✿
ตั้ง กก. สอบ "ครูเต้าหู้ไข่" ดราม่าเด็กกราบหน้าเสาธง
ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา ประถมเขต 3 สุรินทร์ เผย สั่งโรงเรียนตั้งกรรมการสอบครู สั่งเด็กแพ้อาหารกินเต้าหู้ไข่ พร้อมสรุปเรื่องส่งเลขา สพฐ.แล้ว พร้อมกำชับให้กลุ่มครู ผู้บริหารระมัดระวังเรื่องสิทธิเด็ก ศุกร์ที่ 2 กันยายน 2559 เวลา 16.20 น.
กรณีคลิปเด็กนักเรียนหญิงโรงเรียนแห่งหนึ่ง ถูกบังคับให้ก้มกราบขอขมาครูที่หน้าเสาธง ด้วยเหตุผลที่เด็กอ้างแพ้อาหาร "เต้าหู้ไข่" ในอาหารกลางวันที่โรงเรียน ซึ่งครูท่านนี้เป็นผู้ดูแล แต่ครูกลับไม่เชื่อบอกให้เด็กกินให้ดู พอเด็กกินให้ดูยังไม่มีอาการแพ้ ครูก็มาให้เด็กขอขมาที่เด็กโกหก และทำให้เสียชื่อโรงเรียนทันทีทันใด จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ และเรียกร้องให้คุรุสภาตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง พร้อมแสดงความคิดเห็นตำหนิการกระทำของครูคนดังกล่าว
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 2 ก.ย.
นายคำปุ่น บุญเชิญ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา เขต 3 สุรินทร์ เปิดเผยว่า ตอนนี้ได้สั่งการให้ทางผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว จากการลงพื้นที่เมื่อวานนี้ได้ไปถามทั้งเด็กนักเรียน ผู้ปกครอง ผู้อำนวยการโรงเรียน และครูผู้สอน ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันคืออะไร ทราบ 2 ประเด็น คือ เรื่องมีการให้กินเต้าหู้ซ้ำเพื่อดูว่าแพ้หรือไม่แพ้ ซึ่งเป็นการสุ่มเสี่ยงมาก ต่ออนามัยของเด็ก ครูก็บอกว่าได้ทำบนพื้นฐานของความระมัดระวังและผู้ปกครองก็อยู่ อ้างส่งผลต่อเด็กนักเรียนทั้งหลายจะไม่ทานอาหาร เพื่อสร้างความเชื่อมั่นหมิ่นแหม่มากในประเด็นนี้ ส่วนประเด็นที่อยู่หน้าเสาธงปกติก็เป็นการฝึกระเบียบวินัยนักเรียนอยู่แล้ว พวกเราสมัยเป็นเด็กก็ทราบดีเข้าแถวครูมีอะไรที่ต้องแก้ไข เป็นกิจกรรมภายในของการจัดการเรียนการสอนกิจกรรมหน้าเสาธงเหมือนห้องเรียนใหญ่ ตนคิดว่าเป็นเรื่องปกติทั่วไป ถ้ามีกิจกรรมอะไรที่ต้องมีการปรับปรุงแก้ไขก็ทำหน้าเสาธงนั้นแหละ
"จากการสอบถามพบว่าแม่ของเด็กนักเรียนไม่ติดใจกล่าวโทษคุณครู ตนมองว่าเขาประมาทไปที่ไปให้เด็กกินเต้าหู้ซ้ำ ตนได้ต่อว่าไปว่าทีหลังอย่าทำแบบนี้อีก ซึ่งทางผู้อำนวยการโรงเรียนได้มีการว่ากล่าวตักเตือนไปแล้ว ซึ่งตนจะทำหนังสือสั่งการไปอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเมื่อวานทางโรงเรียนทำหนังสือรายงานเข้ามา ตนได้สรุปและทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้รายงาน เลขาธิการสพฐ.เรียบร้อยแล้ว โครงการอาหารกลางวันของสพฐ.สร.3 ใช้โปรแกรมไทยสคูลรัล เน้นเครื่องความสะอาด ปลอดภัย ของกระทรวงศึกษาธิการ เด็กบางคนแพ้ เราก็ต้องเข้าใจ ตนก็แพ้เหมือนกันทานผักชีฝรั่งไม่ได้ เมื่อวานนี้ได้ขึ้นไลน์กลุ่มผู้บริหารว่า เรื่องละเมิดสิทธิเด็ก การปฏิบัติหน้าที่ราชการใดๆ ที่กระทบสวัสดิการของเด็กต้องระมัดระวัง ตามจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ โดยเฉพาะเรื่องโภชนาการ" นายคำปุ่น กล่าว
✿ ✿ ✿ ✿ ✿
ที่มา :
http://www.dailynews.co.th/regional/521153
ความโง่เขลาของครูที่สอนวิทยาศาสตร์ที่ให้เด็กกราบขอขมา เพราะคิดว่าเด็กไม่แพ้อาหารจริง โดยการให้เด็กกินเต้าหู้ไข่อีกครั้ง
ทั้งๆ ที่เด็กอาจแพ้จริง และอาจทำให้เด็กถึงตายได้ นับว่าเป็นการพิสูจน์ที่ไง่เง่าจริงๆ
หรือเพราะต้องการเอาใจ ผอ.
✿ มีครูแบบนี้ ลูกหลานเราอาจตายได้ - ตั้ง กก. สอบ "ครูเต้าหู้ไข่" ดราม่าเด็กกราบหน้าเสาธง
✿ ตั้ง กก. สอบ "ครูเต้าหู้ไข่" ดราม่าเด็กกราบหน้าเสาธง
ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา ประถมเขต 3 สุรินทร์ เผย สั่งโรงเรียนตั้งกรรมการสอบครู สั่งเด็กแพ้อาหารกินเต้าหู้ไข่ พร้อมสรุปเรื่องส่งเลขา สพฐ.แล้ว พร้อมกำชับให้กลุ่มครู ผู้บริหารระมัดระวังเรื่องสิทธิเด็ก ศุกร์ที่ 2 กันยายน 2559 เวลา 16.20 น.
กรณีคลิปเด็กนักเรียนหญิงโรงเรียนแห่งหนึ่ง ถูกบังคับให้ก้มกราบขอขมาครูที่หน้าเสาธง ด้วยเหตุผลที่เด็กอ้างแพ้อาหาร "เต้าหู้ไข่" ในอาหารกลางวันที่โรงเรียน ซึ่งครูท่านนี้เป็นผู้ดูแล แต่ครูกลับไม่เชื่อบอกให้เด็กกินให้ดู พอเด็กกินให้ดูยังไม่มีอาการแพ้ ครูก็มาให้เด็กขอขมาที่เด็กโกหก และทำให้เสียชื่อโรงเรียนทันทีทันใด จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ และเรียกร้องให้คุรุสภาตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง พร้อมแสดงความคิดเห็นตำหนิการกระทำของครูคนดังกล่าว
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 2 ก.ย. นายคำปุ่น บุญเชิญ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา เขต 3 สุรินทร์ เปิดเผยว่า ตอนนี้ได้สั่งการให้ทางผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว จากการลงพื้นที่เมื่อวานนี้ได้ไปถามทั้งเด็กนักเรียน ผู้ปกครอง ผู้อำนวยการโรงเรียน และครูผู้สอน ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันคืออะไร ทราบ 2 ประเด็น คือ เรื่องมีการให้กินเต้าหู้ซ้ำเพื่อดูว่าแพ้หรือไม่แพ้ ซึ่งเป็นการสุ่มเสี่ยงมาก ต่ออนามัยของเด็ก ครูก็บอกว่าได้ทำบนพื้นฐานของความระมัดระวังและผู้ปกครองก็อยู่ อ้างส่งผลต่อเด็กนักเรียนทั้งหลายจะไม่ทานอาหาร เพื่อสร้างความเชื่อมั่นหมิ่นแหม่มากในประเด็นนี้ ส่วนประเด็นที่อยู่หน้าเสาธงปกติก็เป็นการฝึกระเบียบวินัยนักเรียนอยู่แล้ว พวกเราสมัยเป็นเด็กก็ทราบดีเข้าแถวครูมีอะไรที่ต้องแก้ไข เป็นกิจกรรมภายในของการจัดการเรียนการสอนกิจกรรมหน้าเสาธงเหมือนห้องเรียนใหญ่ ตนคิดว่าเป็นเรื่องปกติทั่วไป ถ้ามีกิจกรรมอะไรที่ต้องมีการปรับปรุงแก้ไขก็ทำหน้าเสาธงนั้นแหละ
"จากการสอบถามพบว่าแม่ของเด็กนักเรียนไม่ติดใจกล่าวโทษคุณครู ตนมองว่าเขาประมาทไปที่ไปให้เด็กกินเต้าหู้ซ้ำ ตนได้ต่อว่าไปว่าทีหลังอย่าทำแบบนี้อีก ซึ่งทางผู้อำนวยการโรงเรียนได้มีการว่ากล่าวตักเตือนไปแล้ว ซึ่งตนจะทำหนังสือสั่งการไปอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเมื่อวานทางโรงเรียนทำหนังสือรายงานเข้ามา ตนได้สรุปและทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้รายงาน เลขาธิการสพฐ.เรียบร้อยแล้ว โครงการอาหารกลางวันของสพฐ.สร.3 ใช้โปรแกรมไทยสคูลรัล เน้นเครื่องความสะอาด ปลอดภัย ของกระทรวงศึกษาธิการ เด็กบางคนแพ้ เราก็ต้องเข้าใจ ตนก็แพ้เหมือนกันทานผักชีฝรั่งไม่ได้ เมื่อวานนี้ได้ขึ้นไลน์กลุ่มผู้บริหารว่า เรื่องละเมิดสิทธิเด็ก การปฏิบัติหน้าที่ราชการใดๆ ที่กระทบสวัสดิการของเด็กต้องระมัดระวัง ตามจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ โดยเฉพาะเรื่องโภชนาการ" นายคำปุ่น กล่าว
ที่มา : http://www.dailynews.co.th/regional/521153
ความโง่เขลาของครูที่สอนวิทยาศาสตร์ที่ให้เด็กกราบขอขมา เพราะคิดว่าเด็กไม่แพ้อาหารจริง โดยการให้เด็กกินเต้าหู้ไข่อีกครั้ง
ทั้งๆ ที่เด็กอาจแพ้จริง และอาจทำให้เด็กถึงตายได้ นับว่าเป็นการพิสูจน์ที่ไง่เง่าจริงๆ
หรือเพราะต้องการเอาใจ ผอ.