ความเหงา เปล่าเปลี่ยว เฟี้ยวง้อ สู่สังขละบุรี แบบกระทันหัน

สวัสดีค่ะดิฉันจะมาเล่าประสบการณ์ที่ไปเที่ยวคนเดียว แบบค่อนข้างไกล ครั้งแรกในชีวิต เอาล่ะเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เริ่มได้ !!
ปล. รูปภาพถ่ายจากกล้องโทรศัพท์อาจจะไม่สวยมาก กระทู้นี้เพียงอยากจะเล่าประสบการณ์การเดินทางแบบไม่คิดอะไรมากของดิฉันเอง

ก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดิฉันมาอยู่ที่หอเพื่อนคนเดียว (ช่วงนั้นมาฝึกงานเพิ่ม เพราะไปทำกิจกรรม) ความเหงาก็เลยบังเกิดขึ้น แล้ววันศุกร์เพื่อนก็กลับมาอยู่หอเราก็เลยคิดกันเล่นๆว่า อยากจะ Backpack ไปที่ไหนสักที่ ก็ได้มาเปิด Pantip สังขละบุรี จากนั้นก็เริ่มศึกษาข้อมูลกันมา
วันจันทร์ 22 มิถุนายน 2558 ดิฉันก็ไปช่วยงานเพื่อนที่มหาวิทยาลัย ระหว่างที่รองานอยู่นั้นก็ได้ แพลนทริปสังขละบุรี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันอังคาร 23 มิถุนายน 2558 เพื่อนลับบ้าน แต่การเดินทางไปสังขละบุรีครั้งนี้ต้องมีต่อไป เพราะหากไม่ไปตอนนี้ก็คงไม่มีเวลาว่างเป็นแน่แท้ ฝึกงานต่อเนื่อง เอาล่ะช่างใจอยู่นานมีการเดินทางอยู่ 2 อย่าง 1. เช้าเดินทางจากบางแสนสู่กรุงเทพ 2. เดินทางเข้ากรุงเทพวันนี้ สรุปเลือกข้อ2 ค่ะ ไปพักที่กรุงเทพ 1 คืนก่อนเดินทาง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

วันพุธ 24 มิถุนายน 2558
กริ๊งงงงงง !!! เสียงนาฬิกาปลุกดัง เห้ยยย 06.00 น. รีบลุกขึ้นมาทันควัน ในใจจะทันรถไฟ 07.50 น. ไหม เอาล่ะเตรียมตัวลุยยยย มาถึงอนุสาวรีย์ชัย ประมาณ 07.00 น. รอรถเมล์เพื่อเดินทางไปสถานีรถไฟธนบุรี ดิฉันก็ได้ถามเจ้าหน้าที่ ได้ความว่าขึ้นรถเมล์สาย 509 แล้วไปลงบางขุนนนท์ (ก่อนหน้านี้ก็ได้ศึกษาวิธีและถามเพื่อนๆ) ที่ตั้งของสถานีรถไฟธนบุรีอยู่ด้านหลัง รพ. ศิริราช ตอนนั้นรถติดมากๆ ประมาณ 07.35 น. ดิฉันยังอยู่ที่ถนนราชดำเนินอยู่เลย จะทันม๊ายยย !!  เอาล่ะเมื่อผ่านตรงนั้นมาได้ดิฉันตัดสินใจลงรถเมล์ตรงสะพานพระปิ่นเกล้าแล้วต่อมอเตอร์ไซต์ไปสถานีรถไฟธนบุรี
พอถึงปุ๊บเดินเข้าไปซื้อตัวรถไฟทันที ไปสถานีน้ำตกอย่างมั่นใจระดับ 10
นายสถานีบอกว่า "ขณะนี้รถไฟไปกาญจนบุรีทำการปิดปรับปรุงประมาณ 2 เดือน"
จร: แต่แล้ววว ฝันนั้นก็สลายไปในพริบตา !!  หงอยไปชั่วขณะ
นายสถานี: "จะไปเมืองกาญนั่งรถไฟไปลงบ้านโป่งได้แล้วก็ต่อรถตู้ไปเมืองกาญ ประมาณ 60 บาท"
จร: โอเคค่ะ บ้านโป่งก็ได้ค่ะ
จากนั้นก็ขึ้นรถไฟไป...............การเดินทางอันแสนพิเศษกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว


เดินทางถึงสถานีรถไฟบ้านโป่งประมาณ 10.00 น. จากนั้นก็นั่งเมเครื่องไปลงที่รอรถเมล์ เพื่อไปกาญจนบุรี


11.00 น. ถึงกาญจนบุรีแล้ว....ฝนตกพรำๆ ว่าแล้วก็แว้นเมเครื่องไปที่สะพานข้ามแม่น้ำแควดีกว่า



ไปสะพานข้ามแม่น้ำแควเสร็จก็กลับมาที่ บขส. เพื่อไปสังขละบุรี แต่รถเมล์นั้นก็ได้ผ่านไปต่อหน้าต่อตา ด้วยความที่กลัวจะไม่มีที่พักเลยไปขึ้นรถตู้ไปสังขละบุรี ระหว่างทางฝนตกหนักมาก คุยแชทกับเพื่อนก็รู้สึกตุ๊มๆต่อมๆ 2 จิต 2 ใจ ใจนึงก็กลัว อีกใจเมื่อมาแล้วก็ต้องลุย

ภาพระหว่างการเดินทาง

และแล้วก็ถึงสังขละบุรี ประมาณ 15.30 น. ไม่รอช้าไปหาที่พัก มุ่งตรงไปที่ P เกสเฮ้าส์ ณ.บัดดล

ภาพบรรยากาศที่พัก+ฝนพรำๆ


หลังจากนั้นก็ไปเช่ารถมอเตอร์ไซต์แว๊นไปสะพานมอญ


เมื่อโพสรูปนี้ลงไปใน Social ก็มีข้อความต่างๆมากมายเข้ามาจากเพื่อนๆ พี่ๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

แว๊นไปสะพานมอญเสร็จก็หาของกินก่อนกลับเข้าที่พัก เพราะฝนตกตล๊อด...ตลอดเลย จากนั้นก็มีเบอร์ที่ทางที่พักให้ให้โทรไป เพราะว่าเค้าก็มาคนเดียวเหมือนกันโทรกลับมา และเรา2คนก็ได้ออกไปหาของกินอีกครั้ง
ที่ Oh dee hostel


มาถึงก็สั่งชาเขียว 1 แก้ว นั่งเล่นโทรศัพท์ ฟังเพลง และแล้วเพลงนี้ก็ดังขึ้นมา
อยู่อย่างเหงาๆเราคงจะได้รู้  ขาดกันไปจะทนได้ไหม หากไม่มีกันอยู่
อยู่อย่างเหงาๆบางทีจะได้รู้  หากมีใครบางคนเข้ามา  จะได้ลองคิดดู
ว่าใจเราต้องการเขาไหม หรือว่าใจยังคงโหยหา อยากกลับมา เพื่อรักกันเหมือนเดิม.
ฟังไปก็เหงาไป มีแต่เพลงสมัยตอนอยู่มัธยมต้น ฟังแล้วก็เพราะดี


มาที่นี่เจอแมวขอแชะนิดนึง


พอฝนซาเราทั้ง 2 คน ก็กลับที่พักกัน วันที่ 1 ผ่านไป

สวัสดีวันที่พฤหัสที่ 25 มิถุนายน 2558 เวลา 05.45 น. ไปตักบาตรที่สะพานมอญกัน

และแล้วเราก็ได้เจอพี่ที่จะมาร่วมทางกัน ตอนนี้ทีมเราต่างคนต่างมารวมกันได้แล้ว 3 คน คริคริ เป็นพี่เราทั้งสองคนเลยค่ะ คนแรกเรียนปริญญาโท คนที่สองทำงานแล้วค่ะ

มาที่นี่ต้องเจอเซเลบคนนี้เลย เทินหม้อข้าวโชว์ จัดไปเหนาะๆ 8 ชั้น ดินฉันได้ลองบ้าง 2 ชั้น แต่ไม่รอดค่ะ
กราบบบบบบบบบบบบ


ตักบาตรเสร็จก็ได้ไปหาอะไรกินกัน อาหารที่แนะนำขอบอกเลยค่ะว่าไม่ได้กินสักอย่างเลยค่ะ ฝนตก สรุป เจออะไรก็กินเลยค่ะ
เมื่อกินเสร็จเรา 3 คน ก็ได้แว๊นไปเที่ยววัดฝั่งมอญกัน ระยะทางเหมือนใกล้ แต่พอขี่มอเตอร์ไซต์มันไกลมากๆเลยค่ะ เดี๋ยวขึ้นเขาเดี๋ยวลงเขา
วัดพุทธคยา

วัดวังวิเวกการาม


ชมวัดเสร็จก็ต่อด้วยไปด่านเจดีย์ 3 องค์  ระยะทางไปจากสังขละบุรี ประมาณ 25 กิโลเมตร แว๊นมอเตอร์ไซต์กันไป ฮาร์ดคอสุดๆ

เอาล่ะได้เวลาผ่านเข้าไปในพม่าแล้ว เราทั้ง 3 คน ตัดสินใจเหมารถเพื่อเข้าไปชมในพม่ากัน ซึ่งการเข้าไปในพม่าเราสามารถเข้าไปได้โดยถ่ายสำเนาบัตรประชาชนผ่านชายแดนชั่วคราว ซึ่งเราสามารถอยู่ได้ถึง 18.00 น.

การไปพม่าครั้งนี้เรียกได้ว่าทรหดอดทนจริงๆ เพราะฝนตกหนักมาก 1-10 ให้ ระดับ 10 เลยค่ะ

ภาพตอนฝนหยุดตกไปสักแปปนึง

ภาพโดยรวมของการไปพม่าในวันนี้

จากนั้นก็ได้เดินทางกลับ ตอนแรกจะแวะน้ำตก แต่เนื่องจากฟ้าฝนไม่เป็นใจ สุดท้ายก็ขี่มอเตอร์ไซต์กลับที่พักกัน

เย็นๆก็ออกมาหาของกินต่อ

แล้วก็มานั่งชิคๆที่ร้านนี้
.
.
.



วันที่ 2 สิ้นสุดด้วยประการฉะนี้

วันศุกร์ 26 มิถุนายน 2558 เดินทางกลับประมาณ 10.00 น. โดยนั่งรถตู้จากสังขละบุรี-กาญจนบุรี และนั่งรถตู้จากกาญจนบุรี-กรุงเทพฯ รวมเวลาประมาณ 7 ชั่วโมง+รถติดในกรุงเทพฯ

จบแล้วกับการไปสังขละบุรีคนเดียวครั้งแรก แต่เราก็ได้เจอกับมิตรภาพดีๆที่เกิดขึ้นที่นั่น ทำให้ความเหงาจากตอนแรก กลายเป็นไม่เหงา มีเพื่อนร่วมทางที่ดี ขอบคุณพี่ๆทั้งสองคนที่มาเติมเต็มการเดินทางครั้งนี้ <3

สุดท้ายอย่ากลัวการจะไปไหนมาไหนคนเดียว กล้าที่จะออกไปทำในสิ่งที่เราอยากทำ การเดินทางคนเดียวในครั้งหน้าจะไม่หน้ากลัวอีกต่อไป (หรอ?)

**สรุปค่าเสียหาย
เริ่มต้นจากอนุสาวรีย์ฯ
ค่ารถเมล์อนุสาวรีย์ฯ-สะพานพระปิ่นเกล้า 15 บาท
มอเตอร์ไซต์ไปสถานีรถไฟธนบุรี 30 บาท
รถเม์จากบ้านโป่ง-กาญจนบุรี 30 บาท
มอไซต์ไปกลับสะพานข้ามแม่น้ำแคว 70 บาท
ค่ารถตู้ไปสังขละบุรี 175 บาท
ค่าอาหาร 298 บาท
ค่าเครื่องดื่ม 147 บาท
ค่าที่พัก 450 บาท 2 วัน (วันแรกจ่ายเต็ม 300 บาท วันที่ 2 นอน 2 คนคนละ 150 บาท)
ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซต์(คืนเกินเวลา) 300 บาท
ค่าตักบาตรฝั่งไทยและมอญ 140 บาท
ทัวร์พม่า คนละ 430 บาท
ค่าน้ำมัน 50 บาท
ค่ารถกลับสังขละบุรี-กรุงเทพฯ 295 บาท
รวมแล้ว 2,484 บาท
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่