ถ้าพูดเฉพาะสังคมโรงเรียน ช่วงอนุบาล 1-ป.5 ถือว่าดีมาก
ไม่ค่อยมีปัญหาหรือเรื่องราวหลอนๆ
จริงๆแล้ว ผมควรจบ ป.6 ที่โรงเรียนเดิม
แต่พ่อนี่สิ จำต้องย้ายบ้าน ผมเองจึงต้องย้ายโรงเรียนตามไปด้วย
ตอนนั้นประมาณปี 2525 เป็นช่วงที่ครูหลายคนยังใช้ไม้เรียว
โรงเรียนใหม่ของผมเป็นโรงเรียนสหศึกษา
มีทั้งนักเรียนชายและหญิง
ตอนพ่อพาผมไปสมัครเรียน ยังเป็นช่วงปิดเทอม
ผมอยู่ในห้อง ผอ. แค่ไม่นาน พ่อก็ให้ผมไปเดินเล่นก่อน
เพราะพ่ออยากคุยกับท่าน ผอ.ต่อ
ตอนนั้นผมน่าจะเดินไปข้างๆโรงเรียนนะครับ
แต่จำไม่ได้ว่าข้างไหน ตอนนั้นผมยังเด็กมาก
แต่ตอนนี้ผมอายุ 53 แล้ว คงต้องค่อยๆนึก
เอาเป็นว่าผมเดินจนมาเจอภาพที่ยังจำฝังใจ
มันเป็นภาพของเด็กผู้ชายที่อายุมากกว่าผม
ตอนนั้นผมประมาณ 11-12 เขาก็น่าจะอายุ
ประมาณ 14-15 เขากำลังทำท่าวิดพื้นท่าเตรียม
ตอนนั้นเขาสวมกางเกงขาสั้นตัวเดียว ไม่สวมเสื้อ
ที่อยู่กับเขาคือผู้ชายคนหนึ่ง อายุประมาณ 30-35
หน้าตาหล่อมาก ถึงสวมเสื้ออยู่ก็ยังเห็นมัดกล้าม
ตอนนั้นเขาเอาไม้เรียวฟาดไปที่หลังของเด็กผู้ชายคนนั้นอย่างแรง
ตอนผมเห็น ผมตกใจมาก แต่ไม่ร้องออกมา
ผมค่อยๆถอยมาจากตรงนั้นอย่างเงียบๆ
ภาพที่เห็นทำเอาผมหลอนมาก
เป็นภาพความโหดร้ายที่ผมเห็นเป็นครั้งแรก
ปัจจุบันก็ยังจำได้อย่างแม่นยำ
หลังจากนั้น ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากจนกระทั่งเปิดเทอม
จนเข้าห้องมาพบครูประจำชั้น
ตอนแรกผมตกใจมากที่พบผู้ชายสุดโหดคนนั้น
สมมติว่าเขาชื่อว่าครูโก้นะครับ
ตอนนี้ครูโก้คือครูประจำชั้นห้อง ป.6/1 ของผม
แถมแกยังเป็นหัวหน้าฝ่ายปกครอง หัวหน้าวิชาลูกเสือ
และเป็นครูพละด้วย ตอนเจอแกหน้าห้อง ผมใจสั่นมาก
แต่มันดันมีความคิดประหลาดแล่นเข้ามาในหัวผม
นั่นก็คือผมคิดว่าผมโชคดี
ตอนนั้นพ่อผมเจ้าชู้มาก ไม่ค่อยอยู่บ้าน
ผมมักจะอยู่กับแม่ แม่เองก็เลี้ยงผมแบบประคบประหงม
ผมก็เลยแค่คิดว่ามาเจอครูโหดๆผมจะได้แมนมากขึ้น
สรุปก็คือตอนนั้นมันเลยกล้าๆกลัวๆ
รู้สึกว่าทั้งโชคดีและโชคร้าย
วันนั้นก่อนจาก แกสั่งให้ทุกคนนำผ้าขี้ริ้วมาคนละผืนในวันพรุ่งนี้
ผมเองกลับไปบ้าน ลืมจดว่าแกสั่งอะไร
พอวันรุ่งขึ้น คาบสุดท้าย แกทวงถามผ้าขี้ริ้ว
ปรากฏว่าผมลืมสนิทเลย วันนั้นมีคนลืมเอาผ้าขี้ริ้วมา
ประมาณ 5 คนเป็นนักเรียนหญิง 3 นักเรียนชาย 2
1 ใน 2 ก็คือผมนี่เอง
แกให้นักเรียนหญิง 3 คนไปนั่งที่ แกพูดว่า
"ฉันไม่ชอบลงโทษนักเรียนหญิง ขอลงโทษแต่นักเรียนชาย"
ฟังแล้วรู้สึกฮึกเหิมครับ
"เมื่อนายสองคนนี้ลืมเอาผ้าขี้ริ้วมา ครูก็จะขอให้ทั้งสองถอดเสื้อออก
แล้วเอาเสื้อของตัวเองมาทำผ้าขี้ริ้ว ส่วนคนอื่นให้เก็บผ้าขี้ริ้วกลับบ้าน"
ผมกับเพื่อนถอดเสื้อออกใส่ตระกร้าของครู
ถึงจะอายเพื่อนมาก แต่ก็รู้สึกดี
เพราะตอนอยู่บ้าน แม่จะไม่อนุญาตให้ถอดเสื้อเด็ดขาด
ตอนใส่เสื้อก็ต้องติดกระดุมเม็ดบน
ตอนจะไปอาบน้ำ ก็ให้เอาเสื้อกับกางเกงไปเปลี่ยนในห้องน้ำ
แม่บอกว่า ห้ามนุ่งผ้าขาวม้า มันไม่เรียบร้อย
พอผมถูกบังคับให้สละเสื้อเป็นผ้าขี้ริ้ว ผมรู้สึกได้รับการปลดปล่อย
รู้สึกว่าผมเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่ง
วันนั้น ผมกับเพื่อน (เพื่อนชื่อหว่าน) ต้องทำเวรกันสองคน
มันโหดเหมือนกันนะที่ต้องทำกันแค่สองคน
ตอนถูห้องก็ต้องใช้เสื้อของเราถู
ถูเสร็จ ครูโก้ให้เราทิ้งเสื้อลงถังขยะ
เราสองคนจึงต้องเดินไม่สวมเสื้อกลับบ้าน
โชคดีที่บ้านผมกับหว่านอยู่ใกล้ๆโรงเรียน
การได้ถอดเสื้อเดินในที่สาธารณะทำให้ผมรู้สึกกลับมาเป็นผู้ชายอีกครั้ง
แต่พอใกล้จะถึงบ้าน (ซึ่งจริงๆคือตึกแถว 2 หรือ 3 คูหานี่แหละ)
ผมแวะบ้านเพื่อนก่อน ขอยืมเสื้อนักเรียนใส่
เพราะถ้าแม่รู้ ต้องเป็นเรื่องแน่
เจอการลงโทษของครูโก้ ผมรู้สึกว่ามันยังไม่โหดเท่าไหร่
พอรับได้
แต่พอผ่านไปสักวันสองวัน หรือสี่ห้าวันก็ไม่รู้
จำไม่ค่อยได้
ขณะเรียน ผมขออนุญาตไปเข้าห้องน้ำ
แต่ขณะเดินบนระเบียงตึก ผมเห็นครูโก้ลงโทษรุ่นพี่อยู่
ตอนนั้นรุ่นพี่ไม่สวมเสื้อ เอามือจับราวระเบียงตึก
แล้วครูโก้ก็ใช้มือฟาดหลังเป็นระยะๆ
โทษฐานที่ขอมาเข้าห้องน้ำ แต่ดันมายืนดูรุ่นพี่ในสนาม
กำลังซ้อมบอลกันอยู่
ตอนนั้นผมเองรีบเดินไปห้องน้ำ
แล้วคิดวนไปวนมาในหัวว่าจะทำยังไงดี
สุดท้ายผมก็ตัดสินใจเอาเสื้อออกนอกกางเกง
ปลดกระดุมเม็ดบนสองเม็ดแล้วเดินออกจากห้องน้ำ
ตอนนั้นแกปล่อยรุ่นพี่ไปแล้ว แต่สายตาเจ้ากรรมกลับมองเห็นผม
ผมพยายามทำใจดีสู้เสือ ตอนนั้นไม่แน่ใจเหมือนกันว่า
ตัวเองคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงกล้าแต่งตัวแบบนั้น
เดินเข้าหาครูปกครองที่โหดที่สุด
พอผมกำลังจะเดินผ่านไป แกก็คำรามเสียงดังสนั่น
"หยุด หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ มืงกล้าแต่งตัวแบบนี้เดินผ่านกูเหรอ"
เสียงแกน่ากลัวมาก แต่ที่น่ากลัวกว่าคือ
แกกำลังเดินตรงมาที่ผม
ตอนนั้น หัวใจของผมแทบจะหยุดเต้น ...
ครูโหด ... โคตรซาดิสม์ ตอนที่ 1 ก้าวเท้าเข้าสู่โลกของเขา
ไม่ค่อยมีปัญหาหรือเรื่องราวหลอนๆ
จริงๆแล้ว ผมควรจบ ป.6 ที่โรงเรียนเดิม
แต่พ่อนี่สิ จำต้องย้ายบ้าน ผมเองจึงต้องย้ายโรงเรียนตามไปด้วย
ตอนนั้นประมาณปี 2525 เป็นช่วงที่ครูหลายคนยังใช้ไม้เรียว
โรงเรียนใหม่ของผมเป็นโรงเรียนสหศึกษา
มีทั้งนักเรียนชายและหญิง
ตอนพ่อพาผมไปสมัครเรียน ยังเป็นช่วงปิดเทอม
ผมอยู่ในห้อง ผอ. แค่ไม่นาน พ่อก็ให้ผมไปเดินเล่นก่อน
เพราะพ่ออยากคุยกับท่าน ผอ.ต่อ
ตอนนั้นผมน่าจะเดินไปข้างๆโรงเรียนนะครับ
แต่จำไม่ได้ว่าข้างไหน ตอนนั้นผมยังเด็กมาก
แต่ตอนนี้ผมอายุ 53 แล้ว คงต้องค่อยๆนึก
เอาเป็นว่าผมเดินจนมาเจอภาพที่ยังจำฝังใจ
มันเป็นภาพของเด็กผู้ชายที่อายุมากกว่าผม
ตอนนั้นผมประมาณ 11-12 เขาก็น่าจะอายุ
ประมาณ 14-15 เขากำลังทำท่าวิดพื้นท่าเตรียม
ตอนนั้นเขาสวมกางเกงขาสั้นตัวเดียว ไม่สวมเสื้อ
ที่อยู่กับเขาคือผู้ชายคนหนึ่ง อายุประมาณ 30-35
หน้าตาหล่อมาก ถึงสวมเสื้ออยู่ก็ยังเห็นมัดกล้าม
ตอนนั้นเขาเอาไม้เรียวฟาดไปที่หลังของเด็กผู้ชายคนนั้นอย่างแรง
ตอนผมเห็น ผมตกใจมาก แต่ไม่ร้องออกมา
ผมค่อยๆถอยมาจากตรงนั้นอย่างเงียบๆ
ภาพที่เห็นทำเอาผมหลอนมาก
เป็นภาพความโหดร้ายที่ผมเห็นเป็นครั้งแรก
ปัจจุบันก็ยังจำได้อย่างแม่นยำ
หลังจากนั้น ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากจนกระทั่งเปิดเทอม
จนเข้าห้องมาพบครูประจำชั้น
ตอนแรกผมตกใจมากที่พบผู้ชายสุดโหดคนนั้น
สมมติว่าเขาชื่อว่าครูโก้นะครับ
ตอนนี้ครูโก้คือครูประจำชั้นห้อง ป.6/1 ของผม
แถมแกยังเป็นหัวหน้าฝ่ายปกครอง หัวหน้าวิชาลูกเสือ
และเป็นครูพละด้วย ตอนเจอแกหน้าห้อง ผมใจสั่นมาก
แต่มันดันมีความคิดประหลาดแล่นเข้ามาในหัวผม
นั่นก็คือผมคิดว่าผมโชคดี
ตอนนั้นพ่อผมเจ้าชู้มาก ไม่ค่อยอยู่บ้าน
ผมมักจะอยู่กับแม่ แม่เองก็เลี้ยงผมแบบประคบประหงม
ผมก็เลยแค่คิดว่ามาเจอครูโหดๆผมจะได้แมนมากขึ้น
สรุปก็คือตอนนั้นมันเลยกล้าๆกลัวๆ
รู้สึกว่าทั้งโชคดีและโชคร้าย
วันนั้นก่อนจาก แกสั่งให้ทุกคนนำผ้าขี้ริ้วมาคนละผืนในวันพรุ่งนี้
ผมเองกลับไปบ้าน ลืมจดว่าแกสั่งอะไร
พอวันรุ่งขึ้น คาบสุดท้าย แกทวงถามผ้าขี้ริ้ว
ปรากฏว่าผมลืมสนิทเลย วันนั้นมีคนลืมเอาผ้าขี้ริ้วมา
ประมาณ 5 คนเป็นนักเรียนหญิง 3 นักเรียนชาย 2
1 ใน 2 ก็คือผมนี่เอง
แกให้นักเรียนหญิง 3 คนไปนั่งที่ แกพูดว่า
"ฉันไม่ชอบลงโทษนักเรียนหญิง ขอลงโทษแต่นักเรียนชาย"
ฟังแล้วรู้สึกฮึกเหิมครับ
"เมื่อนายสองคนนี้ลืมเอาผ้าขี้ริ้วมา ครูก็จะขอให้ทั้งสองถอดเสื้อออก
แล้วเอาเสื้อของตัวเองมาทำผ้าขี้ริ้ว ส่วนคนอื่นให้เก็บผ้าขี้ริ้วกลับบ้าน"
ผมกับเพื่อนถอดเสื้อออกใส่ตระกร้าของครู
ถึงจะอายเพื่อนมาก แต่ก็รู้สึกดี
เพราะตอนอยู่บ้าน แม่จะไม่อนุญาตให้ถอดเสื้อเด็ดขาด
ตอนใส่เสื้อก็ต้องติดกระดุมเม็ดบน
ตอนจะไปอาบน้ำ ก็ให้เอาเสื้อกับกางเกงไปเปลี่ยนในห้องน้ำ
แม่บอกว่า ห้ามนุ่งผ้าขาวม้า มันไม่เรียบร้อย
พอผมถูกบังคับให้สละเสื้อเป็นผ้าขี้ริ้ว ผมรู้สึกได้รับการปลดปล่อย
รู้สึกว่าผมเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่ง
วันนั้น ผมกับเพื่อน (เพื่อนชื่อหว่าน) ต้องทำเวรกันสองคน
มันโหดเหมือนกันนะที่ต้องทำกันแค่สองคน
ตอนถูห้องก็ต้องใช้เสื้อของเราถู
ถูเสร็จ ครูโก้ให้เราทิ้งเสื้อลงถังขยะ
เราสองคนจึงต้องเดินไม่สวมเสื้อกลับบ้าน
โชคดีที่บ้านผมกับหว่านอยู่ใกล้ๆโรงเรียน
การได้ถอดเสื้อเดินในที่สาธารณะทำให้ผมรู้สึกกลับมาเป็นผู้ชายอีกครั้ง
แต่พอใกล้จะถึงบ้าน (ซึ่งจริงๆคือตึกแถว 2 หรือ 3 คูหานี่แหละ)
ผมแวะบ้านเพื่อนก่อน ขอยืมเสื้อนักเรียนใส่
เพราะถ้าแม่รู้ ต้องเป็นเรื่องแน่
เจอการลงโทษของครูโก้ ผมรู้สึกว่ามันยังไม่โหดเท่าไหร่
พอรับได้
แต่พอผ่านไปสักวันสองวัน หรือสี่ห้าวันก็ไม่รู้
จำไม่ค่อยได้
ขณะเรียน ผมขออนุญาตไปเข้าห้องน้ำ
แต่ขณะเดินบนระเบียงตึก ผมเห็นครูโก้ลงโทษรุ่นพี่อยู่
ตอนนั้นรุ่นพี่ไม่สวมเสื้อ เอามือจับราวระเบียงตึก
แล้วครูโก้ก็ใช้มือฟาดหลังเป็นระยะๆ
โทษฐานที่ขอมาเข้าห้องน้ำ แต่ดันมายืนดูรุ่นพี่ในสนาม
กำลังซ้อมบอลกันอยู่
ตอนนั้นผมเองรีบเดินไปห้องน้ำ
แล้วคิดวนไปวนมาในหัวว่าจะทำยังไงดี
สุดท้ายผมก็ตัดสินใจเอาเสื้อออกนอกกางเกง
ปลดกระดุมเม็ดบนสองเม็ดแล้วเดินออกจากห้องน้ำ
ตอนนั้นแกปล่อยรุ่นพี่ไปแล้ว แต่สายตาเจ้ากรรมกลับมองเห็นผม
ผมพยายามทำใจดีสู้เสือ ตอนนั้นไม่แน่ใจเหมือนกันว่า
ตัวเองคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงกล้าแต่งตัวแบบนั้น
เดินเข้าหาครูปกครองที่โหดที่สุด
พอผมกำลังจะเดินผ่านไป แกก็คำรามเสียงดังสนั่น
"หยุด หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ มืงกล้าแต่งตัวแบบนี้เดินผ่านกูเหรอ"
เสียงแกน่ากลัวมาก แต่ที่น่ากลัวกว่าคือ
แกกำลังเดินตรงมาที่ผม
ตอนนั้น หัวใจของผมแทบจะหยุดเต้น ...