′สมชัย′ เผยเมืองคอนออกประกาศฉุกเฉินย้ายที่สมัครไป ตชด.42 เพื่อไทย สมัครไปแล้ว 7 เขต มวลชนนับพันปิดล้อม ขณะที่ ′สงขลา-ภูเก็ต′ ยุติการรับสมัครแล้ว เตือนรัฐบาลเลือกตั้งเมื่อไหร่ก็ได้ แต่คนตายแล้วเอาคืนไม่ได้
เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม เวลา 10.15 น. ที่ศูนย์เชื่อมต่อรถโดยสารประจำทางในศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ (โกลเด้นเพส) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ ว่า ได้รับงานรายงานว่า ในวันนี้ ผอ.กกต.เขต นครศรีธรรมราชได้ย้ายสถานที่รับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งไปใช้สถานที่ ตชด. 42 โดยมีผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย (พท.)แล้วจำนวน 7 เขต แต่มีปัญหาประชาชนไปปิดล้อมสถานที่ ซึ่งการเปลี่ยนสถานที่รับสมัครในครั้งนี้เป็นการตัดสินใจ ของ กกต.เขต ไม่ใช่การตัดสินใจของ กกต.ส่วนกลาง เพราะ กกต.กลางเพียงให้คำแนะนำว่าให้หากหลีกเลี่ยงสถานที่ของตำรวจและทหารได้ก็ให้หลีกเลี่ยงเพราะจะเป็นการยั่วยุและอาจทำให้เกิดการประทะกัน
นายสมชัย กล่าวอีกว่า การตัดสินใจเปลี่ยนสถานที่รับสมัครในครั้งนี้ทราบว่า มีการประสานโดยตรงระหว่างทางตำรวจและกกต.เขต แต่มติ กกต.เขต อาจจะไม่เป็นเอกฉันท์ในการย้ายสถานที่ นอกจากนี้ยังมีการนำผู้สมัครเข้าไปในสถานที่ ตชด. 42 ในเวลากลางคืน ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวอาจจะไม่เป็นธรรมกับผู้สมัครพรรคอื่น ที่อาจมองว่าทำไมบางพรรคเข้าไปสมัครได้แต่ทำไมพรรคอื่นเข้าไปไม่ได้ และอาจจะเป็นปัญหาตามมา ดังนั้นจะให้ กกต.จว.และ กกต.เขตรายงานมายัง กกต.กลางว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร
“เป็นสิทธิของ กกต.เขต จะพิจารณาย้ายสถานที่ ในครั้งนี้เป็นการประกาศฉุกเฉินในช่วงเย็นวันที่ 30 ธันวาคม ดังนั้นไม่จำเป็นต้องให้ทราบภายใน 24 ชั่วโมง กกต.เขตสามารถดำเนินการได้ แต่ กกต.ย้ำตลอดว่า ไม่อยากให้เกิดปัญหาในการรับสมัคร ไม่อยากให้มีการปะทะกันรุนแรง และต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ต้องแจ้งให้ทุกฝ่ายรับรู้”นายสมชัย กล่าวและว่า ขณะนี้ได้รับรายงานว่า มีมวลชนไปห้อมล้อม ตชด.42 นับพันคน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรึงกำลังดูแล โดยมีอาวุธครบมือ ถ้ารับสมัครไปแล้วเหตุการณ์สงบก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดความรุนแรง และที่สำคัญต้องเป็นกลางเพื่อไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างผู้สมัคร อย่างไรก็ตามได้รับรายงานว่าในวันนี้ จ.สงขลา และ ภูเก็ต ได้ยุติการรับสมัครไปแล้ว ส่วนจังหวัดอื่น ๆ ยังไม่มีรายงานเข้ามา
เมื่อถามว่าว่ากรณีที่นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.เตือนรัฐบาลว่าหากเดินหน้าเลือกตั้งต่อไปจะไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล นายสมชัย กล่าวว่า เรื่องการเมืองก็เป็นเรื่องของฝ่ายฝ่ายการเมือง กกต.ไม่เกี่ยว ใครจะสมัครได้หรือไม่ได้ เราไม่เกี่ยว เรามีหน้าที่จัดการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม เรียบร้อยไม่สูญเสียและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
“ การเลือกตั้งเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ถ้าเราไปฝืนใช้ความพยายามจะจัดการเลือกตั้งให้ได้ แล้วเกิดปะทะกัน เกิดความสูญเสีย มีการบาดเจ็บล้มตาย ชีวิตที่สูญเสียเอาคืนไม่ได้ ดังนั้นเราจะพยายามจัดการเลือกตั้งให้เกิดความเรียบร้อยที่สุด”นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวต่อว่า วันนี้จะไปพูดคุยกับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)แต่ไม่ขอเปิดเผย เวลา และสถานที่ โดยจะนำเรื่องที่ได้หารือกับแกนนำรัฐบาลไปพูดคุยกับปชป. ซึ่งเราได้ทราบเหตุผลเชิงการเมืองในการตัดสินใจขอฝ่ายรัฐบาลที่เดินหน้าเลือกตั้ง เป็นเหตุผลที่เราคิดว่ามีน้ำหนักที่ทำให้เขาตัดสินใจอย่างนั้น แต่สิ่งที่ กกต.คิดคือการจัดการเลือกตั้งให้สงบเรียบร้อยเป็นธรรม ไม่ใช่จัดการเลือกตั้งให้ใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบ เราไม่ได้สนใจเหตุผลทางการเมือง และคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์จะรู้ถึงเหตุผลดังกล่าว
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1388478464&grpid=03&catid=01&subcatid=0100
เมื่อถามถึงการหารือกับ กปปส. นายสมชัย กล่าวว่า ได้มีการติดต่อไปแล้ว 3-4 ครั้งไปยังแกนนำทุกระดับ แต่ กปปส. ยังสงวนท่าทีอยู่ ยังไม่ตอบรับ โดยให้เหตุผลว่า ยังไม่ถึงเวลาในการพูดคุยกัน กปปส.คงให้สถานการณ์คลี่คลายไปมากกว่านี้ก่อน
http://www.phranakornsarn.com/democrat/2446.html
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหาร ไม่ไหวเเล้วลาออกจาก กกต. เสียเถิดถ้าหน้ายังไม่ด้านเกิน+ปชป.
′สมชัย′ เผยเมืองคอนออกประกาศฉุกเฉินย้ายที่สมัครไป ตชด.42 เพื่อไทย สมัครไปแล้ว 7 เขต มวลชนนับพันปิดล้อม ขณะที่ ′สงขลา-ภูเก็ต′ ยุติการรับสมัครแล้ว เตือนรัฐบาลเลือกตั้งเมื่อไหร่ก็ได้ แต่คนตายแล้วเอาคืนไม่ได้
เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม เวลา 10.15 น. ที่ศูนย์เชื่อมต่อรถโดยสารประจำทางในศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ (โกลเด้นเพส) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ ว่า ได้รับงานรายงานว่า ในวันนี้ ผอ.กกต.เขต นครศรีธรรมราชได้ย้ายสถานที่รับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งไปใช้สถานที่ ตชด. 42 โดยมีผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย (พท.)แล้วจำนวน 7 เขต แต่มีปัญหาประชาชนไปปิดล้อมสถานที่ ซึ่งการเปลี่ยนสถานที่รับสมัครในครั้งนี้เป็นการตัดสินใจ ของ กกต.เขต ไม่ใช่การตัดสินใจของ กกต.ส่วนกลาง เพราะ กกต.กลางเพียงให้คำแนะนำว่าให้หากหลีกเลี่ยงสถานที่ของตำรวจและทหารได้ก็ให้หลีกเลี่ยงเพราะจะเป็นการยั่วยุและอาจทำให้เกิดการประทะกัน
นายสมชัย กล่าวอีกว่า การตัดสินใจเปลี่ยนสถานที่รับสมัครในครั้งนี้ทราบว่า มีการประสานโดยตรงระหว่างทางตำรวจและกกต.เขต แต่มติ กกต.เขต อาจจะไม่เป็นเอกฉันท์ในการย้ายสถานที่ นอกจากนี้ยังมีการนำผู้สมัครเข้าไปในสถานที่ ตชด. 42 ในเวลากลางคืน ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวอาจจะไม่เป็นธรรมกับผู้สมัครพรรคอื่น ที่อาจมองว่าทำไมบางพรรคเข้าไปสมัครได้แต่ทำไมพรรคอื่นเข้าไปไม่ได้ และอาจจะเป็นปัญหาตามมา ดังนั้นจะให้ กกต.จว.และ กกต.เขตรายงานมายัง กกต.กลางว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร
“เป็นสิทธิของ กกต.เขต จะพิจารณาย้ายสถานที่ ในครั้งนี้เป็นการประกาศฉุกเฉินในช่วงเย็นวันที่ 30 ธันวาคม ดังนั้นไม่จำเป็นต้องให้ทราบภายใน 24 ชั่วโมง กกต.เขตสามารถดำเนินการได้ แต่ กกต.ย้ำตลอดว่า ไม่อยากให้เกิดปัญหาในการรับสมัคร ไม่อยากให้มีการปะทะกันรุนแรง และต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ต้องแจ้งให้ทุกฝ่ายรับรู้”นายสมชัย กล่าวและว่า ขณะนี้ได้รับรายงานว่า มีมวลชนไปห้อมล้อม ตชด.42 นับพันคน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรึงกำลังดูแล โดยมีอาวุธครบมือ ถ้ารับสมัครไปแล้วเหตุการณ์สงบก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดความรุนแรง และที่สำคัญต้องเป็นกลางเพื่อไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างผู้สมัคร อย่างไรก็ตามได้รับรายงานว่าในวันนี้ จ.สงขลา และ ภูเก็ต ได้ยุติการรับสมัครไปแล้ว ส่วนจังหวัดอื่น ๆ ยังไม่มีรายงานเข้ามา
เมื่อถามว่าว่ากรณีที่นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.เตือนรัฐบาลว่าหากเดินหน้าเลือกตั้งต่อไปจะไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล นายสมชัย กล่าวว่า เรื่องการเมืองก็เป็นเรื่องของฝ่ายฝ่ายการเมือง กกต.ไม่เกี่ยว ใครจะสมัครได้หรือไม่ได้ เราไม่เกี่ยว เรามีหน้าที่จัดการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม เรียบร้อยไม่สูญเสียและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
“ การเลือกตั้งเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ถ้าเราไปฝืนใช้ความพยายามจะจัดการเลือกตั้งให้ได้ แล้วเกิดปะทะกัน เกิดความสูญเสีย มีการบาดเจ็บล้มตาย ชีวิตที่สูญเสียเอาคืนไม่ได้ ดังนั้นเราจะพยายามจัดการเลือกตั้งให้เกิดความเรียบร้อยที่สุด”นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวต่อว่า วันนี้จะไปพูดคุยกับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)แต่ไม่ขอเปิดเผย เวลา และสถานที่ โดยจะนำเรื่องที่ได้หารือกับแกนนำรัฐบาลไปพูดคุยกับปชป. ซึ่งเราได้ทราบเหตุผลเชิงการเมืองในการตัดสินใจขอฝ่ายรัฐบาลที่เดินหน้าเลือกตั้ง เป็นเหตุผลที่เราคิดว่ามีน้ำหนักที่ทำให้เขาตัดสินใจอย่างนั้น แต่สิ่งที่ กกต.คิดคือการจัดการเลือกตั้งให้สงบเรียบร้อยเป็นธรรม ไม่ใช่จัดการเลือกตั้งให้ใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบ เราไม่ได้สนใจเหตุผลทางการเมือง และคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์จะรู้ถึงเหตุผลดังกล่าว
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1388478464&grpid=03&catid=01&subcatid=0100
เมื่อถามถึงการหารือกับ กปปส. นายสมชัย กล่าวว่า ได้มีการติดต่อไปแล้ว 3-4 ครั้งไปยังแกนนำทุกระดับ แต่ กปปส. ยังสงวนท่าทีอยู่ ยังไม่ตอบรับ โดยให้เหตุผลว่า ยังไม่ถึงเวลาในการพูดคุยกัน กปปส.คงให้สถานการณ์คลี่คลายไปมากกว่านี้ก่อน
http://www.phranakornsarn.com/democrat/2446.html