เรื่อง ทางออกของชาติ

สรุปการอภิปราย ผู้แทนกรรมกรและผู้นำกรรมกรทั่วประเทศ

เรื่อง ทางออกของชาติ

1 ธันวาคม 2556

ณ โรงแรม เอเชีย กรุงเทพฯ

-----------------------------------------------------------------------------


ประเทศไทยวันนี้ มีปัญหาความขัดแย้ง และเกิดความแตกแยกกันทางการเมือง อย่างชนิดที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนเลยในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ความขัดแย้งนี้ยืดเยื้อมาเป็น 10 ปี นอกจากจะหาทางออกไม่ได้แล้ว ยังกลับทวีความรุนแรงมากขึ้นเป็นลำดับ เริ่มมีการสังเวยกันด้วยชีวิตแล้ว ยังล่อแหลมที่จะนำไปสู่มิคสัญญีกลียุค เป็นสงครามกลางเมืองอีกด้วย กลายเป็นปัญหาที่วิตกกังวล ของพี่น้องประชาชนกันโดยทั่วไป

ด้วยเหตุนี้ คณะกรรมการประสานงานจัดงานอภิปรายของผู้แทนกรรมกร ไม่อาจจะนิ่งดูดายต่อสภาพอันเลวร้ายของชาติบ้านเมืองอยู่ต่อไปได้ จำเป็นจะต้องนำกรรมกรเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาของชาติด้วย จึงได้จัดให้มีงานอภิปราย เรื่อง ทางออกของชาติ ขึ้นในวันนี้ โดยเชิญบรรดาผู้นำกรรมกร และอดีตผู้นำกรรมกรที่เคยมีบทบาทในการแก้ปัญหาของชาติ ได้ประสบความสำเร็จมาแล้ว ในปัญหาสงครามกลางเมือง ด้วยนโยบาย 66/23 ที่ผ่านมา เพื่อมาร่วมกันแสดงทรรศนะต่อการแก้ปัญหาของชาติในครั้งนี้ ซึ่งได้ข้อสรุปจากการอภิปรายของท่านผู้รอบรู้ ดังต่อไปนี้

1.ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เป็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นตามกฎของสังคมทุนนิยม เป็นความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับระบอบเผด็จการระบบรัฐสภา จึงส่งผลให้เกิดการเคลื่อนไหวประชาธิปไตยของประชาชน แผ่ขยายออกไปอย่างกว้างขวาง อย่างชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย และความขัดแย้งนี้ จะสิ้นสุดลงได้ก็ต่อเมื่อมีการเปลี่ยนระบอบเผด็จการ เป็นระบอบประชาธิปไตยแล้วเท่านั้น

2.ไม่ว่าในบ้านเมืองใดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ เมื่ออุตสาหกรรมขยายตัวขึ้นถึงระดับหนึ่งแล้ว จำเป็นจะต้องเปลี่ยนแปลงการปกครองให้เป็นแบบประชาธิปไตย มิฉะนั้น การขยายตัวของอุตสาหกรรม ซึ่งจะต้องเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของเศรษฐกิจ จะทำลายเกษตรกรรม ทำลายการประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดเล็ก นำมาซึ่งความขัดแย้งและความหายนะมาสู่เศรษฐกิจของชาติ แต่ถ้าเปลี่ยนแปลงการปกครองให้เป็นแบบประชาธิปไตย การพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติก็จะเป็นไปอย่างสมดุล บรรลุถึงความเป็นประเทศอารยะ หรือประเทศพัฒนา และสามารถขจัดความจนของประเทศชาติ และของประชาชนได้ ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านนี้

3.การแก้ปัญหาความขัดแย้งนี้ จำเป็นต้องแก้ปัญหาทั้งด้าน หลักการปกครอง (PRINCIPLE OF GOVERNMENT) และ รูปการปกครอง (FORM OF GOVERNMENT) คือ ต้องแก้ทั้งด้าน “ระบอบ” และด้าน “ระบบ” ดังนั้นการแก้ปัญหาด้วยการเปลี่ยนแปลง แก้ไขรัฐธรรมนูญก็ดี การยุบสภาหรือลาออกของนายกรัฐมนตรีก็ดี การเจรจาระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านก็ดี ล้วนไม่ใช่ทางออกทั้งสิ้น

4.การเคลื่อนไหวของประชาชนครั้งนี้เป็นการเคลื่อนไหวปฎิวัติ ไม่แต่เพียงจะมีการเคลื่อนไหวปฎิวัติเท่านั้น ยังมีการเคลื่อนไหวของพรรคการเมือง ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวปฎิกิริยา อีกด้วย และถ้าหากการเคลื่อนไหวปฎิกิริยาเข้ามาปะปนกับการเคลื่อนไหวปฎิวัติ การเคลื่อนไหวปฎิวัติก็จะกลายเป็นการเคลื่อนไหวที่เป็นปฎิปักษ์ปฎิวัติทันที และการเคลื่อนไหวการเมืองครั้งนี้ ไม่แต่เพียงจะเป็นการเคลื่อนไหวการเมืองในประเทศเท่านั้น ยังเป็นการเคลื่อนไหวการเมืองระหว่างประเทศอีกด้วย

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่