ซินจ่าวฮ่อ......
เมื่อวานนี้ผมขี่รถข้ามชายแดนลาวไปนอนที่เมืองเว้...วันนี้ก็คุยต่อ......แต่ขอย้อนเล่าให้พอจำได้สัก2-3บรรทัดเด้อ......
คราวนี้ย้อนกลับมาที่วังหลวงในสายตาปัจจุบันอีกทีหนึ่งนะครับ
.....พระราชวังหลวงของจักรพรรดิ์ญวนทั้งหมดที่เห็นอยู่นี้ ในคำบรรยายที่มีอยู่เขาบอกว่า เป็นการแกะแบบเอามาจากวังหลวงของเมืองจีน....ที่เมืองปักกิ่งที่จริงแล้ว หากมองแบบกว้างๆตามสายตาของคนต่างชาติแล้ว พระราชวังที่เมืองเว้นี้ก็น่าจะอลังการณ์พอสมควร....หากใครยังไม่เคยเห็นวังหลวงของจักรพรรดิ์จีนที่เมืองปักกิ่งมาก่อน
แต่ถ้าหากใครเคยเห็นมาแล้วก็ต้องบอกว่า “คนละชั้นครับเพ่”......
สาเหตุที่ต้องบอกว่าคนละชั้นนั่น คงไม่ต้องอธิบายมากครับ เพราะขนาดของประเทศเวียตนามและประเทศจีน รวมไปถึงจำนวนพลเมืองมันห่างกันหลายสิบเท่า.....แล้วยังเกี่ยวพันมาถึงเรื่องของศิลปะที่เวียตนามไปก็อปปี้เอามาจากจีนอีกทอดหนึ่งด้วยแล้ว....การณ์มันจะเป็นยังไง ผมว่าคุณน้องน้าอาหลานคงจะประเมินสภาพความเป็นจริงออกนะครับ
รายการก็อปปี้อย่างนี้ ก็มีให้เห็นในประเทศไทยเรา...คราวที่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 4 ขอเจ้าศรีสวัสดิ์(ปู่ของเจ้าสีหนุ)มาเป็นพระราชบุตรบุญธรรมในพระบรมมหาราชวัง....ตามประเพณีการรบทัพจับศึกแบบโบราณ ......
ครั้นเจ้าศรีสวัสดิ์เป็นหนุ่มและได้รับการสถาปนาจากรัชกาลที่ 4 แต่งตั้งให้เป็นพระมหากษัตริย์ปกครองประเทศเขมรแล้ว.....เจ้าศรีสวัสดิ์ได้ขอพระบรมราชานุญาติถ่ายทอดเอาศิลปะการสร้างพระราชวัง
ไปทำเป็นวังหลวงที่เมืองเขมร แล้วตั้งชื่อพระที่นั่งองค์ต่างๆเลียนแบบของไทยเราด้วย.....เช่นพระที่นั่งมุขกระสัน.....ทางเขมรตั้งเป็นพระที่นั่งมุขเวียง.....พระที่นั่งวิมานเมฆ...เขมรตั้งชื่อเป็นพระที่นั่งวิมานอากาศ
สรุปแล้ว ทั้งวังเขมรและวังของจักรพรรดิเวียตนามก็อยู่ในอาการเดียวกัน.....และแถมเกิดอาการหนักกว่าเดิมอีกพอสมควร
อยากให้กระทู้มีสาระ(ไปเที่ยวเมืองเว้กันต่อ)
ซินจ่าวฮ่อ......
เมื่อวานนี้ผมขี่รถข้ามชายแดนลาวไปนอนที่เมืองเว้...วันนี้ก็คุยต่อ......แต่ขอย้อนเล่าให้พอจำได้สัก2-3บรรทัดเด้อ......
คราวนี้ย้อนกลับมาที่วังหลวงในสายตาปัจจุบันอีกทีหนึ่งนะครับ
.....พระราชวังหลวงของจักรพรรดิ์ญวนทั้งหมดที่เห็นอยู่นี้ ในคำบรรยายที่มีอยู่เขาบอกว่า เป็นการแกะแบบเอามาจากวังหลวงของเมืองจีน....ที่เมืองปักกิ่งที่จริงแล้ว หากมองแบบกว้างๆตามสายตาของคนต่างชาติแล้ว พระราชวังที่เมืองเว้นี้ก็น่าจะอลังการณ์พอสมควร....หากใครยังไม่เคยเห็นวังหลวงของจักรพรรดิ์จีนที่เมืองปักกิ่งมาก่อน
แต่ถ้าหากใครเคยเห็นมาแล้วก็ต้องบอกว่า “คนละชั้นครับเพ่”......
สาเหตุที่ต้องบอกว่าคนละชั้นนั่น คงไม่ต้องอธิบายมากครับ เพราะขนาดของประเทศเวียตนามและประเทศจีน รวมไปถึงจำนวนพลเมืองมันห่างกันหลายสิบเท่า.....แล้วยังเกี่ยวพันมาถึงเรื่องของศิลปะที่เวียตนามไปก็อปปี้เอามาจากจีนอีกทอดหนึ่งด้วยแล้ว....การณ์มันจะเป็นยังไง ผมว่าคุณน้องน้าอาหลานคงจะประเมินสภาพความเป็นจริงออกนะครับ
รายการก็อปปี้อย่างนี้ ก็มีให้เห็นในประเทศไทยเรา...คราวที่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 4 ขอเจ้าศรีสวัสดิ์(ปู่ของเจ้าสีหนุ)มาเป็นพระราชบุตรบุญธรรมในพระบรมมหาราชวัง....ตามประเพณีการรบทัพจับศึกแบบโบราณ ......
ครั้นเจ้าศรีสวัสดิ์เป็นหนุ่มและได้รับการสถาปนาจากรัชกาลที่ 4 แต่งตั้งให้เป็นพระมหากษัตริย์ปกครองประเทศเขมรแล้ว.....เจ้าศรีสวัสดิ์ได้ขอพระบรมราชานุญาติถ่ายทอดเอาศิลปะการสร้างพระราชวัง
ไปทำเป็นวังหลวงที่เมืองเขมร แล้วตั้งชื่อพระที่นั่งองค์ต่างๆเลียนแบบของไทยเราด้วย.....เช่นพระที่นั่งมุขกระสัน.....ทางเขมรตั้งเป็นพระที่นั่งมุขเวียง.....พระที่นั่งวิมานเมฆ...เขมรตั้งชื่อเป็นพระที่นั่งวิมานอากาศ
สรุปแล้ว ทั้งวังเขมรและวังของจักรพรรดิเวียตนามก็อยู่ในอาการเดียวกัน.....และแถมเกิดอาการหนักกว่าเดิมอีกพอสมควร