[CR] เรือนจำสีชมพู เรือนจำเขากลิ้ง เรือนจำแห่งความหวัง สนามสอบเข้าของนักโทษกลับใจ

สวัสดีค่ะพี่ๆน้องๆชาวพันทิปทุกคน ยิ้ม) หลังจากด้อมๆมองๆ+สอดแนมเรื่องชาวบ้านมานาน วันนี้ก้มีโอกาสได้เขียนกระทู้ของตัวเองซักที ^^ ขอออกตัวก่อนเลยนะคะว่าอาจจะไม่ได้ดูน่าสนใจเท่าไหร่เพราะยังใหม่อยู่ ไม่เคยเขียนอะไรแบบนี้เลย555 แต่ก็อยากให้ทุกๆคนที่หลงเข้ามาได้อ่านนะคะ สำหรับเรา มันเป็นทั้งประสบการณ์และความประทับใจที่ดีครั้งนึงในชีวิตของเราเลยล่ะ.....


จากวันหยุดยาว 5 วันในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา เรากับครอบครัว มีพ่อแม่ตัวเราและน้องชายอีก 1 คน ก็มีโอกาสได้ไปเที่ยวที่จังหวัดเพชรบุรีซึ่งเป็นบ้านเกิดของพ่อเราเอง จริงๆก็จะไปทุกปีนี่แหละ แต่ที่เที่ยวจะเปลี่ยนๆไปเรื่อยๆ บ้านเราชอบเที่ยวมากเลย แต่เป็นเพราะการเรียนของเรามีวันหยุดน้อยกว่าชาวบ้าน ทั้งติดสอบนู่นนี่อีก ปีใหม่นี้เราเลยมีเวลาแค่ 2 วัน 1 คืนเท่านั้น


ก็ค่อยๆไล่ตามมาทีละที่เนอะ เราออกจากกรุงเทพแล้วก็แวะกินข้าวแกงที่ร้านข้าวแกงแม่ล้วนแถวๆเขาย้อย เป็นความฟินมื้อแรกของการไปเที่ยว เพราะมันอร่อยมากจนน้ำตาจะไหล คนที่ผ่านไปแถวนั้นคงรู้จักกันดี ผ่านไปเนอะ 555 เราแวะเอาสัมภาระไปเก็บที่ที่พักแถวแก่งกระจาน (ไม่เอ่ยชื่อละกันเนอะ เพราะไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่) หลังจากนั้น ก็ตะลุยเที่ยวแล้วหล่ะ ยิ้ม)



ที่แรกที่เราไป ไม่มีใครไม่รู้จักแน่นอน ก็คือ โครงการ 'ชั่งหัวมัน' ซึ่งเป็นของในหลวงของพวกเรานี่เอง ขอเล่าคร่าวๆหน่อยนะ ที่นี่ไม่เล่าไม่ได้จริงๆ ชื่ออาจดูแปลกไป แต่ที่มาคือ ในหลวงท่านทรงวาง 'หัวมัน' เอาไว้บน 'ตาชั่ง' อยู่ๆหัวมันก็งอกขึ้นมาเฉยเลย เปรียบกับที่ดินตรงนั้นแทนตาชั่งที่เมื่อก่อนแห้งแล้ง เพาะปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น ในหลวงท่านทรงซื้อไว้ในนาม 'ภูมิพล อดุลยเดช เกษตรกร' (ท่านลงนามแบบนี้จริงๆนะ) ท่านใช้ความรักความเอาใจใส่ รวมทั้งความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆพัฒนาพื้นที่ตรงนั้นจนผลิผลผลิตทางการเกษตรงอกงามซึ่งก็เปรียบเหมือนหัวมันที่สามารถงอกงามได้บนตาชั่งนั่นเอง เลยเป็นที่มาของชื่อโครงการ ยิ้ม) เราอยากให้ทุกคนไดัไปดูนะ จะได้เห็นความเอาพระทัยใส่และพระอัจฉริยะภาพของพระองค์ท่านจริงๆ ^^ ถ้าข้อมูลผิดไปขออภัยท่านผู้รู้ด้วยนะคะ




******** มาถึงไฮไลท์ของเรากันดีกว่า หลังจากกินข้าวกลางวันที่โครงการชั่งหัวมัน ก็มุ่งหน้ามาสู่ 'ศูนย์การเรียนรู้เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง' ชื่อดูวิชาการอะไรขนาดนั้น 555 จริงๆก็คือเรือนจำนั่นแหละค่ะ  ความรู้สึกแรกตอนพีอพูดชื่อก่อนมาเที่ยว จินตนาการว่า เรือนจำหรอ? คุก? นักโทษชุดสีส้ม? เจ้าหน้าที่ถือกระบอง? ความน่ากลัว?  เราคิดไปไกลมากๆ และรู้สึกว่า อะไรเนี่ย พามาทำไมเรือนจำ?? แต่พอมาถึงปุ๊ป เจอป้ายอักษรสีส้มตัวใหญ่ ออกแนวหวานแหวว หน้าตาประมาณว่า 'khaokling sheep farm' คือเราจำคำจริงๆไม่ได้อ่ะนะ แต่พรอพแบบ หน้าตาเหมือน swiss sheep farm มันเหมือนเอาไว้ถ่ายรูป อีกฝั่งเป็นกองฟาง รถตักดิน ประมานนี้ พรอพดูดีมาก fantasy สุดๆ เรากับแม่ถ่ายไปประมาน 100 รูป 555 มองถัดเข้าไปอีกหน่อยเป็น แกะ!!!!! เราเป็นพวกบ้าแกะไม่รู้ทำไม มันน่ารักดี เราเลยตรงเข้าไปที่ป้อมยาม (จริงๆคือนักโทษที่เฝ้ายามอยู่) ยามที่นี่ทาแป้งขาว เหมือนเพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ ดูดีเลย เราไปถามเค้าว่า พี่คะ ให้นมแกะต้องทำไง? เค้าก้บอกว่า บริจาคนมกับหญ้ากำละ 20 บาทครับ นอกนั้นบริจาคตามศรัทธา ไม่รอช้า เราก็ไปให้นมน้องแกะตัวจิ๋ว แย่งกันกินใหญ่เลย ดูคิ้วท์มาก เราอยากถ่ายรูปเลยถามพี่นักโทษ 2 คนที่คุมอยู่ พี่เค้าก็มาสอนอุ้มแล้วก็ถ่ายรูปให้ด้วย  มันเป็นความฟินครั้งที่ 2 ของเรา เราไม่เคยคิดว่าชาตินี้จะได้อุ้มแกะ 555 ตามฟาร์มแกะแพงๆ แค่เอาชนะฝูงมหาชนป้อนแกะก็ยากแล้ว ราคาแสนแพง แถมแกะดันหยิ่งอีก ชีวิตลำบากมาก มาที่นี่ ใกล้ชิดสุดๆ กอดรัดฟัดเหวี่ยงได้หมด ลูกแกะยังสดใหม่ เย้ยย 55





>> พอถัดมาเราก็มาขี่ม้าค่ะ เป็นม้าพันธุ์ไทย ตัวไม่สูงเหมือนม้านอก ตัวที่เราขี่ชื่อว่าหมอก อีกตัวจำๆไม่ได้แล้ว แต่ละตัวมีพี่ๆนักโทษคุมไปใกล้ชิดตลอดทัวร์เลยค่ะ ค่าทัวร์ก็ไม่แน่ใจนะ พ่อแม่เราจ่าย น่าจะ 300 บาท พาชมทั่วเรือนจำเลยค่ะ จะบอกว่าตอนแรกแอบบหวั่นเพราะเราก็กลัว ที่นี่ไม่มีแม้แต่ตำรวจหรือคนคุม มองไปทางไหนจะเห็นแต่คนเดินทั่วไปนั่นก็คือนักโทษค่ะ เสื้อผ้าแยกไม่ออกเลย ชุดที่พี่ๆเค้าใส่เป็นเสื้อลายสก็อตสีสรรหลากหลายมาก มองไม่รู้เลยค่ะว่านักโทษ และที่สำคัญคือ ไม่รู้เลยค่ะว่าเค้าทำผิดอะไรมา...

พี่ๆเค้าก็ค่อยๆพาเรากับน้องที่ขี่ม้าอยู่ และพ่อกับแม่ (ซึ่งเดินตามม้าค่ะ 555) ไปทัวทีละที่ เรื่อยๆตั้งแต่ ฟามเพาะเห็ด หมูหลุม วัวหลุม (หลุมคือเอาไว้ใส่อุนจิไปทำปุ๋ยค่ะ) สาธิตการทำน้ำหมักต่างๆ น้ำยากันยุงบ้างปุ๋ยบ้างเรื่อยๆค่ะ ฟังเพลินดีได้ความรู้ด้วย นักโทษแต่ละคนก็จะประจำฐาน มีหน้าที่เป็นของตัวเอง



มาถึงความฟินครั้งที่ 3 ของวันค่ะ ซุ้มนี้เป็นซุ้มเลี้ยงไก่และฟักลูกไก่ในตู้อบค่ะ ถ้าเราจำไม่ผิดคือ ไก่ 500 ตัวออกไข่ได้ประมาณ 450 ฟองต่อวัน ผลผลิตก็เอาไปขาย ประเด็นคือเงินที่ได้ไม่ได้เข้าเรือนจำค่ะ เป็นของพี่นักโทษที่กกไข่แหละค่ะ555 ดีจัง คุณลุงที่ประจำอยู่ก็ชี้ให้เราดู ปรากฏว่า!!!!!!!!! ลูกไก่ตัวสีดำๆกำลังเจาะเปลือกไข่ คลานออกมาหลับเอาหน้าพิงกระจกตู้อบค่ะ รู้สึกเหมือนขึ้นสวรรค์เกิดมาเคยกินแต่ไข่ไก่ ไม่เคยเห็นวินาทีแรกเกิดของลูกไก่เลยย เป็นความฟินที่หาดูไม่ได้ที่ไหนแน่นอนค่ะ





เนื่องจากลุงแกดูใจดีเราเลยถามว่า 'ลุงคะ อยู่ที่นี่เป็นไง'

ลุงตอบว่า 'โอ๊ยดีกว่าเรือนจำใหญ่เยอะเลย เหมือนได้ขึ้นสวรรค์ อยู่ที่นี่มีอิสระ ญาติๆมาเยี่ยมเราได้อาทิตย์ละ 2-3
ครั้ง มาเจอกันจับมือทักทายและกอดกันได้ ไม่เหมือนเรือนจำใหญ่ที่มองกันได้ผ่านกระจกเท่านั้น'

เราก็ถามต่อ 'แล้วใครสอนให้ลุงทำแบบนี้อ่ะคะ ลุงเป็นเองเลยหรอ?

ลุงแกตอบ 'เป็นลูกพี่ที่เค้าพ้นโทษได้ออกจากที่นี่ไปแล้วเข้ามาช่วยสอนให้ ตอนมาอยู่ใหม่ๆ จะมีการคัดเลือกว่าใครถนัดอะไรก็ไปทำอันนั้น คนนี้ถนัดปลูกผัก คนนั้นเคยเลี้ยงสัตว์ก็ไปประจำฐานที่มั่นของตัวเอง เงินที่ได้ ถ้าเราไม่กินข้าวที่เค้าจัดให้ เราก็ให้คนไปซื้อกับข้าวที่ตลาดมาทำกินกันเอง'

ได้ฟังแล้ว ที่นี่ดูเป็นระบบอุปถัมภ์ดีแฮะ พี่ช่วยน้อง เหมือนชีวิตมหาลัยไม่มีผิด มีสอนอาชีพงู้นงี้งี้งั้น ไม่เหมือนเรือนจำ ไม่มีการกักขัง งานสบาย มีที่พักอาหารเสร็จสรรพแถมได้เงินด้วย เข้าใจคำว่าสวรรค์ของคุณลุงเลยแหละค่ะ



เดินไปเดินมาเรื่อยๆ มาถึงที่ซะแล้ว แต่ว่ามันยังไม่เย็นมาก ไม่รีบกลับที่พัก เรากับพ่อเลยยืนคุยต่อกับพี่นักโทษ 2 คนที่คุมม้าพาเราเดินเที่ยว ไปๆมาๆพ่อเราเริ่มเปิดประเด็น

พ่อ: ขอโทษนะครับ น้องทำอะไรผิดมาถึงมาอยู่ที่นี่

พี่นักโทษ: ผมทำผิดคดียาเสพติด ส่วนอีกคน(คนที่จูงม้าให้เรา) เป็นคดีพยายามฆ่าครับ!!!! ณ จุดนี้ สตั๊นค่ะ 555

พ่อ: ที่นี่ดูปล่อยขนาดนี้ ไม่มีใครหนีบ้างหรอครับ

พี่นักโทษ: ไม่มีหรอกครับ พวกเราอยู่ที่เรือนจำใหญ่ ทุกๆปีจะมีการคัดเลือกนักโทษที่ไม่เคยทำผิดในเรือนจำเลย ปีละ 10-20 คนมาอยู่ที่นี่ นักโทษเป็นคดีใดก็ได้ที่ไม่ใช่การกระทำผิดต่อผู้หญิง ใครๆก็อยากมาที่นี่ อยู่นี่สบาย เค้าดูแลเราทุกอย่าง เราได้ทำงาน แฟนมาเยี่ยมก็มานอนด้วยได้ เพราะขืนปล่อยนานเค้าคงไม่รอรเราหรอกครับ เราได้กอดได้จับมือแม่ พอเราป่วย เฮีย(เจ้าหน้าที่ที่เป็นหัวหน้าเรือนจำ)ก็พาซ้อมมอไซค์ไปหาหมอ ให้ยืมเงินด้วย ใครทำผิดที่นี่แค่ 1 ครั้ง จะไม่มีโอกาสกลับมาอีกเลย ไม่มีใครกล้าเสี่ยงหรอกครับ

เรา:ที่นี่เค้าคุมกันไงหรอคะพี่

พี่นักโทษ: แต่ละฐานจะมีพี่นักโทษที่เป็นหัวหน้า คอยเช็คคนทุกๆชัวโมง ใครหายไปเราก็รู้ครับ ตี5 เราต้องตื่นมาทำงาน ตัวใครตัวมัน 6 โมงก็อาบน้ำนอนกันแล้วครับ ไม่มีโทรศัพท์มือถือ ไม่มีคนคุม พวกเค้าไว้ใจพวกเราครับ และพวกเราก็ซื่อสัตย์ต่อตัวเองด้วย ทุกๆปีจะตรวจรอยสัก ใครมีเพิ่มมาแม้แต่ขีดเดียวก็จะถูกส่งกลับไปที่เรือนจำใหญ่ ตั้งแต่ผมมาอยู่ที่นี่ ผมก็ไม่เคยได้ยินว่าใครทำผิดนะครับ มีแต่ว่าพี่นักโทษที่พ้นโทษออกไป ผมเรียกว่า เฒ้าแก่แล้วครับ รวยเป็นล้านๆเพราะพี่แกรับสร้างบ้านดิน บางคนก็ไปทำก่อสร้างครับ ไม่ไปเป็นลูกจ้างเขา แต่เป็นหัวหน้าคุม ผมก็จะพ้นโทษอยู่แล้ว คงไม่กลับไปขายยาแล้วครับ ผมอยากลืมตาอ้าปากได้....


มาถึงจุดนี้ ทุกอย่างดูโหลดอยู่ในหัวเต็มไปหมด เรือนจำที่เป็นความหวังของนักโทษ เรือนจำที่เป็นเหมือนแหล่งอนุบาลก่อนที่พวกเขาจะกลับไปสู่สังคม เรือนจำที่เป็นทั้งบ้านและเป็นที่ๆให้โอกาสไปในเวลาเดียวกัน ยิ้ม เราอยากให้บ้านของเราหรือว่าประเทศไทยของเรามีคนคิดจะทำอะไรแบบนี้เยอะๆ เท่าที่เรารู้มีที่นี่ที่เดียวที่ทำ สิ่งเดียวที่ต้องมีคือความรักและเสียสละเท่านั้น พวกพี่ๆที่นี่ก็จะมีความพร้อมสมบูรณ์พร้อมจะออกไปและไม่กลับเข้ามาอีก...




ได้เวลากลับบ้านของเราแล้ว เราหันหลังไปบ๊ายบายแล้วบอกว่า 'พี่ หนูจะพาเพื่อนมาเที่ยวนะ' พร้อมกับส่งจูบด้วยความอาลัยอาวรณ์ให้น้องแกะจอมเขมือบนมขวด 555 รู้สึกคุ้มค่าจริงๆที่ได้เข้ามาที่นี่ ขอเชิญมาอุดหนุนพี่ๆเค้ากันนะคะ จะได้มีกำลังใจและมีรายได้ด้วย ยิ้ม)


หวังว่าคนที่อ่านจบจะได้อะไรกลับไปไม่มากก็น้อยนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน ติชมหรือให้กำลังใจเราได้ตามสบายยนะคะ เราเป็นคนนึงที่อยากเป็นกระบอกเสียงของพี่ๆนักโทษว่า เค้าต้องการแค่โอกาสในการเริ่มต้นใหม่ แค่มีผู้ใจดีหยิบยื่นมาช่วยพวกเค้า สังคมเราจะน่าอยู่เพิ่มขึ้นมากหลายเท่าเลยหล่ะ ^^


                                                                                                    ---ขอบคุณมากนะค้า---
ชื่อสินค้า:   เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง เพชรบุรี
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่