มีโรงเรียนหนึ่งชื่อ
โรงเรียนฟุตบอลไทย
เป็นโรงเรียนรัฐบาลแห่งเดียว ที่มีสิทธิ์ส่งเด็กไปสอบชิงทุนต่างประเทศได้
ทำการสอนตั้งแต่ชั้นประถมถึงชั้นอุดมศึกษา
มีผู้อำนายการชื่อ อ๊อด
มีครูคนหนึ่งชื่อครูโก้
ครูคนนี้จบจากโรงเรียนฟุตบอลไทยสมัย
ผอ.หมูวี
ความสามารถคือสอนเด็กชั้นประถม
แต่เนื่องจากว่า ผอ.หมูวี เข้ากันได้ดี
จึงถูกข้ามขั้นจัดให้ไปสอนชั้นอุดมศึกษา
ผอ.หมูวี มักจัดให้ไปสอบชิงทุนกับนักเรียน ลาว เขมร พม่า เวียตนาม ในอาเซียน และโรงเรียนอ่อนในบางประเทศ
มักจะมีคะแนนเหนือกว่าเสมอ
ต่อมาเปลี่ยนเป็น ผอ.อ๊อด
แกก็สนับสนุนไปแข่งกับนักเรียนระดับดีในเอเซีย (ยังไม่ใช่ระดับโลก)
ปรากฏว่าโค้ชโก้เก็งข้อสอบไม่ถูก เพราะคุ้นเคยกับแค่นักเรียนในอาเซียน
แต่ที่สำคัญคือ
ครูประเทศอื่นขยันทำการบ้านมากกว่า คิดจะให้ชนะนักเรียนไทยเท่านั้น
ทุกครั้งจึงเตรียมตัวเก็งข้อสอบมาดี อ่านทะลุหัวครูโก้ และมักจะชนะคะแนนถล่มทลายเหนือเด็กนักเรียนของครูโก้ ทุกครั้ง
แต่กระนั้นก็ดี
มักจะมีผู้ปกครอง เพื่อนและคนที่นิยมชมชื่นครูโก้ มาแก้ต่างแกมทวงบุญคุณว่า ครูโก้นี่แหละดีที่สุดแล้ว
นักเรียนไทยมันได้แค่นี้แหละ
จะเอาอะไรมาก
ผลคือ
นักเรียนโรงเรียนฟุตบอลไทยเมื่อไปเทียบกับนักเรียนในเอเซียแล้ว สอบตกซ้ำชั้นปีแล้วปีเล่า
จนกลายเป็นเด็กโข่ง
แต่กองเชียร์ครูโก้
ก็มักสร้างกระแสให้โรงเรียนปล่อยเกรดให้อยู่ในระดับมหาวิทยาลัยให้ได้
โรงเรียนเอกชนที่อื่นก็เริ่มไม่เห็นความสำคัญ ที่จะปล่อยนักเรียนมาเรียนต่อในโรงเรียนฟุตบอลไทย
เพราะเขาไม่ใช่แฟนคลับครูโก้
ฉะนั้นโรงเรียนฟุตบอลไทยคงไปไหนไม่ได้
หากยังคิดว่าครูโก้สอนในระดับอุดมศึกษาได้อยู่ แทนที่จะสอนแค่ชั้นประถม
เราต้องไม่ลืม
การสอบชิงทุนกับระดับทวีป ระดับโลก
ไม่ใช่แค่ไปงั้นๆ ต้องมีความหวังด้วย
โรงเรียนสิงคโปร์ที่สอบสู้ไทยไม่ได้
ยังได้คะแนนเท่ากับญี่ปุ่นในรอบที่แล้ว แต่เด็กนักเรียนไทยไม่เคยเลย มันบอกถึงเรื่องการทำการบ้าน ไม่ใช่มาตรฐานอย่างเดียว
มีโรงเรียนหนึ่งชื่อ โรงเรียนฟุตบอลไทย
เป็นโรงเรียนรัฐบาลแห่งเดียว ที่มีสิทธิ์ส่งเด็กไปสอบชิงทุนต่างประเทศได้
ทำการสอนตั้งแต่ชั้นประถมถึงชั้นอุดมศึกษา มีผู้อำนายการชื่อ อ๊อด
มีครูคนหนึ่งชื่อครูโก้
ครูคนนี้จบจากโรงเรียนฟุตบอลไทยสมัย ผอ.หมูวี
ความสามารถคือสอนเด็กชั้นประถม
แต่เนื่องจากว่า ผอ.หมูวี เข้ากันได้ดี จึงถูกข้ามขั้นจัดให้ไปสอนชั้นอุดมศึกษา
ผอ.หมูวี มักจัดให้ไปสอบชิงทุนกับนักเรียน ลาว เขมร พม่า เวียตนาม ในอาเซียน และโรงเรียนอ่อนในบางประเทศ มักจะมีคะแนนเหนือกว่าเสมอ
ต่อมาเปลี่ยนเป็น ผอ.อ๊อด
แกก็สนับสนุนไปแข่งกับนักเรียนระดับดีในเอเซีย (ยังไม่ใช่ระดับโลก)
ปรากฏว่าโค้ชโก้เก็งข้อสอบไม่ถูก เพราะคุ้นเคยกับแค่นักเรียนในอาเซียน
แต่ที่สำคัญคือ
ครูประเทศอื่นขยันทำการบ้านมากกว่า คิดจะให้ชนะนักเรียนไทยเท่านั้น
ทุกครั้งจึงเตรียมตัวเก็งข้อสอบมาดี อ่านทะลุหัวครูโก้ และมักจะชนะคะแนนถล่มทลายเหนือเด็กนักเรียนของครูโก้ ทุกครั้ง
แต่กระนั้นก็ดี
มักจะมีผู้ปกครอง เพื่อนและคนที่นิยมชมชื่นครูโก้ มาแก้ต่างแกมทวงบุญคุณว่า ครูโก้นี่แหละดีที่สุดแล้ว
นักเรียนไทยมันได้แค่นี้แหละ จะเอาอะไรมาก
ผลคือ
นักเรียนโรงเรียนฟุตบอลไทยเมื่อไปเทียบกับนักเรียนในเอเซียแล้ว สอบตกซ้ำชั้นปีแล้วปีเล่า จนกลายเป็นเด็กโข่ง
แต่กองเชียร์ครูโก้ ก็มักสร้างกระแสให้โรงเรียนปล่อยเกรดให้อยู่ในระดับมหาวิทยาลัยให้ได้
โรงเรียนเอกชนที่อื่นก็เริ่มไม่เห็นความสำคัญ ที่จะปล่อยนักเรียนมาเรียนต่อในโรงเรียนฟุตบอลไทย เพราะเขาไม่ใช่แฟนคลับครูโก้
ฉะนั้นโรงเรียนฟุตบอลไทยคงไปไหนไม่ได้ หากยังคิดว่าครูโก้สอนในระดับอุดมศึกษาได้อยู่ แทนที่จะสอนแค่ชั้นประถม
เราต้องไม่ลืม
การสอบชิงทุนกับระดับทวีป ระดับโลก ไม่ใช่แค่ไปงั้นๆ ต้องมีความหวังด้วย
โรงเรียนสิงคโปร์ที่สอบสู้ไทยไม่ได้ ยังได้คะแนนเท่ากับญี่ปุ่นในรอบที่แล้ว แต่เด็กนักเรียนไทยไม่เคยเลย มันบอกถึงเรื่องการทำการบ้าน ไม่ใช่มาตรฐานอย่างเดียว