ตั๋งโต๊ะผู้ลำพองตนเพราะมี ลิโป้ยอดนักรบผู้จรดสี่คาบสมุทรแผ่นดินไม่มีใครเทียมได้
มาเป็นบุตรบุญธรรมข้างกาย ในปี ค.ศ. 189ตั๋งโต๊ะจึงอัญเชิญ (ปลด) ฮ่องเต้หองจูเปียนและไทเฮาโฮ
มารดาของเปียนลงจากบัลลังก์ และแต่งตั้งหองจูเหียบ ขึ้นเป็น พระเจ้าเหี้ยนเต้ ขณะมีพระชนมายุเพียง
8 พรรษาพร้อมแต่งตั้งตนเป็นผู้สำเร็จราชการแทน ส่วนฮ่องเต้หองจูเปียนและไทเฮาโฮ พระมารดานั้น
ตั๋งโต๊ะได้สั่งให้คุมขังในตำหนักร้าง (และได้ส่งคนไปสังหารทั้งคู่ใน ค.ศ. 190)
และใน ค.ศ. 189 ตั๋งโต๊ะต้องพบศึกหนักกับทัพของสิบแปดหัวเมืองที่นำทัพโดยโจโฉ และ อ้วนเสี้ยว ทางด้านลิยู ที่ปรึกษาของตั๋งโต๊ะ บอกว่า ถ้าตอนนี้เรามีเตียงฮัน เป็นราชธานี เราจะสามารถตั้งรับศึกได้ดีกว่านี้ ตั๋งโต๊ะจึงได้อัญเชิญพระเจ้าเหี้ยนเต้ไปยังเตียงฮันและสั่งให้ทหารของตนไปปล้นฆ่าราษฏร์ในเมืองและริบทรัพย์สินมาทั้งหมด และเผาลกเอี๋ยงให้ราบ พร้อมสร้างเตียงฮันเป็นราชธานีใหม่โดยนำเงินที่ปล้นมาเป็นทุน จากนั้นไม่นานกองทัพของสิบแปดหัวเมืองก็ได้แตกแยกกัน ทำให้ตั๋งโต๊ะดีใจจนกำเริบเสิบสานว่าจะไม่มีผู้ใดมาโค่นตนได้และได้สร้างความวิบัติให้จีนต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง ตั๋งโต๊ะได้มีเรื่องบาดหมางกับลิโป้ ต่อมาก็คืนดีกัน แต่ไม่นานก็บาดหมางกันในเรื่องเดิมถึงขนาดอาฆาตเคียดแค้นกัน ว่ากันว่าสาเหตุมาจากหญิงงามที่ชื่อว่า เตียวเสี้ยน บุตรสาวบุญธรรมของอ้องอุ้นขุนนางอาวุโสของราชวงศ์ฮั่น
แต่หลังจากนั้นในปี 192 ตั๋งโต๊ะก็มีชีวิตอยู่ทำชั่วได้ไม่นาน เมื่อวาระสุดท้ายของชีวิตมาถึงก็จึงได้ถูก บุตรบุญธรรม ลิโป้สังหารไปในที่สุด
ศพของตั๋งโต๊ะนั้นถูกทิ้งไว้กลางสี่แยกให้นกแร้งกามาจิกกิน ผู้คนต่างพากันสาปแช่ง เตะต่อยและถ่มน้ำลายใส่ ต่อมาเมื่อสถานการณ์เปลี่ยน ลิฉุยและกุยกี ลูกน้องคนสนิทของตั๋งโต๊ะสามารถยึดอำนาจคืนได้นำศพของตั๋งโต๊ะไปประกอบพิธีกรรมอย่างถูกต้องทางศาสนา ทว่าเมื่อจะบรรจุกระดูกเข้าหลุม ฟ้าได้ผ่าลงมาทำให้เถ้ากระดูกกระจัดกระจายไปไม่สามารถตามหาครบได้ ในประวัติศาสตร์จีนจึงบันทึกไว้ว่า ฟ้าดินไม่ต้องการให้มีกระดูกของตั๋งโต๊ะฝังอยู่ให้เป็นมลทินเปรอะเปื้อน
ตั๋งโต๊ะ VS สุเทพ
มาเป็นบุตรบุญธรรมข้างกาย ในปี ค.ศ. 189ตั๋งโต๊ะจึงอัญเชิญ (ปลด) ฮ่องเต้หองจูเปียนและไทเฮาโฮ
มารดาของเปียนลงจากบัลลังก์ และแต่งตั้งหองจูเหียบ ขึ้นเป็น พระเจ้าเหี้ยนเต้ ขณะมีพระชนมายุเพียง
8 พรรษาพร้อมแต่งตั้งตนเป็นผู้สำเร็จราชการแทน ส่วนฮ่องเต้หองจูเปียนและไทเฮาโฮ พระมารดานั้น
ตั๋งโต๊ะได้สั่งให้คุมขังในตำหนักร้าง (และได้ส่งคนไปสังหารทั้งคู่ใน ค.ศ. 190)
และใน ค.ศ. 189 ตั๋งโต๊ะต้องพบศึกหนักกับทัพของสิบแปดหัวเมืองที่นำทัพโดยโจโฉ และ อ้วนเสี้ยว ทางด้านลิยู ที่ปรึกษาของตั๋งโต๊ะ บอกว่า ถ้าตอนนี้เรามีเตียงฮัน เป็นราชธานี เราจะสามารถตั้งรับศึกได้ดีกว่านี้ ตั๋งโต๊ะจึงได้อัญเชิญพระเจ้าเหี้ยนเต้ไปยังเตียงฮันและสั่งให้ทหารของตนไปปล้นฆ่าราษฏร์ในเมืองและริบทรัพย์สินมาทั้งหมด และเผาลกเอี๋ยงให้ราบ พร้อมสร้างเตียงฮันเป็นราชธานีใหม่โดยนำเงินที่ปล้นมาเป็นทุน จากนั้นไม่นานกองทัพของสิบแปดหัวเมืองก็ได้แตกแยกกัน ทำให้ตั๋งโต๊ะดีใจจนกำเริบเสิบสานว่าจะไม่มีผู้ใดมาโค่นตนได้และได้สร้างความวิบัติให้จีนต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง ตั๋งโต๊ะได้มีเรื่องบาดหมางกับลิโป้ ต่อมาก็คืนดีกัน แต่ไม่นานก็บาดหมางกันในเรื่องเดิมถึงขนาดอาฆาตเคียดแค้นกัน ว่ากันว่าสาเหตุมาจากหญิงงามที่ชื่อว่า เตียวเสี้ยน บุตรสาวบุญธรรมของอ้องอุ้นขุนนางอาวุโสของราชวงศ์ฮั่น
แต่หลังจากนั้นในปี 192 ตั๋งโต๊ะก็มีชีวิตอยู่ทำชั่วได้ไม่นาน เมื่อวาระสุดท้ายของชีวิตมาถึงก็จึงได้ถูก บุตรบุญธรรม ลิโป้สังหารไปในที่สุด
ศพของตั๋งโต๊ะนั้นถูกทิ้งไว้กลางสี่แยกให้นกแร้งกามาจิกกิน ผู้คนต่างพากันสาปแช่ง เตะต่อยและถ่มน้ำลายใส่ ต่อมาเมื่อสถานการณ์เปลี่ยน ลิฉุยและกุยกี ลูกน้องคนสนิทของตั๋งโต๊ะสามารถยึดอำนาจคืนได้นำศพของตั๋งโต๊ะไปประกอบพิธีกรรมอย่างถูกต้องทางศาสนา ทว่าเมื่อจะบรรจุกระดูกเข้าหลุม ฟ้าได้ผ่าลงมาทำให้เถ้ากระดูกกระจัดกระจายไปไม่สามารถตามหาครบได้ ในประวัติศาสตร์จีนจึงบันทึกไว้ว่า ฟ้าดินไม่ต้องการให้มีกระดูกของตั๋งโต๊ะฝังอยู่ให้เป็นมลทินเปรอะเปื้อน