ตอนเก่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บทนำ http://ppantip.com/topic/31487949
ตอนที่ 1 http://ppantip.com/topic/31490758
ตอนที่ 2 http://ppantip.com/topic/31495527
ตอนที่ 3 http://ppantip.com/topic/31507721
ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าที่ตะวันยังไม่ขึ้นฟ้า หรือก็คือช่วงเช้ามืดนั่นเอง ผมเริ่มคลำหน้าท้องของตัวเองเป็นอันดับแรก เฮ้ ๆ แผลหายหมดแล้ว เอาจริงดิ เรามีพลังแบบนี้จริงๆเหรอเนี่ย ผมลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายนิดหน่อย แต่รำคาญสายน้ำเกลือชะมัดเลยแฮะ แต่เดี๋ยวก็ได้เอาออกแล้ว แผลก็หายดี ร่างกายก็เข้าสู่สภาวะเตรียมพร้อม ไปเรียนเลยดีกว่ามั้ยเนี่ย
มีคนเปิดประตูห้องพักเข้ามา พยาบาลเหรอ คงมาบอกว่าให้เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วให้กลับได้ละมั้ง
"เอ่อ คือว่า"
ไม่ใช่แฮะ เธอคนนี้ใส่เครื่องแบบนักเรียนของโรงเรียนผม อยู่ในท่าแง้มประตูเหมือนแอบมอง เป็นเด็กนักเรียนของเนตรนภัทรเหรอ แต่ใครกันหว่า หน้าตาเธอก็สวยใช้ได้ ใบหน้าขาวอมชมพูซึ่งไม่ได้รับการเติมแต่ง แต่เป็นใบหน้าที่ขาวโดยธรรมชาติ ใส่แว่นที่มีกรอบแว่นสีแดงเลนส์เว้า ผมยาวสลวย มีที่คาดผมสีชมพูอ่อนคาดอยู่ที่ศีรษะ เอ....ใครกันน้อ
"เอ่อ...คือ ฉัน มารับคุณกลับไปโรงเรียนค่ะ" น้ำเสียงของเธอประหม่าเล็กน้อย ยังอยู่ในท่าเดิม
อะไรกันน้อ มารับเราเหรอ ทำไมล่ะ แต่คงไม่ใช่คนน่าสงสัยแน่นอน เพราะผมเคยเห็นเธอผ่านๆ อยู่ในห้องผมเอง ใช่ เธอเรียนห้องเดียวกับผมนี่แหละ
"เอ่อ จะยังไงก็เข้ามาก่อนสิ" ผมเรียกเธอ
เธอเลิกทำท่านั้นแล้วค่อยๆ ใช้มือปิดประตูเบาๆ จนแทบไม่ได้ยินเสียงลงล๊อกของประตูเลย
"ก่อนอื่น บอกชื่อเธอมาก่อนสิ ฉันริกุ เรียกแบบนั้นละกัน"
"เอ่อ ฉ...ฉัน ชื่อ อึ๊ก" เธอกัดลิ้นตัวเอง เอ่อ....ใจเย็นก็ได้
"ไม่เป็นไรนะ" ผมถามเธอ
"อ...อื้อ แค่ตื่นเต้นนิดหน่อย ที่ได้อยู่กับผู้ชายสองต่อสองน่ะ อ๊ะ นี่ฉันพูดอะไรออกไปเนี่ย" เธอทำท่าทางลุกลี้ลุกลน เอ่อ....ยังไงดีล่ะ น่ารักจังเเฮะ
"เธอชื่ออะไรล่ะ" ผมทวนคำถามอีกรอบนึง
เธอค่อยสูดหายใจ แล้วเปล่งเสียงน้อยๆ ของเธอออกมา
"ฉันชื่อโลลิตะ เสาร์นภา เรียกฉันว่าโพลิก็ได้ คุณ...ริกุ"
ดูเหมือนเธอจะเขินแฮะ เพราะใบหน้าของเธอแดงระเรื่อเหมือนหม้อดินที่โดนความร้อนเลย เป็นพวกขี้อายเรอะ เอาเถอะจะยังไงก็ช่างก่อนอื่นก็ต้องออกจากโรงพยาบาลสินะ
"คือว่า...ฉันไม่มีชุดเปลี่ยนน่ะ กลับไปบ้านเอาชุดก่อนได้มั้ย เพราะตัวเมื่อวานมันน่าจะขาดรุ่งริ่งไปหมดแล้วนี่นะ" โดนขนาดนั้นไม่รุ่งริ่งก็แปลกแหละ
"ม...ไม่ต้องหรอกว่า คือฉัน" เธอเว้นระยะคำพูดเล็กน้อย "ฉันไปบ้านคุณแล้วเอามาให้แล้วค่า!!"
เอ๊ะ !? "ไปเอามาไงล่ะเนี่ย??" คงไม่ได้แอบไปเอามาหรอกนะ
"ก็ไปบอกพ่อแม่คุณมานี่คะ ท่านก...ก็เลย" เธอก้มหน้าลง เหมือนจะพยายามหลบสายตาผม "นี่ค่ะ"
โพลิหยิบของออกมาจากกระเป๋าเป้สีดำของเธอ มันคือเสื้อและกางเกงนักเรียนของผมเอง ท่าทางจะไปเอามาให้จริงๆ แฮะ
"แล้วรู้จักพ่อแม่ฉันได้ไงเนี่ย"
"อ๋อ...เอ่อ เป็นคำสั่งจากผอ. ค่ะ ฉันก็เลยต้องไปเอามาให้น่ะ"
ผอ.เหรอ มันยังไงกันหว่า อ๋อ งี้นี่เอง นั่นสินะ ผอ. โรงเรียนคงรู้เรื่องของเราแล้วแหงแซะ เอาล่ะผมเริ่มปลดกระดุมชุดคนไข้ออก และเตรียมพร้อมที่จะถอด
"เอ๋ ว้าย! จะทำอะไรคะ" เฮ้ย! อ้าว ลืมไปว่ามีโพลิอยู่ด้วยนี่นา ตอนนี้เธอทำหน้าตื่นตระหนกพอดูเลยแฮะ
"ออกไปซะสิ รึว่าอยากเห็นล่ะ" ผมพูดออกไป และแกล้งทำเป็นโปรยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่โพลิ รู้สึกผิดนิดๆ ที่แกล้งเธอแฮะ
"ค....ค่ะ"
เธอรีบวิ่งออกไปแล้วปิดประตูดังปัง ต่างกับตอนที่เข้ามาเลยแฮะ
เอาล่ะ ทีนี้ก็มีเรื่องต้องคิดหลายเรื่องแล้ว จากเมื่อวาน จนถึงเมื่อกี๊ เรื่องราวใกล้จะบรรจบกันแล้ว
ก่อนอื่นก็ต้องไปหา ผอ. ก่อนสินะ ผมคิดอยู่ในใจ
ผมสะพายเป้นักเรียนของตัวเองออกมาจากห้องพักคนไข้หลังจากแต่งตัวเสร็จ ป้ายหน้าห้องเขียนว่า 408 อืม....น่าเอาไปแทงหวยแฮะ แต่ว่าไม่ใช่เวลาจะมาคิดเรื่องนั้นนี่นะ
ข้างประตูมีโพลิซึ่งกำลังนั่งรอผมอยู่ จากการประเมินด้วยสายตาผมแล้ว อยู่ท่าทางเธอจะยังประหม่าอยู่ไม่ใช่น้อย
พอผละสายตาจากโพลิ ผมก็พบกับผู้หญิงในเครื่องแบบชุดนักเรียนม.ต้น ของโรงเรียนผมอีกสองคน ซึ่งดูเหมือนว่าจะมารอผมเช่นกัน แล้วทำไมพากันมาเยอะจังเนี่ย จะสร้างฮาเร็มสาวแว่นได้แล้วเชียวนะ เฮ้อ....คนทางซ้ายมือโพลิ เป็นคนผมสั้น หน้าตาน่ารักใช้ได้ คาดคะเนจากสายตาน่าจะอยู่ม. 3 แววตาที่อยู่ในกรอบแว่นขอบสีส้มหนาไม่มากเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส เธอจ้องมาทางผมด้วยแววตาที่เหมือนสังเวชหมาข้างถนนที่ใกล้ตายรอมร่อ และก็เชิดหน้าหนีไม่มองผม
อะไรกันเนี่ย ยัยคนนี้ ไม่ถูกชะตาเลยแฮะ
"ค...คนนี้คือน้องสาวฉันเอง ชื่อแพท พัทรภา นามสกุลเดียวกับฉันนั่นแหละค่ะ" เธออธิบายด้วยน้ำเสียงสั่นเล็กน้อย นี่ยังประหม่าอยู่อีกเรอะ "ส่วนอีกคนนึง..."
เธอผายมือออกไปเล็กน้อยผ่านยัยแพทอะไรนั่นไป มีผู้หญิงใส่แว่นไร้ขอบ ผมบ๊อบสั้น ใบหน้าของเธอขาวผ่องรับกับผมบ๊อบสั้นของเธอ นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นนั่นสดใสบริสุทธิ์ ถึงขนาดที่ว่า ถ้าเธอคนนี้โปรยยิ้มให้ใคร คนนั้นคงตกหลุมรักเธอไปตลอดกาลแหงแซะ แต่ผมขอผ่านนะ เพราะผมไม่นิยมผู้หญิงหน้าตาโลลิค่อน*น่ะ (*โลลิค่อน-ผู้หญิงที่มีหน้าตาเด็ก หรือผู้หญิงที่อายุน้อยมากๆ)
"เธอคนนี้ชื่อปอม กนกอร ชนะศักสากรค่ะ เป็นเพื่อนของน้องฉันที่ชอบตามไปไหนมาไหนตลอด"
"สวัสดีค่ะ" ปอมลุกขึ้นแล้วไหว้ผม เอ๋!! ฉันไม่น่านับถือขนาดนั้นหรอกน่า ส่วนยัยแพท ก็นั่งอยู่เฉยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะทำความเคารพแม้แต่น้อย รู้สึกหงุดหงิดกับยัยนี่ยังไงชอบกลแฮะ
"ไปกันรึยังคะ คุณริกุ" เธอเงยหน้าถามผม
"เอ่อ....ไปก็ไปสิ นำทางด้วยนะ"
โพลิลุกขึ้น ส่วนอีกสองคนก็ลุกตามเหมือนหุ่นเชิดโดนกระตุกเส้นด้าย "ไปนะคะ"
เธอเดินนำหน้าพร้อมกับยัยแพทและปอม พวกเราเดินตรงมาเรื่อยๆ จนถึงหน้าลิฟท์ ซึ่งข้างบนประตูลิฟท์เขียนไว้ว่า 4 แสดงว่าผมพักอยู่ที่ชั้น 4 สินะ
โพลิกดปุ่มข้างลิฟท์ที่มีรูปร่างสี่เหลี่ยม เขียนไว้ว่า "ล่าง" พวกเรารอลิฟท์ซักพักนึงแล้วก็....
กิ๊ง ประตูลิฟท์เปิดแยกออกจากกัน ในนั้นมีคนอยู่ ผมตกใจเล็กน้อย เพราะคนที่ว่านั่นก็คือ
ออทั่มนั่นเอง
"อ้าว มีคนมารับตัดหน้าซะแล้วเหรอคะเนี่ยแหะๆ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนแก้เขิน "อ๊ะ ไหนๆ ก็ไหนๆ ลงไปเลยนี่แหละ เข้ามาเลยค่ะทั้งริกุ ทั้งคุณหัวหน้าห้องด้วย"
"ย....อย่าพูดแบบนั้นเลยค่ะ เรียกฉันว่าโพลิก็ได้ หัวนงหัวหน้าอะไรกัน" โพลิพูดด้วยน้ำเสียงประหม่าเช่นเคย
โพลิเป็นหัวหน้าห้องในห้องเราเหรอเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อเลยแฮะ
ลิฟท์ลงมาถึงชั้น 1 พอเปิดออกมาก็พบกับประตูทางออกพอดี พวกเราก้าวขาออกมาจากลิฟท์แล้วหลังจากนั้น
"คือว่า...ฉันนำรถมารับคุณริกุด้วยค่ะ นั่งได้หมดพอดี ไม่ทราบว่า คุณออทั่มต้องการไปกับเรา...มั้ยคะ" โพลิเอ่ยขึ้น
"อ๋อ ไม่เป็นไรๆ ค่ะ ฉันเอาจักรยานมาอยู่แล้ว แล้วฉันปั่นจักรยานไปเองดีกว่า ขอบคุณนะคะ" ออทั่มพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม "ริกุคะ ไว้เจอกันในห้องเรียนนะคะ"
ออทั่มรีบวิ่งออกไปที่ทางออก ผมมองอยู่ซักพักจนกระทั่งมีอะไรสะกิดผม ผมหันไปมองก็พบว่าโพลิกำลังใช่นิ้วชิ้จิ้มแขนซ้ายผมเบาๆ อยู่
"ทางนี้ค่ะ คุณริกุ"
พวกเธอสามคน เดินนำหน้าผมเพียงไม่กี่ก้าว พวกเราก้าวออกมาจากทางออกเดียวกับที่ออทั่มเดินออกมา ขณะนี้ท้องฟ้าเริ่มเป็นสีครามเหมือนกับจะบอกว่าพระอาทิตย์จะปล่อยพลังเผาผลาญให้โลกใบนี้อบอุ่นยังไงยังงั้นเลย พวกเธอพาผมมาหยุดอยู่ที่รถคันหนึ่ง
"คันนี้แหละค่ะ"
ผมถึงกับช็อคไปชั่วขณะ เพราะมันคือ "รถลีมูซีน" สีดำมันเลื่อมแวววาว ไม่มีรอยขีดข่วนแม้แต่น้อย นี่คงเป็นบุญก้นที่เราจะได้นั่งรถแบบนี้เลยนะเนี่ย ผมมองตาถลึงอยู่นาน ก็มีเสียงแหลมๆ เอ่ยออกมา
"มองอยู่นั่นแหละ ทำหน้าตาซะน่ารังเกียจเชียว"
"แพท!!" เสียงโพลิเหมือนดุๆ เล็กน้อย ผมดึงสติกลับมา เมื่อกี๊ยัยแพทคงด่าเราสินะ หนอยแน่ เจ็บใจนิดๆ แฮะ
โพลิเปิดประตูเชิญให้ผมเข้าไปคนแรก ตามด้วยปอมและยัยแพท แล้วตัวเธอเอง ภายในรถก็เป็นโทนสีดำเหมือนภายนอก มีกลิ่นของส้มลอยอยู่ในรถเล็กน้อย คงมาจากอุปกรณ์ดับกลิ่นตรงไหนซักที่ ตำแหน่งคนขับมีคนแต่งชุดดำ คล้ายๆ ชุดพ่อบ้านนั่งรออยู่ นี่บ้านโพลิรวยขนาดไหนล่ะเนี่ย
"สงค์ พาเราไปโรงเรียนหน่อยนะ ระดับความเร็วปานกลาง" เสียงโพลิสั่งขึ้น เป็นน้ำเสียงที่ต่างจากที่พูดกับผมเลย เป็นเสียงที่จริงจังในระดับหนึ่ง
รถเริ่มสตาร์ท และค่อยๆ ขับเคลื่อนออกจากโรงพยาบาล มุ่งหน้าสู่ถนนใหญ่ ผ่านเส้นทางเดียวกันกับทางที่ผมเดินเล็กน้อย จนในที่สุด ก็มาถึงหน้าโรงเรียน ผมเปิดประตูข้างตัวเอง และค่อยๆ ก้าวลงมา ส่วนอีกสามคนออกคนละด้านกับผม
"ตอนเย็นไม่ต้องมารับนะ" โพลิเอ่ยกับสงค์ ดูท่าทางจะเป็นพ่อบ้านจริงๆ แฮะ
สงค์พยักหน้าแล้วขับรถออกไปอย่างรวดเร็วเหมือนกับฉลองแข่งรถซิ่งอันดับหนึ่ง เฮ้ย!! คนละอารมณ์เลยแฮะ ตอนพาผมมาเมื่อกี๊แกยังขับนุ่มๆ สบายเลยนะ
ช่างเหอะ เอาล่ะ ผมคิดคำถามไว้ในหัวมากมายเพื่อระดมยิงใส่ ผอ. แล้ว แต่ก่อนอื่นผมมีคำถามข้อแรกที่อยากจะถามผอ. ก่อนซึ่งนั่นก็คือ...
โรงเรียนนี้ มีประวัติยังไงกันแน่?
(ติดตามต่อพรุ่งนี้)
......................................................
ไหน ๆ เพื่อเป็นการไถ่โทษที่ไม่ได้ลง 2 วัน ผมขอลง 2 ตอนรวดในวันเดียวเลยแล้วกันครับ ขอคำแนะนำเพื่อในการพัฒนาด้วยครับ
Rikuro.
Glass @ School : โรงเรียนนี้มีแต่(สาว)แว่น ตอนที่ 4: โพลิ ปอม และแพท
ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าที่ตะวันยังไม่ขึ้นฟ้า หรือก็คือช่วงเช้ามืดนั่นเอง ผมเริ่มคลำหน้าท้องของตัวเองเป็นอันดับแรก เฮ้ ๆ แผลหายหมดแล้ว เอาจริงดิ เรามีพลังแบบนี้จริงๆเหรอเนี่ย ผมลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายนิดหน่อย แต่รำคาญสายน้ำเกลือชะมัดเลยแฮะ แต่เดี๋ยวก็ได้เอาออกแล้ว แผลก็หายดี ร่างกายก็เข้าสู่สภาวะเตรียมพร้อม ไปเรียนเลยดีกว่ามั้ยเนี่ย
มีคนเปิดประตูห้องพักเข้ามา พยาบาลเหรอ คงมาบอกว่าให้เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วให้กลับได้ละมั้ง
"เอ่อ คือว่า"
ไม่ใช่แฮะ เธอคนนี้ใส่เครื่องแบบนักเรียนของโรงเรียนผม อยู่ในท่าแง้มประตูเหมือนแอบมอง เป็นเด็กนักเรียนของเนตรนภัทรเหรอ แต่ใครกันหว่า หน้าตาเธอก็สวยใช้ได้ ใบหน้าขาวอมชมพูซึ่งไม่ได้รับการเติมแต่ง แต่เป็นใบหน้าที่ขาวโดยธรรมชาติ ใส่แว่นที่มีกรอบแว่นสีแดงเลนส์เว้า ผมยาวสลวย มีที่คาดผมสีชมพูอ่อนคาดอยู่ที่ศีรษะ เอ....ใครกันน้อ
"เอ่อ...คือ ฉัน มารับคุณกลับไปโรงเรียนค่ะ" น้ำเสียงของเธอประหม่าเล็กน้อย ยังอยู่ในท่าเดิม
อะไรกันน้อ มารับเราเหรอ ทำไมล่ะ แต่คงไม่ใช่คนน่าสงสัยแน่นอน เพราะผมเคยเห็นเธอผ่านๆ อยู่ในห้องผมเอง ใช่ เธอเรียนห้องเดียวกับผมนี่แหละ
"เอ่อ จะยังไงก็เข้ามาก่อนสิ" ผมเรียกเธอ
เธอเลิกทำท่านั้นแล้วค่อยๆ ใช้มือปิดประตูเบาๆ จนแทบไม่ได้ยินเสียงลงล๊อกของประตูเลย
"ก่อนอื่น บอกชื่อเธอมาก่อนสิ ฉันริกุ เรียกแบบนั้นละกัน"
"เอ่อ ฉ...ฉัน ชื่อ อึ๊ก" เธอกัดลิ้นตัวเอง เอ่อ....ใจเย็นก็ได้
"ไม่เป็นไรนะ" ผมถามเธอ
"อ...อื้อ แค่ตื่นเต้นนิดหน่อย ที่ได้อยู่กับผู้ชายสองต่อสองน่ะ อ๊ะ นี่ฉันพูดอะไรออกไปเนี่ย" เธอทำท่าทางลุกลี้ลุกลน เอ่อ....ยังไงดีล่ะ น่ารักจังเเฮะ
"เธอชื่ออะไรล่ะ" ผมทวนคำถามอีกรอบนึง
เธอค่อยสูดหายใจ แล้วเปล่งเสียงน้อยๆ ของเธอออกมา
"ฉันชื่อโลลิตะ เสาร์นภา เรียกฉันว่าโพลิก็ได้ คุณ...ริกุ"
ดูเหมือนเธอจะเขินแฮะ เพราะใบหน้าของเธอแดงระเรื่อเหมือนหม้อดินที่โดนความร้อนเลย เป็นพวกขี้อายเรอะ เอาเถอะจะยังไงก็ช่างก่อนอื่นก็ต้องออกจากโรงพยาบาลสินะ
"คือว่า...ฉันไม่มีชุดเปลี่ยนน่ะ กลับไปบ้านเอาชุดก่อนได้มั้ย เพราะตัวเมื่อวานมันน่าจะขาดรุ่งริ่งไปหมดแล้วนี่นะ" โดนขนาดนั้นไม่รุ่งริ่งก็แปลกแหละ
"ม...ไม่ต้องหรอกว่า คือฉัน" เธอเว้นระยะคำพูดเล็กน้อย "ฉันไปบ้านคุณแล้วเอามาให้แล้วค่า!!"
เอ๊ะ !? "ไปเอามาไงล่ะเนี่ย??" คงไม่ได้แอบไปเอามาหรอกนะ
"ก็ไปบอกพ่อแม่คุณมานี่คะ ท่านก...ก็เลย" เธอก้มหน้าลง เหมือนจะพยายามหลบสายตาผม "นี่ค่ะ"
โพลิหยิบของออกมาจากกระเป๋าเป้สีดำของเธอ มันคือเสื้อและกางเกงนักเรียนของผมเอง ท่าทางจะไปเอามาให้จริงๆ แฮะ
"แล้วรู้จักพ่อแม่ฉันได้ไงเนี่ย"
"อ๋อ...เอ่อ เป็นคำสั่งจากผอ. ค่ะ ฉันก็เลยต้องไปเอามาให้น่ะ"
ผอ.เหรอ มันยังไงกันหว่า อ๋อ งี้นี่เอง นั่นสินะ ผอ. โรงเรียนคงรู้เรื่องของเราแล้วแหงแซะ เอาล่ะผมเริ่มปลดกระดุมชุดคนไข้ออก และเตรียมพร้อมที่จะถอด
"เอ๋ ว้าย! จะทำอะไรคะ" เฮ้ย! อ้าว ลืมไปว่ามีโพลิอยู่ด้วยนี่นา ตอนนี้เธอทำหน้าตื่นตระหนกพอดูเลยแฮะ
"ออกไปซะสิ รึว่าอยากเห็นล่ะ" ผมพูดออกไป และแกล้งทำเป็นโปรยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่โพลิ รู้สึกผิดนิดๆ ที่แกล้งเธอแฮะ
"ค....ค่ะ"
เธอรีบวิ่งออกไปแล้วปิดประตูดังปัง ต่างกับตอนที่เข้ามาเลยแฮะ
เอาล่ะ ทีนี้ก็มีเรื่องต้องคิดหลายเรื่องแล้ว จากเมื่อวาน จนถึงเมื่อกี๊ เรื่องราวใกล้จะบรรจบกันแล้ว
ก่อนอื่นก็ต้องไปหา ผอ. ก่อนสินะ ผมคิดอยู่ในใจ
ผมสะพายเป้นักเรียนของตัวเองออกมาจากห้องพักคนไข้หลังจากแต่งตัวเสร็จ ป้ายหน้าห้องเขียนว่า 408 อืม....น่าเอาไปแทงหวยแฮะ แต่ว่าไม่ใช่เวลาจะมาคิดเรื่องนั้นนี่นะ
ข้างประตูมีโพลิซึ่งกำลังนั่งรอผมอยู่ จากการประเมินด้วยสายตาผมแล้ว อยู่ท่าทางเธอจะยังประหม่าอยู่ไม่ใช่น้อย
พอผละสายตาจากโพลิ ผมก็พบกับผู้หญิงในเครื่องแบบชุดนักเรียนม.ต้น ของโรงเรียนผมอีกสองคน ซึ่งดูเหมือนว่าจะมารอผมเช่นกัน แล้วทำไมพากันมาเยอะจังเนี่ย จะสร้างฮาเร็มสาวแว่นได้แล้วเชียวนะ เฮ้อ....คนทางซ้ายมือโพลิ เป็นคนผมสั้น หน้าตาน่ารักใช้ได้ คาดคะเนจากสายตาน่าจะอยู่ม. 3 แววตาที่อยู่ในกรอบแว่นขอบสีส้มหนาไม่มากเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส เธอจ้องมาทางผมด้วยแววตาที่เหมือนสังเวชหมาข้างถนนที่ใกล้ตายรอมร่อ และก็เชิดหน้าหนีไม่มองผม
อะไรกันเนี่ย ยัยคนนี้ ไม่ถูกชะตาเลยแฮะ
"ค...คนนี้คือน้องสาวฉันเอง ชื่อแพท พัทรภา นามสกุลเดียวกับฉันนั่นแหละค่ะ" เธออธิบายด้วยน้ำเสียงสั่นเล็กน้อย นี่ยังประหม่าอยู่อีกเรอะ "ส่วนอีกคนนึง..."
เธอผายมือออกไปเล็กน้อยผ่านยัยแพทอะไรนั่นไป มีผู้หญิงใส่แว่นไร้ขอบ ผมบ๊อบสั้น ใบหน้าของเธอขาวผ่องรับกับผมบ๊อบสั้นของเธอ นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นนั่นสดใสบริสุทธิ์ ถึงขนาดที่ว่า ถ้าเธอคนนี้โปรยยิ้มให้ใคร คนนั้นคงตกหลุมรักเธอไปตลอดกาลแหงแซะ แต่ผมขอผ่านนะ เพราะผมไม่นิยมผู้หญิงหน้าตาโลลิค่อน*น่ะ (*โลลิค่อน-ผู้หญิงที่มีหน้าตาเด็ก หรือผู้หญิงที่อายุน้อยมากๆ)
"เธอคนนี้ชื่อปอม กนกอร ชนะศักสากรค่ะ เป็นเพื่อนของน้องฉันที่ชอบตามไปไหนมาไหนตลอด"
"สวัสดีค่ะ" ปอมลุกขึ้นแล้วไหว้ผม เอ๋!! ฉันไม่น่านับถือขนาดนั้นหรอกน่า ส่วนยัยแพท ก็นั่งอยู่เฉยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะทำความเคารพแม้แต่น้อย รู้สึกหงุดหงิดกับยัยนี่ยังไงชอบกลแฮะ
"ไปกันรึยังคะ คุณริกุ" เธอเงยหน้าถามผม
"เอ่อ....ไปก็ไปสิ นำทางด้วยนะ"
โพลิลุกขึ้น ส่วนอีกสองคนก็ลุกตามเหมือนหุ่นเชิดโดนกระตุกเส้นด้าย "ไปนะคะ"
เธอเดินนำหน้าพร้อมกับยัยแพทและปอม พวกเราเดินตรงมาเรื่อยๆ จนถึงหน้าลิฟท์ ซึ่งข้างบนประตูลิฟท์เขียนไว้ว่า 4 แสดงว่าผมพักอยู่ที่ชั้น 4 สินะ
โพลิกดปุ่มข้างลิฟท์ที่มีรูปร่างสี่เหลี่ยม เขียนไว้ว่า "ล่าง" พวกเรารอลิฟท์ซักพักนึงแล้วก็....
กิ๊ง ประตูลิฟท์เปิดแยกออกจากกัน ในนั้นมีคนอยู่ ผมตกใจเล็กน้อย เพราะคนที่ว่านั่นก็คือ
ออทั่มนั่นเอง
"อ้าว มีคนมารับตัดหน้าซะแล้วเหรอคะเนี่ยแหะๆ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนแก้เขิน "อ๊ะ ไหนๆ ก็ไหนๆ ลงไปเลยนี่แหละ เข้ามาเลยค่ะทั้งริกุ ทั้งคุณหัวหน้าห้องด้วย"
"ย....อย่าพูดแบบนั้นเลยค่ะ เรียกฉันว่าโพลิก็ได้ หัวนงหัวหน้าอะไรกัน" โพลิพูดด้วยน้ำเสียงประหม่าเช่นเคย
โพลิเป็นหัวหน้าห้องในห้องเราเหรอเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อเลยแฮะ
ลิฟท์ลงมาถึงชั้น 1 พอเปิดออกมาก็พบกับประตูทางออกพอดี พวกเราก้าวขาออกมาจากลิฟท์แล้วหลังจากนั้น
"คือว่า...ฉันนำรถมารับคุณริกุด้วยค่ะ นั่งได้หมดพอดี ไม่ทราบว่า คุณออทั่มต้องการไปกับเรา...มั้ยคะ" โพลิเอ่ยขึ้น
"อ๋อ ไม่เป็นไรๆ ค่ะ ฉันเอาจักรยานมาอยู่แล้ว แล้วฉันปั่นจักรยานไปเองดีกว่า ขอบคุณนะคะ" ออทั่มพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม "ริกุคะ ไว้เจอกันในห้องเรียนนะคะ"
ออทั่มรีบวิ่งออกไปที่ทางออก ผมมองอยู่ซักพักจนกระทั่งมีอะไรสะกิดผม ผมหันไปมองก็พบว่าโพลิกำลังใช่นิ้วชิ้จิ้มแขนซ้ายผมเบาๆ อยู่
"ทางนี้ค่ะ คุณริกุ"
พวกเธอสามคน เดินนำหน้าผมเพียงไม่กี่ก้าว พวกเราก้าวออกมาจากทางออกเดียวกับที่ออทั่มเดินออกมา ขณะนี้ท้องฟ้าเริ่มเป็นสีครามเหมือนกับจะบอกว่าพระอาทิตย์จะปล่อยพลังเผาผลาญให้โลกใบนี้อบอุ่นยังไงยังงั้นเลย พวกเธอพาผมมาหยุดอยู่ที่รถคันหนึ่ง
"คันนี้แหละค่ะ"
ผมถึงกับช็อคไปชั่วขณะ เพราะมันคือ "รถลีมูซีน" สีดำมันเลื่อมแวววาว ไม่มีรอยขีดข่วนแม้แต่น้อย นี่คงเป็นบุญก้นที่เราจะได้นั่งรถแบบนี้เลยนะเนี่ย ผมมองตาถลึงอยู่นาน ก็มีเสียงแหลมๆ เอ่ยออกมา
"มองอยู่นั่นแหละ ทำหน้าตาซะน่ารังเกียจเชียว"
"แพท!!" เสียงโพลิเหมือนดุๆ เล็กน้อย ผมดึงสติกลับมา เมื่อกี๊ยัยแพทคงด่าเราสินะ หนอยแน่ เจ็บใจนิดๆ แฮะ
โพลิเปิดประตูเชิญให้ผมเข้าไปคนแรก ตามด้วยปอมและยัยแพท แล้วตัวเธอเอง ภายในรถก็เป็นโทนสีดำเหมือนภายนอก มีกลิ่นของส้มลอยอยู่ในรถเล็กน้อย คงมาจากอุปกรณ์ดับกลิ่นตรงไหนซักที่ ตำแหน่งคนขับมีคนแต่งชุดดำ คล้ายๆ ชุดพ่อบ้านนั่งรออยู่ นี่บ้านโพลิรวยขนาดไหนล่ะเนี่ย
"สงค์ พาเราไปโรงเรียนหน่อยนะ ระดับความเร็วปานกลาง" เสียงโพลิสั่งขึ้น เป็นน้ำเสียงที่ต่างจากที่พูดกับผมเลย เป็นเสียงที่จริงจังในระดับหนึ่ง
รถเริ่มสตาร์ท และค่อยๆ ขับเคลื่อนออกจากโรงพยาบาล มุ่งหน้าสู่ถนนใหญ่ ผ่านเส้นทางเดียวกันกับทางที่ผมเดินเล็กน้อย จนในที่สุด ก็มาถึงหน้าโรงเรียน ผมเปิดประตูข้างตัวเอง และค่อยๆ ก้าวลงมา ส่วนอีกสามคนออกคนละด้านกับผม
"ตอนเย็นไม่ต้องมารับนะ" โพลิเอ่ยกับสงค์ ดูท่าทางจะเป็นพ่อบ้านจริงๆ แฮะ
สงค์พยักหน้าแล้วขับรถออกไปอย่างรวดเร็วเหมือนกับฉลองแข่งรถซิ่งอันดับหนึ่ง เฮ้ย!! คนละอารมณ์เลยแฮะ ตอนพาผมมาเมื่อกี๊แกยังขับนุ่มๆ สบายเลยนะ
ช่างเหอะ เอาล่ะ ผมคิดคำถามไว้ในหัวมากมายเพื่อระดมยิงใส่ ผอ. แล้ว แต่ก่อนอื่นผมมีคำถามข้อแรกที่อยากจะถามผอ. ก่อนซึ่งนั่นก็คือ...
โรงเรียนนี้ มีประวัติยังไงกันแน่?
(ติดตามต่อพรุ่งนี้)
......................................................
ไหน ๆ เพื่อเป็นการไถ่โทษที่ไม่ได้ลง 2 วัน ผมขอลง 2 ตอนรวดในวันเดียวเลยแล้วกันครับ ขอคำแนะนำเพื่อในการพัฒนาด้วยครับ
Rikuro.