ณ ห้องเรียน ในโรงเรียนใหญ่แห่งหนึ่ง
ในสายตาของโรงเรียนหลากหลายโรงเรียน นักเรียนห้องนี้ ของโรงเรียนนี้จะมีโอกาสเติบโตก้าวหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้งเพราะสภาพแวดล้อมแห่งการเสริมสร้างพัฒนาการที่ครบครัน ห้องเรียนนี้มีหัวหน้าห้องที่ผ่านการลงคะแนนเสียงตามระบอบประชาธิปไตย ที่เป็นธรรมเนียม ระเบียบ กฎเกณฑ์ปฎิบัติกันมา แม้ว่าคุณครูที่ปรึกษาจะมองเห็นว่ามีเด็กบางคนที่น่าจะเหมาะสม แต่คนที่อยู่ด้วยกันคือเพื่อนนักเรียนย่อมรู้ดีกว่าครูว่าใครควรจะเป็นหัวหน้าห้องของตนเอง
ในวันที่ลงคะแนนเสียงเลือกหัวหน้าห้อง เด็กในห้องมีทั้งหมด 50 คน มีตัวแทนเพื่อนักเรียนที่เพื่อนๆ เสนอชื่อเข้ามาทั้งแบบตั้งใจและสนุกสนาน ตามครรลองของสิทธิเสรีภาพของตนในการแสดงสิทธิ์เสนอชื่อหัวหน้าห้องให้เพื่อนๆทั้ง 50 คน ร่วมลงคะแนน โดยมี ดญ.เม็ดทราย ดช.ตัวตน และ ดช.อ่างทอง เข้าเป็นตัวเลือกให้เพื่อนๆ ครูที่ปรึกษานึกสนุกจึงให้เด็กทั้งสามคน ลองเสนอแนวคิดว่าจะมีทำอะไรให้เพื่อนๆและห้องเรียนของเรา
ดญ.เม็ดทราย คิดได้ว่า หนูจะให้เพื่อนๆ มีรายได้ โดยการทำงานที่ตนเองถนัด และความถนัดนี้ทางโรงเรียนก็น่าจะสนับสนุนเพื่อให้เป็นจุดเด่นของโรงเรียนต่อไป
ดช.ตัวตน คิดได้ว่า ผมเป็นคนเรียนเก่ง ถ้าเพื่อนๆเลือกผมเดี๋ยวผมจะใช้ความสามารถของผมทำประโยชน์ให้เพื่อนๆ
ดช.อ่างทอง คิดได้ว่า เพื่อนๆ เสนอชื่อมาสนุกๆ เลยบอกเพื่อนว่าถ้าเพื่อนๆ เลือกก็ขอเป็นหัวหน้าห้อง หรือเลขาห้องพอ ไม่เอาหัวหน้าห้องจะทำหน้าที่คอยตรวจสอบแทนเพื่อนๆ ให้น่าจะเหมาะสมกว่า สนุกกว่าให้เรามานั่งคิดทำอะไรมากมายไม่สนุกเราไม่ทำ
แล้วผลการลงคะแนนหัวหน้าห้อง ก็ปรากฎว่า
ดญ. เม็ดทราย ได้คะแนนจากเพื่อนๆ ทั้งหมด 35 คน
ดช. ตัวตน ได้คะแนนจากเพื่อนๆ ทั้งหมด 10 คน
ดช.อ่างทอง ได้คะแนนจากเพื่อนๆ ทั้งหมด 3 คน
เพื่อนนักเรียนไม่ออกเสียง 2 คน
เพื่อนๆ ต่างตรบมือให้กำลังใจ ดญ.เม็ดทราย ที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนห้อง การเวลาผ่านเลยไปจนเข้าเทอม 2 ด้วยงานกีฬาสีจะมีในเทอม 2 โดยโรงเรียนจะให้เงินในการจัดงานกีฬาสีตามจำนวนนักเรียน  ดช.ตัวตน คิดว่าหากเราไม่ได้เป็นหัวหน้าห้องก็จะไม่ได้เป็นตัวแทนเพื่อนๆ ในการนำเงินที่โรงเรียนให้มาใช้ในกลุ่มเพื่อนผู้ชายที่ลงกีฬา เพราะเกรงว่า ดญ.เม็ดทรายจะนำเงินที่ได้ทุ่มลงไปที่งานกองเชียร์จนหมด ซึ่งเห็นว่าผู้หญิงชอบฟุ่มเฟือยเรื่องพวกนี้
ดช.ตัวตน จึงเข้าไปบอกกับผู้ปกครองตัวเองที่เป็นผู้สนับสนุนโรงเรียน และสนิทกับ ผอ. โดยไม่ผ่านการสอบถามเพื่อนๆ ด้วยกันและ คุณครูที่ปรึกษาประจำชั้นของตน
ดช.ตัวตนบอกว่าพวกผมซึ่งเป็นส่วนใหญ่ของห้องได้คุยกันแล้วว่าจะขอเป็นหัวหน้าห้องเอง ในเทอม 2 นี้เท่านั้นแล้วพอขึ้นชั้นเราก็จะมาเลือกหัวหน้าห้องกันใหม่ ครั้นกระนั้นในเทอม 2 ทาง ผอ. ได้แจ้งมายัง ครูที่ปรึกษาประจำชั้นว่าในเทอม 2 นี้ให้ ดช.ตัวตนเป็นหัวหน้าห้อง เพราะเพื่อนๆ เรียกร้องมาให้เป็น และ ผู้ปกครองของ ดช.ตัวตน เป็นผู้สนับสนุนโรงเรียนมาโดยตลอด
พอวันเปิดเทอมวันแรก ดช.ตัวตน ได้เป็นหัวหน้าห้อง ดญ.เม็ดทรายเป็นรองหัวหน้าห้อง โดยเพื่อนๆ ต่างมึนงงกันอยู่ จนครูประจำชั้นเข้ามา ดช.เฉย ถามว่า คุณครูครับทำไมเปลี่ยนหัวหน้าห้องโดยไม่ผ่านการลงคะแนนจากเพื่อนๆครับ และปกติวาระ 1 ปีนิครับ
คุณครู ก็เพื่อนๆ เราส่วนใหญ่บอกว่าขอเปลี่ยนนิค่ะ เห็นแจ้งไปยัง ผอ. ครูก็รับเรื่องให้แล้วค่ะ
ดช.เฉย ถาม ครูครับ คราวลงคะแนนคราวที่แล้วผม เป็นคนลงงดออกเสียงครับ กับ ดช.เมย ครับ ผม 2 คนที่ไม่ออกเสียง ถึงจะเอาคะแนนเสียงผมไปรวม ตัวตน ก็ยังไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่ และการที่ผม 2 คนงดออกเสียงเพราะผมอยากดูการทำงานก่อนและจะลงให้ในปีหน้าครับ แล้วอย่างนี้ผมไม่มีสิทธิ์ในห้องนี้แล้วเหรอครับ
คุณครู ก็เพื่อนๆ เราบอกมา และ ผอ. แจ้งเป็นคำสั่งแล้ว
ดช.วันใหม่ จึงบอกต่อเพื่อนๆ ว่า คุณครูครับ ในเมื่อคุณครูเป็นคนกลาง หนูอยากให้มีการเลือกตั้งใหม่ มันไม่ถูกต้องกับ ดญ.เม็ดทราย และ สิทธิของเพื่อนๆ ที่ให้กับ เม็ดทราย หนูอยากขอใช้สิทธิครับของพวกหนูครับ และเทอม 2 มีกีฬาสี ผมว่าถ้าอยากได้สิทธิในการจัดงานกีฬาสีของห้อง ก็ควรให้ทั้งสองมาเสนอแนวทางการจัดงานห้องสิครับ ไม่ใช่การละเมิดสิทธิคนอื่น
ถ้าอยากละเมิดสิทธิคนอื่น ก็ควรจะกระทำตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ไม่มีการเลือกตั้ง ถ้ามีกติกาแล้วไม่ปฎิบัติ หนูอับอาย และ วางตัวไม่ถูกกับสังคมภายในโรงเรียน คุณครูครับ ผมอายน้องๆ ป1 ครับ เข้ายังใช้สิทธิและไม่เห็นมีการเปลี่ยนแปลงแบบนี้
ครูครับ สิทธิของผม ผมจะเลือกตั้งใหม่ จะเอาพ่อแม่ ผอ. มาอ้าง จะใส่ร้ายเพื่อนมนุษย์ด้วยความเลวร้าย และจงเกลียดจงชัง ผมไม่สน ผมสนแต่แนวทางการพัฒนาและสิ่งที่พวกผมสัมผัสและพิสูจน์ได้ พวกมโนภาพและคำกล่าวเลื่อนลอย น้องๆ ประถม ยังไม่ค่อยจะพูดออกมาเลยครับ
คุณครูจึงสรุปว่าอาทิตย์ถัดไปเลือกตั้งใหม่
ในระหว่างสัปดาห์กลุ่มของ ดช.ตัวตนได้ทำการข่มขู่เพื่อนๆ ที่เคยลงคะแนนให้ตน ต้องลงคะแนนให้ตนให้ได้ ระหว่างนั้นก็แกล้ง ดญ.เม็ดทรายด้วยการกล่าวอ้างเรื่อง เงินห้องหาย เม็ดทรายขโมยเงินไปซื้อขนม และ แกล้งโกหกเพื่อนๆ บางคนว่าเป็นวันหยุดในวันที่ลงคะแนนเสียง บ้างก็ถึงขั้นโทรไปบอกผู้ปกครองว่าโรงเรียนให้หยุด 1 วัน จนแล้วจนรอด เหลืออีกเพียง 1 วัน ก่อนการลงคะแนน ผู้ปกครองเพื่อนนักเรียนคนอื่นไม่โง่ ก็รู้เรื่องเข้าจนได้
ดช.ตัวตน จีงรวมเพื่อนๆ เด็กหลังห้อง เข้ามาปิดประตูห้องเรียน โดยมีอาวุธครบมือ เพื่อนๆ อีก 40 คนไม่สามารถเข้าห้องได้ และเพื่อน 40 คนตระหนักถึงกฎระเบียบของโรงเรียนในการไม่ก่อการทะเลาะวิวาทกัน เพราะมีโทษไล่ออก เพื่อนๆ จึงไปห้องเรียนอื่นแทน ไม่มีการลงคะแนน
แต่เพื่อนๆ ยังคงยึดมั่นว่าตนเองมีสิทธิมีเสียง
วันรุ่งขึ้นสิ่งที่เกิดขึ้นคือ เพื่อนๆ 40 ได้ไปบอกเพื่อนๆ นักเรียนห้องอื่นๆ ทั้งโรงเรียนทุกระดับชั้น และทั้งหมดต่างออกมารวมตัวกันที่หน้าห้อง
....
....
....
มารวมกันที่หน้าห้อง ผอ. โดยไม่สนใจ คน 10 คนนั้น เพื่อนนักเรียนมากัน 600 คน ยืนรอหน้าห้อง ผอ. ไม่สนใจเรื่อง นายตัวตนอีกต่อไป และขับไล่ ผอ. โทษฐาน ประพฤติมิชอบ มีการรับเงินจากผู้ปกครองโดยไม่เบิกจ่ายผ่านระบบ สนับสนุนการคอรัปชั่น ไม่สมควรเป็น ผอ. โรงเรียนแห่งนี้อีกต่อไป และนำเรื่องส่งกระทรวงศึกษา เพราะนักเรียนทั้งหมดต้องการให้กฎหมาย กฎระเบียบคงอยู่ และข้าราชการต้องทำงานเป็น ข้าพระบาทของพระราชาอย่างแท้จริง ไม่ใช้คิดคดกบฎต่อต้านระบอบการปกครองแบบเงียบ โดยเอาสถาบันมาแอบอ้าง
ผลสรุป เม็ดทรายกลับมาเป็นหัวหน้าห้อง โดยมีอ่างทองเป็นผู้ตรวจสอบ ส่วน ดช.ตัวตน ย้ายโรงเรียนไปเนื่องจากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในโรงเรียน ได้นินทาว่าเป็นเด็กขาดความอบอุ่น ไม่มีน้ำใจนักกีฬา และไม่ให้เกียรติเพื่อนๆด้วยกัน สุดท้าย ดช.ตัวตนจึงย้ายโรงเรียนหนีไปและได้เป็นหัวหน้าห้องในโรงเรียนใหม่ขนาดเล็กที่ไม่มีคนรู้จักอีกเลย