.
ตั๋งโต๊ะ มีชื่อรองว่า จ้งอิ่ง เกิดเมื่อ ค.ศ. 139 เป็นลูกชายของนายอำเภอเมืองหลินเถา พอเข้าวัยฉกรรจ์ก็เติบใหญ่ในราชสำนักทั้งๆที่มีรูปร่างอวบอ้วน แต่บิดาและวงค์ตระกูลฝั่งรากลึกมานานในชนชั้นขุนนางราชสำนักอีกทั้งยังฐานะร่ำรวย จึงคาดได้ว่าใช้เส้นสายและสินบนในการไต้เต้ายศตำแหน่ง
เพราะปรากฏเรื่องราวต่อมาว่าตั๋งโต๊ะผู้นี้ ติดสินบน 10 ขันที เพื่อให้ได้มาซึ่งตำแหน่งและอำนาจที่มากขึ้น
ในคราครั้งปราบโจรโพกผ้าเหลือง ตั๋งโต๊ะผู้นี้ได้รับมอบหมายหน้าที่ให้นำทัพเข้าปราบปราม แต่กระทำไม่สำเร็จถูกธนูยิงเข้าที่ไหล่ ดีที่ทหารกองอาสาของเล่าปี่ซึ่งร่วมศึกในครั้งนี้ด้วย ช่วยเหลือเอาไว้ได้ ตั๋งโต๊ะก็ได้ถามยศของเล่าปี่แต่พอทราบว่า เล่าปี่เป็นสามัญชนจึงทำท่ายโสโอหังใส่ ทำให้เตียวหุยโกรธจึงจะพุ่งเข้าไปฆ่าตั๊งโต๊ะแต่เล่าปี่ห้ามไว้ หลังการปรามโจรโพกผ้าเหลืองสิ้นสุดลง ตั๋งโต๊ะได้โดนลงทัณฑ์ที่พ่ายแพ้กลับมา
แต่ก็ได้ติดสินบนกับขันทีอีกครั้งทำให้รอดตัว แถมยังได้รับความดีความชอบด้วยการแต่งตั้งเป็นผู้ตรวจการราชการมณฑลเสเหลียง
เมื่อครั้ง 10 ขันทีกำเริบเสิบสานในอำนาจ เพราะว่าควบคุมราชสำนักไว้ได้ แม่ทัพโฮจิ้น พี่ชายของพระมเหสีของพระเจ้าเลนเต้ได้ส่งสารไปยังหัวเมืองต่างๆให้มาช่วยตนปราบเหล่าขันทีในวัง เพราะเหล่าขันทีนั้นพยายามจะล้มราชบัลลังค์ แต่ข่าวรั่วไหลกลายเป็นว่า โฮจิ้นถูกสังหารเสียก่อน ก่อนที่ทัพหัวเมืองจะยกกำลังมาช่วย
ตั้งโต๊ะเองซึ่งแสวงหาอำนาจอย่างไม่หยุดหย่อน ได้ทีฉวยโอกาสยกทัพเข้าเมืองหลวงให้ได้ก่อนใครทั้งๆที่ทัพของตนเองนั้นอยู่ชายแดน แต่เร่งรุดมิหยุดหย่อน
โดยอ้างอุดมการณ์ว่าเพื่อปกป้องราชบัลลังค์ อ้างว่าทำเพื่อคุณธรรมในฐานะไพร่ฟ้าประชาชน ต้องกำจัดคนชั่ว ขันทีโฉด ขันนางกังฉินออกไป เพื่อความเจริญศิวิลัยของประเทศชาติ
เมื่อเข้าเมืองหลวงได้ ตั้งโต๊ะได้กำจัดสิบขันที ผู้ซึ่งว่ากันตรงๆก็คือพวกเดียวกับตั๋งโต๊ะเพราะรับสืนบนและสนับสนุนให้ตั๋งโต๊ะเจริญก้าวหน้าเรื่อยมา แต่ตั้งโต๊ะคิดว่าหากสิบขันทียังอยู่ตนเองก็คงจะยิ่งใหญ่ไปกว่านี้ได้ไม่มาก แต่คนอย่างเขาต้องการยิ่งใหญ่ที่สุดในแผ่นดิน
ตั๋งโต๊ะก็เลยยึดอำนาจในเมืองหลวงนับตั้งแต่นั้น โดยอาศัยความเก่งกาจของลิโป้ข่มขู่ขุนนางราชสำนักอื่นๆให้ยอมร่วมมือด้วย ในปี ค.ศ. 189ตั๋งโต๊ะจึงปลดฮ่องเต้หองจูเปียนและไทเฮาโฮ มารดาของจูเปียนลงจากบัลลังก์ และแต่งตั้งหองจูเหียบ ขึ้นเป็น "พระเจ้าเหี้ยนเต้ ขณะมีพระชนมายุเพียง 8 พรรษาพร้อมแต่งตั้งตนเป็นผู้สำเร็จราชการแทน ก่อนจะสังหารฮองเต้และไทเฮาองค์ก่อน ในปีถัดมา
พฤติกรรมนี้เห็นชัดว่า การปกป้องราชบัลลังค์นั้น เป็นคำกล่าวอ้างถึงอุดมการณ์เพื่อปกป้องราชบัลลังค์ อ้างว่าทำเพื่อคุณธรรมในฐานะไพร่ฟ้าประชาชน ต้องกำจัดคนชั่ว ขันทีโฉด ขันนางกังฉินออกไป เพื่อความเจริญศิวิลัยของประเทศชาติ
เป็นแค่เพียงคำกล่าวอ้างของคนถ่อย ที่มุ่งคอยแต่จะแสวงหาอำนาจเท่านั้น
ตั๋งโต๊ะนับได้ว่าเป็นทรราชย์อย่างแท้จริง การลุแก่อำนาจของคนผู้นี้กระตุ้นให้แผ่นดินลุกเป็นไฟ
และก่อกำเนิดตำนานสะท้านภพอย่างเรื่องราวของ “สามก๊ก”
ซึ่งบทความนี้ไม่ขอเล่ารายละเอียดมากไปกว่านี้ เพียงแต่จะบอกเล่าบทสรุปของคนชั่วผู้นี้ ว่าไม่ได้ตายดี เพราะหลังจากตายไปแล้ว ศพของตั๋งโต๊ะถูกตั้งทิ้งไว้กลางทางแยกให้แร้งกามาจิกกิน ผู้คนต่างพากันสาปแช่ง เตะต่อยและถ่มน้ำลายใส่ ต่อมาเมื่อสถานการณ์เปลี่ยน ลิฉุยและกุยกี ลูกน้องคนสนิทของตั๋งโต๊ะสามารถยึดอำนาจคืนได้ ได้นำศพของตั๋งโต๊ะไปประกอบพิธีกรรมอย่างถูกต้องทางศาสนา ทว่าเมื่อจะบรรจุกระดูกเข้าหลุม ฟ้าได้ผ่าลงมาทำให้เถ้ากระดูกกระจัดกระจายไปไม่สามารถตามหาครบได้ ในประวัติศาสตร์จีนจึงบันทึกไว้ว่า
ฟ้าดินไม่ต้องการให้มีกระดูกของตั๋งโต๊ะฝังอยู่ให้เป็นมลทินเปรอะเปื้อน นับว่าเป็นบุคคลที่ถูกสาปแช่งทั้งยังมีชีวิตและไร้ชีวิตไปแล้วอย่างแท้จริง
เรื่องราวของคำกล่าวอ้างของคนผู้นี้ สะท้อนภาพได้อย่างดีกับการเมืองไทย
ใครเล่า อาศัยสถาบันเป็นข้ออ้าง..?
ใครเล่า จะกำจัดคนชั่ว โกงกิน คอรัปชั่น...?
คุณธรรม เอ่ยอ้าง..................ชั่วคราว
อุดมการณ์ ขานเก่า................ลืมสิ้น
แย่งแล้วแย่ กว่าเขา................คนเก่า ทำเอย
พังพาบ ไม่เหลือชิ้น................พลิกลิ้นลืมมัน
แล้ววันนี้เป็นอย่างไร หายหัวกันไปไหนแล้วคนพวกนั้น
หรือวามันเป็นแค่อุดมการณ์พาร์ทไทม์ คุณธรรมเฉพาะกิจ ซีวิตหลังจากล้มทักษิณได้ บ้านเมืองจะเสียหายวายป่วง ใครจะลุแก่อำนาจ เหล่าพวกที่อ้างว่าตัวเป็น คนดีเหล่านี้ ไม่คิดจะรับรู้และสนใจอย่างนั้นหรือ...?
ขอบคุณครับ
นายพระรอง
(บทความ...นายพระรอง) ตั๋งโต๊ะ ผู้นำอุดมการณ์พาร์ทไทม์ คุณธรรมเฉพาะกิจ
ตั๋งโต๊ะ มีชื่อรองว่า จ้งอิ่ง เกิดเมื่อ ค.ศ. 139 เป็นลูกชายของนายอำเภอเมืองหลินเถา พอเข้าวัยฉกรรจ์ก็เติบใหญ่ในราชสำนักทั้งๆที่มีรูปร่างอวบอ้วน แต่บิดาและวงค์ตระกูลฝั่งรากลึกมานานในชนชั้นขุนนางราชสำนักอีกทั้งยังฐานะร่ำรวย จึงคาดได้ว่าใช้เส้นสายและสินบนในการไต้เต้ายศตำแหน่ง เพราะปรากฏเรื่องราวต่อมาว่าตั๋งโต๊ะผู้นี้ ติดสินบน 10 ขันที เพื่อให้ได้มาซึ่งตำแหน่งและอำนาจที่มากขึ้น
ในคราครั้งปราบโจรโพกผ้าเหลือง ตั๋งโต๊ะผู้นี้ได้รับมอบหมายหน้าที่ให้นำทัพเข้าปราบปราม แต่กระทำไม่สำเร็จถูกธนูยิงเข้าที่ไหล่ ดีที่ทหารกองอาสาของเล่าปี่ซึ่งร่วมศึกในครั้งนี้ด้วย ช่วยเหลือเอาไว้ได้ ตั๋งโต๊ะก็ได้ถามยศของเล่าปี่แต่พอทราบว่า เล่าปี่เป็นสามัญชนจึงทำท่ายโสโอหังใส่ ทำให้เตียวหุยโกรธจึงจะพุ่งเข้าไปฆ่าตั๊งโต๊ะแต่เล่าปี่ห้ามไว้ หลังการปรามโจรโพกผ้าเหลืองสิ้นสุดลง ตั๋งโต๊ะได้โดนลงทัณฑ์ที่พ่ายแพ้กลับมา แต่ก็ได้ติดสินบนกับขันทีอีกครั้งทำให้รอดตัว แถมยังได้รับความดีความชอบด้วยการแต่งตั้งเป็นผู้ตรวจการราชการมณฑลเสเหลียง
เมื่อครั้ง 10 ขันทีกำเริบเสิบสานในอำนาจ เพราะว่าควบคุมราชสำนักไว้ได้ แม่ทัพโฮจิ้น พี่ชายของพระมเหสีของพระเจ้าเลนเต้ได้ส่งสารไปยังหัวเมืองต่างๆให้มาช่วยตนปราบเหล่าขันทีในวัง เพราะเหล่าขันทีนั้นพยายามจะล้มราชบัลลังค์ แต่ข่าวรั่วไหลกลายเป็นว่า โฮจิ้นถูกสังหารเสียก่อน ก่อนที่ทัพหัวเมืองจะยกกำลังมาช่วย
ตั้งโต๊ะเองซึ่งแสวงหาอำนาจอย่างไม่หยุดหย่อน ได้ทีฉวยโอกาสยกทัพเข้าเมืองหลวงให้ได้ก่อนใครทั้งๆที่ทัพของตนเองนั้นอยู่ชายแดน แต่เร่งรุดมิหยุดหย่อน โดยอ้างอุดมการณ์ว่าเพื่อปกป้องราชบัลลังค์ อ้างว่าทำเพื่อคุณธรรมในฐานะไพร่ฟ้าประชาชน ต้องกำจัดคนชั่ว ขันทีโฉด ขันนางกังฉินออกไป เพื่อความเจริญศิวิลัยของประเทศชาติ
เมื่อเข้าเมืองหลวงได้ ตั้งโต๊ะได้กำจัดสิบขันที ผู้ซึ่งว่ากันตรงๆก็คือพวกเดียวกับตั๋งโต๊ะเพราะรับสืนบนและสนับสนุนให้ตั๋งโต๊ะเจริญก้าวหน้าเรื่อยมา แต่ตั้งโต๊ะคิดว่าหากสิบขันทียังอยู่ตนเองก็คงจะยิ่งใหญ่ไปกว่านี้ได้ไม่มาก แต่คนอย่างเขาต้องการยิ่งใหญ่ที่สุดในแผ่นดิน
ตั๋งโต๊ะก็เลยยึดอำนาจในเมืองหลวงนับตั้งแต่นั้น โดยอาศัยความเก่งกาจของลิโป้ข่มขู่ขุนนางราชสำนักอื่นๆให้ยอมร่วมมือด้วย ในปี ค.ศ. 189ตั๋งโต๊ะจึงปลดฮ่องเต้หองจูเปียนและไทเฮาโฮ มารดาของจูเปียนลงจากบัลลังก์ และแต่งตั้งหองจูเหียบ ขึ้นเป็น "พระเจ้าเหี้ยนเต้ ขณะมีพระชนมายุเพียง 8 พรรษาพร้อมแต่งตั้งตนเป็นผู้สำเร็จราชการแทน ก่อนจะสังหารฮองเต้และไทเฮาองค์ก่อน ในปีถัดมา
พฤติกรรมนี้เห็นชัดว่า การปกป้องราชบัลลังค์นั้น เป็นคำกล่าวอ้างถึงอุดมการณ์เพื่อปกป้องราชบัลลังค์ อ้างว่าทำเพื่อคุณธรรมในฐานะไพร่ฟ้าประชาชน ต้องกำจัดคนชั่ว ขันทีโฉด ขันนางกังฉินออกไป เพื่อความเจริญศิวิลัยของประเทศชาติ เป็นแค่เพียงคำกล่าวอ้างของคนถ่อย ที่มุ่งคอยแต่จะแสวงหาอำนาจเท่านั้น
และก่อกำเนิดตำนานสะท้านภพอย่างเรื่องราวของ “สามก๊ก”
ซึ่งบทความนี้ไม่ขอเล่ารายละเอียดมากไปกว่านี้ เพียงแต่จะบอกเล่าบทสรุปของคนชั่วผู้นี้ ว่าไม่ได้ตายดี เพราะหลังจากตายไปแล้ว ศพของตั๋งโต๊ะถูกตั้งทิ้งไว้กลางทางแยกให้แร้งกามาจิกกิน ผู้คนต่างพากันสาปแช่ง เตะต่อยและถ่มน้ำลายใส่ ต่อมาเมื่อสถานการณ์เปลี่ยน ลิฉุยและกุยกี ลูกน้องคนสนิทของตั๋งโต๊ะสามารถยึดอำนาจคืนได้ ได้นำศพของตั๋งโต๊ะไปประกอบพิธีกรรมอย่างถูกต้องทางศาสนา ทว่าเมื่อจะบรรจุกระดูกเข้าหลุม ฟ้าได้ผ่าลงมาทำให้เถ้ากระดูกกระจัดกระจายไปไม่สามารถตามหาครบได้ ในประวัติศาสตร์จีนจึงบันทึกไว้ว่า ฟ้าดินไม่ต้องการให้มีกระดูกของตั๋งโต๊ะฝังอยู่ให้เป็นมลทินเปรอะเปื้อน นับว่าเป็นบุคคลที่ถูกสาปแช่งทั้งยังมีชีวิตและไร้ชีวิตไปแล้วอย่างแท้จริง
เรื่องราวของคำกล่าวอ้างของคนผู้นี้ สะท้อนภาพได้อย่างดีกับการเมืองไทย
ใครเล่า อาศัยสถาบันเป็นข้ออ้าง..?
ใครเล่า จะกำจัดคนชั่ว โกงกิน คอรัปชั่น...?
คุณธรรม เอ่ยอ้าง..................ชั่วคราว
อุดมการณ์ ขานเก่า................ลืมสิ้น
แย่งแล้วแย่ กว่าเขา................คนเก่า ทำเอย
พังพาบ ไม่เหลือชิ้น................พลิกลิ้นลืมมัน
แล้ววันนี้เป็นอย่างไร หายหัวกันไปไหนแล้วคนพวกนั้น หรือวามันเป็นแค่อุดมการณ์พาร์ทไทม์ คุณธรรมเฉพาะกิจ ซีวิตหลังจากล้มทักษิณได้ บ้านเมืองจะเสียหายวายป่วง ใครจะลุแก่อำนาจ เหล่าพวกที่อ้างว่าตัวเป็น คนดีเหล่านี้ ไม่คิดจะรับรู้และสนใจอย่างนั้นหรือ...?
ขอบคุณครับ
นายพระรอง