ
งบน้อย เราซื้อความสุขทั้งหมดด้วยเงิน 1,500 บาท กินอิ่ม บันเทิงพร้อม
ร้อยความประทับใจ คือความสุขที่เป็น Infinity .. ต้องลองสักครั้งค่ะ
รายละเอียดการเดินทาง :
จำนวนผู้เดินทาง จำนวน 6 คน
การเดินทาง : นั่งโดยสารรถสาธารณะไปเรื่อย ๆ
วันที่เดินทาง : 21-22 ธันวาคม 2556 ( 2 วัน 1 คืน )
กำหนดการเดินทาง :
วันแรก
06.00 น. ชาวคณะมาพร้อมกัน ณ สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ตลิ่งชัน นั่งโดยสารรถตู้สาย 81 จากกรุงเทพ ฯ มาลงที่ บขส. กาญจนบุรี
จริง ๆ ที่ขึ้นรถตู้เพื่อเดินทางมาเมืองกาญจน์มีหลายที่ค่ะ ทั้งอนุสาวรีย์ชัย ฯ สายใต้ หมอชิต (ซึ่งมีรถถึงด่านเจดีย์) ซึ่งบ้าน
ของพวกเราเอนเอียงมาทางฝั่งธน เลยขึ้นรถที่นี่ค่ะ ค่าโดยสารรถตู้ คนละ 120 บาท
08.00 น. เราเดินทางถึงตัว บขส. กาญจนบุรี เริ่มแรกก็เดินหารถเพื่อต่อไปสังขละบุรี ซึ่งทริปนี้เราตั้งใจแล้วว่าจะนั่งโต้ลมไปเรื่อย เพราะ
อากาศกำลังเย็นเลยค่ะ ซึ่งรถต่อขึ้นสังขละบุรีมีทั้งรถตู้ รถบัสแอร์ ไม่แอร์ เราเลือกนั่งรถบัสไม่แอร์ค่ะ ราคาคนละ 130 บาท
โดยรถออก 09.30 น. ระหว่างนั้นก็หาข้าวกินแถวนั้นไปค่ะ
09.30 น. รถบัสติ๊ดชิ่งของเราเริ่มล้อหมุนออกเดินทาง นั่งโต้ลมเย็นไป หลับบ้าง พอวิวสวย ๆ ก็คว้ากล้องบ้าง เม้าส์มอยไปเรื่อย
รถวิ่งเส้นทางไทรโยค วิ่งผ่านหน้าน้ำตกไทรโยคน้อย น้ำตกไทรโยคใหญ่ เส้นทางดี ไม่มีโค้งค่ะแต่มีลัดเลาะขุนเขาบ้าง
11.30 น. รถแวะพักรถที่ตลาดทองผาภูมิ ลุงคนขับบอกเดี๊ยวรอคนไปกินข้าวกันก่อนได้เลยหนู ๆ (ความรู้สึกเหมือนมาทัวร์ มีแวะกินข้าวด้วย
อะ) เราก็เดินเที่ยวในตลาดทองผาภูมิก่อน แชะรูป กินข้าว
14.30 น. เราเดินทางถึงสถานีขนส่งสังขละบุรี ลงจากรถแล้วบิดขี้เกียจซ้าย-ขวา มองหาที่พัก ซึ่งเราใช้บริการที่ "ไฮส์กุ เกสเฮ้าส์"
ที่พักของเราอยู่ห่างจากขนส่ง ประมาณ 2 กิโล เลยหอบสัมภาระซิ่งวินมอเตอร์ไซค์ไปคนละคัน ๆ ละ 20 บาท
14.40 น. เราเดินทางมาถึง "ไฮส์กุ เกสเฮ้าส์" ที่พักน่ารัก สไตล์บ้านญี่ปุ่น เงียบสงบ 4 หลัง ราคาหลังละ 650 บาท และด้านหน้ามี
ร้านกาแฟน่ารักชื่อ Graph Cafe บรรยากาศเงียบสงบ น่ารักมาก
15.30 น. เราเดินข้ามไปที่ P. guesthouse ฝั่งตรงข้ามไฮกุ เพื่อเช่ารถมอเตอร์ไซค์ที่นั่นออกตระเวนท่องเที่ยวยามเย็น ราคาเช่ารถ
คันละ 200 บาท มัดจำอีก 100 บาท เราเช่า 3 คัน เช่าตอนไหนนับไปอีก 24 ชั่วโมง คือ 1 วัน พากันแว๊นซ์เป็นสก๊อยไปที่แรก
คือ ด่านเจดีย์สามองค์ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวอำเภอสังขละบุรี 19 กิโล ตลอดระยะทางมีเส้นทางธรรมชาติสวยงามมากมาย
16.00 น. เราเดินทางถึง ด่านเจดีย์สามองค์ เดินเที่ยวตลาดชายแดนฝั่งไทยแป๊บหนึ่ง ก็เช่ารถสองแถวคนละ 60 บาท เพื่อข้าม
แดนไปเที่ยวฝั่งพม่า โดยเราไปที่ วัดเสาร้อยต้น เจดีย์ชเวดากองจำลอง ตลาดค้าพลอยและตลาดสดชายแดนพม่า ซึ่งก็ได้
เห็นวิถีชีวิตที่ต่างออกไปอีกแบบ
17.30 น. เราเริ่มขี่มอไซค์กลับมาเรื่อย ๆ เริ่มแวะชมวิวจุดต่าง ๆ ตอนที่ผ่านขาไป ซึ่งไม่แวะเยอะมากเพราะเริ่มเย็นแล้วหนาวด้วย
กว่าจะถึงตัวอำเภอสังขละบุรีจะมืดซะก่อน โดยเมื่อเราถึงตัวอำเภอสังขละบุรี เรารีบขี่มอเตอร์ไซค์มุ่งไปยังสะพานคอนกรีต
สำหรับรถวิ่งผ่าน บริเวณซองกาเลียรีสอร์ท เพื่อชมวิวสะพานมอญมุมกว้างยามเย็น ซึ่งแสงอาทิตย์สีส้มหลังพระอาทิตย์ตกดิน
ยังคงสาดส่องให้สะพานมอญสวยงามยิ่งนัก และเราก็พากันกลับที่พักนอนพักผ่อน อาบน้ำให้สดชื่น
19.00 น. เราออกมาเดินถนนคนเดิน สังขละบุรี ของกินร้อน ๆ ท่ามกลางอากาศหนาว ๆ เยอะมาก เพลิดเพลินสุด ๆ เลย
21.00 น. ก่อนกลับเข้าที่พักเราได้ซื้อโคมแถวถนนคนเดินมาปล่อย บริเวณสะพานทางเดินที่จะเดินไปสะพานมอญ ตอนแรกกะจะไปปล่อย
ที่สะพานมอญ แต่มืดมากเลยไม่เดินต่อ ปล่อยโคมตรงนี้แหละ และก็ขี่มอเตอร์ไซค์กลับที่พักเพื่อ Mini Party ของพวกเรา
วันที่สอง
05.30 น. นักซิ่งมอเตอร์ไซค์ตื่นมาอีกแล้ว อาบน้ำ ?? เพื่อขี่มอเตอร์ไซค์ข้ามสะพานคอนกรีตไปหมู่บ้านมอญเพื่อตักบาตรยามเช้า
ระหว่างขี่ไปน้ำหยดจากผมติ๊ก ๆ หนาวมากจริงค่ะ
06.00 น. เราเดินทางถึงหมู่บ้านมอญ ตรงสะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญนั่นเอง ซึ่งมาซื้อชุดตักบาตรชุดละ 100 บาท และ
ก็รับโสร่งแบบมอญมาสวม ดูเป็นราชนิกูลมากค่ะ และก็ตักบาตรบรรยากาศครึกครื้นมากเลยทีเดียว
07.00 น. เมื่อตักบาตรและชื่นชมบริเวณสะพานมอญแล้ว เราก็เช่าเรือแถวสะพานมอญลำละ 300 บาท เพื่อนั่งล่องแม่น้ำซองกาเลีย
ไปยังโบสถ์กลางน้ำ พี่เจ้าของเรือให้ดอกเบญจมาศสีขาวเรามากำหนึ่ง เพื่อบูชาหน้าโบสถ์ หลังจากนั้นก็กลับมากินโจ๊กเลื่องชื่อ
ของฝั่งมอญ
09.30 น. เราเริ่มขี่มอเตอร์ไซค์ไปยังหมู่บ้านมอญ ขี่เข้าไปชมวิถีชีวิตของชาวมอญ ต่อมาก็ไปยังเจดีย์พุทธคยา และต่อไปยังวัดวังก์วิเวการาม
หรือที่รู้จักกันในนาม วัดหลวงพ่ออุตตมะ
11.00 น. เราขี่มอเตอร์ไซค์ไป บขส. เพื่อสอบถามรถเดินทางกลับ (ระวังหน่อยค่ะ รถมีไม่มาก บางวันก็ยกเลิกเที่ยวไป) เราโดยสารรถตู้เที่ยว
12.15 น. เดินทางลงมาจากสังขละบุรีค่ะ โดยเป้าหมายของเรายังมีไฮไลท์ คือการนั่งรถไฟกลับตัวเมือง ซึ่งต้นสถานีคือ
สถานีน้ำตกไทรโยคน้อย (แรงยังเหลือค่ะ) เพราะเค้าบอกเส้นทางรถไฟเป็นเส้นทางธรรมชาติที่สวยงามมากค่ะ
12.15 น. เราเดินทางออกจากตัวอำเภอสังขละบุรี โดยรถตู้ ราคาคนละ 175 บาท จะลงไหนเค้าก็คิดเท่าลงตัวเมืองเลย
15.00 น. เราเดินทางถึงหน้าน้ำตกไทรโยคน้อย ซึ่งตัวสถานีรถไฟจะอยู่ห่างจากน้ำตกประมาณ 2 กิโล มีรถสองแถวไปค่ะ คนละ 10 บาท
โดยรถไฟเป็นรถไฟฟรีค่ะ ออกตั๋วฟรี และขึ้นได้เลย ที่สถานีมีร้านอาหารและร้านกาแฟเยอะแยะค่ะ
15.30 น. รถไฟออกเดินทางตามเส้นทางธรรมชาติ โต้ลม ถ่ายรูปมาเรื่อยค่ะ ต้องบอกว่าถ้ามีเวลาอยากให้ลอง แต่ต้องมาให้ทันรถไฟเที่ยวสุด
ท้าย คือ เวลา 15.30 น. ซึ่งรถไฟขบวนที่นั่งมาดันจอดเปลี่ยนหัว เกือบชั่วโมงแถวสถานีวังเย็น กิน นั่ง ถ่ายรูปรอไปยาววว
19.00 น. มาถึงตัวเมืองกาญจนบุรี (ถ้ารถไฟไม่เสีย จะถึงเร็วกว่านี้ 1 ชั่วโมง) และต่อรถตู้ กลับเข้ากรุงเทพ ฯ
ค่าใช้จ่าย :
ค่ารถตู้ ไป - กลับ (กรุงเทพ ฯ - ตัวเมืองกาญจนบุรี) : คนละ 240 บาท
ค่ารถสังขละโต้ลม (ขาไป) : คนละ 130 บาท
ค่ารถตู้ (ขากลับจากสังขละ - น้ำตก) : คนละ 175 บาท
ค่ารถไฟ : ฟรีเพื่อประชาชน
ค่าที่พัก 1 คืน : เฉลี่ยคนละ 325 บาท
ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ : เฉลี่ยคนละ 100 บาท
ที่เหลือคนละ : 530 บาท เป็นกองกลาง ค่ากระจุ๊กกระจิ๊ก (เช่ารถข้ามแดน/น้ำมันมอเตอร์ไซค์/กิน/ชุดตักบาตร)
จบทริปด้วยความเหนื่อย แต่ประทับใจเว่อร์ค่ะ
[CR] สังขละบุรี เมืองสวรรค์ตะวันตก : เที่ยวครบ งบน้อย ร้อยความประทับใจ ( เดินทางโดยรถประจำทาง 2 วัน 1 คืน ด้วยงบ 1,500 บาท)
เป็นการเขียนรีวิวครั้งแรกค่ะ เพราะมีเพื่อน ๆ หลายคนบอกถ้าชอบเที่ยว มีทริปดี ๆ ควรนำมาแชร์กันบ้าง
เลยเป็นครั้งแรกที่เข้ามาสมัครในพันทิพย์ค่ะ โดยขอเริ่มจากทริปประทับใจที่เพิ่งผ่านมานะคะ
ก่อนอื่นดิฉันเป็นคนทำงาน Event ค่ะ โดยติดนิสัยชอบเตรียม ชอบแพลน และวางกำหนดการซะเลย ซึ่งนำมาประยุกต์ใช้ในทริปการเดินทางตนเองเสมอ และก็จะนำโปรแกรมที่วางแล้วไปขายให้กับเหล่าเพื่อน ๆ เพื่อหาลูกทัวร์ร่วมเดินทาง ซึ่งทำให้ดิฉันได้เพื่อร่วมเดินทางอย่างรวดเร็ว
สังขละบุรี เมืองสวรรค์ตะวันตก (2 วัน 1 คืน)
กรุงเทพ ฯ - ตัวเมืองกาญจน์ - ตลาดทองผาภูมิ - สังขละบุรี - ด่านเจดีย์สามองค์ - ไทรโยคน้อย - กรุงเทพ ฯ
Concept :
เที่ยวครบ ที่ไหนว่าดี ว่าสวย เราจะไป โดยทริปนี้เราเดินทางด้วยรถตู้ รถบัสโต้ลม รถมอเตอร์ไซค์ รถสองแถว เรือหางยาว และรถไฟ
งบน้อย เราซื้อความสุขทั้งหมดด้วยเงิน 1,500 บาท กินอิ่ม บันเทิงพร้อม
ร้อยความประทับใจ คือความสุขที่เป็น Infinity .. ต้องลองสักครั้งค่ะ
รายละเอียดการเดินทาง :
จำนวนผู้เดินทาง จำนวน 6 คน
การเดินทาง : นั่งโดยสารรถสาธารณะไปเรื่อย ๆ
วันที่เดินทาง : 21-22 ธันวาคม 2556 ( 2 วัน 1 คืน )
กำหนดการเดินทาง :
วันแรก
06.00 น. ชาวคณะมาพร้อมกัน ณ สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ตลิ่งชัน นั่งโดยสารรถตู้สาย 81 จากกรุงเทพ ฯ มาลงที่ บขส. กาญจนบุรี
จริง ๆ ที่ขึ้นรถตู้เพื่อเดินทางมาเมืองกาญจน์มีหลายที่ค่ะ ทั้งอนุสาวรีย์ชัย ฯ สายใต้ หมอชิต (ซึ่งมีรถถึงด่านเจดีย์) ซึ่งบ้าน
ของพวกเราเอนเอียงมาทางฝั่งธน เลยขึ้นรถที่นี่ค่ะ ค่าโดยสารรถตู้ คนละ 120 บาท
08.00 น. เราเดินทางถึงตัว บขส. กาญจนบุรี เริ่มแรกก็เดินหารถเพื่อต่อไปสังขละบุรี ซึ่งทริปนี้เราตั้งใจแล้วว่าจะนั่งโต้ลมไปเรื่อย เพราะ
อากาศกำลังเย็นเลยค่ะ ซึ่งรถต่อขึ้นสังขละบุรีมีทั้งรถตู้ รถบัสแอร์ ไม่แอร์ เราเลือกนั่งรถบัสไม่แอร์ค่ะ ราคาคนละ 130 บาท
โดยรถออก 09.30 น. ระหว่างนั้นก็หาข้าวกินแถวนั้นไปค่ะ
09.30 น. รถบัสติ๊ดชิ่งของเราเริ่มล้อหมุนออกเดินทาง นั่งโต้ลมเย็นไป หลับบ้าง พอวิวสวย ๆ ก็คว้ากล้องบ้าง เม้าส์มอยไปเรื่อย
รถวิ่งเส้นทางไทรโยค วิ่งผ่านหน้าน้ำตกไทรโยคน้อย น้ำตกไทรโยคใหญ่ เส้นทางดี ไม่มีโค้งค่ะแต่มีลัดเลาะขุนเขาบ้าง
11.30 น. รถแวะพักรถที่ตลาดทองผาภูมิ ลุงคนขับบอกเดี๊ยวรอคนไปกินข้าวกันก่อนได้เลยหนู ๆ (ความรู้สึกเหมือนมาทัวร์ มีแวะกินข้าวด้วย
อะ) เราก็เดินเที่ยวในตลาดทองผาภูมิก่อน แชะรูป กินข้าว
14.30 น. เราเดินทางถึงสถานีขนส่งสังขละบุรี ลงจากรถแล้วบิดขี้เกียจซ้าย-ขวา มองหาที่พัก ซึ่งเราใช้บริการที่ "ไฮส์กุ เกสเฮ้าส์"
ที่พักของเราอยู่ห่างจากขนส่ง ประมาณ 2 กิโล เลยหอบสัมภาระซิ่งวินมอเตอร์ไซค์ไปคนละคัน ๆ ละ 20 บาท
14.40 น. เราเดินทางมาถึง "ไฮส์กุ เกสเฮ้าส์" ที่พักน่ารัก สไตล์บ้านญี่ปุ่น เงียบสงบ 4 หลัง ราคาหลังละ 650 บาท และด้านหน้ามี
ร้านกาแฟน่ารักชื่อ Graph Cafe บรรยากาศเงียบสงบ น่ารักมาก
15.30 น. เราเดินข้ามไปที่ P. guesthouse ฝั่งตรงข้ามไฮกุ เพื่อเช่ารถมอเตอร์ไซค์ที่นั่นออกตระเวนท่องเที่ยวยามเย็น ราคาเช่ารถ
คันละ 200 บาท มัดจำอีก 100 บาท เราเช่า 3 คัน เช่าตอนไหนนับไปอีก 24 ชั่วโมง คือ 1 วัน พากันแว๊นซ์เป็นสก๊อยไปที่แรก
คือ ด่านเจดีย์สามองค์ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวอำเภอสังขละบุรี 19 กิโล ตลอดระยะทางมีเส้นทางธรรมชาติสวยงามมากมาย
16.00 น. เราเดินทางถึง ด่านเจดีย์สามองค์ เดินเที่ยวตลาดชายแดนฝั่งไทยแป๊บหนึ่ง ก็เช่ารถสองแถวคนละ 60 บาท เพื่อข้าม
แดนไปเที่ยวฝั่งพม่า โดยเราไปที่ วัดเสาร้อยต้น เจดีย์ชเวดากองจำลอง ตลาดค้าพลอยและตลาดสดชายแดนพม่า ซึ่งก็ได้
เห็นวิถีชีวิตที่ต่างออกไปอีกแบบ
17.30 น. เราเริ่มขี่มอไซค์กลับมาเรื่อย ๆ เริ่มแวะชมวิวจุดต่าง ๆ ตอนที่ผ่านขาไป ซึ่งไม่แวะเยอะมากเพราะเริ่มเย็นแล้วหนาวด้วย
กว่าจะถึงตัวอำเภอสังขละบุรีจะมืดซะก่อน โดยเมื่อเราถึงตัวอำเภอสังขละบุรี เรารีบขี่มอเตอร์ไซค์มุ่งไปยังสะพานคอนกรีต
สำหรับรถวิ่งผ่าน บริเวณซองกาเลียรีสอร์ท เพื่อชมวิวสะพานมอญมุมกว้างยามเย็น ซึ่งแสงอาทิตย์สีส้มหลังพระอาทิตย์ตกดิน
ยังคงสาดส่องให้สะพานมอญสวยงามยิ่งนัก และเราก็พากันกลับที่พักนอนพักผ่อน อาบน้ำให้สดชื่น
19.00 น. เราออกมาเดินถนนคนเดิน สังขละบุรี ของกินร้อน ๆ ท่ามกลางอากาศหนาว ๆ เยอะมาก เพลิดเพลินสุด ๆ เลย
21.00 น. ก่อนกลับเข้าที่พักเราได้ซื้อโคมแถวถนนคนเดินมาปล่อย บริเวณสะพานทางเดินที่จะเดินไปสะพานมอญ ตอนแรกกะจะไปปล่อย
ที่สะพานมอญ แต่มืดมากเลยไม่เดินต่อ ปล่อยโคมตรงนี้แหละ และก็ขี่มอเตอร์ไซค์กลับที่พักเพื่อ Mini Party ของพวกเรา
วันที่สอง
05.30 น. นักซิ่งมอเตอร์ไซค์ตื่นมาอีกแล้ว อาบน้ำ ?? เพื่อขี่มอเตอร์ไซค์ข้ามสะพานคอนกรีตไปหมู่บ้านมอญเพื่อตักบาตรยามเช้า
ระหว่างขี่ไปน้ำหยดจากผมติ๊ก ๆ หนาวมากจริงค่ะ
06.00 น. เราเดินทางถึงหมู่บ้านมอญ ตรงสะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญนั่นเอง ซึ่งมาซื้อชุดตักบาตรชุดละ 100 บาท และ
ก็รับโสร่งแบบมอญมาสวม ดูเป็นราชนิกูลมากค่ะ และก็ตักบาตรบรรยากาศครึกครื้นมากเลยทีเดียว
07.00 น. เมื่อตักบาตรและชื่นชมบริเวณสะพานมอญแล้ว เราก็เช่าเรือแถวสะพานมอญลำละ 300 บาท เพื่อนั่งล่องแม่น้ำซองกาเลีย
ไปยังโบสถ์กลางน้ำ พี่เจ้าของเรือให้ดอกเบญจมาศสีขาวเรามากำหนึ่ง เพื่อบูชาหน้าโบสถ์ หลังจากนั้นก็กลับมากินโจ๊กเลื่องชื่อ
ของฝั่งมอญ
09.30 น. เราเริ่มขี่มอเตอร์ไซค์ไปยังหมู่บ้านมอญ ขี่เข้าไปชมวิถีชีวิตของชาวมอญ ต่อมาก็ไปยังเจดีย์พุทธคยา และต่อไปยังวัดวังก์วิเวการาม
หรือที่รู้จักกันในนาม วัดหลวงพ่ออุตตมะ
11.00 น. เราขี่มอเตอร์ไซค์ไป บขส. เพื่อสอบถามรถเดินทางกลับ (ระวังหน่อยค่ะ รถมีไม่มาก บางวันก็ยกเลิกเที่ยวไป) เราโดยสารรถตู้เที่ยว
12.15 น. เดินทางลงมาจากสังขละบุรีค่ะ โดยเป้าหมายของเรายังมีไฮไลท์ คือการนั่งรถไฟกลับตัวเมือง ซึ่งต้นสถานีคือ
สถานีน้ำตกไทรโยคน้อย (แรงยังเหลือค่ะ) เพราะเค้าบอกเส้นทางรถไฟเป็นเส้นทางธรรมชาติที่สวยงามมากค่ะ
12.15 น. เราเดินทางออกจากตัวอำเภอสังขละบุรี โดยรถตู้ ราคาคนละ 175 บาท จะลงไหนเค้าก็คิดเท่าลงตัวเมืองเลย
15.00 น. เราเดินทางถึงหน้าน้ำตกไทรโยคน้อย ซึ่งตัวสถานีรถไฟจะอยู่ห่างจากน้ำตกประมาณ 2 กิโล มีรถสองแถวไปค่ะ คนละ 10 บาท
โดยรถไฟเป็นรถไฟฟรีค่ะ ออกตั๋วฟรี และขึ้นได้เลย ที่สถานีมีร้านอาหารและร้านกาแฟเยอะแยะค่ะ
15.30 น. รถไฟออกเดินทางตามเส้นทางธรรมชาติ โต้ลม ถ่ายรูปมาเรื่อยค่ะ ต้องบอกว่าถ้ามีเวลาอยากให้ลอง แต่ต้องมาให้ทันรถไฟเที่ยวสุด
ท้าย คือ เวลา 15.30 น. ซึ่งรถไฟขบวนที่นั่งมาดันจอดเปลี่ยนหัว เกือบชั่วโมงแถวสถานีวังเย็น กิน นั่ง ถ่ายรูปรอไปยาววว
19.00 น. มาถึงตัวเมืองกาญจนบุรี (ถ้ารถไฟไม่เสีย จะถึงเร็วกว่านี้ 1 ชั่วโมง) และต่อรถตู้ กลับเข้ากรุงเทพ ฯ
ค่าใช้จ่าย :
ค่ารถตู้ ไป - กลับ (กรุงเทพ ฯ - ตัวเมืองกาญจนบุรี) : คนละ 240 บาท
ค่ารถสังขละโต้ลม (ขาไป) : คนละ 130 บาท
ค่ารถตู้ (ขากลับจากสังขละ - น้ำตก) : คนละ 175 บาท
ค่ารถไฟ : ฟรีเพื่อประชาชน
ค่าที่พัก 1 คืน : เฉลี่ยคนละ 325 บาท
ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ : เฉลี่ยคนละ 100 บาท
ที่เหลือคนละ : 530 บาท เป็นกองกลาง ค่ากระจุ๊กกระจิ๊ก (เช่ารถข้ามแดน/น้ำมันมอเตอร์ไซค์/กิน/ชุดตักบาตร)
จบทริปด้วยความเหนื่อย แต่ประทับใจเว่อร์ค่ะ